เส้นทางแห่งโชคชะตา – เล่มที่ 1 ตอนที่ 24: พลังของทอรัส

อ่านนิยายจีนเรื่อง เส้นทางแห่งโชคชะตา ตอนที่ 24 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เล่มที่ 1 ตอนที่ 24: พลังของทอรัส

 

ใบหน้าของทอรัสเปลี่ยนไปทันที จากนั้นความมั่นใจของเขาก็หายไปด้วย ตอนนี้จะเหลือก็เพียงแต่ใบหน้าอันบูดเบี้ยว ภายใต้แสงจันทร์ก็เท่านั้น “เจ้า ไอ้สารเลว ! ข้าจะฆ่าเจ้าก่อนเป็นคนแรก ! ” ทอรัสพูดออกมาพร้อมกับยื่นมือออกไป ไม้เท้าเวทมนตร์ปรากฏออกมาในมือของเขาทันที เขาชี้ไปทางของมู่หรงเสี่ยวเทียน จากนั้นก็ปรากฏลูกไฟขนาดใหญ่พอ ๆ กับหัวของมนุษย์พุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว

 

ทุก ๆ วินาทีที่มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดคุยกับทอรัส เขาจะสังเกตทุกรายละเอียดและทุก ๆ การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าทอรัสนำไม้เท้าออกมาและชี้มาที่เขา เขาจึงรีบหลบและวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง จากนั้นก็มีเสียง “ตูม ! ” ดังขึ้นมา จุดที่มู่หรงเสี่ยวเทียนเคยอยู่ก็กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ทันที

 

ในการโจมตีครั้งนี้ ทอรัสไม่ได้กลัวว่าอีกฝ่ายจะโจมตีสวนกลับมาเลยแม้แต่น้อย แต่เขาโจมตีเพื่อที่จะให้มู่หรงเสี่ยวเทียนหนีไปที่อื่น เนื่องจากการสู้กับกองทัพหมาป่าโลหิตหลายพันตัวที่มีจ่าฝูงเป็นถึงราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์นี้ หากว่าหมู่หรงเสี่ยวเทียนยังอยู่ เขาคงต้องลำบากแน่ และขณะนี้มู่หรงเสียวเทียนที่หลบลูกไฟมาได้ ก็รีบวิ่งหนีไปทางสระน้ำหน้าบ้าน

 

เมื่อเห็นว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนหลบการโจมตีของเขาได้ ทอรัสก็รู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมาทันที คลื่นลูกไฟขนาดใหญ่หลายลูก พุ่งมาหามู่หรงเสี่ยวเทียนจนแทบไม่มีช่องว่างให้หลบเลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายมันก็โดนไปที่ตัวของมู่หรงเสี่ยวเทียน ยังดีที่เขาใช้สกิลแฟนธ่อมดริฟหลบไปได้เล็กน้อย จึงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก เขารีบกระโดดลงสระน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แต่รอยกระเพื่อมของน้ำแต่ร่างนั้นหายไปแล้ว

 

เขารีบดิ่งตัวลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าแผนสำเร็จ เขาก็รีบจับหินใต้น้ำเอาไว้แน่น พลางคิดในใจออกมาว่า “บ้าเอ้ย ! แก่จะตายอยู่แล้วนั่น ยังทำตัวเป็นตาเฒ่างี่เง่าอยู่ได้ ฉันแค่มาขอความช่วยเหลือ แต่ว่ากลับทำร้ายกันแบบนี้ เป็นยังไง เอากองทัพหมาป่าโลหิตไปอยู่เล่นเป็นเพื่อนเลยไป ฮ่าฮ่า” มู่หรงเสี่ยวเทียนคิดอย่างชั่วร้าย และในเวลาเดียวกันเขาก็แอบภูมิใจอยู่ลึก ๆ เขารู้สึกแย่กับทอรัสเล็กน้อย โชคยังดีที่มู่หรงเสี่ยวเทียนได้หาทางออกเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่งั้นเขาก็คงจะกลายเป็นตอตะโกจากลูกไฟบรรลัยกัลป์พวกนั้นแล้ว

 

แต่หลังจากนั้นไม่นานมากนัก มู่หรงเสี่ยวเทียนก็รู้สึกเวียนหัวและสายตาพร่ามัว เขารู้ว่าตอนนี้เขาคงจะทนได้ถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว ถ้าหากว่ายังไม่รีบขึ้นไปเขาก็คงจะต้องขาดอากาศหายใจตายอยู่ที่นี่ เขารีบปล่อยมือออกจากหินจากนั้นก็ค่อย ๆ ปล่อยร่างของตัวเองให้ลอยขึ้นไปโดยที่ใช้เพียงจมูกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำอย่างเงียบ ๆ

 

พื้นที่ข้างหน้าเต็มไปด้วยแสงสีแดงปรากฏขึ้นมาในตาของเขา เขากำลังหายใจเหนื่อยหอบและจ้องมองรอบ ๆ แต่ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากกับฉากตรงหน้าที่เขาเห็น ซึ่งขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขอบคุณสมองอันชาญฉลาดของเขาที่หนีมาอยู่ในน้ำ

 

ตอนนี้ใบหน้าที่หยิ่งยโสและมืดมนแต่เดิมของทอรัส กลายเป็นซีดขาวราวกับกระดาษ ผมของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ คิ้วขมวดติดกันเป็นปม คนคนเดียวถูกล้อมรอบไปด้วยกองทัพขนสีแดง เมื่อมองดูทุกอย่างแล้ว ทั่วทั้งบริเวณนี้มีร่องรอยของการต่อสู้เต็มไปหมด ร่างหมาป่าโลหิตมากมายกระจัดกระจายไปในทุกที่ หมาป่าโลหิตมากกว่าครึ่งได้นอนอยู่บนพื้น ส่วนพวกที่เหลืออยู่นั้นก็ยืนล้อมรอบทอรัสเอาไว้และเริ่มโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่มันก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก มีเพียงราชาหมาป่าโลหิตเท่านั้นที่พ่นลูกศรสีขาวออกมาเป็นครั้งคราว และมันก็โจมตีเข้าที่ช่องโหว่บนร่างของทอรัสจนเขาได้รับบาดเจ็บ

 

สีหน้าของทอรัสเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาเรื่อย ๆ เขาค่อย ๆ ยกไม้เท้าในมือขึ้นมาและร่ายเวทมนตร์ช้า ๆ  “ในนามของราชาแห่งเผ่าลานยิน ขอใช้พลังเทพแห่งไฟเป็นสื่อในการแผดเผาศัตรูทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้านี้ ! ” หลังจากที่ทอรัสร่ายมนต์เสร็จ ไม้เท้าก็ชี้ไปข้างหน้าและเขาก็ตะโกนว่า “ฝนดาวตกเพลิง ! ” ทันใดนั้นท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแดงสดทันที อุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าทันที พื้นที่ตรงหน้าของเขาลุกไหม้จนมองไม่เห็นอะไร ระยะรอบ ๆ 60 เมตร ถูกเปลี่ยนไปเป็นทะเลเพลิง เพียงชั่วขณะหมาป่าโลหิตนับพันก็ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงราชาหมาป่าโลหิตเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ และจ้องมองไปที่ทอรัสด้วยสายตาดุร้าย

 

มู่หรงเสี่ยวเทียนตกตะลึงเป็นอย่างมากขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำ เขาไม่คิดว่าทอรัสจะร้ายกาจขนาดนี้ ช่างเป็นสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังจริง ๆ

 

ตอนนี้ใบหน้าของทอรัสซีดลง ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้านเล็กน้อย บาดแผลรอบ ๆ ตัวเขาก็มีเต็มไปหมด ราชาหมาป่าโลหิตก็เช่นกัน มู่หรงเสี่ยวเทียนคิดว่าตอนนี้ทอรัสคงจะใช้พลังเวทมนตร์จนเกือบถึงขีดจำกัดเต็มทีแล้ว การต่อสู้อันดุเดือดนี้ดูเหมือนจะดำเนินมาจนถึงจุดตัดสิน !

 

“ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนแอบซุ่มอยู่เงียบ ๆ และมองดูการปะทะกันระหว่างสองผู้แข็งแกร่ง เขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับแม้ว่าจะตกใจก็ตาม

 

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทอรัสใช้พลังเวทมนตร์จนเหลือเพียงน้อยนิด ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงเต็มที ดังนั้นสกิลเวทย์ที่เขาปล่อยออกมาจึงไม่ได้แข็งแกร่งเท่าตอนแรก แต่ราชาหมาป่าโลหิตก็ใช่ว่าจะสู้ดีนัก ดูเหมือนว่ามันก็กำลังจะพ่ายแพ้แล้วเหมือนกัน

 

“บรู๋ววว ! ” ราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์ส่งเสียงหอนออกมาจนสุดเสียง ให้ความรู้สึกน่ากลัวเป็นอย่างมาก เสียงหอนดังชัดเจนออกมาในค่ำคืนที่เงียบสงัดแบบนี้ เมื่อสิ้นเสียง มันก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า กรงเล็บของมันกลายเป็นแสงสีทองขย้ำไปที่ช่องโหว่ของการป้องกันของทอรัส จากนั้นเขาก็ถูกราชาหมาป่าโลหิตลากร่างไปไกลมากกว่า 1 ไมล์

 

ทอรัสลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างยากลำบาก เขาเช็ดเลือดที่มุมปากและใบหน้าอันซีดเซียว “เอื้อ ! ” ดวงตาของเขาดุร้ายกว่าเดิมมากและกระอักเลือดออกมา เขาหยิบไม้เท้าขึ้นมา เค้นพลังเวทมนตร์สุดท้ายของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นว่า “ในนามของราชาแห่งเผ่าลานยิน ด้วยสายโลหิตของข้า จงทำลายทุกสิ่งที่ทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บ วิญญาณสลายโลหิต ! ” ด้วยพลังเวทมนตร์อันรุนแรงของทอรัส หมอกโลหิตก็โปรยลงมาสู่ตัวราชาหมาป่าโลหิต “ตูม ! ” เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมา ราชาหมาป่าโลหิตได้สลายกลายเป็นเมฆหมอกหมอกปลิวไปตามสายลม

 

ทอรัสนั่งลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกระอักเลือดออกมาสองสามครั้ง “นานแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่ได้ต่อสู้อย่างดุเดือดแบบนี้” ทอรัสถอนหายใจด้วยอารมณ์ขุ่นหมอง การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขาสูญเสียพลังเวทมนตร์ไปจนหมด ในท้ายที่สุดเขาถึงกับต้องใช้ร่างกายของตัวเองเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเปิดใช้งานสกิลขั้นสูงเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะ

 

“ในที่สุดมันก็จบลงแล้ว” ทอรัสผ่อนคลายและหลับตาลงช้า ๆ ตอนนี้เขาเหนื่อยและได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาอ่อนเพลียเกินกว่าจะขยับตัวได้ ดังนั้นจึงนอนลงเพื่อพักผ่อนตรงนั้น

 

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ามันจะจบลงจริง ๆ ดูเหมือนว่าทอรัสจะลืมคนบางคนที่กำลังปรากฏตัวอยู่ นั่นคือมู่หรงเสี่ยวเทียน

 

มู่หรงเสี่ยวเทียนก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ และเขาก็แอบดีใจเมื่อเห็นว่าพลังเวทมนตร์ของทอรัสนั้นหมดลงแล้ว ที่สำคัญทอรัสก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนขยับไม่ได้ ดังนั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนจึงตัดสินใจเดินเข้าไป เขาไม่รู้ว่าเลเวลของทอรัสเท่าไหร่ แต่คาดว่าเลเวลของทอรัสน่าจะอยู่ที่ 50 หรือสูงกว่านั้น มันเห็นได้ชัดแล้วว่าตอนนี้สภาพร่างกายของทอรัสอ่อนล้าจนถึงขีดสุด แต่ทว่าช่องว่างระหว่าง 50 เลเวลนั้นมากเกินไป มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่แน่ใจว่าการโจมตีของเขาจะได้ผลหรือเปล่า หากการโจมตีนั้นไม่ได้ผล เขาก็จะต้องเป็นคนที่ตายแทน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วมู่หรงเสี่ยวเทียนก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดิมพันชีวิตของเขาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าผู้คนมักจะพูดว่ายิ่งเสี่ยงเท่าไหร่ผลตอบแทนยิ่งสูงเท่านั้นหรือ ? โอกาสดี ๆ แบบนี้จะพลาดได้ยังไง เอาวะ สู้ตาย !

 

 

 

To be continued…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด