ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 290

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 290 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
หลบหนี

ด้านนอกอาคาร ตอนนี้พื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตรที่เคยมีผู้คนพลุ่งพล่าน ตอนนี้เงียบสนิทราวเมืองร้าง เหลือเพียงตำรวจรักษาความปลอดภัยกว่า 200 นาย กำลังตั้งใช้โล่สี่เหลี่ยมเสริมเหล็กพิเศษ เรียงซ้อนกันล้อมเป็นวงกลม โดยมีตัวอาคารเป็นศูนย์กลาง

“ทำไมพวกเราต้องมาปิดกันที่นี่?”ตำรวจหนุ่มถามเพื่อนข้างตัว เขามองไปที่อาคารที่เงียบเชียบ ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับตัวอาคารถูกปิด ทำให้ภายในอาคารมืดไร้แสง เห็นเพียงจุดสีแดงสายเลเซอร์จากปืนสไนเปอร์ที่ส่องเข้าไป

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเป็นคำสั่งเบื้องบน”ตำรวจหนุ่มตอบเพื่อน

พวกเขาเป็นตำรวจระดับล่าง ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เมื่อตำรวจชั้นสูงสั่งพวกเขาได้แต่ต้องทำตามหน้าที่

พวกเขากระซิบบ่นด้วยความไม่พอใจ

แต่ในตอนนั้นเองพื้นดินเบื้องล่างก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้นติดๆกันหลายครั้งจากพื้นดิน พื้นดินใต้อาคารที่พวกเขาล้อมอยู่ก็ถล่ม ยุบลงไป

ตูม! อาคารทั้งหลังระเบิดออก อาคารที่อยู่รอบๆก็โดนผลกระทบพังทลายลง

ตำรวจที่ทั้งด่านล้อมรอบถูกคลื่นระเบิดผลักล้มกลิ้ง พวกเขารีบลุกขึ้นมามองอาคารที่หายไปเหลือเพียงเศษซากสีดำ ด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“ส่งคนไปตรวจสอบ!”ตำรวจวัยกลางคนยศสูงเดินมาร้องตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่แถวนั้น

ตำรวจนายนั้นพยักหน้ารับคำ ก่อนเดินไปตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เขาพบเพียงเศษซากอาคารที่ไหม้จากแรงระเบิด และพื้นดินที่เคยเป็นเป็นถนนถูกไฟเผาจนแตกละเอียด

ตำรวจยศสูงไม่รอ เขากดกำไลข้อมือเพื่อรายงาน แต่ในตอนนั้นเอง

คลืนนน

เสียงบางอย่างดังขึ้น ทำให้ตำรวจหนุ่มที่กำลังสำรวจอยู่หันมองไปตามเสียง พื้นดินตรงหน้าห่างไป 10 เมตรก็แยกออกต้นไม้ไร้ใบที่ถูกไฟไหม้จนกลายเป็นสีดำตอตะโก แทงขึ้นจากพื้นอาคารที่พังทะลาย ก่อนที่กึ่งกลางต้นไม้จะแยกออก ร่างในชุดคลุมสีดำสองร่างล้มออกมา

ตำรวจหนุ่มตกใจถอยกรูดไปด้านหลัง ก่อนจะตั้งสติวิ่งออกไปรายงาน

“แค่กๆ”จิวโมไป๋กระอักเลือด กระเซ่นใส่หน้ากากไม้ที่บังหน้า เขาผยุงตัวลุกขึ้น ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เพราะเขามีเกล็ดมังกรทองและเขาได้สร้างเกาะไม้มาป้องกันได้ทัน แต่แรงกระแทกจากระเบิดทำให้อวัยวะภายในของเขาเสียหายบางส่วน

ทางด้านลู่หว่านแย่กว่าเขามาก เธอหมดสติจากแรงระเบิดตั้งแต่ละลอกแรก ร่างกายและอวัยวะภายในเสียหายอย่างรุนแรง โชคดีที่เธอไม่เสียชีวิต

จิวโมไป๋ไม่สนสิ่งรอบข้าง เขาหยิบโอสถรักษาและฟื้นพลังออกมาและเปิดหน้ากากองลู่หว่านเล็กน้อยให้เห็นริมฝีปากซีด เขาใช้พลังวิญญาณบดโอสถเป็นผงและส่งมันเข้าปากลู่หว่าน

เขาหยิบโอสถรักษาและฟื้นพลังอย่างละ 10 เม็ดป้อนให้เธอ และกินโอสถอย่างละ 2 เม็ด เพราะเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรนัก

“หยุด! อย่าขยับ!”เสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจดังขึ้น พร้อมกับวงล้อมของตำรวจกระชับเข้ามา กลางหน้าผากของจิวโมไป๋มีเลเซอร์สีแดงนับสิบส่องอยู่ จิวโมไป๋หันไปมอง โดยไม่พูดอะไร เขาอุ้มร่างลู่หว่านด้วยแขนข้างเดียว ก่อนที่เข้าจะโยกตัวไปด้านข้าง

ผุ! ผุ! ผุ!

กระสุนไรเฟิร์นยิงลงจุดที่เขาอยู่ในเสี่ยววินาที

เจ้าหน้าทีตำรวจที่ล้อมอยู่ก็กำลังจะยิงปืนที่วางพาดผ่านโล่ป้องกัน จิวโมไป๋โบกมือ เถาวัลย์นับ 10 ผุดจากพื้นฟาดกวาดไปยังร่างตำรวจที่ขวางทาง มันไม่ช่วยอะไรนัก แต่ทำให้ตำรวจไขว้เขวเล็กน้อย เขาก็หยิบแผ่นยันต์วายุ ออกมา 4 ใบและโยนไปข้างหน้า

แผ่นยันต์ทั้งสี่ถูกเผาไหม้ พายุขนาดเล็ก 4 ลูกหมุนวนผลักตำรวจที่ขวางอยู่และมันม้วนเศษซากอาคารที่ถูกทำลายจนเป็นชิ้นๆ ให้ลอยขึ้นเข้าทำลายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขวาง และมันยังช่วยบดบังทัศนวิสัยของมือปืนไรเฟิร์นที่อยู่ไกลออกไป

จิวโมไป๋ใช้โอกาสนี้ฝ่าวงล้อมจากไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวร่างของเขาก็หายไปจากสายตา

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้สติก็รีบแจ้งข่าวทันที

จิวโมไป๋เลือกไปเส้นทางอื่น เขาไม่กลับโรงแรมILโดยตรง ถ้าตระกูลจิงเป็นคนขององค์กรลับจริงๆ คนขององค์กรลับสามารถใช้กล้องวงจรปิดของเมืองเพื่อติดตามที่อยู่เขาได้

ในตอนนี้เขาต้องสลัดการติดตามให้ได้ ก่อนที่จะกลับโรงแรม

จิตสัมผัสแผ่ขยายไป 3 กิโลเมตร ตรวจสอบการเคลื่อนไหวโดยรอบเขาสังเกตเห็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งนับสิบคนกำลังติดตาม จิวโมไป๋ลัดเลาะไปมาสลัดผู้ติดตามอย่างรวดเร็ว

ในระหว่างนั้นเขาก็ใช้จิตสัมผัสทำลายกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เขาผ่าน และเขาก็แสร้งทำลายกล้องวงจรปิด ในทางอื่นที่เขาไม่ได้ผ่าน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่นานเขาก็ออกมาเขตนอกเมืองได้

เขากระโดดไปซ่อนที่โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่ไม่มีกล้องวงจรติด เขาตรวจสอบร่างของลู่หว่าน เมื่อเห็นว่าร่างกายกำลังค่อยๆฟื้นตัว เขาก็เบาใจ

ขณะที่เขาผ่อนคลาย สัมผัสมรณะในร่างก็ส่งสัญญาณเตือน เขาคว้าร่างของลู่หว่านแล้วกระโดดหลบไปด้านข้างทันที

ฉึก! เสียงแทงดังขึ้นตรงจุดที่เขาเคยอยู่ จิวโมไป๋หันไปมองเห็นชายในชุดสีดำใบหน้าไร้ความรู้สึก กระบี่ยาวสีดำในมือส่งกลิ่นอาจกระหายเลือด แสดงให้เห็นว่ากระบี่เล่มนี้ได้เข่นฆ่าคนมานักไม่ถ้วน

ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นเย็นชา

ในยุคปัจจุบันการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด มีน้อยมากที่จะมีการฆ่ากันเกิดขึ้น แม้แต่คนของตระกูลชั้นหรือคนของนิยาย ก็ไม่กล้าฝ่าฝืนกฎเข่นฆ่าคนตามอำเภอใจ

นอกจากวิญญาณร้ายที่เข่นฆ่าผู้คนอย่างไร้ความคิด เขาก็ไม่เคยเห็นอาวุธที่ผ่านการเข่นฆ่าอย่างกระบี่เล่มนี้มาก่อน

เขามองไปยังร่างของชายชุดดำ เขาสัมผัสกรรมชั่วอันเข้มข้น มันเหนือกว่าวิญญาณแค้นสวนสนุกหลายเท่า

ปล่อยคนชั่ว คนนี้ไปไม่ได้!

ชายชุดดำถอยหลังไปสองก้าวร่างของเขาก็กลืนหายไปกับเงา ตัวตนของเขาหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว จิตสัมผัสตรวจสอบโดยรอบก็ไม่พบสิ่งมัชีวิต ราวกับว่าชายชุดดำหายไปในอากาศ

ก่อนที่ชายชุดดำจะหายไปเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานกฎแห่งเงาอันเบาบาง เขาก็นึกถึงสายเลือดหนึ่งได้

พันสายเลือดราชาอันดับที่ 115 สายเลือดเงาทมิฬ!

ด้านร่างกายสายเลือดนี้ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย สายเลือดที่อ่อนแอ จะอ่อนแอกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ แต่ที่ทำให้สายเลือดเงาทมิฬเป็นที่จดจำและอิจฉาของผู้คนคือ ผู้มีสายเลือดเงาทมิฬเมื่อถูกปลุกสายเลือด พวกเขาจะความเข้าใจกฎแห่งเงาทันที

กฎแห่งเงา เป็นกฎที่อยู่ตรงเส้นแบ่งระหว่างกฎแห่งความมืดและแสงสว่าง แม้จะไม่ทรงพลังเท่ากฎทั้งสอง แต่มันมีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นคือการ ปกปิดกลิ่นอาย แม้แต่ปรมาจารย์ที่มีจิตสัมผัสแข็งแกร่งก็ไม่สามารถค้นพบ

ยังมีความสามารถในการใช้เงาอันหลากหลาย ความสามารถอันน่ากลัวที่ถูกพูดถึงที่สุดคือ ซ่อนเงา ทุกที่ที่เงาเชื่อมต่อกัน แม้ว่าจะเป็นช่องว่างขนาด 1 มิลลิเมตร ผู้ใช้ซ่อนเงาก็สามารถผ่านไปได้

ทำให้การลอบเร้นและซ่อนตัว ของผู้มีสายเลือดเงาทมิฬ น่ากลัวอย่างมาก

ไม่คิดเลยว่าเขาจะพบผู้มีสายเลือดนี้ที่นี่

ด้วยสภาพของเขาในตอนนี้เขาไม่สามารถเสียเวลาต่อสู้ยืดเยื้อกับผู้มีสายเลือดเงาทมิฬ จิวโมไป๋ใช้ความคิดดึงสิ่งหนึ่งออกจากแหวนมิติเก็บของ

แต่ยังไม่ทันทีเขาจะหยิบอะไรออกมา สัมผัสมรณะก็สั่นเตือน เขาโยกหลบ คมกระบี่อันแหลมคมแทงออกจากความว่างเปล่า ผ่านใบหน้าของเขาเพียงเล็กน้อย

จิวโมไป๋ใช้มือขวาที่ว่างอยู่ ชกหมัดออกไป คลื่นพลังแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ทำลายอากาศที่ว่างเปล่าตรงหน้า!

ตูม!

อาคารร้างทั้งหลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

วูบ! ชายชุดดำถอยหลังไปหลายก้าวใบหน้าซีดลงเล็กน้อย ถ้าเขาใช้ความสามารถซ่อนเงาไม่ทัน เขาจะต้องถูกการโจมตี แม้ไม่บาดเจ็บสาหัส ก็ต้องหมดความสามารถในการต่อสู้ไป

ชายชุดดำขมวดคิ้ว ตั้งแต่เขาได้รับสายเลือดเงาทมิฬ เขาไม่เคยต้องลงมือเป็นครั้งที่สอง แต่คนเบื้องหน้าของเขาสามารถหลบได้ถึงสองการโจมตี และยังโจมตีกลับมาได้

เขาถอยหลังหลบซ่อนเงาด้านหลัง รอจังหวะโจมตีอีกครัง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด