ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 161

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 161 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
ปั่นประสาท

ในเขาวงกต จี้หยางเฟยและจ้าวลู่เฟินเดินตามหลังฟงอี้เฟย ทิ้งระยะห่างไม่ถึง 40 เมตร แต่เมื่อเดินผ่านทางแยกครั้งที่สี่ พวกเขาก็ไม่เห็นร่างของฟงอี้เฟย พวกเขารีบวิ่งไปทันที แต่เมื่อไปถึงพวกเขาก็ไม่พบใคร เห็นแต่ผนังไม้เลื้อยสูงอยู่เบื้องหน้า

“หยางเฟย…”จ้าวลู่เฟินอ้าปากกำลังจะพูด

จี้หยางเฟยยกมือขึ้นห้าม

“ฉันแน่ใจว่า พวกเราตามฟงอี้เฟย”จี้หยางเฟยพูดกับจ้าวลู่เฟิน ขณะที่สายตามองลงพื้น ที่ถูกใบไม้ทับถมจนกลายเศษซากใบไม้ เขาพบรอยเท้าบนพื้น เดินผ่านผนังเขาวงกตไปโดยตรง”กำแพงนี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่ฟงอี้เฟยผ่านไป”

จ้าวลู่เฟินรู้ทันทีว่าจี้หยางเฟยพยายามจะพูดอะไร ถ้าสามารถปิดเส้นทางเดินได้ แสดงว่าเขาวงกตแห่งนี้ จะต้องมีกลไกบางอย่างที่ควบคุมเขาวงกต อาจมีการวางกับดักเอาไว้ อันตรายจากการอยู่ในเขาวงกตแห่งนี้จะเพิ่มขึ้นทันที

จี้หยางเฟยเดินตามรอยเท้า ไปที่ผนังกำแพงไม้เลื่อยเบื้องหน้า เขายกมือจับไม้เลื้อยที่พลันรอบโครงเหล็กของผนัง เขาพยายามฉีกมันให้ขาด แต่ไม่ว่าเขาจะใช้แรงมากขนาดไหน มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะขาด แม้แต่รอยช้ำก็ไม่มี จี้หยางเฟยถอยหลังมา ก่อนจะชักกระบี่หิมะบินออกจากเอว และตวัดกระบี่เฉือนลงไปอย่างแรง

ฉัวะ!

คมกระบี่ฟันลงไปแค่เล็กน้อย จี้หยางเฟยยกกระบี่ออก และมองไปจุดที่เขาฟัน ไม้เลื้อยมีรอยถูกฟันไม่ลึก ก่อนจะค่อยๆสมานกลับเข้าหากัน จนหายเป็นเหมือนเดิม

“สิ่งของในนี้ ไม่สามารถขยับหรือทำลายได้ เหมือนในโรงงานร้างผีดิบไม่มีผิด”จี้หยางเฟยพูดเสียงเบา แต่มากพอให้จ้าวลู่เฟินได้ยิน

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดกัน เสียงเดินย่ำเท้าจากคนจำนวนมากดังขึ้น พร้อม อากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกอย่างฉับพลัน และในเวลาต่อมาสายลมก็กลายเป็นกรรโชกพัดอย่างรุนแรง ทั้งสองหันไปมองด้านหลัง เห็นพายุกำลังพุ่งเข้าใส่พวกเขา

จี้หยางเฟยฟันกระบี่อ่อนหิมะบิน ใส่พายุจนกระจายหายไป

“ถอยไปเฝ้าระวังอยู่ด้านหลัง มีอะไรบางอย่างอยู่ในพายุ ฉันจะรับมือมันเอง”จี้หยางเฟยพูดจบเขาก็ฟันใส่พายุอีกลูกที่พุ่งเข้ามา

จ้าวลู่เฟินตวัดแส้สีแดงไปด้านหลัง รอจังหวะช่วยเหลือ เธอไม่สามารถมองเห็นอะไรในพายุได้ แต่เมื่อเธอสังเกตมองดูจุดที่จี้หยางเฟยฟันกระบี่ใส่ เธอก็พบเงาสีดำเลือนลางในพายุ

นั้นมันอะไร?

จี้หยางเฟยฟันกระบี่สลายพายุไปอีกครั้ง ประสาทสัมผัสทั้งห้าถูกเร่งให้แหลมคมขึ้น ร่างกายของเขาเหมือนกำลังถูกพลังงานบางอย่าง พยายามจะกลืนกินเข้าไปในร่างของเขา ทำให้จิตใจสั่นไหว ไม่มั่นคง จี้หยางเฟยรีบตั้งสติมองพายุอีกลูกที่กำลังพัดเข้ามา สายตาอันเฉียบคม สังเกตเห็นเงาสีดำหลายสิบร่างในพายุ กำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกัน

จี้หยางเฟยตั้งกระบี่เตรียพร้อม แต่อยู่ๆพื้นใต้เท้าของเขาก็ทรุดตัวลง ก่อนที่จะตกเขาหมุนตัวเตะเท้าใส่ด้านข้าง พุ่งกลับขึ้นมาได้ แต่พายุขนาดใหญ่ก็พุ่งมาหาเขาในทันที

จ้าวลู่เฟินเห็นจี้หยางเฟยตกอยู่ในอันตราย เธอพุ่งเข้าไปตวัดฟาดแส้ใส่พายุโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะเธอไม่สามารถมองเห็นเงาดำได้ เธอฟาดแส้ที่ห่อหุ้มพลังงานบางอย่างที่แหลมคม ฉีกกระชากพายุเป็นชิ้นๆ ช่วยยื้อเวลาให้จี้หยางเฟยสามารถตั้งตัวได้ทัน

จี้หยางเฟยเห็นว่าจ้าวลู่เฟิน สามารถทำลายเงาดำได้ทั้งๆที่มองไม่เห็น เขามองแส้ในมือของเธอ เขาก็เข้าใจ จี้หยางเฟยฟันกระบี่ทำลายเงาดำด้านหน้า ก่อนจะเข้าไปในใจกลางพายุ เงาดำจำนวนมากรุมล้อมทุกทิศทาง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และตวัดกระบี่ออกไปนับไม่ถ้วนรอบทิศทาง ไอเย็นสีขาวอาบคมกระบี่เอาไว้

เมื่อคมกระบี่สัมผัสเงาสีดำ มันก็ถูกแช่แข็งและกระจายออกโดยรอบอย่างรวดเร็ว แช่แข็งสิ่งที่อยู่รอบๆนั้นพร้อมกันไปด้วย คมกระบี่ที่ฟันออกไป กลายเป็นดอกบัวน้ำแข็งสีขาว 24 ดอก แช่แข็งเงาดำทั้งหมดพร้อมกัน

“แตกไปซะ”จี้หยางเฟยแทงกระบี่ออกไป คมกระบี่ไฟสีแดงเพลิงทำลายดอกบัวน้ำแข็งทั้งหมด กลายเป็นไอน้ำเดือดสีขาว หายไปไม่เหลือแม้แต่เศษซาก

จ้าวลู่เฟิน ใช้แส้สีแดงฟาดเงาดำแตกกระจาย เธอรีบถอยออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อน

เธอมองจี้หยางเฟยด้วยความสยองขวัญ วิชากระบี่ของจี้หยางเฟยไม่ว่ามองกี่ครั้งก็น่ากลัวไม่เปลี่ยน

แต่ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้ ผนังไม้เลื้อยด้านหลังและด้านข้าง อยู่ๆก็เลื่อนมาปิดล้อม ไม่ให้พวกเขาถอยได้อีก ไม้เลื้อยบนผนังกลายเป็นเถาวัลย์พุ่งรัดร่างกายของทั้งสอง จี้หยางเฟยหันหลังไปฟันเถาวัลย์กลายเป็นขี้เถ้า นัยน์ตาของเขาเป็นประกายสงสัยเล็กน้อย แต่ไม่ทันให้เขาได้คิดอะไร เถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทาง

แต่ทั้งสองก็สามารถต้านเอาไว้ได้ แต่ก็เต็มกลืน ถ้ายืดเยื้อจะเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ จี้หยางเฟยกวาดตารอบๆหาทางออก แต่ในตอนนั้นเองพื้นที่ยืนอยู่ กลายเป็นดินเหลว พุ่งขึ้นมาจับยึดขา ไม่ให้พวกเขาขยับได้ จี้หยางเฟยใช้กำลังดึงเท้าออกจากดินเหลว แต่สุดท้ายพายุเงาสีดำก็พัดเขาใส่ทั้งสอง จนหายไปจากที่เดิม

อีกด้านของเขาวงกต ผู้บ่มเพาะพลังชายวัยกลางคนและผู้บ่มเพาะพลังชาย กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง มานานหลายสิบนาที ไม่มีใครยอมใคร แววตาของพวกเขาแดงก่ำ พวกเขาอยู่ในสภาวะที่บ้าคลั่งแทบไร้สติ ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผลขนาดใหญ่

แต่ในตอนนั้นเองพายุก็พัดมาที่ด้านข้างของพวกเขา

จี้หยางเฟยละจ้าวลู่เฟินลืมตาขึ้น เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเงาดำสองเงา ไม่เสียเวลาคิดจี้หยางเฟยแทงกระบี่ใส่ร่างเบื้องหน้า แต่เงาดำเบื้องหน้าเหมือนรู้ตัว หันกลับมารับกระบี่เอาไว้ทัน แต่แลกกับแขนข้างนั้นที่ถูกแทงลึก

ฮูมมมม

เงาดำกรีดร้องเสียงแปลกประหลาด

จ้าวลู่เฟินตกใจที่เห็นเงาดำชัดขนาดนี้ เธอใช้แส้แดงต่อสู้กับเงาอีกตัว แส้สีแดงแยกออกเป็นห้าทิศทาง เล็งใส่จุดตายของเงาดำอย่างแม่นยำ

จี้หยางเฟยดึงกระบี่ออกมา เขารู้สึกเหมือนพบอะไรผิดปกติ เขารีบร้องห้ามจ้าวลู่เฟิน

“หยุดก่อน!”

อีกด้านของสวนสนุก ผู้บ่มเพาะพลังหญิงพุ่งไปตามทาง เพื่อหาทางออก เธอหลงมานานก็ไม่พบทางออกหรือคนอื่นๆเลย แม้จิตใจของเธอจะเหนื่อยล้า แต่เธอก็ไม่ตัดใจ หาทางออกต่อไปเรื่อยๆ แต่ในตอนนั้งเองเธอก็ชะงักเท้าหยุดลง เธอได้ยินเสียงย่ำเท้าจำนวนมากจากด้านหลัง เมื่อเธอหันไปเธอก็พบพายุขนาดใหญ่ กำลังพัดเข้ามาหาเธอ ไม่รอช้าเธอฟาดฝามือใส่พายุทันที

แต่ในตอนนั้นเองพายุก็สลายไป เงาดำในพายุชักดาบในมือฟันสวนกลับ ปัง! ฝ่ามือของผู้บ่มเพาะหญิงมีรอยฟันสีแดง เธอยิ้มเย็นกำหมัดชกใส่เงาดำเบื้องหน้า

“ตาย!”

ด้านนอกเขาวงกต มู่คังเดินไปเดินมาด้วยความร้อนรน เพราะจิวโมไป๋เข้าไปในเขาวงกตได้เกือบ 10 นาที บรรยากาศของสวนสนุกในตอนนี้ แม้จะไม่มีหมอกสีเทา ที่ทำให้รู้สึกกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่มันก็เงียบวังเวง จนทำให้เขานั่งไม่ติด

ในขณะที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่นั้นเอง มู่คังก็หยุดเท้าลง นิ่งเงียบฟังเสียงอะไรบางอย่าง

“ช่วยด้วย…ใครก็ได้ช่วยด้วย มืด…ที่นี่มันที่ไหน…”เสียงผู้หญิงแผ่วเบาออกมาด้านในเขาวงกต

“นี่มันเสียง ผู้หญิงที่ตงมอเทียนพยายามจะจีบไม่ใช่เหรอ”มู่คังกระซิบกับตัวเอง และเดินไปที่กำแพง

“เฮ้! ได้ยินไหม”มู่คังร้องเสียงดัง แต่ผู้หญิงด้านในเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเขา

มู่คังลังเล เขามองประตูทางเข้าเขาวงกต ก่อนจะส่ายหัว เขาจะก็ไม่เข้าไปทางนั้น เขาไม่รู้ว่าเขาไปแล้วจะหลงหรือเปล่า

เขามองไปรอบๆ และวิ่งไปที่เครื่องเล่นที่ถูกทำลาย เขารวบรวมโครงเหล็กที่ยังไม่ถูกทำลาย จำนวนมากมาตั้งรวมๆกัน ตรงจุดที่อยู่ใกล้กับเสียงของหญิงสาวมากที่สุด เขาสร้างทางขึ้นแบบหยาบๆ เพื่อปีนกำแพงเขาวงกต

“รอก่อนฉันจะรีบไปช่วย”

ด้านในเขาวงกต จิวโมไป๋เปลี่ยนไปใส่เสื้อคลุม ให้เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยซ่อนในเสื้อคลุม เขาเดินไปตามทางอย่างช้าๆ จนกระทั้งเขาได้ยินเสียงย่ำเท้า

ในที่สุดก็มา

พายุขนาดใหญ่พัดเข้าหาจิวโมไป๋จากด้านหน้าโดยตรง เขาไม่หลบเพราะรู้ว่านี้คือความสามารถของ พนักงานผี

ร่างของจิวโมไป๋ถูกพายุพัดไป ปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่กว้างขนาดใหญ่ พื้นที่แห่งนี้มีดอกไม้ไม่ทราบชนิด พวกมันมีสีดำ ม้วง ฟ้า และ แดง ดอกไม้พวกนี้ถูกปลูกเต็มพื้นที่จนแน่น

ดอกไม้พวกนี้สูงถึงระดับอกของจิวโมไป๋

จิวโมไป๋กวาดตามองรอบๆ จนพบหุ่นไม้ตั้งอยู่ใจกลางสวนดอกไม้ จิวโมไป๋ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา เขาเดินแหวกดอกไม้ไปที่หุ่นไม้ เมื่อไปถึงเขาก็ใช้พลองผ่านฟ้าทุบทำลายมันลงเป็นชิ้นๆ เขาก้มลงหยิบมีดที่เต็มไปด้วยสนิมขึ้นมา

โคลมไฟที่ติดไว้ตามส่วนต่างๆ ทั่วสวนดอกไม้ถูกจุด หมอกสีเทาค่อยๆหนาแน่นขึ้น แต่ก็ไม่ยากแกการมองไปยังที่ไกลๆ

จิวโมไป๋เอามือซ้ายที่ไม่ได้ถืออะไร ตบลงบนแถวต้นขา ส่งสัญญาณให้เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย ออกไปซ่อนตัว

ทั้งสองวิ่งไปตามพื้น ที่มีดอกไม้สูงปกปิดเอาไว้ ทำให้ไม่เห็นการเคลื่อนไว้ด้านล่าง

สายตาของจิวโมไป๋ก็กวาดไปรอบๆ บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ฮิฮิ มาเริ่มเกมส์กันเถอะ”เสียงแหบแห้งดังขึ้นด้านหลัง จิวโมไป๋แกล้งตกใจหันด้านหลัง

“แปลกจริงๆ ทำไมฉันไม่รู้สึกถึงความหวาดกลัวของแกเลย”เสียงแหบแห้งดังขึ้นมาอีกครั้ง

จิวโมไป๋รีบกระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจให้ดังขึ้นเล็กน้อย

“ใคร! ใครกำลังพูดอยู่ ออกมาเดี๋ยวนี้!”จิวโมไป๋ร้องตะโกนขณะหมุนตัวไปรอบๆ

“เป็นพวกใจกล้าสินะ”เสียงแหบแห้งดูไม่พอใจ

จิวโมไป๋ก็แกล้งทำเป็นตกใจ ในใจพูดอย่างไม่พอใจ ถ้าไม่ชอบเล่นกับคนที่ใจกล้า ก็รีบออกมาฆ่าฉัน จะได้จบๆไปเสียที

“ช่างเถอะ เกมส์นี้ง่ายๆ ถ้าแกสามารถซ่อนจากฉัน หรือสามารถใช้มีดในมือของแกแทงใส่ฉันได้ แกจะสามารถออกไปจากที่นี่”เสียงแหบแห้งอธิบายกฏ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“นานๆจะได้เล่นกับคนใจกล้าซักที ฮิฮิ ทำให้ฉันสนุกหน่อยละกัน”

จิวโมไป๋ยิ้มหยันในใจ กฏไร้สาระที่ไม่ปล่อยให้ผู้เล่น มีโอกาสรอดเลย ถ้าซ่อนได้จริงๆ จะให้ซ่อนกี่นาที กี่ชั่วโมง หรือกี่วัน ถึงจะให้ออก เวลาก็ไม่บอกให้ชัดเจน

เอามีดแทง ก็เป็นไปไม่ได้ คนธรรมดา ที่ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ จะแทงมันโดนได้ยังไง

“ฉันจะให้เวลา… 1 เริ่มได้”เสียงแหบแห้งพูดจบ หมอกสีเทาก็กลายเป็นพายุนับไม่ถ้วนปรากฎในพื้นที่สวนดอกไม้

จิวโมไป๋รีบก้มลงอย่างรวดเร็ว หัวของเขาก็ส่ายไปมา

แปลกมาก วิญญาณฆาตกรทำอะไรอยู่ ทำไมถึงส่งพนักงานผีไร้ประโยชน์ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้มาที่นี่

แล้วร่างของมันอยู่ที่ไหน?

เขียนเสร็จ พึ่งรู้ตัว ว่าตัดสลับฉากเยอะเกินฮ่าๆ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด