ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม – ตอนที่ 103 ข้าจะต้านทางนี้เอง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม ตอนที่ 103 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ทำไมนักพรตมนุษย์ถึงรู้จักที่นี่ด้วย!”

ราชาปีกเงินตกใจเมื่อเห็นพวกอันหลินปรากฏตัว

แต่เพียงชั่วครู่มันก็สงบลง

สัมผัสจากลมปราณแล้ว ระดับพลังยุทธ์ที่สูงที่สุดของนักพรตมนุษย์เหล่านี้ ก็แค่กายแห่งมรรคขั้นสิบเท่านั้น

แต่มันกับกบยักษ์บงกชล้วนเป็นสัตว์ภูตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลาง จะกลัวพวกเขาได้อย่างไร

“พวกเขามาที่นี่เท่ากับรนหาที่ตาย!” ราชาปีกเงินแสยะยิ้ม

เมื่อมันโบกมือ พลังปราณทั่วฟ้าดินก็ซัดสาด ใบมีดลมอหังการมากมายก็พุ่งออกมา

อันหลินปล่อยหมัดสะเทือนขุนเขาอีกครา กระแทกใบมีดลมเหล่านั้นจนแหลกละเอียด แต่ก็ยังมีตกหล่น

“สหายลั่ว ลุยสิ!” อันหลินตะโกนลั่น

ลั่วจื่อผิงกัดฟันก้าวออกไปข้างหน้าสุด หมัดทั้งสองข้างปล่อยลำแสงสีแดงโจมตีใบมีดลม

ตึงๆๆ

หลังหมัดของเขาถูกใบมีดลมกระแทกแล้ว ร่างกายก็ถอยหลังกรูดประหนึ่งถูกโจมตีอย่างรุนแรง

ราชาปีกเงินพรั่นใจ คาดไม่ถึงว่าการโจมตีของมัน จะถูกนักพรตกายแห่งมรรคเหล่านี้ขัดขวาง

ขณะนั้นเอง ซุนเซิ่งเหลียน เหมียวเถียน จงหย่งเหยียน ทั้งสามคนมายืนอยู่ตรงหน้าราชาปีกเงิน ปล่อยพลังเซียนที่แก่กล้านานาชนิด ถ่วงเวลาราชาปีกเงินได้ชั่วครู่

เซวียจั๋วหมิงนำสมาชิกไม่กี่คนของกลุ่มล่าสัตว์ ฉวยโอกาสพุ่งตัวไปหาต้นภูตชิงเสวียน

“กบบงกช!” ราชาปีกเงินเห็นดังนั้นก็ตะโกนลั่น

กบยักษ์บงกชที่แปลงร่างเป็นชายผิวดำกระทืบเท้า ผิวดินทรุดเป็นหลุมใหญ่ ร่างพุ่งไปหาเซวียจั๋วหมิงประหนึ่งลูกระเบิด

“หัวหน้าระวัง!” สมาชิกคนหนึ่งร้องเสียงหลง

เซวียจั๋วหมิงหลบไม่ได้ ยกขวานคู่ขึ้นแล้วฟันใส่กบยักษ์บงกชทันที

“ฝ่ามือกบ!”

กบยักษ์บงกชดันฝ่ามือออกไป ขวานด้ามใหญ่ถูกตบจนแตกละเอียด แรงอันน่ากลัวสะเทือนจนเซวียจั๋วหมิงลอยออกไปพร้อมกับกระอักเลือด

“อ๊บ!” จู่ๆ กบยักษ์บงกชก็ร้องขึ้นมา

คลื่นเสียงทำให้อากาศสั่นระริก สะเทือนสมาชิกที่เหลือหลายคนจนกระเด็น

“หึ กระจอกงอกง่อยอย่างพวกเจ้า คิดจะทำลายแนวป้องกันของข้าหรือ ฝันไปเถอะ!”

กบยักษ์ฉีกยิ้ม ใบหน้าเปี่ยมด้วยความเหยียดหยาม

ทว่าในตอนนั้นเอง อันหลินก็พุ่งมา เงื้อกระบี่พิชิตมารขึ้นจะฟันกบยักษ์บงกช

“กระบี่พิฆาตมิติ!”

เขาเงื้อกระบี่ขึ้นแล้วฟันลงมาเป็นแนวตั้ง

“หึ เพลงกระบี่ขยะ คิดว่าข้ามองไม่ออกหรือ ข้าจะตบมันให้แตกกระจายภายในฝ่ามือเดียว ฝ่ามือกบ!”

กบยักษ์บงกชใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างตบกระบี่สีดำ

หลังจากสิ้นสุดเสียง ‘ชิ้ง’ มือของกบก็หัก…

“อ๊บๆ ๆ…!”

ใบหน้าของกบยักษ์บงกชเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กรีดร้องไม่ขาดสาย

อันหลินไม่พูดมากความ ยกกระบี่พิชิตมารไปจ่อที่ลำคอของกบยักษ์บงกช

“อ๊บ!”

กบยักษ์บงกชกลัวแล้วจริงๆ กระโดดถอยหลังโดยที่ไม่สนใจอะไร เมื่อกระโดดก็สูงร่วมร้อยเมตร

จากนั้น…

อันหลินก็ใช้ความเร็วดุจสายฟ้าฟาด เด็ดผลเซียนเก้าลูกจากต้นภูตชิงเสวียนแล้วเก็บเข้าไปในแหวนมิติ

“สำเร็จ! ภารกิจเสร็จสิ้น!”

อันหลินยิ้มร่า เริ่มตะโกนเสียงดัง

กบยักษ์บงกชเพิ่งได้สติ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “พวกเจ้าไม่มีใครรอดแน่!”

พวกลั่วจื่อผิงต้านทานไม่ไหวมานานแล้ว บัดนี้ถอยหลังไม่หยุด

ราชาปีกเงินพบว่าผลเซียนถูกช่วงชิง จึงกลับคืนสู่ร่างเดิม

มันกลายร่างเป็นพญาอินทรีสีเงินขนาดห้าจั้ง ก่อให้เกิดพายุหมุนคมกระบี่บดขยี้ทุกสรรพสิ่งขึ้นบนผิวดิน!

พายุหมุนคมกระบี่ห้าสายปิดล้อมพวกอันหลินไว้ จากนั้นก็หดตัวเข้าใกล้ศูนย์กลาง เห็นได้ชัดว่าจะใช้คมกระบี่แห่งลมบดขยี้พวกเขาทั้งหมดให้แหลกละเอียด

กบยักษ์บงกชก็เริ่มคืนร่าง เมื่อมันอ้าปาก ก็มีระเบิดอัดอากาศที่แฝงด้วยอานุภาพที่น่ากลัวออกมาจากปาก ยิงใส่พวกอันหลิน

“แม้กระบี่ของเจ้าจะคมมากแล้วอย่างไร ไม่เข้าใกล้เจ้าเป็นพอ โจมตีระยะไกลก็สังหารเจ้าได้เหมือนกับ อ๊บ!”

กบยักษ์บงกชมองอันหลิน ดวงตามีความเกลียดชัง หนี้แค้นที่ถูกตัดแขนจำต้องชำระ!

ตอนนี้เหล่าสมาชิกต่างก็รายล้อมอันหลิน เมื่อเห็นสัตว์ภูตสองตัวร่วมมือโจมตี สีหน้าต่างก็เปลี่ยนไป

“พี่อัน ตอนนี้จะทำอย่างไรดี” ลั่วจื่อผิงถามเสียงร้อนรน

“สหายลั่ว เจ้าบอกว่าไม่มีตัวไหนเก่งเลยไม่ใช่หรือ ตอนนี้ถึงเวลาเจ้าแสดงฝีมือแล้ว!” เหมียวเถียนกล่าวพลางดันชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างหน้า

ลั่วจื่อผิงหน้ากระตุกเมื่อได้ฟัง เริ่มเขยิบไปใกล้อันหลินเป็นพัลวัน…

“อย่าวิตกไป…ข้ายังมีไพ่ตาย” อันหลินยิ้มบางๆ หยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกจากแหวนมิติ

“กำแพงน้ำแข็ง!”

อันหลินตะโกนเสียงดัง ใช้พลังปราณกระตุ้นยันต์

เพียงชั่วพริบตา กำแพงน้ำแข็งทรงกลมก็ห่อหุ้มทุกคนไว้

เคร้ง!

พายุหมุนคมกระบี่และระเบิดอัดอากาศชนกับกำแพงน้ำแข็ง ทำให้น้ำแข็งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เกล็ดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนกระเด็นกระดอน แต่ไม่อาจทลายการป้องกันของกำแพงน้ำแข็งได้

“รีบหนี!”

หลังต้านทานการโจมตีหนนี้ กำแพงน้ำแข็งก็พังทลาย อันหลินตะโกนอีกครั้ง

ทุกคนก็รู้ว่าตอนนี้ภารกิจสำเร็จแล้ว ไม่ใช่เวลาต่อสู้ จึงพากันหนีตามอันหลินไป

“ไม่คิดว่านักพรตคนนี้จะมียันต์ของนักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ แต่อย่าคิดว่าจะหนีไปจากเงื้อมมือของราชาปีกเงินได้ คิดน้อยเกินไปแล้ว”

อินทรีปีกเงินกางปีก พุ่งเข้าไปหาพวกอันหลินด้วยความเร็วอย่างยิ่ง

ใครจะรู้ว่ามียันต์อีกแผ่นอยู่ในมืออันหลิน

“พันธนาการมังกร!”

อันหลินตะโกนลั่น กระตุ้นยันต์แผ่นนี้

มันเป็นยันต์ที่นักพรตทั่นอวิ๋นให้เขา มีพลังพันธนาการที่แข็งแกร่งยิ่ง

เมื่อยันต์ถูกกระตุ้น ก็มีมังกรสองตัวปรากฏกายกลางนภา พันรัดปีกของราชาปีกเงินไว้แน่น

“เจ้ายังมียันต์อีกหรือ!”

ราชาปีกเงินถูกมังกรพันธนาการ ทำให้ชะงักงัน มองอันหลินแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีร่างขนาดใหญ่ลอยลงมาจากฟ้า

เป็นกบยักษ์บงกชที่กระโดดลงมา ตั้งใจว่าจะใช้ร่างมหึมาทับอันหลินให้แบน!

“อ๊บ! ตายเสียเถอะ เจ้านักพรตมนุษย์!”

กบยักษ์ทำหน้าอำมหิต แลบลิ้นออกมายาวเหยียด

ปึก!

กระบองสีเงินฟาดลงมาโดยพลัน กระแทกหัวของกบยักษ์

แรงมหาศาลอันน่ากลัวสะเทือนจนร่างของกบยักษ์ลอยออกไป ปากก็ถูกแรงกระทบ ทำให้กัดลิ้นยาวขาดสะบั้น…

“อ๊บ…”

ร่างของกบยักษ์บงกชพุ่งกระแทกพื้นพสุธาอย่างแรง น้ำตารื้นขอบตา

ผู้ที่ลงมือในครานี้คือ ราชาวานรเนตรทองแห่งภูเขาวิเศษลูกนี้นั่นเอง!

“เจ้าลิงโง่ เจ้าอาจหาญหลบหนีหรือ!” ราชาวัวถือกระบองเหล็กไล่ตามมาติดๆ

ราชาปีกเงินเบิกตากว้าง “ราชาวานรอัปลักษณ์ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ตอนนี้เจ้าพวกนักพรตมนุษย์ขโมยผลเซียนของเจ้าไป เจ้าตีกบยักษ์บงกชทำไม!”

ราชาวานรอัปลักษณ์ถือกระบองสีเงิน หันหลังให้อันหลิน พูดเสียงทุ้มว่า

“ข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่านักพรตมนุษย์เอาผลเซียนของข้าไป…”

“แต่ตอนนี้ข้ารักษาผลเซียนไว้ไม่ได้ ทำให้ผลเซียนตกอยู่ในมือของนักพรตมนุษย์ ย่อมดีกว่าตกอยู่ในมือของสารเลวที่หักหลังเพื่อนพ้อง!”

ขณะที่พูด มันก็หันหลังพูดกับอันหลินอย่างรีบเร่งว่า

“ไอ้เด็กเวร ได้ยินหรือไม่ ยังไม่รีบหนีอีก! ข้าจะต้านที่นี่ให้เอง!’

ในตอนนั้นเอง ราชาปีกเงินก็หลุดพ้นจากพันธนาการ กระโจนใส่อันหลินพร้อมกับราชาวัว

ปีกของราชาปีกเงินมาพร้อมกับใบมีดลมทำลายทุกสรรพสิ่ง กระบองเหล็กของราชาวัวมีไอทมิฬห้อมล้อม

ราชาทั้งสองพุ่งเข้ามาพร้อมกับพลังท่วมท้นท้องฟ้า

ราชาวานรยกกระบองเงินขวางหน้าอันหลิน แสงอาทิตย์ลากเงาของมันให้ยาวเหยียด

ร่างของมันนิ่งไม่ไหวติง จ้องสองราชากระโจนเข้ามาอย่างเย็นเยือก

มันในตอนนี้ องอาจกล้าหาญอย่างยิ่ง ยืนตระหง่านไม่ถดถอย                                                                                                                  ………………..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด