เส้นทางแห่งโชคชะตา – เล่มที่ 1 ตอนที่ 61

อ่านนิยายจีนเรื่อง เส้นทางแห่งโชคชะตา ตอนที่ 61 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เส้นทางแห่งโชคชะตา เล่ม 1 ตอนที่ 61: สิ่งดี ๆ (ตอนที่ 1)

เล่ม 1 ตอนที่ 61: สิ่งดี ๆ (ตอนที่ 1)

หลายๆคนหัวเราะคิกคักพร้อมกับพุ่งเข้าไปจัดการกับมอนเตอร์ขยะพวกนี้ ในไม่ช้า ผีทาสทั้งหมดในบ้านผีสิงก็ถูกกําจัดไปจนหมดสิ้น เมื่อมองดูของที่หล่นอยู่บนพื้นอย่างกระจัดกระจาย พวกเขาก็พบว่ามันเป็นแค่อุปกรณ์ขาวเลเวล 1 ตกอยู่ แต่มันมีเยอะมาก พวกเขาต่างก็มองหน้ากันด้วยความตะลึง

“ทําไมมันถึงมากมายขนาดนี้? น่าเสียดาย ที่อุปกรณ์ทั้งหมดนั้นเป็นแค่ของขยะ” สายฟ้าโพส่ายหัวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

“ฉันว่าใครบางคนในกลุ่มของพวกเรามีค่าโชคลาภอยู่มากเลยทีเดียว” สายฟ้าชวนพูดขึ้น

สายตาของหลายๆคนมองมาที่มู่หรงเสี่ยวเทียนและผู้พเนจรเทียนหยา เพราะพี่น้องทีมสายฟ้าอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่ามีเพียงมู่หรงเสี่ยวเทียนและผู้พเนจรเทียนหยาเท่านั้นที่ต่างไปจากพวกเขา

“อย่ามองมาที่ฉันสิ ฉันดูเหมือนคนโชคดีงั้นหรือ?” ผู้พเนจรเทียนหยาพูดออกมา

“น่าจะเป็นที่โจร” สายฟ้าโพพยักหน้าและพูดขึ้นมา จากนั้นสายตาทุกคนก็จับจ้องไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียน

“เอิ่ม” มู่หรงเสี่ยวเทียนไอแห้งๆ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา “อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้เลย มาดูกันว่าเราจะจัดการกับอุปกรณ์เหล่านี้ยังไงดีกว่า”

“ฉันเลือกไม่ได้ ถึงมันจะเยอะแต่ไม่ว่ายังไงมันก็แค่ของขยะอยู่ดี” สายฟ้ากวงจ้านส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“ฉันคิดว่านะ ของพวกนี้มีเยอะถึงขนาดนี้ แม้จะเป็นแค่ของขยะ ถ้านําไปขายในร้านค้าของระบบ พวกเราก็จะได้รับเงินกลับมาเป็นจํานวนมาก” ผู้พเนจรเทียนหยาเสนอความคิดดีๆออกมา

“แบบนั้นก็ดีนะ” สายฟ้าชวนคิดสักพักและพูดออกมา “มาช่วยกันเก็บก่อนก็แล้วกัน ยัดใส่ลงไปในกระเป๋ามิติของแต่ละคนเลยนะ ถ้าหากว่ามันเต็มแล้วเราค่อยมาเลือกอันที่ไม่ดีแล้วโยนทิ้งไป”

ทุกคนคิดว่าคําพูดของสายฟ้าซวนนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ทุกชิ้นสามารถนําไปขายเป็นเงินหยวนได้ (สามารถขายให้กับผู้เล่นด้วยกันก็ได้ เหมือนที่มู่หรงเสี่ยวเทียนขายคทาไป) คงไม่มีใครที่อยากจะพลาดโอกาสแบบนี้

ทุกคนช่วยกันเก็บอุปกรณ์ขึ้นมา แต่ในไม่ช้ากระเป๋ามิติของพวกเขาเต็มซะแล้ว ยกเว้นก็เพียงแต่มู่หรงที่กําลังบรรจงยัดมันลงไปในกระเป๋าเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาต้อง เฝ้ารอมู่หรงอย่างเบื่อหน่าย

ตอนนี้อุปกรณ์ที่อยู่บนพื้นเริ่มน้อยลงไปมากแล้ว แต่ทว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนก็ไม่ได้หยุดลงเลยแม้แต่น้อย สายฟ้าซวนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่โจร กระเป๋ามิติของพี่นี่สุดยอดจริงๆ ทําไมมันถึงบรรจุของได้มากมายขนาดนี้ ? ”

“ไม่มีอะไรพิเศษหรอก” มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขายังคงเก็บไอเทมต่อ “มันเป็นเพียงแค่แหวนที่สามารถบรรจุได้โดยไม่สนใจน้ําหนัก”

“ใส่น้ําหนักได้อย่างไม่จํากัด ?!” สายฟ้าซวนอุทานออกมา ทุกคนในที่นั้นรู้ความหมายว่ามันคือการใส่ได้อย่างไม่จํากัด จากนั้นทุกคนก็คร่ําครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด 

มู่หรงเสี่ยวเทียนรีบเก็บของที่อยู่บนพื้นทั้งหมดและโยนมัน เข้าไปในแหวนแห่งความโกลาหลทันที จากนั้นเขาก็เดินไปหาทุกคนซึ่งกําลังอยู่ตรงประตูอีกด้านของฝั่งตรงข้าม

ห้องกลางของบ้านผีสิงนั้นมีความแตกต่างจากห้องด้านหน้าเป็นอย่างมาก มันไม่อิ่มครีมเท่ากับห้องหน้า และในห้องนี้ก็สว่างกว่าหลายเท่า ในห้องนี้ไม่มีอะไรให้ตกใจมากซักเท่าไหร่ มีเพียงมอนสเตอร์ 8 ตัวเท่านั้น และแบ่งเป็นสเกลเลอร์ตัน (ผีโครงกระดูก) สีขาว 4 ตัว ซึ่งมีขวานด้ามยาวอยู่ในมือ ส่วนอีก 4 ตัวนั้นเป็นซอมบี้สายฟ้าผมยาวและมีขนประหลาดปุกคลุม ไปทั่วร่างกายของมัน แม้ว่าจํานวนจะน้อยมาก แต่ทว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ประมาทหรือรู้สึกผ่อนคลายได้เลยแม้แต่น้อย

สเกลเลอร์ตันสีขาวทั้งหมดนั้นอยู่ในเลเวล 20 พวกมันโดดเด่นเรื่องของพลังการโจมตี แน่นอนว่าความต่าง ระหว่างเลเวลที่มีถึง 10 เลเวล มู่หรงเสี่ยวเทียนย่อมอ่อนแอกว่าเป็นธรรมดา เขาอาจจะต้องตายไปในทันทีที่ถูกเจ้ากระดูกสีขาวเหล่านี้สับลงไป โชคยังดีที่การเคลื่อนไหวของพวกมันเชื่องช้ามาก ตราบใดที่เขาใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะรับมือกับเจ้าพวกนี้

ส่วนซอมบี้สายฟ้าก็มีเลเวล 20 เช่นกัน แต่ทว่าพวกมันเก่งกาจในด้านของเวทมนตร์จุดที่น่าสะพรึงที่สุดก็คือสกิลที่ทําให้เป็นอัมพาตซึ่งเป็นผลมาจากเวทย์สายฟ้าของมันนั่นเอง เมื่อไหร่ที่โดนสายฟ้าของมันช็อตเข้า โดยทั่วไป 20 เปอร์เซ็นต์ของเหยื่อจะไม่มีทางหนีรอดไปได้

อย่างไรก็ตามหากเป็นอัมพาตจากสายฟ้าเวทมนตร์ของเจ้าซอมบี้ จะไม่สามารถขยับไปไหนได้และไม่สามารถรักษาได้เลยแม้แต่น้อย แถมยังเป็นอัมพาตถึง 2-3 นาที แต่ยังโชคดีที่ค่าพลังชีวิตของซอมบี้นั้นอ่อนแอและพลังป้องกันก็ต่ําเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ผู้เล่นมีพลังการโจมตีที่แข็งแกร่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสู้กับพวกมัน เรื่องพวกนี้เว็บไซต์ทางการของเดสตินี่ไม่ได้มีบอกเอาไว้ แต่มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้ถึงเรื่องเหล่านี้ได้จากวูเฟิง ก่อนหน้านั้นเขากําลังกังวลกับการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สาม วูเฟิงเองก็ได้นํากําลังพลเข้ามายังที่แห่งนี้เพื่อต่อสู้และได้รับตราสัญลักษณ์ มันเป็นเพราะเขาไม่รู้อะไรเลยเขาจึงได้รับความทุกข์ทรมานกลับไปเพราะสิ่งนี้ แม้ว่าวูเฟิงเองก็ได้เตรียมตราสัญลักษณ์เอาไว้สําหรับมู่หรงเสี่ยวเทียน แต่ทว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนก็ไม่ได้ต้องการมันแต่อย่างใด เขาบอกกับวูเฟิงว่า เขานั้นต้องการมาเห็นบ้านผีสิ่งนี้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถเข้ามาได้ มันก็คงไม่สายเกินไปที่จะขอตราสัญลักษณ์จากวูเฟิงภายหลัง ยังไงก็ตามบ้านผีสิงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้ามาและอัตราอุปกรณ์ที่จะดรอปนั้นก็ไม่ได้ต่ําจนเกินไป

“ว้าว เจ้าพวกนี้ดูน่ารักกว่าในห้องก่อนหน้ามากเลย” สายฟ้าปาฉีตะโกนออกมาในขณะที่เธอเดินไปยังห้องกลางของบ้านผีสิง

ส่วนมู่หรงเสี่ยวเทียนและคนอื่นๆนั้นรู้สึกวิงเวียนราวกับว่าคล้ายจะเป็นลม

“พี่สาม เมื่อตอนที่เจอผีทาส พี่เพิ่งจะกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวจนแทบตาย แล้วทําไมถึงบอกว่าโครงกระดูกกับซอมบี้พวกนี้น่ารักล่ะ? มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในสมองของเธอรึเปล่า?” สายฟ้ากวงจ้านจ้องมองไปที่มอนสเตอร์ก่อนที่จะหันไปมองสายฟ้าปาฉี

“มันน่าแปลกตรงไหน?” สายฟ้าปาฉีพูดออกมา “ทั้งซอมบี้และสเกลเลอร์ตันเหล่านี้ฉันเคยเห็นในทีวีมาก่อนแล้ว แน่นอนฉันไม่ได้กลัวมันเลย แต่ไอ้พวกผีทาสนั่นฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อนนี่นา”

“แต่ทําไมฉันถึงคิดว่าซอมบี้กับสเลเลอร์ตันน่ากลัวกว่าพวกทาสผีพวกนั้นอีกนะ” ผู้พเนจรเทียนหยาส่ายหัวและถอนหาย

“สิ่งนี้มันทําให้ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคําพูดเก่า ๆ !” มู่หรง เสี่ยวเทียนมองทุกคนและพูดออกมาด้วยอารมณ์

“คําพูดอะไร?” ทุกคนถามขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

มู่หรงเสี่ยวเทียนจ้องมองดูพวกเขาด้วยท่าทางแปลกๆ จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าเขาเข้าใจผู้หญิง แสดงว่าชายคนนั้นเป็นคนงี่เง่า”

“ก๊ากกก!!” ทันใดนั้นผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ระเบิดเสียง

หัวเราะออกมา

“อย่าพูดเหมารวมแบบนั้นสิ !” สายฟ้าไปเหอไม่พอใจเล็กน้อย

“ฮีม ! ” สายฟ้าปาฉีเงยหน้าขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง “พอละ ฉันขี้เกียจฟัง ไม่ว่ายังไงซอมบี้กับสเกลเลอร์ตันก็น่ารักกว่าผีทาสมาก ฉันจะไปเล่นกับพวกมันสักหน่อย” หลังจากนั้นเธอก็ยกดาบขนาดใหญ่ขึ้นมาและพุ่งเข้าไปหาพวกมันทันที เมื่อตอนที่พวกเขาจัดการกับผีทาสเธออยู่แถวหลัง แต่ตอนนี้เธอดันกลับอยากที่จะทําลายล้างทุกอย่างเสียนี่

“ไม่นะ !! ”

“กลับมา ! ”

“อย่าเข้าไปแบบนั้นน้องสาม ! ”

“หยุดนะ ! ”

มู่หรงเสียวเทียน สายฟ้าซวน สายฟ้าโพและผู้พเนจรเทียนหยาต่างก็ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน แต่ทว่าตอนนี้มันก็สายเกินไป สายฟ้าปาได้พุ่งเข้าไปกลางฝูงซอมบี้แล้ว

ทันใดนั้น สเกลเลอร์ตันและซอมบี้ที่ยืนอยู่ราวกับว่าเป็นก้อนหินแกะสลักต่างก็ลืมตาขึ้นมาทันที และตอนนี้ซอมบี้ทั้งสี่ก็ลอยขึ้นมา เมื่อมันยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา สายฟ้าสี่เส้นก็ก่อตัวกันเป็นประกายและฟาดลงไปราวกับว่าเป็นฟ้าผ่า จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาสายฟ้าปาฉีทันที

“ให้ตายเถอะ อัมพาตกินแน่นอน” สายฟ้าซวนกัดฟัน 

“เป็นยังไงล่ะ วู่วามนักเลยได้รับบทเรียนเสียเลย” ผู้พเนจรเทียนหยาพูดออกมาพร้อมกับส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

To be continued…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด