พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันทว่าแสงประกายเจิดจ้าที่คาดหวังไว้กลับไม่ปรากฏให้เห็น ราวกับว่าอากาศตรงหน้าจะถูกแช่แข็งไป ก้อนพลังมายาของหานโม่ฉือพุ่งผ่านอาคมป้องกันและประจันหน้าเข้ากับก้อนพลังสีดำโดยตรงก่อนตกอยู่ในสภาวะชะงักงันไป

ในขณะเดียวกัน คลื่นพลังของก้อนพลังสีดำที่แผ่ออกไปสู่ซากศพบนพื้นดินก็หยุดลง โครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตหลายตัวที่อยู่ในกระบวนการฟื้นคืนชีพก็หยุดแน่นิ่งไปอย่างกะทันหันและกลับกลายเป็นซากศพอีกครั้ง

ตูมมม !

ในที่สุดพลังของทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่นและคลื่นพลังน่าสะพรึงกลัวก็กวาดออกไปสู่ทุกชีวิตรอบบริเวณ

ฉินอวี้โม่และสหายตอบสนองอย่างรวดเร็วและถอยออกไปทันที ส่วนสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจหลายคนที่ตอบสนองไม่ทันและได้รับผลกระทบจากพลังดังกล่าวก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปโดยตรง

พรวดดด !

“เป็นไปได้อย่างไรกัน !”

อู่เหวินยงหลบหลีกได้อย่างหวุดหวิดเช่นกัน ทว่าเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากพลังนั้นเล็กน้อยและกระอักเลือดคำโตออกมา

แม้ด้วยความแข็งแกร่งในระดับของเขา ควันหลงจากการปะทะของก้อนพลังทั้งสองก็ยังทำให้เขาบาดเจ็บได้เล็กน้อยซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพลังของทั้งสองฝ่ายน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

เขาเพียงมองหานโม่ฉือด้วยแววตาตกตะลึง แม้จอมยุทธ์ปีศาจจะเคยสืบข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาก็ไม่ทราบเลยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหานโม่ฉือจะบรรลุถึงระดับนี้ เกรงว่าพลังของหานโม่ฉือในตอนนี้จะไม่ด้อยไปกว่าผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจด้วยซ้ำ

“เจ้าพวกขยะไร้ประโยชน์ !”

จู่ ๆ เสียงคำรามอย่างไม่สบอารมณ์ก็ดังขึ้นในหูของทุกคน จากนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นถัดจากก้อนพลังสีดำประหลาดที่ใกล้จะถูกทำลายไป

ร่างนั้นคือบุรุษผู้หนึ่งซึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทและเผยให้เห็นเพียงดวงตาสีเขียวฉายประกายความชั่วร้าย กลิ่นอายจากร่างของเขาเป็นสิ่งที่ฉินอวี้โม่รู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย

“มังกรกระดูกดำ !”

แน่นอนว่านางรับรู้ถึงตัวตนของบุรุษผู้มาใหม่ได้ในทันที

มังกรกระดูกดำที่จากไปกับคนของจอมยุทธ์ปีศาจก่อนหน้านี้ควรที่จะกลับไปเก็บตัวอยู่ที่ฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ ไม่คิดเลยว่ามันจะมาปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่

“ฉินอวี้โม่ หานโม่ฉือ ไม่ได้พบกันเสียนาน !”

ในเวลานี้มันก็ถ่ายเทพลังของตนเองออกไปเพื่อทำให้ก้อนพลังสีดำกลับมาอยู่ในสภาวะมั่นคงอีกครั้งก่อนมองตรงมาที่ฉินอวี้โม่และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ไม่ได้พบกันนาน ความแข็งแกร่งของเจ้าดูจะเพิ่มขึ้นกว่าคราก่อนเล็กน้อย”

ฉินอวี้โม่เดินเข้าไปด้านข้างหานโม่ฉือและจับจ้องตรงไปที่มังกรกระดูกดำอย่างไม่เกรงกลัว

“หึ เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดอัปลักษณ์ ทว่าไม่ยอมเก็บตัวอยู่ที่ฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจแต่โดยดี ไม่คิดว่าจะกล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีก”

ซิวก้าวเข้าไปหยุดข้างฉินอวี้โม่และมองตรงไปที่มังกรกระดูกดำเช่นกันก่อนกล่าววาจาเย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า

“เหอะ ครั้งนี้ข้ามาเพื่อล้างแค้น ถึงแม้ว่าเจ้าจะทรงพลังมากทีเดียว ทว่าพลังของเจ้าก็ยังไม่ฟื้นฟูจนถึงระดับสูงสุด ตัวเจ้าในตอนนี้มิใช่คู่มือของข้าผู้นี้หรอก !”

มังกรกระดูกดำแค่นเสียงอย่างเย็นชา แม้ว่ามันจะยังมีความหวาดกลัวทางสายเลือดอยู่เล็กน้อย ทว่าในช่วงระหว่างที่อยู่ในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ มันก็ได้รับสืบทอดมรดกบางอย่างมาและสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาในระดับหนึ่ง

ซิวเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจอย่างยิ่ง หากเป็นซิวในช่วงเวลาที่มีสภาวะพลังสูงสุด มังกรกระดูกดำก็คงไม่กล้ารนหาที่ตายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของซิวในตอนนี้ยังด้อยกว่าในสภาวะสูงสุดของมัน มังกรกระดูกดำจึงไม่เกรงกลัว

“ต่อให้จะไม่มีพลังในสภาวะสูงสุด ข้าในตอนนี้ก็ยังมีพลังมากพอที่จะสังหารโครงกระดูกน่าเกลียดอย่างเจ้า น่าเสียดายที่กระดูกของเจ้าเหม็นเน่าและกัดกินได้ยากนัก ไม่เช่นนั้นข้าคงจับเจ้าไปย่างกินเป็นแน่”

ซิวยังคงแสดงท่าทีที่หยิ่งผยองและน่าเกรงขามไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าแท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่แสดงออกภายนอก ความแข็งแกร่งของมังกรกระดูกดำพัฒนาขึ้นจากคราก่อนมาก เดิมทีมันเป็นอสูรร้ายบรรพกาลอยู่แล้ว กอปรกับไพ่ตายหลายอย่างที่ได้รับจากจอมยุทธ์ปีศาจ การจัดการกับมันในตอนนี้จึงมิใช่เรื่องง่าย

“รนหาที่ตายเสียแล้ว !”

มังกรกระดูกดำในร่างบุรุษชุดดำเดือดดาลทันทีและโบกมือออกไปข้างหน้าเพื่อส่งฝ่ามือวายุที่อัดแน่นไปด้วยพลังมายาเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม

“เจ้าต่างหากที่รนหาที่ตาย !”

ซิวแค่นเสียงในลำคอเพียงเบา ๆ และเหวี่ยงฝ่ามือตอบโต้มังกรกระดูกดำอย่างรวดเร็วโดยที่การปะทะในครานี้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเหนือกว่า

“คิดจะถ่วงเวลาพวกข้างั้นรึ ฝันไปเถอะ !”

ฉินอวี้โม่คาดเดาเจตนาของมังกรกระดูกดำได้ทันทีและนั่นคือการถ่วงเวลาเพื่อปล่อยให้ก้อนพลังสีดำฟื้นคืนชีพซากศพเพิ่มมากขึ้น หากสามารถฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตอีกหลายสิบตัวได้อีก แผนการของจอมยุทธ์ปีศาจในครานี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

“โอ้ ไม่ว่าจะฝันไปหรือไม่ ก็ลองดูก่อนเถอะ !”

มังกรกระดูกดำไม่ปฏิเสธใด ๆ ขณะกล่าวเยาะเย้ย มันเข้าไปขวางด้านหน้าก้อนพลังไว้และปล่อยคลื่นพลังรุนแรงออกไปรอบตัวเพื่อกดข่มฉินอวี้โม่และทุก ๆ คน

“ท่านมังกรกระดูกดำ !”

เมื่อเห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ของขุมกำลังปรากฏตัว สมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจหลายคนที่เริ่มสิ้นหวังก็เรียกคืนความหวังและมีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นมา

อู่เหวินยงเองก็ไม่โกรธเคืองที่ถูกมังกรกระดูกดำก่นด่าว่าเป็นขยะไร้ประโยชน์ เขารีบเดินเข้าไปหามันและกล่าวทันที “ท่านมังกรกระดูกดำ คนพวกนี้สังหารศิษย์ของจอมยุทธ์ปีศาจไปหลายคนและเกือบทำลายลูกแก้วทมิฬของเราได้สำเร็จ ข้าไม่สามารถต่อกรกับพวกนางและปกป้องลูกแก้วทมิฬไว้ได้ เรื่องนี้ข้าขอยอมรับผิด โปรดลงโทษข้าเถิด”

ในจอมยุทธ์ปีศาจ มังกรกระดูกดำเป็นตัวตนที่มีสถานะสูงส่งซึ่งเป็นรองเพียงผู้นำของขุมกำลังเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแกร่งหรือสถานะ มันย่อมเหนือกว่าสมาชิกเหล่านี้ สมาชิกทั่วทั้งจอมยุทธ์ปีศาจก็หวาดหวั่นต่อมังกรกระดูกดำอยู่ไม่น้อยและไม่กล้าทำสิ่งใดที่เป็นการท้าทายหรือทำให้มังกรกระดูกดำไม่พอใจ

ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการลงโทษของมังกรกระดูกดำก็โหดร้ายยิ่งกว่าผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจเสียอีกและไม่ว่าผู้ใดที่ยั่วยุมันก็จะต้องลงเอยอย่างน่าสังเวช

แม้อู่เหวินยงจะถือเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของจอมยุทธ์ปีศาจ เขาก็ไม่กล้าคิดแข็งข้อกับมังกรกระดูกดำแม้แต่น้อย

“ไร้ประโยชน์เสียจริง ตอนนี้ยังมิใช่เวลา ไว้เจ้ากลับไปรับบทลงโทษในภายหลัง !”

มังกรกระดูกดำไม่ไว้หน้าอู่เหวินยงแม้แต่น้อยขณะกล่าวตำหนิและสั่งให้เขาหลีกออกไปด้านข้าง

“ขอรับนายท่าน”

อู่เหวินยงก็ไม่กล้าตั้งคำถามสิ่งใดและเพียงตอบรับอย่างนอบน้อมก่อนเดินออกไปด้านข้างโดยไม่กล้าเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว

“ข้าจะรับมือกับเจ้ามังกรกระดูกดำเอง ทุกคนพยายามทำลายสิ่งนั้นต่อไปเถอะ”

ซิวกล่าวกับฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ก่อนพุ่งตรงเข้าหามังกรกระดูกดำ

“ข้าจะปกป้องลูกแก้วนี้เอง พวกเจ้าไปขวางคนพวกนั้นเถอะ !”

มังกรกระดูกดำออกคำสั่งเช่นกันและน้ำเสียงแสดงถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

โร่ววว !

มันคำรามเสียงดังขณะกลับคืนร่างเดิมอย่างรวดเร็วและล้อมรอบก้อนพลังสีดำไว้ จากนั้นก้อนพลังสีดำประหลาดก็เริ่มแผ่พลังงานอย่างเต็มที่อีกครั้งและตกกระทบไปที่ซากศพจำนวนนับสิบที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาอีกไม่นาน ซากศพเหล่านี้ก็จะฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์

ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันเล็กน้อยก่อนตรงเข้าโจมตีมังกรกระดูกดำ

มังกรกระดูกดำเพียงต้องการถ่วงเวลาไว้และไม่ได้ต้องการตอบโต้พวกนางนักขณะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองก้อนพลังสีดำเพื่อมิให้ฉินอวี้โม่และทุกคนเข้าใกล้เพื่อทำลายมัน

“เหอะ รอดูข้าทำลายกระดูกแข็ง ๆ ของเจ้าได้เลย !”

ซิวแค่นเสียงเย็นชาและกลับคืนร่างเดิมของมันก่อนบินโฉบขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นเพลิงร้อนระอุก็ลุกโชนไปทั่วท้องฟ้าและกระหน่ำลงสู่เบื้องล่างเพื่อโจมตีเข้าที่มังกรกระดูกดำ

อย่างไรก็ตาม มังกรกระดูกดำไม่มีท่าทีตื่นตระหนกใด ๆ ขณะกระจกป้องกันปรากฏขึ้นด้านบนและขวางกั้นเพลิงเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว

“เจ้าทะลวงผ่านการป้องกันของข้าไม่ได้หรอก”

มันแสยะยิ้มด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ครานี้มันเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว กระจกป้องกันชิ้นนี้คืออุปกรณ์ระดับสูงที่สามารถขวางกั้นเพลิงแห่งชีวิตอันทรงพลังของซิวได้ แน่นอนว่ามันไม่พลาดที่จะนำมาที่นี่ด้วย

“โอ้ ดูเหมือนว่าจอมยุทธ์ปีศาจจะมีอุปกรณ์อาวุธดี ๆ มากมาย !”

ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยและกวาดสายตามองกระจกสะท้อนประกายที่มีคุณสมบัติขวางเพลิงแห่งชีวิตของตน เห็นทีว่าจอมยุทธ์ปีศาจคงจะมั่นใจเป็นอย่างมากว่าฉินอวี้โม่และทุกคนจะมาที่นี่ด้วย พวกเขาจึงเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี

“รอก่อนเถอะ อีกสองก้านธูปก็จะถึงคราวจบสิ้นของพวกเจ้าแล้ว และดินแดนมหาเทพก็จะต้องถึงคราวล่มสลายเช่นกัน !”

มังกรกระดูกดำกล่าวอย่างเย็นชาขณะชำเลืองมองไปในทิศทางหนึ่งทว่านั่นทำให้ฉินอวี้โม่สังหรณ์ใจทันทีว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

หากมีเพียงซากศพฟื้นคืนชีพเหล่านี้ มันคงไม่มากพอที่จะทำให้มังกรกระดูกดำป่าวประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจได้เช่นนี้ หรือว่าจะมีสิ่งอื่นที่น่าสะพรึงกลัวมากกว่านี้ที่พวกนางยังไม่ค้นพบ ?