คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 1119 ฉินเฟิงผู้ติดอยู่ในภาพลวงตา

อ่านนิยายจีนเรื่อง คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด ตอนที่ ตอนที่ 1119 ฉินเฟิงผู้ติดอยู่ในภาพลวงตา อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ณ​ ​มุม​หนึ่ง​ใน​ดินแดน​ต้องห้าม​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​ฉิน​เฟิ​งกำ​ลัง​นั่งขัดสมาธิ​และ​หลับตา​สนิท​ในขณะที่​สติ​รับรู้​ถูก​ปิดกั้น​โดย​สมบูรณ์

หาก​มิใช่​เพราะ​กำลัง​หายใจ​อยู่​ ​เกรง​ว่า​ผู้​ที่​เข้ามา​พบเห็น​คง​คิด​ไป​ว่า​เขา​เป็น​เพียง​ศพ​ไร้​วิญญาณ​อย่างแน่นอน

ใน​ระยะ​รัศมี​สามสิบ​ลี้​จาก​ตัว​เขา​ก็​มี​ม่าน​พลัง​บางอย่าง​ที่​ปรากฏ​อยู่​ซึ่ง​มีสาย​ฟ้า​สว่าง​วาบ​ตลอดเวลา​จน​เป็น​ภาพ​ที่​ดู​น่า​หวาดหวั่น​และ​ทำให้​ผู้คน​ไม่กล้า​เฉียด​เข้าใกล้

ภายใน​วงล้อม​ของ​ม่าน​พลัง​ดังกล่าว​มี​เส้นสาย​ฟ้า​ที่​ฟาด​เข้าที่​ร่าง​ของ​ฉิน​เฟิง​เป็นระยะ​ ​ๆ​ ​สายฟ้า​เหล่านั้น​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​พลัง​รุนแรง​ราวกับ​ต้องการ​แผดเผา​ให้​เขา​กลายเป็น​เถ้าถ่าน

อย่างไรก็ตาม​ ​สายฟ้า​ที่​ดูรุน​แรง​เหล่านั้น​กลับ​ไม่​สามารถ​ทำให้​ร่าง​ของ​ฉิน​เฟิ​งบาด​เจ็บ​หรือ​มี​รอยขีดข่วน​แม้แต่น้อย​โดยที่​ตัว​เขา​ก็​ไม่ได้​มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ใด​ ​ๆ

ฉิน​อวี​้​โม่​ที่​ก้าว​เข้ามา​ใน​ดินแดน​ต้องห้าม​ก็​เห็นภาพ​นี้​ปรากฏ​ตรงหน้า​พอดิบพอดี

ใน​ดินแดน​ต้องห้าม​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ไม่มี​อันตราย​อื่นใด​และ​ไม่มี​ผู้พิทักษ์​ที่​แข็งแกร่ง​คอย​คุ้มกัน​อยู่​ ​พื้นที่​ภายใน​ไม่​กว้างขวาง​มาก​นัก​และ​สามารถ​มองเห็น​สถานการณ์​โดยรวม​ได้​อย่างชัดเจน​เมื่อ​เหาะ​ขึ้น​สูง​กลางอากาศ

เห็นได้ชัด​ว่า​ตระกูล​เยี​่ย​ไม่​กังวล​ว่า​โอกาส​และ​สมบัติ​ภายใน​ดินแดน​ต้องห้าม​จะ​ถูก​ผู้อื่น​ฉกฉวย​เอา​ไป​ ​เพราะ​นอกเหนือจาก​ทายาท​สายตรง​ผู้​มีสาย​เลือด​บริสุทธิ์​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยก​็​ไม่มี​ผู้ใด​ที่จะ​มีสิทธิ์​ได้รับ​มรดก​สืบทอด​จาก​บรรพบุรุษ​อย่างแน่นอน

“​ศิษย์​พี่​ ​?​”

นาง​หยุด​ลง​ตรงหน้า​ม่าน​พลัง​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​ฉิน​เฟิง​และ​เอ่ย​เรียก​ออก​ไป​เบา​ ​ๆ

แต่ทว่า​…​ฉิน​เฟิง​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ภายใน​วงล้อม​ของ​ม่าน​พลัง​กลับ​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ใด​ ​ๆ​ ​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​เสียง​เรียก​จาก​นาง​แม้แต่น้อย

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ลอง​เข้าไป​สำรวจ​ดู​อย่างใกล้ชิด​มากขึ้น​และ​พบ​ว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง​ ​ราวกับ​กำลัง​ดื่มด่ำ​กับ​บางสิ่งบางอย่าง​ที่​ทำให้​เขา​สุขใจ​อย่างที่​สุด

หลังจาก​เอ่ย​เรียก​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​ทว่า​ยัง​ไม่มี​การ​ตอบสนอง​ใด​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​และ​เอื้อมมือ​ออก​ไป​แตะ​ม่าน​พลัง​ตรงหน้า

ทันทีที่​มือ​ของ​นาง​สัมผัส​ลง​บน​ม่าน​พลัง​ ​คลื่น​พลัง​รุนแรง​บางอย่าง​ก็​พุ่ง​เข้าใส่​ฉิน​อวี​้​โม่​อย่างรวดเร็ว

นาง​ตอบสนอง​ด้วย​การ​ดึง​มือ​ของ​ตน​กลับมา​ทันที​และ​ถอยหลัง​ออกห่าง​จาก​ม่าน​พลัง​เพื่อ​หลบหลีก​จาก​พลัง​ประหลาด​ดังกล่าว

อึดใจ​ต่อมา​ ​เส้นสาย​ฟ้า​ก็​พุ่ง​ผ่าน​ใบหน้า​ของ​นาง​ไป​อย่าง​ฉิวเฉียด​จน​ทำให้​รับรู้​ได้​ถึง​กลิ่นอาย​ของ​ความตาย​ที่อยู่​ใกล้แค่เอื้อม​ ​หาก​เส้นสาย​ฟ้า​นั้น​ฟาด​เข้าที่​ตน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ตระหนัก​ดี​ว่า​ต่อให้​จะ​ไม่​ตาย​ ​นาง​ก็​ต้อง​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​เป็นแน่

“​ศิษย์​พี่​ติด​อยู่​ใน​ภวังค์​ภาพลวงตา​งั้น​รึ​ ​?​”

ข้อสันนิษฐาน​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ของ​นาง​ทันที​และ​เอ่ย​ถาม​พลาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​เมื่อ​ซิว​ปรากฏตัว​ข้าง​กาย

ซิว​พยัก​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​และ​กล่าว​ขึ้น​มา​ ​“​เขา​คงจะ​ได้รับ​มรดก​จาก​บรรพบุรุษ​แล้ว​และ​เกิดเหตุ​บางอย่าง​ระหว่าง​กระบวนการ​ทะลวง​พลัง​ ​เขา​จึง​ติด​อยู่​ใน​ภวังค์​ภาพลวงตา​เช่นนี้​ ​หาก​ฝ่า​ทะลวง​ออกมา​จาก​ภาพลวงตา​ได้​สำเร็จ​ ​เขา​จึง​จะ​สืบทอด​มรดก​ได้​โดย​สมบูรณ์​ ​ทว่า​หาก​ทำไม​่​ได้​…​เขา​ก็​จะ​ต้อง​ติด​อยู่​ที่นี่​ไป​จนกระทั่ง​หมดลม​หายใจ​”

น้ำเสียง​ของ​ซิว​ฟัง​ดู​หนักอึ้ง​อย่างชัดเจน​และ​แสดงให้เห็น​ว่า​ภวังค์​ภาพลวงตา​ที่​ฉิน​เฟิง​ตก​เข้าไป​ใน​ตอนนี้​มิใช่​สิ่ง​ที่จะ​ทำลาย​ได้​ง่าย​ ​ๆ​ ​มิฉะนั้น​ ​ด้วย​จิตใจ​ที่​แกร่งกล้า​ของ​เขา​ ​ไม่มีทาง​ที่​เขา​จะ​ติด​อยู่​ใน​ภวังค์​ภาพลวงตา​เป็นเวลา​นาน​ถึง​เพียงนี้

“​ม่าน​พลัง​รอบ​ ​ๆ​ ​ก็​ทรงอำนาจ​ยิ่งนัก​และ​เรา​เข้าไป​ใกล้​เกิน​กว่านี​้​ไม่ได้​ ​เรา​ทำได้​เพียง​รอ​อยู่​ที่นี่​หรือ​พยายาม​เรียก​สติ​ให้​เขา​รู้ตัว​ ​เขา​อาจจะ​ได้ยิน​เสียง​ของ​เรา​ ​เพียงแต่​มัน​ก็​เป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​แยกแยะ​ความจริง​และ​ภาพลวงตา​ออกจาก​กัน​”

ซิว​กล่าว​อีกครั้ง​และ​ทราบ​ว่า​สิ่ง​เดียว​ที่​พอ​จะ​ทำได้​ใน​ตอนนี้​คือ​หาทาง​เรียก​สติ​ให้​ฉิน​เฟิง​ฟื้น​กลับคืน​มา​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​มัน​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​อาจ​ทำได้​ง่าย​นัก

“​ศิษย์​พี่​ ​ข้า​คือ​เสี่ยว​โม่​เอ๋อร​์​และ​ข้ามา​ที่นี่​เพื่อ​ตาม​ท่าน​กลับ​ไป​ ​ตอนนี้​ท่าน​ติด​อยู่​ใน​ภวังค์​ภาพลวงตา​ ​หาก​ได้ยิน​เสียง​ของ​ข้า​ ​ท่าน​ต้อง​ตื่นขึ้น​มา​โดยเร็ว​ที่สุด​ ​ตอนนี้​ตระกูล​เยี​่ย​เผชิญ​กับ​วิกฤต​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​ก็​ถูก​คน​ตระกูล​หมิง​จับตัว​ไป​และ​สถานการณ์​ถือว่า​เลวร้าย​มาก​ ​หาก​ท่าน​ไม่​ตื่นขึ้น​มา​โดยเร็ว​ ​เกรง​ว่านา​งอาจ​ตกอยู่ในอันตราย​ได้​ ​!​”

ฉิน​อวี​้​โม่​เข้าใจ​ดี​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ​นาง​จึง​กล่าว​ด้วย​เสียง​ที่​ดัง​ขึ้น​อย่างต่อเนื่อง​เพื่อ​พยายาม​สื่อสาร​กับ​ฉิน​เฟิง

“​ศิษย์​พี่​ ​ท่าน​และ​พี่​เหยี​ยน​ยัง​ไม่ได้​เข้าร่วม​พิธีกราบ​ไหว้​ฟ้า​ดิน​อย่างเป็นทางการ​และ​ในที่สุด​ตอนนี้​ท่าน​ก็​กลับมา​ที่​ตระกูล​เยี​่ย​แล้ว​ ​ท่าน​คง​ไม่​อยาก​เห็น​ตระกูล​ต้อง​ถูก​ทำลาย​ไป​ ​ท่าน​ผู้นำ​เอง​ก็​เมตตา​กับ​ท่าน​มาก​และ​ท่าน​คง​ไม่​อยาก​เห็น​เขา​ตาย​ไป​เช่นนี้​ ​อีก​อย่าง​…​ข้า​ทราบ​แล้ว​ว่า​ขุม​กำลัง​ใด​ที่​ทำร้าย​บิดา​มารดา​ของ​ท่าน​ใน​อดีต​และ​พวกเขา​ก็​เป็น​กลุ่มคน​เดียวกัน​กับ​ที่จับ​ตัว​พี่สะใภ้​ไป​ ​ต่อให้​ท่าน​ไม่​อยาก​ล้างแค้น​ให้ท่า​นลุง​ท่าน​ป้า​ ​ท่าน​ก็​ควรจะ​พิจารณา​ถึง​ความปลอดภัย​ของ​พี่​เหยี​ยน​…​”

…..

เสียง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​แทรกซึม​เข้าไป​ใน​จิตวิญญาณ​ฉิน​เฟิง​ทีละน้อย​ ​ทว่า​เขา​ยัง​ไม่มี​การ​ตอบสนอง​ใด​

ในเวลานี้​ ​ฉิน​เฟิ​งกำ​ลัง​ดื่มด่ำ​อยู่​ใน​ห้วง​แห่ง​ความฝัน​ที่​ถูก​วาด​ขึ้น​มา​โดย​พลัง​ประหลาด​บางอย่าง

ภายใน​ความฝัน​ดังกล่าว​ ​วิกฤต​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ได้รับ​การ​คลี่คลาย​แล้ว​ในขณะที่​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ฟื้น​คืน​เป็นปกติ​และ​ไม่​เสียชีวิต​ไป​ ​สิ่ง​สำคัญ​คือ​เขา​ได้​พบ​ฉิน​เหยี​ยน​และ​ทั้งสอง​ตบแต่ง​ครองรัก​กัน​จน​มีทา​ยาท​กำเนิด​มา

ตัว​เขา​ก็ได้​เปลี่ยน​กลับเป็น​ชื่อ​ ​‘​เยี​่ย​เฟิง​’​ ​ดั้งเดิม​ของ​ตน​อย่างเป็นทางการ​และ​กลายเป็น​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​คน​ใหม่​…​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ใน​นั้น​ดำเนิน​ไป​ทิศทาง​ที่​ดี​และ​ราบรื่น​อย่างมาก

มัน​เป็นความ​ฝัน​ที่​เหมือน​จริง​เสีย​จน​ฉิน​เฟิง​แยกแยะ​ระหว่าง​ความจริง​และ​ภาพลวงตา​ไม่ได้​เลย

จนกระทั่ง​เสียง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ค่อย​ ​ๆ​ ​แทรกซึม​ดัง​เข้ามา​ใน​ห้วง​จิต​ที่​ทำให้​เขา​เริ่ม​เกิด​ความสงสัย​ใน​ความฝัน​ของ​ตน​เป็นครั้งแรก

“​พี่​เฟิง​ ​มี​อะไร​รึ​ ​?​”

ใน​ความฝัน​ ​เวลานี้​ฉิน​เหยี​ยน​กำลัง​เอนกาย​พิง​อ้อมแขน​ของ​ ​‘​เยี​่ย​เฟิง​’​ ​และ​ดูจะ​สัมผัส​ได้​ถึง​ความแปลกใจ​ของ​เขา​ ​นาง​แตะ​ใบหน้า​ของ​บุรุษ​คนรัก​และ​เอ่ย​ถาม​อย่าง​แผ่วเบา

“​เหยี​ยน​เอ๋อร​์​ ​ข้า​…​”

ฉิน​เฟิง​ลังเล​เล็กน้อย​และ​ยังคง​รู้สึก​ว่า​ฉิน​เหยี​ยน​ตรงหน้า​คือ​ความจริง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เสียง​ที่​ดัง​ขึ้น​ใน​ความคิด​ทำให้​เขา​ไม่​มั่นใจ​ใน​ความเชื่อ​นั้น​อีกต่อไป

แม้​อยู่​ใน​ห้วง​แห่ง​ความฝัน​ ​เขา​ก็​รับรู้​ถึง​เสียง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​อย่างชัดเจน​และ​ทราบ​ดี​ว่า​ศิษย์​น้อง​ผู้​นั้น​กำลัง​สื่อสาร​กับ​ตน​ ​และ​เขา​ทราบ​ดี​ว่านาง​ไม่มีทาง​โกหก​ตน​อย่างแน่นอน​…

“​ศิษย์​พี่​ ​ตอนนี้​เรา​ไม่ทราบ​ถึง​สถานการณ์​ของ​พี่สะใภ้​เลย​ ​ทว่า​นาง​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​ขุม​กำลัง​ที่​ปองร้าย​ต่อ​บิดา​มารดา​ของ​ท่าน​ ​เพียงเท่านี้​ท่าน​ก็​คงจะ​คาดเดา​ได้​ว่า​พวกเขา​มี​จุดประสงค์​ใด​ ​หาก​ท่าน​ไม่​ออกมา​ ​เกรง​ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​ข้า​และ​คน​ตระกูล​เยี​่ย​เพียงลำพัง​คง​ไม่​สามารถ​ช่วย​พี่​เหยี​ยน​ได้​ ​นาง​มาที​่​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​นี้​พร้อมกับ​เยี​่ย​ซา​เพื่อที่จะ​ตามหา​ท่าน​ ​ท่าน​จะ​ไม่สน​ใจ​ไยดี​เช่นนี้​จริง​ ​ๆ​ ​รึ​เจ้า​คะ​ ​?​”

เสียง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ดัง​ขึ้น​ใน​ความคิด​ของ​ฉิน​เฟิ​งอี​กค​รั้ง​และ​ทำให้​เขา​เรียก​สติก​ลับ​คืน​มา​ในที่สุด

“อ​๊า​กก​ ​!​”

ทันใดนั้น​ ​ด้วย​เสียงคำราม​ที่​ดัง​ขึ้น​มา​ ​ฉิน​เหยี​ยน​ตรงหน้า​เขา​ก็​หายวับ​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย

ฉิน​อวี​้​โม่​ซึ่ง​อยู่​ด้านนอก​ม่าน​พลัง​ก็​รับรู้​ได้​ทันที​ว่า​ฉิน​เฟิง​เริ่ม​ได้สติ​ขึ้น​มา​แล้ว​และ​ทราบ​ดี​ว่าวา​จา​ของ​ตน​ได้ผล​ ​จากนั้น​เสียง​ของ​นาง​ก็​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง

“​ศิษย์​พี่​ ​ท่าน​ลืม​ไป​แล้ว​รึ​ว่า​ท่าน​ให้​คำมั่น​กับ​พี่สะใภ้​ไว้​อย่างไร​ ​?​ ​นาง​กำลัง​รอท่า​นอยู​่​นะ​เจ้า​คะ​ ​รีบ​ตื่นขึ้น​มา​เถอะ​ ​!​”

คนที​่​มี​ความรัก​ลึกซึ้ง​ต่อกัน​ย่อม​มีอิทธิพล​ต่อกัน​ได้มาก​ที่สุด​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่เคย​นึก​สงสัย​ใน​ความสัมพันธ์​และ​ความรู้สึก​ระหว่าง​ฉิน​เฟิง​และ​ฉิน​เหยี​ยน​แม้แต่น้อย

ทั้งสอง​ตกหลุมรัก​ซึ่งกันและกัน​และ​ต้อง​เผชิญ​กับ​อุปสรรค​ขวากหนาม​มากมาย​กว่า​ที่จะ​มาถึง​ปัจจุบันนี้​ได้​ ​ความรู้สึก​ที่​ทั้งสอง​มีต​่​อกัน​ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่านาง​และ​หาน​โม่​ฉือ​อย่างแน่นอน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ทำ​ถูก​แล้ว​ที่​พยายาม​กล่าวถึง​ฉิน​เหยี​ยน​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​ ​มี​เพียง​การ​ทำ​เช่นนี้​เท่านั้น​ที่จะ​เรียก​สติ​ของ​ฉิน​เฟิ​งก​ลับ​คืน​มา​ได้​และ​นำไปสู่​การ​ล่มสลาย​ของ​ภวังค์​ภาพลวงตา​ในที่สุด

“​เสี่ยว​โม่​เอ๋อร​์​…​”

ฉิน​เฟิง​ยัง​ไม่ลืม​ตา​ทว่า​เอ่ยปาก​เบา​ ​ๆ​ ​ด้วย​น้ำเสียง​แหบ​พร่า

เขา​ติด​อยู่​ใน​ภวังค์​ภาพลวงตา​นี้​มานา​นก​ว่า​สอง​ปี​และ​อยู่​ใน​ความฝัน​อัน​สวยงาม​มาต​ลอด​จน​แทบ​ลืมเลือน​เกี่ยวกับ​โลก​ภายนอก​และ​ภารกิจ​ที่​ได้รับ

หาก​มิใช่​เพราะ​ฉิน​อวี​้​โม่​เข้ามา​ปลุก​เขา​ด้วยตัวเอง​ ​ไม่​อาจ​คาดเดา​ได้​เลย​ว่า​เขา​จะ​ต้อง​ใช้เวลานาน​เพียงใด​ก่อนที่จะ​ตื่นขึ้น​มา​ได้​ด้วยตัวเอง

“​ศิษย์​พี่​ ​ในที่สุด​ท่าน​ก็ได้​สติ​ขึ้น​มา​เสียที​ ​!​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​กว้าง​ทันทีที่​ได้ยิน​เสียง​ของ​ฉิน​เฟิง​ ​เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึง​ความผิดปกติ​ของ​กลิ่นอาย​ที่​แผ่ออก​มาจาก​อีก​ฝ่าย​ ​นาง​ก็​เตือน​เขา​อีกครั้ง​ ​“​ตอนนี้​อย่า​เพิ่ง​กล่าว​อะไร​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ปรับ​สภาวะ​พลัง​ของ​ท่าน​ให้​เสถียร​คงที่​เสียก่อน​ ​ท่าน​รับมรดก​จาก​บรรพบุรุษ​ไป​และ​ตอนนี้​พลัง​ใน​ร่างกาย​ของ​ท่าน​ยังคง​ปั่นป่วน​อยู่​ ​ข้า​จะ​อยู่​คุ้มกัน​อยู่​ตรงนี้​และ​หลังจาก​ท่าน​ทะลวง​พลัง​เสร็จ​สมบูรณ์​ ​ม่าน​พลัง​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​นี้​ก็​จะ​ถูก​ทำลาย​ไป​โดยปริยาย​”

ในเมื่อ​เขา​เรียก​สติก​ลับ​มาจาก​ความฝัน​ได้​แล้ว​ ​ปัญหา​ใน​ตอนนี้​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​เวลา​เท่านั้น​ ​เมื่อ​ฉิน​เฟิง​ปรับ​พลังงาน​ที่​ปั่นป่วน​ภายใน​ร่างกาย​และ​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​ ​เขา​ก็​จะ​สืบทอด​มรดก​จาก​บรรพบุรุษ​ตระกูล​เยี​่ย​ได้​โดย​สมบูรณ์​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เขา​จะ​บรรลุ​ถึง​ระดับ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​อย่างแน่นอน

“​ขอบคุณ​มาก​”

ฉิน​เฟิ​งก​ล่าว​ขอบคุณ​ฉิน​อวี​้​โม่​เบา​ ​ๆ​ ​และ​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​ออกมา​อีก​ ​เขา​เพียง​จดจ่อ​กับ​พลัง​ใน​ร่างกาย​และ​เริ่ม​การ​ทะลวง​พลัง​ต่อไป

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด