The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 399: เฝ้าเรือ
S.PP: บทที่ 399: เฝ้าเรือ
เมื่อเอเนลกล่าวจบสายฟ้าที่แผ่ซานอยู่บนร่างกายของเขาก็ได้ทวีความรุนแรงขึ้นมา
ชายชาวท้องฟ้าคนนั้นได้จ้องมองมาที่เอเนลด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้เขารู้สึกราวกับว่า เขากําลังเผชิญหน้าอยู่กับเทพเจ้าสายฟ้า
“ตาย!”
เอเนลได้ตะโกนพร้อมกับโบกสะบัดสายฟ้าเข้าหาอีกฝ่าย
เมื่อสายฟ้าที่บ้าคลั่งของเอเนลกระแทกไปที่ร่างของชายคนนั้นเขาก็ได้กรีดร้องออกมาในทันที
“อ้ากกกก!”
ด้วยคลื่นความร้อนที่ประกอบอยู่ในสายฟ้าทําให้ร่างของชายคนนั้นถูกเผาไหม้เป็นตอตะโก ก่อนที่จะล้มลงไปบนพื้นอย่างนุ่มนวล
แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่แววตาของชายคนนั้นก็ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นตระหนก
“ฟูวววว”
เมื่อจัดการเสร็จเอเนลก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและก้าวเดินเข้าไปในหมู่บ้าน
สิบนาทีต่อมาภายในหมู่บ้านก็ได้ปรากฏเสียงฟ้าร้อง,เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยอง,และเสียงของผู้คนที่กําลังร้องขอความช่วยเหลือด้วยความสิ้นหวัง และเมื่อเอเนลเดินออกมาจากหมู่บ้าน ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม
สายฟ้าค่อยๆสลายหายไปพร้อมกับอารมณ์ของเอเนลที่สงบลง
ในขณะที่เขากําลังจะจากไปนั้นก็ได้มีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมา
“เอเนล”
เมื่อได้ยินดังนั้นเอเนลก็ได้หันกลับไปมองอย่างช้าๆ
“นายจะมาหยุดฉันงั้นหรอ?”
ร่างที่กล่าวออกมานั้นมีรูปร่างที่กํายําแต่เนื้อตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและในตอนนั้นเองเขาก็ได้กล่าวถามออกมาว่า
“มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องทําและอีกอย่าง..”
“นายจะทําลายเกาะบิก้าทิ้งจริงๆงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินคําถามของอีกฝ่ายเอเนลก็ได้ยกยิ้มขึ้นมา
“ถ้าเป็นเมื่อไม่นานมานี่ฉันอาจจะตอบว่าใช่..”
” แต่ตอนนี้..”
ในตอนนั้นเองใบหน้าของเอเนลก็ได้ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนขึ้นมา
“ฉันไม่คิดที่จะทําอะไรแบบนั้นแล้ว”
“ที่นี่มันไม่มีความหมายต่อฉันอีกต่อไปแล้ว ฉันจะก้าวเดินไปยังเส้นทางที่กว้างใหญ่มากกว่านี้”
“หวังว่าเราจะได้เจอกันใหม่ในสักวัน,ลาก่อน”
ในตอนนั้นเองร่างของเอเนลก็ได้ปรากฎกระแสไฟฟ้าขึ้นมาก่อนที่ร่างของเขาจะกระพริบหายไป
คําพูดของเอเนลนั้นยังคงดังก้องอยู่ภายในหูของเขา และเมื่อตระหนักถึงความหมายในคําพูดของเอเนลบนใบหน้าของชายคนนั้นก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
“เช่นกัน,หวังว่าฉันจะได้เจอนายอีกครั้งนะเอเนล”
ผู้คนในอดีตนั้นมักจะถูกตีกรอบด้วยเหตุผลต่างๆนานาจนเหมือนกับเอาภูเขามาวางไว้ตรงหน้าจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ แต่ในยุคสมัยนี้ผู้คนต่างก็ไม่เอาเหตุผลพวกนั้นมาเป็นปัญหาพวกเขาจะมองหาแต่หนทางในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไปยังเส้นทางที่ไกลกว่า!
อนาคตนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นเสมอ!
ท่ามกลางท้องฟ้าที่เงียบสงบได้ปรากฏประกายแสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นมา
เพียงไม่กี่ลมหายใจประกายแสงสีฟ้านั้นก็ได้มาถึงยังชายฝั่งของทะเลสีขาวเหนือรทดราก้อน
ในตอนนั้นเองประกายแสงสีฟ้านั้นก็ได้พุ่งลงมายังดาดฟ้าเรือของรูทดราก้อน
“ที่นึ่งั้นสินะ!”
เอเนลได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ด้วยพรสวรรค์ของเขามันทําให้เขาสามารถปลุกความสามารถพิเศษขึ้นมาได้ และเขาก็ได้ตั้งชื่อมันว่ามันโทร่ามันเป็นความสามารถในการตรวจสอบถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบโดยมีตัวของผู้ใช้เป็นจุดศูนย์กลาง
และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือมันสามารถใช้ในการตรวจสอบผู้คนได้ด้วย
และมันก็เป็นเหตุผลที่ทําให้จิตใจของเขาอ่อนไหวมากขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการรับรู้ถึงสิ่งที่ผู้คนที่รังเกียจในตัวเขาคิดอยู่แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้
ความคิดและคําพูดของพวกเขาเหล่านั้นมันทําให้จิตใจของเอเนลบิดเบี้ยว
จนกระทั่งในตอนที่เขาได้มาพบกับโรแกน แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่สามารถมองเห็นถึงความคิดของโรแกนได้แต่ตัวเขานั้นก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่โรแกนแผ่ออกมาได้อย่างชัดเจน
และจากการเฝ้าสังเกตโรแกนและพรรคพวกในแต่ละวันก็ทําให้เขารู้ว่าเรือล่านี้คือเรือของพวกโรแกน ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางมาที่เรือล่านี้
“ฉันจะรอพวกเขาอยู่ที่นี่”
“พี่จะต้องประหลาดใจมากแน่!”
เอเนลได้กระโดดโลดเต้นไปมาบนเรืออย่างอารมณ์ดี
ในเวลานี้เอเนลนั้นกําลังเพลิดเพลินไปกับลมทะเลในยามค่ําคืนด้วยการหลับตา
ในตอนนั้นเองจู่ๆก็ได้ปรากฏเสียงฝีเท้าของใครบางคนขึ้นมาและเมื่อเอเนลได้ยินเสียงฝีเท้านั้นเขาก็ได้ลืมตาขึ้นมาในทันที
ในเวลานั้นเองใบหน้าที่เงียบสงบของเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา
เขานั้นไม่ใช่คนที่อ่อนโยนอยู่แล้วเพราะในสายตาของผู้คนบนเกาะแห่งท้องฟ้านั้นตัวเขาคือปีศาจร้าย!
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”
เอเนลได้กล่าวและปลดปล่อยสายฟ้าออกมาจนพื้นกลายเป็นสีดํา
พลังอํานาจที่แปลกประหลาดนี้ทําให้คนที่กําลังก้าวเดินมาที่รูทดราก้อนตัวสั่นและล้มลงไปนั่งบนพื้นด้วยความหวาดกลัว
ท่ามกลางแสงจันทร์เอเนลได้กระโดดลงมาจากรูทดราก้อนและจ้องมองไปที่คนๆนั้น
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเอเนลก็รู้สึกเบาใจ
“ออกห่างจากเรือล่านี้ไปซะ!”
เมื่อกล่าวเตือนเสร็จเอเนลก็ได้กระโดดกลับขึ้นไปบนรูทดราก่อน
“นายเป็นใคร? ทําไมถึงมาอยู่บนเรือลํานี้?”
เด็กสาวไม่ได้จากไปแต่กลับกล่าวถามออกมาด้วยน้ําเสียงที่สั่นเครือ
เอเนลนั้นรู้สึกพึงพอใจต่อท่าทีของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
“ออกไปจากที่นี่และอย่าได้มากล่าวถามอะไรให้มันมากความ!”
เอเนลนั้นไม่สนใจที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย
“นายจะมากไปแล้วนะเรือล่านี่คือเรือของพี่ชายโรแกนแล้วนายมีสิทอะไรถึงได้ขึ้นมาบนเรือของเขา?
เด็กสาวได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“พี่ชายโรแกน?”
นี่คือชื่อของพึ่งั้นสินะ”
“นายรู้จักพี่ชายโรแกนด้วยงั้นหรอ?”
เอเนลยังคงจ้องมองมาที่อีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา
“นายคิดที่จะขโมยเรื่องั้นสินะ? ฉันขอเตือนนายก่อนเลยว่าอย่าแม้แต่จะคิดเพราะถ้านายทํามันละก็นายได้ถูกพวกทหารที่อยู่ในบริเวณนี้จับแน่!”
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่ายเด็กสาวก็ได้ตะโกนข่ออกมา
“ขโมยเรือ?”
เอเนลนั้นแอบหัวเราะอยู่ภายในใจ
“ฉันมาที่นี่ก็เพื่อทําให้แน่ใจว่าเรือของพี่จะไม่ถูกคนอื่นขโมย”
“ว่าไงนะ?”
ไดน่ากําลังรู้สึกงงเธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะมาที่เรือล่านี้เพื่อเฝ้ามัน
ด้วยความที่ว่าพวกโรแกนนั้นกําลังเดินทางไปที่โบราณสถานแชนโดร่า มันทําให้หน้าที่ในการดูแลรูทดราก้อนมาตกอยู่ที่ครอบครัวของไดน่าซึ่งนานๆที่พ่อกับเธอจะมาที่นี้เพื่อเช็คมันแต่ในครั้งนี้มันกลับต่างออกไปเพราะในครั้งนี้เธอได้มาเจอกับเอเนล
“เธอกลับไปได้แล้วเดี๋ยวที่นี่ฉันจัดการเอง!”
เอเนลได้กล่าวออกมาด้วยความร้อนรน
“นายชักจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ!”
ไดน่าได้ตะโกนออกมาด้วยความรําคาญ
“เหตุผลอะไร?”
เอเนลได้กล่าวออกมาด้วยท่าทางดูถูก
“ฉันไม่คุยกับนายแล้ว! คุยกับนายไปก็มีแต่เรื่องผายลมไร้สาระ!”
“เปรี้ยง!”
ในตอนนั้นเองก็ได้มีสายฟ้าผ่าลงมาที่ข้างๆตัวของไดน่า
“ฉันยังไม่อยากทําให้เธอกลายเป็นของว่างด้วยสายฟ้าของฉันหรอกนะ!”
เมื่อได้ยินคําพูดของเอเนลไดน่าก็ได้หันหลังและวิ่งหนีไปในทันที
เด็กสาวไม่คิดมาก่อนเลยว่าชายหนุ่มที่ไร้เหตุผลคนนั้นจะเป็นเทพเจ้าสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวคนนั้น!
คอมเม้นต์