Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke – บทที่ 24 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย

อ่านนิยายจีนเรื่อง Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke ตอนที่ 24 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

บทที่ 24 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย

 

“ บริษัทได้จัดการถอนตัวคุณจากละครเรื่อง ( City-Toppling) เรียบร้อยแล้ว โดยค่าเสียหายทั้งหมดจะถูกหักออกจากค่าตัวของคุณ” ถังหยินพูดก่อนจะหยุดชะงักไปพักนึ่งพลางทําสีหน้าครุ่นคิด และถามเธอต่อด้วยน้ําเสียงปนสงสัยว่า “ เท่าที่ผมได้ยินมา บทละครเรื่องนั้นโครตจะห่วยแตกเลยนะ ว่าแต่ทําไมคุณถึงรับเล่นบทนั้นล่ะ?”

 

ฉีเชิงกรอกตามองบนพร้อมยักไหล่ ก่อนจะตอบด้วยน้ําเสียงเย้ยๆ “ มิลานเป็นคนจัดการทั้งหมด จะทําไงได้ฉันมันก็แค่ดาราหน้าใหม่ที่อันดับแทบจะรั้งท้ายของวงการ แล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่ฉันจะไม่ทําตามคําสั่งของผู้จัดการมือทองอย่าง

เธอ?”

 

ยิ่งได้ฟังคําตอบประกอบกับท่าทางของเธอถังหยินยิ่งอยากที่จะรู้จักตัวตนของเธอให้มากขึ้นกว่านี้ เขาเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะนับตั้งแต่ที่เขาถูกย้ายให้มาดูแลเธอเขาก็ได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศส่วนตัว สิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ หรือแม้กระทั้งทีมสนับสนุนระดับแนวหน้าของวงการ นี่ถือว่าเป็นโอกาสฟ้าประทานมากสําหรับผู้จัดการมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีนักแสดงในสัง กัดมาก่อนอย่างเขา

 

“เอาล่ะ นี่เป็นบทละครที่ผมคัดเลือกมาให้คุณ ลองเลือกดูสิว่าชอบบทไหน” ถังหยินยื่นบทละครประมาณสามฉบับได้ให้ฉีเชิง

 

ฉีเชิงเหลือบมองชื่อเรื่องแต่ละเรื่องก่อนตัดสินใจ “ฉันเลือกเรื่องนี้แหล่ะ ”

 

ถังหยินไม่คัดค้านอะไรกับบทที่เธอเลือก เพราะยังไงทั้งสามเรื่องนี้เขาก็คัดเลือกมาเบื้องต้นแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าเธอจะเลือกเรื่องไหนก็โอเคทั้งนั้นสําหรับเขา

 

เรื่องที่ฉีเชิงเลือกเป็นละครแนวบําเพ็ญเพียรเรื่องหนึ่งเรื่องมีอยู่ว่าคนในสํานักถูกฆ่าสังหารหมู่เพราะคนของพรรคมารมีเพียงตัวละครเดียวที่รอดชีวิตคือ ชิงหยวน เขาได้รับความช่วยเหลือจากดอกไม้ที่บําเพ็ญเพียรจนกลายเป็นภูตดอกไม้ทั้งสองจึงร่วมกันไขปริศนาว่าเหตุใดคนในสํานักถึงโดนไล่ฆ่า

 

ละครเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายแฟนตาซีแนวเทพเซียนเรื่องหนึ่ง ซึ่งถือได้ว่าได้รับความนิยมมากพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ฉีเชิงไม่ได้ต้องการที่จะออดิชั่นในบทนักแสดงนําหญิงอันดับหนึ่งอย่างบทของภูติสาวอยู่แล้ว แต่บทที่เธอสนใจคือบทนักแสดงสนับสนุนหญิงอันดับที่สองต่างหาก เพราะตัวละครตัวนี้มีภูมิหลังที่ค่อนข้างดีถึงแม้ว่าในตอนท้ายของละครจะจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

 

“คุณแน่ใจนะว่าจะรับบทนี้ว” ถังหยินถามด้วยน้ําเสียงปนกังวลเล็กน้อย

 

เนื่องด้วยเขาเห็นแล้วว่าในตารางสรุปคะแนนจากคลาสเรียนต่างๆของเธอไม่ได้สูงมากนัก ซึ่งตามบทแล้วตัวละครตัวนี้ค่อนข้างสําคัญพอสมควร บทเองก็ค่อนข้างยากเพราะในช่วงแรกเธอจะต้องเล่นเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสดใส ร่าเริงแต่ต่อมาด้วยเหตุการณ์ในเรื่องทําให้เธอเริ่มเข้าสู่ด้านมืด เธอเริ่มมีบุคลิกที่เปลี่ยนไปกลายเป็นคนเลือดเย็นและไร้ความปราณี ด้วยบุคลิกที่แตกต่างกันมากเหมือนขาวกับดําเขาคิดว่ามันไม่ง่ายนักที่จะแสดงออกมาให้ได้ดี เพราะฉะนั้นเขาจึงค่อนข้างกังวลกลัวว่าเธอจะทําไม่ได้

 

แต่อันที่จริงเขาเองก็เล็งบทนี้ไว้ให้เธอแต่แรกแล้วเหมือ นกัน ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของเธออาจจะยังไม่เหมาะสมนักก็

ตาม…

 

ก็ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว เพราะคงไม่มีใครคาดคิดอยู่แล้วล่ะว่าเธอจะได้รับแสดงบทนี้ ฉีเชิงปิดสคริปต์ที่อยู่ในมือ ลงก่อนจะฉีกยิ้มหวาน “ ก็คงต้องลองดู”

 

ถังหยินมองฉีเชิงด้วยสายตาที่สื่อความหมาย ก่อนจะพาเธอขึ้นลิฟท์ไปยังห้องออดิชั่นที่อยู่ชั้นบน เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกพวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับมิลานเละเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว มิลานมองดูฉีเชิงด้วยสายตาเกลียดชังมองดูก็รู้ว่าเธอไม่พอใจฉีเซ็งมากแค่ไหน “ที่ฉันเป็นถึงผู้จัดการมือทอง ใครๆก็อยากให้ฉันดูแล แต่หล่อนกลับแจ้นไปขอให้ผู้จัดการมือใหม่อย่างไอ้หมอนั้นมาดูแลแทนฉัน นี่หล่อนคิดจะหักหน้าฉันสินะ?!

 

แน่นอนเหตุผลหลักที่ทําให้เธอยิ่งไม่พอใจคือ ทีมสนับสนุนที่เจียงหวันได้รับจากสํานักงานใหญ่

 

“สวัสดีครับพี่มิลาน” ถังหยินเอ่ยทักทายด้วยน้ําเสียงสุภาพก่อนมิลานจะพยักหน้ารับและยิ้มน้อยๆให้พอเป็นพิธีแต่เมื่อเธอกวาดสายตาไปจนถึงฉีเซิงสีหน้าเธอก็มืดครื้มลงเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ ก่อนเธอไม่ได้แนะนําอะไรถึงเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ จนท้ายที่สุดเธอคนนั้นก็กล่าวขึ้นมาเอง“อ้าว.เจียงหวันเธอก็มาออดิชั่นด้วยเหรอ? เธอจะมาออดิชั่นบทไหนล่ะ? ทําไมไม่ให้พี่มิลานช่วยดูบทของเธอให้หน่อยล่ะ เผื่อพี่เขาจะให้คําแนะนําอะไรดีๆกับเธอได้”

 

ก่อนเธอจะเหลือบมองไปที่ถังหยินแบบเหยียดๆ..

 

“แหม..ฉันเกรงว่าถ้าให้พี่มิลานช่วยดู อนาคตของฉันมันจะรุ่งโรจน์จนเกินไปน่ะค่ะ”ฉีเชิงตอบพลางฉีกยิ้มแสนหวาน

ให้ยัยมิลานเนี้ยนะช่วยเธอ? ถ้าให้หล่อนช่วยพิจารณาฉันก็คงไม่แคล้วได้เล่นแต่บทคนใช้อ่ะ!!

 

มิลานหันขวับทันทีเมื่อได้ยินที่ฉีเชิงตอบ เธอจ้องฉีเซิงจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าด้วยความโกรธ

 

เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวข้างๆมิลานเองก็เข้าใจความหมายที่นี่เซิงกําลังสื่อออกไปได้เป็นอย่างดี เธอจึงพูดสวนขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ําเสียงที่ไม่เป็นมิตรยิ่งกว่าเดิม “เจียงหวัน!! เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? อย่างน้อยพี่มิลานเขาก็เคยดูแลเธอมาก่อน เธอควรจะให้เกียรติแล้วก็หัดมีมารยาทกว่านี้นะ! หรือเธอเป็นคนปาคนดอยถึงไม่รู้แม้กระทั่งมารยาทพื้นฐานที่พึงมี!”

 

น้ําเสียงของเธอเยาะเย้ยถากถางฉีเชิงเต็มที่ โดยเฉพาะป ระโยคสุดท้ายฉีเซิงแอบมองไปที่ถังหยินเล็กน้อย แม้ใบหน้า ของเขาในตอนนี้จะดูเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่เขา กลับกํามือแน่นราวกับกําลังพยายามข่มอารมณ์อยู่อย่างถึง ที่สุด

 

“อ่า…จริงสิ จะว่าไปก่อนหน้านี้พี่มิลานเขาก็ดูแลฉันมาเป็นอย่างดีจริงๆ ฉันก็ควรจะต้องขอบคุณพี่เขาจริงๆแหละ เนาะ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ของฉีเซิงสีหน้าของมิลานก็เริ่มดีขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคต่อไปเท่านั้นแหละใบหน้าของเธอก็กลับมาแดงกําด้วยความโกรธทันที

 

“เมื่อก่อนน่ะฉันมันเป็นคนโง่ และการที่ฉันเลือกที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของพี่มิลานในตอนนั้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านอกจากฉันจะโง่แล้วสายตาของฉันก็ยังไม่ดีอีกด้วยแต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ ตอนนี้ฉันรักษาตาของฉันจนหาย ดีแล้วเพราะฉะนั้นฉันมองเห็นได้ชัดแล้วล่ะว่าอะไรดีที่สุดสําหรับตัวฉัน” น้ําเสียงของเธอฟังดูเหมือนจะขอโทษแต่ใครๆก็ฟังออกว่าเธอน่ะพูดประชด

 

สายตาไม่ค่อยจะดี…ตอนนี้หายดีแล้ว ด้วยคําพวกนี้เหมือนกับว่าเธอเพิ่งจะทิ้งระเบิดตูมใหญ่ลงไปเลยทีเดียว

 

“เจียงหวัน!!” เด็กสาวชี้หน้าฉีเพิ่งด้วยความโกรธเธอโกรธมากจนมือสั่นไปหมด

 

“ทําไมหรอ? ถ้าจะคุยกับฉันต่อเธอต้องจ่ายแพงหน่อยนะ พอดีค่าตัวฉันแพงแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เห็นว่าเราอยู่บริษัทเดียวกัน เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันลดให้ราคาให้เธอเป็นพิเศษละกัน”

 

“พอได้แล้ว เรายังมีงานต้องไปถ่ายโฆษณาต่อเพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลาไปเสวนากับคนพันธุ์นี้เลย” มิลานพูดแทรกขึ้นก่อนจะปรายตามองฉีเพิ่งด้วยสายตาอาฆาต “เจียงหวันโลกนี้มันอยู่ยากกว่าที่เธอคิดนะ อย่าหยิ่งผยองให้มันมากนัก!”

 

ถ้าฉันจะหยิ่งผยองหรือจองหอง แล้วมันไปหนักหัวส่วนไหนของหล่อนมิทราบยะ

 

ฉีเชิงแสยะยิ้มที่มุมปากแต่ก็ไม่ได้โต้อะไรกลับไปแต่เมื่อมลานเห็นรอยยิ้มนั้นของเซิงแล้วทําไมเธอถึงรู้สึกเสียวสันหลังวาบขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ก็คือคนๆเดิมแต่ทําไมเธอกลับรู้สึกแปลกไป

 

“แม่นี่มันก็แค่เด็กเหลือขอ ฉันมีเส้นสายมากมายในวงการนี้ ฉันจะทําให้หล่อนกระเด็นออกจากวงการตอนไหนก็ได้

 

เมื่อคิดได้แบบนั้นมิลานก็รู้สึกดีขึ้นเธอยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปที่ลิฟท์

 

ขณะที่ทั้งสองกําลังจะเดินผ่านหน้าถังหยินพวกเขาตั้งใจจะเดินชนถังหยินให้ล้ม แต่ถังหยินรู้ทันเขาจึงเดินถอยหลังไปสองก้าว “ฉันจะรอ!”

 

เมื่อประตูลิฟท์ปิดลง ฉีเชิงก็หันกลับไปมองถังหยินเล็กน้อยถังหยินดันแว่นเข้ากรอบหน้าก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงสํานึกผิด “ผมขอโทษ ” ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวเขารู้สึกว่าเขาทํางานบกพร่อง เขาปล่อยให้นักแสดงในสังกัดของตัวเองถูกคนอื่นรุมกลั่นแกล้ง โดยที่เขาไม่ได้เข้าไปช่วยเหลืออะไรเธอเลย

 

“ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นนามสกุลถังใช่ไหมนะ?” เห็นได้ชัดว่าท่าทีของเด็กสาวคนนั้นมองเธอเป็นศัตรูและท่าทางของถังหยินเองก็ดูแปลกๆ เขาดูเกร็งๆ ตื่นตระหนกแล้วก็ดูประหม่าๆตอนที่เผชิญหน้ากับเด็กสาวคนนั้น

 

ฉีเชิงยังไม่ทันได้มีเวลาคิดถึงสาเหตุ จู่ๆเสียงจากระบบก็ดังขึ้นเสียก่อน

 

[ พบเควสแบบสุ่ม โฮสท์ต้องการยอมรับมันหรือไม่?]

 

“เควสสุ่ม? ที่ยยย…เจ้าระบบ เห็นฉันเป็นแรงงานทาสรีไง ลําพังแค่เควสหลักฉันยังทําไม่เสร็จเลย!”

 

ฉีเชิงคิดว่าระบบจะบังคับให้เธอยอมรับเควสเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แปลก…ครั้งนี้มันกลับเงียบไปหลังจากที่เธอปฏิเสธงั้นก็แสดงว่าเควสสุ่มคงไม่ได้สําคัญอะไรขนาดนั้นมั้ง.

 

“ไปกันเถอะ…” ฉีเชิงพูดขึ้นหลังจากเสียงระบบเงียบไปและฉีเชิงเองก็คร้านที่จะไปซักไซ้ไล่เรียงกับถังหยินต่อแล้วเหมือนกัน

 

ถังหยินเมื่อเห็นว่าฉีเชิงไม่ซักไซ้ไล่เรียงอะไรอีก เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาจ้องมองฉีเซิงอย่างพินิจพิเคราะห์อีกครั้ง เจียงหวันที่เขาได้รับข้อมูลมากับเจียงหวันที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตลอดสามสี่วันที่เขาเริ่มทํางานกับเธอมาเขาแทบไม่เคยเห็นความประหม่าหรือความไม่มั่นใจในตัวเองของเธอเลย

 

เมื่อทั้งสองมาถึงห้องออดิชั่นก็พบว่ามีคนนั่งรออยู่ในห้องบางส่วนแล้วถังหยินเดินเข้าไปหยิบบัตรคิวมาให้ฉีเชิงก่อนจะพาเธอเดินมานั่งรอที่โซฟาใกล้ๆเท่าที่สังเกตมีคนมาออดิชั่นบทนี้ไม่มากนัก คนที่มีสังกัดหน่อยก็จะมากับผู้จัดการส่วนใครที่เป็นนักแสดงอิสระก็จะมาคนเดียว แต่สิ่งที่เหมือนกันคือใบหน้าของพวกเขาทุกคนล้วนแต่แบกความคาดหวังเอาไว้ด้วยกันทั้งสิ้น

 

บรรดาคนที่เข้าไปพอออกมาก็ล้วนแต่มีใบหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นบางคนวิ่งออกมาพร้อมน้ําตากันเลยทีเดียว

 

ฉีเซิงนั่งอยู่เงียบๆ เธอไม่รู้สึกเครียดอะไรเลยสักนิดก็เนี้ย..มันที่ของฉันอยู่แล้วปะ? เธอคิดเชิงไม่แม้แต่จะท่องสคริปต์เหมือนกับคนอื่นๆ ด้วยซ้ําแต่เธอกลับนั่งนิ่งก่อนจะมองไปยังเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแทน

 

เด็กสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเคนักเมื่อรู้สึกเหมือนว่ากําลังถูกจับจ้องอยู่ แต่เมื่อเธอลองสังเกตดีๆก็พบว่าคนตรงหน้าไม่ได้แม้แต่จะสนใจมองเธอด้วยซ้ํา แต่เธอกําลังจ้องไปในอากาศซะมากกว่า

คลิปหลุด

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด