การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 86

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 86 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ ๘๖

 

“นี่มันอะไรน่ะ?”

 

“พจนานุกรมต้าฮั่นงั้นหรือ?”

 

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีฉบับนี้นะ เจ้าซื้อฉบับพิมพ์เถื่อนที่วางขายข้างถนนมาหรือเปล่า?”

 

ทั้งชั้นเรียนพลันดังเซ็งแซ่ เห็นดังนั้นแล้วอาจารย์อาวุโสก็ย่นคิ้วก่อนจะตบโต๊ะและตวาดลั่น “เงียบๆ !”

 

ห้องเรียนเงียบกริบในทันที ทุกคนนิ่งงันไปด้วยความหวาดกลัว พวกนางเกือบจะลืมไปแล้วว่าตนเองไม่ได้เรียนอยู่ในห้องเรียนของตระกูลอีกต่อไป

 

อาจารย์ชราแค่นเสียงและมองซูหลี่อย่างเย็นชา “เจ้า ยืนขึ้นแล้วตอบคำถามของข้า ข้าบอกให้เจ้าหยิบพจนานุกรมต้าฮั่น แล้วเจ้าหยิบหนังสืออะไรออกมา?”

 

ซูหลี่ลุกขึ้นยืนและเอ่ยด้วยคำเสียงเคารพไร้ซึ่งความหวาดกลัว “พจนานุกรมต้าฮั่นฉบับนี้เป็นฉบับแก้ไขของทางการที่ปกเปื้อนน้ำหมึก แต่ข้างในยังใช้การได้อยู่ ข้าลังเลที่จะทิ้งมันไปเลยนำมันมาด้วยเจ้าค่ะ”

 

จากนั้นซูหลี่ก็เปิดหน้าแรกที่มีข้อความเชิงอรรถขนาดเล็กอัดเต็มหน้ากระดาษ คุณหนูจากตระกูลร่ำรวยข้างกายนางถึงกับจ้องมองมันด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

อาจารย์ชราพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ และเขาเองก็เกิดความใคร่รู้ขึ้นมาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “ขอข้าดูหน่อย”

 

ซูหลี่รีบส่งมันให้กับคนรับใช้ชาย อาจารย์ชราหยิบพจนานุกรมต้าฮั่นไปแล้วและดวงตาฝ้าฟางของเขาก็แจ่มใสขึ้น เขาพลิกดูทีละหน้าแล้วพบว่าทุกหน้าต่างเต็มไปด้วยข้อความเชิงอรรถ มีเพียงหน้าสุดท้ายที่เขารู้สึกว่ามีข้อความเบาบางกว่าหน้าอื่น ๆ

 

“ดี!” อาจารย์ชรายิ้มและไม่ลังเลที่จะเอ่ยชมนาง “เจ้าชื่ออะไร?” เขาถาม

 

“ซูหลี่เจ้าค่ะ ซูมาจากสถานที่ว่ากูซู และหลี่มาจากวลีว่าหลินหลี่(ไร้อุปสรรค)เจ้าค่ะ”

 

“ดี! เจ้าเข้าเรียนห้องเจียได้เลยโดยไม่ต้องรับบททดสอบนี้”

 

ซูหลี่เลิกคิ้วขึ้น อาจารย์ชราผู้นี้ช่างตัดสินใจเด็ดขาดนัก!

 

คนอื่น ๆ ตะลึงลานไป

 

ห้องเรียนชั้นเจียคือชั้นเรียนหนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการอบรมสั่งสอนสตรีทั้งหลายในเมืองมู่หยางและครึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่หญิงประจำศาลหลวง ทำไมซูหลี่ถึงถูกเลือกเข้าชั้นเรียนนี้เพียงเพราะหนังสือสีดำเล่มหนึ่งกันนะ?

 

อะไรคือความแตกต่างระหว่างหนังสือสีดำกับหนังสือเล่มอื่นๆ?

 

เห็นดังนี้แล้ว ซูจื่อเผยก็รู้สึกอิจฉาและเสียดายขึ้นมา หากนางรู้ว่าหนังสือของซูหลี่จะให้ผลเช่นนี้ นางก็คงจะคว้ามันมาแล้ว ให้ตายเถอะ!

 

“ทำไมล่ะเจ้าคะ? อาจารย์ มันไม่ยุติธรรมเลย!”

 

หลังความเงียบครู่หนึ่ง ใครบางคนก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและตะโกนออกมา การถูกครอบครัวเลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ทำไมพวกนางต้องปล่อยให้คนที่ไม่ต้องทำอะไรเลยได้อยู่เหนือกว่าพวกนางกัน?

 

“นี่มันห้องเรียนของข้า เจ้าอยู่ในโรงเรียนมู่หยางแล้ว ไม่ใช่ที่บ้าน!” อาจารย์ชราจ้องมองอย่างเห็นชัดว่าเขากำลังโกรธ เขาเอ่ยต่อ “หากเจ้าไม่ชอบบทเรียนนี้ก็จงออกไปซะ!”

 

จากนั้นสีหน้าของแม่นางผู้ลุกขึ้นยืนและไม่เห็นด้วยกับอาจารย์ก็ซีดเผือด

 

ในตอนนี้ซูหลี่ก็พูดขึ้น

 

“ท่านอาจารย์เจ้าคะ ข้าไม่อยากถูกผู้อื่นวิจารณ์ ข้าเชื่อว่าข้าสามารถเข้าชั้นเรียนเจียได้ด้วยความสามารถของตนเอง อาจารย์ โปรดอย่าเลือกปฏิบัติที่นี่เลยเจ้าค่ะ”

 

เมื่ออาจารย์ชราได้ยินดังนั้นเขาก็พลันยิ้มยิงฟันและเอ่ยขึ้น “ตกลง! ข้าเห็นด้วย งั้นนั่งลงและทำบททดสอบเถอะ”

 

แม่นางคนที่ลุกขึ้นยืนรู้สึกโล่งใจและนั่งลงช้า ๆ แม้ซูหลี่จะช่วยนางแก้ปัญหาแต่นางก็ไม่รู้สึกขอบคุณแต่อย่างใด กลับกันนางรู้สึกว่าซูหลี่ดูเสเเสร้งและน่ารำคาญ

 

หลังจากนั้นซูจื่อเผยก็มองไปรอบ ๆ และพบว่าทุกคนใช้พจนานุกรมต้าฮั่นฉบับเดียวกับซูหลี่ที่ไม่ใช่ฉบับปัจจุบัน นางพลันรู้สึกดีใจ เปิดตะกร้าหนังสือและล้วงมือเข้าไป

 

จากนั้นรอยยิ้มของซูจื่อเผยพลันหายไปในทันที ใบหน้าของนางซีดเผือด

 

ตะกร้าหนังสือ…มันว่างเปล่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

 

“เจ้าทำอะไรน่ะ?”

 

คำพูดรุนแรงของอาจารย์อาวุโสพลันดังขึ้นในโสตประสาท ซูจื่อเผยตัวสั่นเทาและเหลือบมองขึ้นมา แล้วก็พบว่าอาจารย์ชรากำลังยืนอยู่ตรงหน้านาง นางหวาดกลัวเสียจนก้าวถอยหลังร่วงลงบนเก้าอี้

 

อาจารย์ชรารู้สึกแปลกพิกล เขาจึงก้มตัวลงหยิบตะกร้าหนังสือและพบว่าตะกร้าในมือมีน้ำหนักเบา ผู้เป็นอาจารย์รู้สึกประหลาดใจจึงเปิดมันออกดูจากนั้นเขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

 

“เจ้ากล้าดียังไง! ข้าสอนมาเป็นหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นศิษย์เข้าชั้นเรียนข้าโดยไม่มีหนังสือ! ออกไป! เจ้าไม่ต้องทำบททดสอบแล้ว พรุ่งนี้เข้าชั้นเรียนกุ่ยและเริ่มงานขัดถูซะ!”

 

ชั้นกุ่ยคือชั้นเรียนลำดับท้ายสุดในสิบสาขาชั้นเทียน

 

ซูจื่อเผยรู้สึกสับสนเมื่อถูกดุด่า ในใจของนางอยู่ในสภาวะสับสน และนางก็จำได้ว่าตนเองใส่หนังสือลงไปเต็มตะกร้าแล้ว ทำไมมันกลับว่างเปล่า? ซูหลี่ถือมันอยู่ตลอดทาง…เดี๋ยวนะ!

 

“ซูหลี่ เจ้าต้มข้า!”

 

ซูจื่อเผยกรีดร้องราวกับวิญญาณร้าย อาจารย์ชราถึงกับตกใจและออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราดให้คนรับใช้ชายลากตัวซูจื่อเผยออกไป

 

“ไม่มีกฎเช่นนี้! ไม่มีกฎเช่นนี้! ศิษย์ส่งเสียงดังในโรงเรียนเรอะ? ใครมันเป็นคนฝากนางเข้ามา? นางคืออาจมหนูชัด ๆ!”

 

อาจารย์ชราโกรธจัดเสียจนถึงกับพูดว่า อาจมหนู เขาโมโหกับพฤติกรรมป่าเถื่อนของซูจื่อเผยจนแทบจะลมจับ

 

ซูหลี่นั่งประจำที่ของนาง นางทำใจให้สงบและรอรับการสอบอย่างใจเย็น

 

ต่อมาทั้งชั้นเรียนก็เงียบกริบ​ ทุกครั้งที่คนรับใช้ชายถามถึงหน้าและบรรทัดในพจนานุกรม​ต้าฮั่น​ ซูหลี่ก็จะเป็นคนแรกที่ตอบคำถามได้ถูกต้องเสมอ​ โทสะของอาจารย์ชราหายไปเกือบหมด​ เมื่อเขามองซูหลี่ เขาก็ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

 

มีศิษย์ที่ดีและไม่ดีปะปนกันในปีนี้​ แต่มันก็มีเรื่องน่าประหลาดใจเช่นกัน​ สาวน้อยซูหลี่ช่างมีพรสวรรค์นัก​ เมื่อใดที่นางเข้าชั้นเรียนเจียแล้ว​ เขาก็จะสอนนางอย่างเข้มงวด

 

“ถ้าอย่างนั้น​ข้าก็ข​อประกาศคัดเลือกเข้าชั้นเรียนเลยแล้วกัน!”

 

“ซูหลี่​ ชั้นเจีย!”

 

เม่ยรั่วหาน​ ชั้นปิง!

 

“…”

 

มีเพียงซูหลี่ที่ได้อยู่ชั้นเจีย​ ไม่มีใครอยู่ชั้นอี้ ส่วนชั้นปิงก็มีแค่ศิษย์คนเดียวซึ่งก็คือหญิงสาวที่นั่งข้างซูหลี่และเผยสีหน้าตกใจออกมา​ คนที่เหลือส่วนใหญ่ต่างอยู่ในชั้นติงและชั้นอู๋…

 

“ข้ากับนางจะห่างชั้นอะไรกันมากขนาดนี้! นางดูอายุน้อยกว่าข้าเสียอีก…” ดวงตาของเม่ยรั่วหานเป็นประกายขณะสายตาจับจ้องใบหน้าซีกข้างอันไร้ที่ติของซูหลี่​ สายตาของนางเหมือนมีแววเทิดทูนอยู่ภายใน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด