การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 71

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 71 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ ๗๑

 

กลางคืนช่างเย็นราวกับน้ำ และกลิ่นคาวเลือดก็ลอยอวลในอากาศ

 

ซูหลี่มองบุคคลที่กำลังนอนคว่ำหน้าราวไร้ชีวิตโดยศีรษะอยู่บนพื้น นางไม่เคยเป็นคนดีมาก่อน ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ยังสามารถห้ามไม่ให้นางปิดประตูได้ เขาจะต้องเป็นบุคคลพิเศษ หากนางถูกบีบให้ต้องข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขามันคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนาง

 

คิดดังนี้แล้ว นางก็นั่งยองลงแกะมือออกจากขอบประตูจากนั้นก็สะบัดแขนเขาออกอย่างรังเกียจ นางกำลังจะปิดประตู แต่หางตาของนางก็เหลือบเห็นแก้วผลึกบนข้อมือของเขา

 

แก้วผลึกสะดุดตาพลันทำให้ซูหลี่ตัวสั่นและไร้ซึ่งสีหน้าเฉยเมย นางค่อย ๆ พลิกร่างชายโชกเลือดขึ้นเพื่อมองหน้าของเขา

 

ในตอนนั้นเอง เมฆก็ได้ลอยจากไปจนดวงจันทร์ปรากฏเด่นชัด

 

แสงจันทร์สว่างฉายลงบนใบหน้าโชกเลือดของเด็กหนุ่ม ลมหายใจของซูหลี่ขาดห้วงไปทันที นางจำใบหน้าของเขาได้ในทุกที่!

 

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขาได้อย่างไร?

 

เขาขาหักหรือเปล่า?!

 

ซูหลี่มีสีหน้าเป็นกังวล แต่ในใจกลับสงบเย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง นางตรวจสภาพเขาโดยคร่าว ๆ และพบว่าเขายังมีชีวิตอยู่ นางรีบลากร่างของเขาเข้าไปในไป๋เฉ่าถัง ไม่สนใจเลือดที่ท่วมทั่วร่างของเขา

 

หลังจากนั้นเพียงสองหรือสามนาที ใครบางคนก็เคาะประตูไป๋เฉ่าถังเสียงดัง!

 

ก่อนที่ซูหลี่จะเปิดประตู บานประตูพลันพังเปิดออกด้วยเสียงดังปัง ชายร่างสูงและร่างเตี้ยเดินฝ่าเศษไม้เข้ามา ลมหายใจของพวกเขาอยู่ในระดับถือกำเนิดอันเป็นผลจากการฝึกวรยุทธ์พ่นออกมาอย่างก้าวร้าว และบรรยากาศฉับพลันนี้ก็ได้ทำลายระเบียบภายในบ้านทันที

 

ซูหลี่ครางออกมาหน้าประตูและกระอักเลือดออกมา จากนั้นนางก็ล้มลงบนกองไม้แตกหักและแสร้งทำเป็นสลบไปในกองเศษไม้ เลือดของนางกระเซ็นอยู่บนพื้นราวกับดอกเหมยสีแดง

 

ชายกลางคนร่างสูงเห็นดังนี้แล้วก็ส่ายหน้า

 

ชายร่างเตี้ยในชุดดำเขม่นดวงตาสามเหลี่ยมของเขาและเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ชายคนนี้ท่านหมิงต้องการตัว เขาบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย เขาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในนี้แน่!”

 

ชายกลางคนร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ยขึ้น “ต่อให้เขาไม่ใช่ทายาทของกลุ่มหยินโม่ เขาก็ต้องมีความสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มแน่ จับตัวเขาแล้วพาไปให้ท่านหมิงดูกัน!”

 

ชายสองคนแยกตัวกันค้นหาทั่วไป๋เฉ่าถัง ทั้งไป๋เฉ่าถังดูราวกับถูกพายุถล่ม ยาสมุนไพรและใบสั่งยากระจัดกระจายไปทุกหนแห่ง

 

หลังจากนั้นเกือบครึ่งชั่วยาม ชายร่างเตี้ยในชุดดำก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น “ให้ตายสิ! ข้าได้กลิ่นเลือดชัดเจนทางด้านนี้ เขาจะไม่อยู่ที่นี่ได้อย่างไร?!”

 

ชายกลางคนร่างสูงเอ่ยเสียงขรึม “บางทีอาจเป็นกับดักของมารน้อยนี่ เราต้องรีบจับตัวเขาให้ได้!”

 

“ข้าไม่เคยพลาดเรื่องนี้อยู่แล้ว!”

 

ชายร่างเตี้ยในชุดดำโกรธจัดเสียจนเสียงของเขาแหบห้าวราวกับเสียงนกกา เขากลืนน้ำลายอย่างยากเย็นยามเหลือบมองซูหลี่ที่กำลังนอนในอาการสาหัสบนกองเศษไม้ เขาคิดว่าจะลองชิมเต้าหู้นางเสียหน่อยหลังจับมารน้อยนั่นได้แล้ว ให้ตายสิ…

 

“มาเร็ว หากเราคลาดจากเขา ท่านหมิงต้องโทษเราแน่ แล้วเราก็จะมีปัญหา!”

 

ชายร่างเตี้ยในชุดดำได้ยินเขาแล้วก็แค่นเสียง เขาซัดลูกดอกพิษเข้าไปที่ลำคอของซูหลี่อย่างชำนาญและหันจากไปพร้อมกับชายกลางคนร่างสูง แน่นอนว่าถ้าซูหลี่ไม่ได้ใช้วิชา ไม่มีอะไรพิกล นางก็คงถูกจัดการเรียบร้อย

 

คนทั้งสองหายไปตรงหน้าประตู แต่ซูหลี่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา นางยังคงนอนนิ่งไม่กระดิกตัวอยู่บนพื้น

 

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ชายกลางคนร่างสูงก็กลับเข้ามาในไป๋เฉ่าถัง เขาเหลือบมองซูหลี่ที่ยังนอนอยู่บนพื้นและ เสียชีวิตมานานแล้ว เขาก็สำรวจร่องรอยบนพื้นอย่างระมัดระวัง หลังแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาแล้วเขาก็ส่ายหน้าด้วยความผิดหวังแล้วจากไป

 

เมื่อชายกลางคนร่างสูงเดินจากไป ซูหลี่พลันลืมตาขึ้นและยืนปัดเศษไม้ออกจากร่าง นางไม่แม้แต่จะดึงลูกดอกพิษบนลำคอออกด้วยซ้ำ ทันใดนั้นเองก็ปรากฏลูกบิดประตูที่ซ่อนอยู่

 

เปิดประตูห้องใต้ดินแล้ว ซูหลี่ก็แบกร่างชายหนุ่มออกมาและวางเขาลงบนพื้น นางเปิดปากของเขาและหยิบยารักษาที่นางชำระด้วยตัวเองใส่ปากของเขา หลังช่วยเหลือให้เขาทานยาเข้าไปในร่างแล้ว นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้นางมีเวลาที่จะตรวจดูอาการบาดเจ็บของเขาแล้ว

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่งซูหลี่ก็เงยหน้าขึ้นและย่นคิ้ว

 

“ตอนนี้เขามีอาการบอบช้ำมากมายและขาขวาของเขาก็หัก โชคดีที่มันไม่ได้แหลกละเอียด มันจึงไม่ยากนักที่จะรักษา แต่เส้นเลือดของเขาฉีกขาดหลายจุดและบาดเจ็บภายในอย่างน่าเป็นห่วง ยิ่งกว่านั้นเขายังถูกพิษด้วย และพิษนี้ก็ไม่ทราบชนิด…ข้าเกรงว่าข้าต้องทำยาถอนพิษในตึกไม้ไผ่แล้ว”

 

ซูหลี่ย่นคิ้วแน่นกว่าเดิม ในตอนนี้ชายหนุ่มพลันไอออกมาสองครั้ง ใบหน้าอ่อนเยาว์แต่เป็นสันมุมฉายแววเจ็บปวด ขนตาของเขากระพือจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้น

 

“ข้า…ข้ายัง…มีชีวิตอยู่หรือ?”

 

ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงไปทั้งร่างและรู้สึกถึงรสหวานในลำคอ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มที่ท้ายทอย

 

เขาพยายามเหลือบมองแล้วก็พบว่าอยู่บนหัวเข่าของหญิงสาวคนหนึ่ง

 

เป็นนางนั่นเอง!

 

ชายหนุ่มเบิกดวงตาใสกระจ่างของเขากว้างขึ้นเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไม เป็นเพราะเขาไม่เคยสนใจสตรีมากขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะตั้งแต่ตอนที่เขาหนีตายอยู่ในตอนนี้ เขาคิดว่าเขาจะต้องตายเสียแล้ว แต่ตอนนี้นางก็ช่วยชีวิตเขาไว้

 

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ ใบหน้าของเขาที่ไร้สีเลือดก็ซีดลง เขาดิ้นรนหมายจะลุกขึ้นนั่ง

 

“ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ เจ้าต้องรีบหนีไปซะ! พวกมันฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตรอด”

 

การเคลื่อนไหวของเขาพลันกระทบกับบาดแผลภายใน และทำให้เขาต้องพ่นเลือดสีดำคล้ำออกมา

 

ซูหลี่รู้สึกรำคาญ นางกดร่างของชายหนุ่มลงและร้องกรีดด้วยความโมโห “เจ้าตายแน่หากขยับตัวอีก ถึงตอนนั้นก็อย่าโทษข้าแล้วกัน!”

 

เสียงของนางฟังดูแหบห้าวกว่าปกติ

 

ชายหนุ่มอึ้งไปทันที ตอนนี้เขาพบว่าบนคอของซูหลี่มีลูกดอกพิษปักอยู่!

 

ศัตรูของเขาอยู่ที่นี่แล้ว!

 

ชายหนุ่มตกใจ นางปกป้องเขางั้นหรือ? แต่ลูกดอกพิษของเหยกุ่ยมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตในทันทีที่มันปักเข้าร่างของใครซักคน เกิดอะไรขึ้นกัน?!

 

ในตอนนี้เขาก็เห็นซูหลี่ดึงลูกดอกพิษออกจากลำคอ เลือดสีดำพลันพุ่งออกมาจากบาดแผล แต่หลังจากนั้นครู่ใหญ่มันก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เห็นชัดว่าพิษนั้นถูกย่อยสลายแล้ว

 

ทันใดนั้นเอง ซูหลี่ก็กลายเป็นบุคคลลึกลับในใจของเขา

 

การถูกซัดพลังใส่จากจอมยุทธ์รุ่นพี่ผู้มีพลังขุมถือกำเนิด ซูหลี่ก็รู้สึกได้ถึงพลังสะกดในอก เว้นแต่ว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก หลังรับรู้ว่าชายหนุ่มปลอดภัยดีนางก็เก็บกวาดไป๋เฉ่าถังลวก ๆ จากนั้นก็แบกร่างชายหนุ่มไว้บนหลังและเดินไปตามถนนสู่หุบเขา

 

เมื่ออยู่บนหลังของซูหลี่ ชายหนุ่มก็มีอารมณ์ความรู้สึกไม่เหมือนกับเมื่อก่อน นับตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยถูกสตรีที่ไหนแบกขึ้นหลังเลยเว้นแต่มารดาของเขา

 

สายลมยามราตรีช่างเย็นเยือก ซูหลี่รู้สึกราวกับเดินทางผ่านกาลเวลาและอวกาศจนกลับสู่ชีวิตชาติที่แล้ว

 

ในชาติที่แล้วของนาง นางก็แบกสามีพิการบนหลังเหมือนตอนนี้เช่นกัน พวกเขาผ่านความยากลำบากมาด้วยกันหลายอย่างเหลือเกิน…

 

หิ่งห้อยกำลังบินวนอยู่บนเส้นทางสู่ภูเขา ชายหนุ่มไม่เคยสงบขนาดนี้มาก่อน เขามองบ่าบอบบางของหญิงสาวและเอ่ยกระซิบหลังจากนั้นครู่หนึ่ง “เจ้าชื่ออะไรหรือ?”

 

“ซูหลี่”

 

ซูหลี่ตอบเขาโดยไม่ลังเล ชื่อที่เขาตั้งให้เมื่อชาติที่แล้ว แต่ในชาตินี้นางกลายเป็นฝ่ายบอกเขา

 

“ซูหลี่..” ใบหน้าของชายหนุ่มซีดขาว แต่รอยยิ้มของเขากลับนุ่มนวล “ช่างบังเอิญเสียจริง ชื่อข้าก็มีคำว่าหลี่อยู่ และชื่อของข้าก็คือ…”

 

อะไรน่ะ?!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด