การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 24

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 24 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

LS ตอนที่ ๒๔

แม่บ้านเจิ้งออกจากรถม้าและมองไปยังถนนว่างเปล่ารอบ ๆ นางกลืนน้ำลาย และกระโดดจนเกิดเสียงดัง

นางข่มใจตัวเองให้สงบลงและเรียกสติมองทิศทาง ภายใต้ม่านราตรีที่ปกคลุม นางก็วิ่งไปที่ไป๋เฉ่าถัง นางไปถึงกำแพงด้านตะวันออกในเวลาไม่กี่นาที

“มีช่องโหว่หลายช่องที่ข้าสามารถเหยียบบนกำแพงนี้ได้ และมันก็ไม่ยากเลยที่จะปีนข้าม”

หลังจากแม่บ้านเจิ้งสำรวจกำแพงครู่หนึ่ง นางก็รวบรวมความกล้าปีนขึ้นไป การกระทำช่างยากลำบากมากกว่าที่คิด นางใช้เวลาไม่นานนักก็เห็นด้านบนกำแพงอันโล่งโปร่ง

“ข้าเกือบจะถึงแล้ว…” แม่บ้านเจิ้งรู้สึกดีใจกับเรื่องนั้น และมือข้างหนึ่งของนางก็คว้าด้านบนกำแพงไว้ด้วยกำลังที่มี

ทันใดนั้นเอง!

มือขาวบอบบางยื่นออกมาจากความมืดและคว้าลำคอของแม่บ้านเจิ้งไว้อย่างรวดเร็วปานฟ้าแลบ!

“อึก ๆๆ!”

แม่บ้านเจิ้งหวาดกลัวและดิ้นรนให้หลุดจากมือนั้น แต่มือนั้นที่ดูเหมือนบอบบางอ่อนแอกลับคว้าลำคอของนางไว้แน่นและไม่คลายลงเลย

เมฆดำสลายตัว และดวงจันทร์ก็ฉายสว่างเป็นประกายราวกับปรอทสีเงินยวง

เด็กสาวในชุดบางเบานั่งอยู่บนกำแพงและยิ้มภายใต้แสงจันทร์ ในมือของนางคว้าร่างของหญิงร่างอ้วนที่มีรูปร่างไม่สมประกอบไว้

ภายใต้แสงจันทร์ แม่บ้านเจิ้งก็เห็นบุคคลตรงหน้าในที่สุด แต่ใบหน้าของเด็กสาวสร้างความหวาดกลัวให้นางจนเกือบจะสิ้นชีพ

“ซูเอ้อร์หยา!!”

ซูเอ้อร์หยายิ้มละมุนและเอ่ยกับตัวเอง “ฉลาดนะที่วางยาฉีเซี่ยนชิง”

“วางยาฉีเซี่ยนชิง?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะมา?”

“นางใช่ซูเอ้อร์หยาจริง ๆ หรือ?”

แม่บ้านเจิ้งหวาดกลัวอย่างเหนือความคาดหมาย นางพยายามจะอ้าปาก แต่มือนั้นก็กำลำคอของนางไว้แน่นจนดวงตาของนางเหลือกขึ้นเหนือศีรษะ

ซูเอ้อร์หยาดูเย็นชา หลังจากสังเกตถนนแล้วนางก็แบกร่างของแม่บ้านเจิ้งด้วยมือข้างเดียวราวกับแบกกระสอบผุ แล้วก็เดินฉุยฉายออกจากเมืองต้าซู

ความมืดของยามเที่ยงคืนปกคลุมไปทุกหนแห่ง

.

แม่บ้านเจิ้งแทบจะเป็นลมจากการหายใจไม่ออก นางพลันรู้สึกว่ามือรอบลำคอของนางคลายลงและตัวเองก็ล้มลงบนพื้น นางพลันสูดหายใจลึกแต่ก็ไอโขลกออกมาเพราะอากาศที่เย็นเยือก

หลังมีกำลังกลับคืนมาบางส่วนแล้ว นางก็หันหลังเตรียมหนี แต่ก็ถูกผลักชนต้นไม้ต้นหนึ่ง

“แม่บ้านเจิ้ง คิดจะหนีไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ นานมาแล้ว…ตอนที่เจ้าผลักและทุบตีข้า ข้าไม่เคยหนีเลยนะ”

ซูเอ้อร์หยาเผยยิ้มราวกับนางพราย แต่ในสายตาของแม่บ้านเจิ้ง นางคือปีศาจตัวจริง

“อย่า! อย่านะ! ซูเอ้อร์หยา โอ้ไม่ คุณหนูสอง ข้าเพียงรับคำสั่งมาจากฮูหยินหนึ่งเท่านั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจจะรังเเกเจ้าเลย!”

แม่บ้านเจิ้งตระหนักถึงความจริงในที่สุดและร้องขอความเมตตา ซูเอ้อร์หยายื่นมือออกไปอย่างนุ่มนวลและแม่บ้านเจิ้งก็หวาดกลัวเสียจนหลับตาและรออยู่เป็นเวลานาน แต่นางก็ลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าซูเอ้อร์หยาไม่ได้ทุบตีนาง

“เอาของที่ท่านแม่ให้เจ้าออกมาสิ”

แม่บ้านเจิ้งหวาดกลัวเล็กน้อย นางพยายามหยุดยั้งซูเอ้อร์หยา แต่มือของซูเอ้อร์หยาก็รวดเร็วเสียจนขวดหยกปรากฏในมือของนางราวกับว่ามันเป็นมือของวิญญาณ

“เจ้าเป็นใคร? ซูเอ้อร์หยามันเป็นยัยตัวดี ทุกคนสามารถทุบตีนางได้ นางกลับมีวรยุทธ์ได้อย่างไร? โอ้ ข้ารู้แล้ว! เจ้าไม่ใช่ซูเอ้อร์หยา!” แม่บ้านเจิ้งตกอยู่ในอาการเสียสติ

เพี้ยะ!

ซูเอ้อร์หยาตบนางจนลอยกระเด็นไปไกล แล้วร่วงลงบนกองใบไม้เน่าเปื่อย

ซูเอ้อร์หยาเปิดขวดหยกอย่างเชื่องช้าและสูดจมูกฟุดฟิด จากนั้นก็หัวเราะดังกว่าเดิม

“ยากร่อนจิต หากใครสักคนต้องพิษมัน หัวใจของเขาก็จะหยุดเต้นและตายในสักวันหนึ่ง” นางนั่งยองและหยิบขวดหยกยื่นใกล้ปากของแม่บ้านเจิ้ง แม่บ้านเจิ้งรีบพยายามหุบปากอย่างเป็นที่สุดและเอ่ยอ้อนวอนลอดไรฟัน

“อย่าฆ่าข้านะ มันเป็นคำสั่งของฮูหยินหนึ่ง ชีวิตของข้าไม่คุ้มค่าอะไรเลย อย่าฆ่าข้าเลย!”

ซูเอ้อร์หยาดึงขวดหยกกลับไปอย่างช้า ๆ และเก็บมันในเสื้อ แม่บ้านเจิ้งถึงกับโล่งอกและล้มตัวลงบนพื้น

“ข้าไม่ฆ่าเจ้าด้วยยากร่อนจิตแน่นอน มันมีราคามหาศาลอย่างมากในตลาดมืดเลยนะ”

ขณะที่ซูเอ้อร์หยาพูด แม่บ้านเจิ้งพลันเบิกตากว้าง ดูเหมือนนางต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดนางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาและแน่นิ่งไป

ซูเอ้อร์หยาถอนมือที่จมอยู่ในหัวใจของแม่บ้านเจิ้งอย่างเชื่องช้า นางเช็ดคราบเลือดทุกส่วนบนร่างของแม่บ้านเจิ้งจนหมด ดูสงบนิ่งราวกับว่าเพิ่งสังหารไก่ตัวหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเสียดาย “ถ้าข้ามีอาวุธอยู่ล่ะก็ มือข้าก็คงไม่เปื้อนหรอก”

หลังฝังร่างแม่บ้านเจิ้งตรงจุดนั้นแล้ว ซูเอ้อร์หยาก็กลับไปที่ไป๋เฉ่าถัง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีอ่อนจาง นางร้องเพลงสั้น ๆ ราวกับผีเสื้อที่โบยบินอยู่ท่ามกลางตู้เก็บยา หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็ปรุงยาถอนพิษให้ฉีเซี่ยนชิง จากนั้นก็ใส่ยาบนแผลที่หลังตัวเอง จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องรับรองแขกเพื่อนอนหลับ กิจกรรมทุกอย่างที่นางทำใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ฉีเซี่ยนชิงก็ตื่นนอนและบิดขี้เกียจ เขาถอนหายใจ “มีเอ้อร์หยาอยู่กับข้าที่นี่ ข้าหลับสบายขึ้นเยอะ!”

หลังล้างหน้า ฉีเซี่ยนชิงก็เปิดประตูห้องรับรองแขกและเห็นว่าซูเอ้อร์หยายังคงนอนหลับ เขาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มอบอุ่น จากนั้นก็ผละจากไปปรุงยาบางขนาน

สองวันให้หลัง บาดแผลของซูเอ้อร์หยาก็สมานตัวดีขึ้น เมื่อนางสามารถเดินเหินไปรอบ ๆ ได้แล้วนางก็พลันขอกลับไปที่บ้านตระกูลซู เขาไม่อาจปฏิเสธคำร้องขอซ้ำ ๆ จากผู้สืบทอดได้จึงส่งตัวนางกลับในที่สุด

แม่บ้านหลี่กลับมาที่บ้านตระกูลซูเมื่อวานนี้และรอซูเอ้อร์หยาอยู่ที่เรือนจินหยวน เรือนจินหยวนได้รับการทำความสะอาดจากแม่บ้านหลี่ภายในวันเดียว ฉีเซี่ยนชิงเดินไปรอบ ๆ และรู้สึกพอใจกับเรื่องนี้

“เจ้าพึงจำไว้ว่าตอนนี้เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ อย่าเพิ่งฝึกเสวียนกงในสองสามวันนี้ อย่าสู้กับคนอื่น ๆ เพื่อที่แผลของเจ้าจะได้ไม่ติดเชื้อ”

ฉีเซี่ยนชิงหัวเราะขณะเอ่ยไปด้วย เป็นไปไม่ได้หรอกที่เอ้อร์หยาจะสู้กับคนอื่น ๆ

ซูเอ้อร์หยานอนกางแขนขาบนมุมหนึ่งของเตียงไม้ละเอียดและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลังฉีเซี่ยนชิงเดินออกไปแล้ว แม่บ้านหลี่ก็รุดเข้ามาและเอ่ยขึ้น “คุณหนูสองเจ้าคะ แผนผังของเรือนจินหยวนช่างงดงามจริง ๆ เจ้าค่ะ รวมถึงเตียง เครื่องเรือนไม้และชุดน้ำชาด้วย ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีสถานที่ที่ดูราวกับวังอยู่ในบ้านตระกูลซูด้วย”

ซูเอ้อร์หยาหรี่ตาลงและเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว “จากที่ท่านพูดมา ดูเหมือนท่านคงยังไม่เคยเห็นบ้านที่ใหญ่โตกว่านี้อีกสินะจ๊ะ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด