คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 1170 โอกาสของเยี่ยชางไห่

อ่านนิยายจีนเรื่อง คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด ตอนที่ ตอนที่ 1170 โอกาสของเยี่ยชางไห่ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลังจาก​เวลา​ผ่าน​ไป​เกือบ​หนึ่ง​เดือน​ ​ในที่สุด​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ทุกคน​ก็​กลับมา​ถึง​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ ​ฉิน​อี้​เฟย​เอง​ก็​หลอม​โอสถ​นิพพาน​สำเร็จ​แล้ว​เช่นกัน

ใน​ช่วง​หนึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​นี้​ ​สถานการณ์​ยังคง​ปกติ​ทุกอย่าง​

หลังจาก​หมิงฮ​่​วน​กลับ​ไป​ใน​วันนั้น​ ​เขา​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ที่​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​เพื่อ​สืบ​ข่าว​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ล่าสุด​ก่อน​เดินทาง​กลับ​จวน​ตระกูล​หมิง

จากนั้น​เขา​ก็​รายงาน​ต่อ​ผู้นำ​ตระกูล​หมิง​ว่า​มี​คน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ที่​กำลัง​จับตาดู​สถานการณ์​ของ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​อย่างใกล้ชิด​ ​รวมถึง​รายงาน​เรื่อง​ที่ว่า​เยี​่ย​เฟิง​ไม่ยอม​จำนน​ต่อตระกูล​หมิง​แม้​ใช้​ฉิน​เหยี​ยน​เป็น​เครื่องมือ​ข่มขู่​ก็ตาม

ใน​ตอนนั้น​เอง​ ​หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​ก็​เดือดดาล​ขึ้น​มา​และ​วางแผน​ที่จะ​สังหาร​ฉิน​เหยี​ยน​ในทันที​ ​ทว่า​หมิงฮ​่​วน​โน้มน้าว​ให้​เขา​เปลี่ยนใจ​เสียก่อน​โดย​กล่าวว่า​ยัง​ไม่​ควร​ลงมือทำ​สิ่งใด​บุ่มบ่าม​ใน​ตอนนี้​และ​การ​ไว้ชีวิต​ฉิน​เหยี​ยน​จะ​เป็นประโยชน์​อย่างมาก​ใน​สงคราม​ที่​กำลังจะ​มาถึง

หมิง​จื้อ​เหยี​่​ยน​ก็​ฟัง​คำแนะนำ​ของ​หมิงฮ​่​วน​และ​ปล่อยวาง​เรื่อง​ของ​ฉิน​เหยี​ยน​เป็นการชั่วคราว​ ​ในขณะที่​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ใน​ตระกูล​เริ่ม​เตรียม​ความพร้อม​สำหรับ​สงคราม​ที่จะ​มาถึง

พวกเขา​จะ​ต้อง​สืบ​ทราบ​ถึง​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ปัจจุบัน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ให้​ได้เสีย​ก่อน​เพื่อที่จะ​ได้​มั่นใจ​ถึง​โอกาส​ของ​การ​คว้า​ชัยชนะ​ใน​สงคราม​ครานี​้

ณ​ ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ ​เมื่อ​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​กลับมา​ ​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ก็​แสดง​ความตื่นเต้น​และ​คลี่​ยิ้ม​กว้าง​กัน​ทันที

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​อวี​้​โม่​ ​เจ้า​กลับมา​แล้ว​”

เมื่อ​ทราบ​ข่าว​การก​ลับ​มา​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เซี​่ย​โป​๋ย​วี​๋​และ​หู​อี้​ก็​รีบ​เดินทาง​มาที​่​จวน​ตระกูล​เยี​่​ยอี​กค​รั้ง

“​นี่​คือ​พี่ใหญ่​ของ​เจ้าที่​เป็น​ผู้​หลอม​โอสถ​ระดับ​เทวะ​สินะ​”

สายตา​ของ​เขา​เลื่อน​ไป​บรรจบ​ลง​ที่​ฉิน​อี้​เฟย​ผู้​ซึ่ง​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​กล่าว​ด้วย​แววตา​ประหลาดใจ​ ​ฉิน​อี้​เฟย​ผู้​นี้​ทั้ง​เยาว์วัย​และ​ดู​มี​ศักยภาพ​ดังที่​เขา​คิด​ไว้​ ​ไม่ต้องสงสัย​ว่า​ผู้​หลอม​โอสถ​ระดับ​เทวะ​ที่​มีอายุ​น้อย​เช่นนี้​มี​อนาคต​ยาว​ไกล​อย่างไร​้​ที่​สิ้นสุด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​สิ่ง​ที่​พบ​ได้​ยาก​ยิ่งกว่า​คือ​ระดับ​พลัง​ยุทธ์​ของ​ฉิน​อี้​เฟ​ยก​็​อยู่​ใน​ระดับ​ที่สูง​พอสมควร​และ​ถือได้ว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​ที่​โดดเด่น​กว่า​จอม​ยุทธ์​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ใน​รุ่นราวคราวเดียวกัน

ทุกคน​อด​ถอนหายใจ​เบา​ ​ๆ​ ​ไม่ได้​ ​หนุ่มสาว​ตรงหน้า​เหมาะสม​ที่จะ​เป็น​พี่น้อง​กัน​อย่างแท้จริง​ ​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​มีด​้า​นที​่​โดดเด่น​และ​ทรงพลัง​อย่าง​น่าทึ่ง​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​น่าอิจฉา​ยิ่งนัก

“​คารวะ​ท่าน​ผู้อาวุโส​ทั้งหลาย​ขอรับ​”

ฉิน​อี้​เฟย​ยก​กำปั้น​ประกบ​กัน​และ​โค้ง​คำนับ​ทุกคน​ด้วย​ท่าทาง​นอบน้อม​ซึ่ง​ทำให้​ทุกคน​รู้สึก​ประทับใจ​ใน​ตัว​เขา​ทันที

“​ศิษย์​พี่​เจ้า​คะ​ ​พี่ใหญ่​ของ​ข้า​หลอม​โอสถ​นิพพาน​สำเร็จ​แล้ว​ ​ท่าน​นำ​มัน​ไป​ป้อน​ให้​กับ​ผู้นำ​เยี​่ย​เถิด​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยื่น​โอสถ​นิพพาน​ให้​กับ​ฉิน​เฟิง​และ​ส่งสัญญาณ​ให้​เขา​นำ​มัน​ไป​ให้​กับ​เยี​่ย​ชาง​ไห่

แม้​เยี​่ย​ชาง​ไห่​จะ​ยัง​ไม่​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​เขา​ก็​มีสติ​รับรู้​อยู่​และ​สามารถ​ได้ยิน​บทสนทนา​รอบตัว​ ​ในเวลานี้​เยี​่ย​เฟิ​งก​็​ป้อน​โอสถ​นิพพาน​ให้​กับ​เขา​อย่าง​แผ่วเบา​ในขณะที่​ทุกคน​นั่ง​เรียงราย​กัน​เพื่อ​รอการ​เปลี่ยนแปลง​อย่าง​เงียบ​ ​ๆ

อย่างไรก็ตาม​ ​หลังจาก​กลืน​กิน​โอสถ​นิพพาน​ไป​แล้วก็​ยัง​ไม่​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ใด​ในทันที​และ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ยัง​ไม่มี​ท่าที​ว่า​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​แม้แต่​กลิ่นอาย​ที่​แผ่​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ไม่เปลี่ยนแปลง​แม้แต่น้อย

“​โอสถ​นิพพาน​มิใช่​โอสถ​ที่​ออกฤทธิ์​เร็ว​นัก​ ​ทุกคน​เฝ้ารอ​อย่างใจ​เย็น​เถอะ​”

สีหน้า​ของ​ฉิน​อี้​เฟ​ยส​งบ​นิ่ง​อย่างยิ่ง​และ​เขา​ทราบ​มานาน​แล้ว​ว่า​ฤทธิ์​ของ​โอสถ​ดังกล่าว​เป็น​อย่างไร

โอสถ​นิพพาน​เป็น​โอสถ​ใน​ตำนาน​ที่​ทรงพลัง​ซึ่ง​จะ​ต้อง​ใช้เวลา​พัก​หนึ่ง​เพื่อให้​คุณสมบัติ​ของ​มัน​เริ่ม​แสดงผล​จนถึง​ขั้น​ฟื้น​ขึ้น​มา

ในเวลานี้​ ​ร่างกาย​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ก็​อยู่​ใน​สภาวะ​ที่​ผิดปกติ​มาก​ ​แม้​สติ​รับรู้​ของ​เขา​จะ​กลับคืน​มา​แล้ว​ ​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​เร่งความเร็ว​ใน​การ​ดูดซับ​พลัง​จาก​โอสถ​ได้​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​เขา​จึง​ทำได้​เพียง​อาศัย​ปฏิกิริยา​ธรรมชาติ​ของ​ร่างกาย

เวลา​ผ่าน​ไป​นาที​แล้ว​นาที​เล่า​ ​และ​ภายใน​ชั่วพริบตา​เวลา​ก็​ผ่าน​มาก​ว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว

ทันใดนั้น​ ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ก็​ลืมตา​โพลง​และ​แสงสีทอง​อร่าม​ส่อง​มาจาก​ดวงตา​ของ​เขา​ขณะ​ลุกขึ้น​นั่ง​อย่างรวดเร็ว​และ​หลับตา​ลง​อีกครั้ง​ ​สภาวะ​พลัง​รอบตัว​หลั่งไหล​ตรง​เข้าไป​ที่​ร่าง​ของ​เขา​และ​คลื่น​พลัง​เดิมที​่​สูญหาย​ไป​ก็​กำลัง​ฟื้นฟู​ขึ้น​มา​อย่างรวดเร็ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เขา​ยังคง​เพิ่มขึ้น​อย่างต่อเนื่อง

“​สถานการณ์​ของ​ผู้นำ​เยี​่ย​ใน​ตอนนี้​เปรียบเสมือน​กับ​การฟื้น​คืน​จาก​ความตาย​ ​การกลืน​กิน​โอสถ​นิพพาน​จะ​ช่วย​ให้​เขา​ได้รับ​โอกาส​ที่​คาดไม่ถึง​ ​สำหรับ​เรื่อง​ที่ว่า​เขา​จะ​ทะลวง​พลัง​ไป​ได้​ไกล​เพียงใด​นั้น​ ​มัน​ก็​ขึ้นอยู่กับ​เขา​เพียงผู้เดียว​”

ฉิน​อี้​เฟ​ยอ​ธิ​บาย​กับ​ทุกคน​ว่า​โอสถ​นิพพาน​มีคุณ​สมบัติ​ที่​คน​ทั่วไป​ไม่​สามารถ​จินตนาการ​ได้​ ​ก่อนหน้านี้​เรียก​ได้​ว่าความ​ตาย​ใกล้​มา​เยือน​เยี​่ย​ชาง​ไห่​เต็มที​ ​ทว่า​หัวใจ​ต้นโพธิ์​และ​โอสถ​นิพพาน​ได้​พลิก​ความตาย​ให้​กลายเป็น​โอกาส​และ​จะ​ช่วย​ให้​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เขา​พัฒนา​ขึ้น​มาก​ ​การ​ที่จะ​ทะลวง​พลัง​หนึ่ง​หรือ​สอง​ระดับ​ไม่​ถือว่า​เป็นปัญหา​แม้แต่น้อย​ ​ทว่า​ท้ายที่สุด​แล้ว​เขา​จะ​ทะลวง​พลัง​ไป​ได้​ไกล​เพียงใด​ก็​ขึ้นอยู่กับ​จิตใจ​ของ​เขา​เอง​และ​ผู้อื่น​มิ​อาจ​เข้าไป​แทรกแซง​ได้

“​ช่วง​การ​ทะลวง​พลัง​นี้​คงจะ​ยาวนาน​พอสมควร​ ​ทุกคน​ไม่จำเป็น​ต้อง​เฝ้า​อยู่​ที่นี่​ตลอดเวลา​ ​แยกย้าย​กัน​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​เถอะ​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ลุกขึ้น​และ​กล่าว​ออก​ไป​เพื่อมิ​ให้​ทุกคน​เฝ้ารอ​อยู่​ที่นี่​ ​อาการ​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​คงที่​แล้ว​และ​เขา​จะ​ต้อง​ใช้​ระยะเวลา​ที่​ยาวนาน​พอสมควร​กว่า​ที่จะ​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​การเฝ้า​รอ​อยู่​ที่นี่​ต่อไป​คง​ไม่มี​ความหมาย​และ​ทุกคน​ควร​แยกย้าย​กัน​ไป​จัดการ​ธุระ​ของ​ตนเอง​หรือ​ฝึกฝน​บ่ม​เพาะ​วิชา​จะ​ดีกว่า

ทุกคน​เข้าใจ​ดี​และ​กล่าว​อำลา​กัน​ก่อน​ออกจาก​เรือน​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ไป​ทีละ​คน

อย่างไรก็ตาม​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ฉิน​อี้​เฟย​และ​ฉิน​เฟิง​ยัง​ไม่​ออก​ไป​กับ​คน​เหล่านั้น​เนื่องจาก​กังวล​ว่า​อาจ​เกิด​สิ่ง​ที่​ไม่​คาดคิด​เมื่อ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ทะลวง​พลัง​สำเร็จ​ ​พวก​นาง​จึง​รอ​อยู่​ที่นี่​เพื่อที่จะ​ช่วยเหลือ​ได้​ทันเวลา

ภายใน​ชั่วพริบตา​ ​อีก​หนึ่ง​สัปดาห์​ก็​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว

จู่​ ​ๆ​ ​คลื่น​พลัง​รุนแรง​ก็​ปะทะ​เข้าที่​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​อีก​สอง​คนจน​กระเด็น​ออกจาก​ห้อง​ในขณะที่​เยี​่ย​ชาง​ไห่​บน​เตียง​ตื่นขึ้น​มา​โดย​สมบูรณ์

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​ยอดเยี่ยม​ ​ยอดเยี่ยม​จริง​ ​ๆ​!​”

เสียงหัวเราะ​อย่าง​มีความสุข​ดัง​ขึ้น​ใน​หู​ของ​ทุกคน​พร้อมกับ​แรงกดดัน​ที่​มิ​อาจ​อธิบาย​ได้​ซึ่ง​ทำให้​พวกเขา​เหล่านั้น​รู้สึก​ถึง​ความ​ยำเกรง​จาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ

“​ท่าน​ผู้นำ​ ​!​ ​ในที่สุด​ท่าน​ผู้นำ​ก็​ฟื้น​แล้ว​ ​!​”

ทุกคน​ใน​ตระกูล​เยี​่ย​ตกตะลึง​และ​ตื่นเต้น​ทันทีที่​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ดังกล่าว

“​ท่าน​ปู่​ขอรับ​…​”

ฉิน​เฟิง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ฉิน​อี้​เฟิ​งก​็​พยายาม​ทรงตัว​ให้​คงที่​ก่อน​เงยหน้า​ขึ้น​พบ​กับ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ที่​ก้าว​ออกมา​จาก​ใน​ห้อง​และ​ต้อง​ตกตะลึง​ในทันที​

เมื่อ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​หมดสติ​ไป​ก่อนหน้านี้​ ​เส้น​ผม​และ​หนวดเครา​ของ​เขา​ก็​เป็น​สีขาว​โพลน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ดู​ชราภาพ​เหมือน​คน​วัย​เจ็ดสิบ​ถึง​แปดสิบ​ปี​ ​ทว่า​หลังจาก​กลืน​กิน​โอสถ​นิพพาน​และ​ทะลวง​พลัง​สำเร็จ​ ​รูปลักษณ์​ของ​เขา​ก็​ดู​อ่อนวัย​ลง​หลาย​สิบ​ปี​และ​ตอนนี้​ดูเหมือน​บุรุษ​ที่​มีอายุ​เพียง​ประมาณ​สี่​สิบ​ปี​เท่านั้น​

รูปลักษณ์​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​โดดเด่น​เป็น​ทุนเดิม​และ​ตอนนี้​เขา​ก็​ดูเหมือน​บุรุษ​วัยทอง​ที่​หล่อเหลา​ ​กลิ่นอาย​ที่​แผ่​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​ทรง​เสน่ห์​ที่​เพิ่มขึ้น​มาก

“​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​พ่อ​หนุ่ม​อี้​เฟย​ ​ครานี​้​ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​เจ้า​ทั้งสอง​มาก​จริง​ ​ๆ​”

เขา​กล่าว​ขอบคุณ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ฉิน​อี้​เฟ​ยด​้วย​แววตา​ซาบซึ้งใจ

“​ไม่ต้อง​สุภาพ​กับ​พวกเรา​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​การ​ที่​ท่าน​เป็น​ท่าน​ปู่​ของ​ศิษย์​พี่​ของ​ข้า​ ​ท่าน​ก็​ถือว่า​เป็น​ท่าน​ปู่​ของ​พวกเรา​ทั้งสอง​ด้วย​เช่นกัน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เรา​ก็​ต้อง​ช่วย​ท่าน​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​ทว่า​คำ​ว่า​ ​‘​ท่าน​ปู่​’​ ​จาก​ปากของ​นาง​ก็​ฟัง​ดู​ติดขัด​เล็กน้อย

เยี​่ย​ชาง​ไห่​ตรงหน้า​ใน​ตอนนี้​ดู​อ่อนวัย​กว่า​ก่อนหน้านี้​มาก​นัก​ ​หาก​ไม่เคย​เห็น​เขา​มาก​่อน​ ​เกรง​ว่านา​งคง​ไม่มีทาง​ทราบ​ได้​ว่า​บุรุษ​ผู้​นี้​คือ​ผู้นำ​ของ​ตระกูล​เยี​่ย

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​ถูกต้อง​แล้ว​ ​ๆ​ ​พวก​เจ้า​ก็​ถือเป็น​คน​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เช่นกัน​ ​ไม่ว่า​จะ​ต้องการ​ทำ​สิ่งใด​ ​พวก​เจ้า​ก็​สามารถ​ทำได้​ตามสบาย​และ​ไม่ต้อง​เกรงใจ​ล่ะ​ ​หาก​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วยเหลือ​สิ่งใด​ในอนาคต​ก็​บอก​มา​ได้​เลย​ ​หาก​เป็น​สิ่ง​ที่​ข้า​ช่วย​ได้​ ​ข้า​จะ​ไม่​ปฏิเสธ​แน่​”

เยี​่ย​ชาง​ไห่​ยิ้ม​กว้าง​อย่าง​มีความสุข​ ​บุคลิก​นิสัย​ของ​เขา​ก็​คล้ายคลึง​กับ​ฉิน​เฟิ​งมาก​ซึ่ง​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สบายใจ​เมื่อ​พูดคุย​ด้วย

“​ท่าน​พ่อ​ ​?​”

น้ำเสียง​แสดง​ความประหลาดใจ​ดัง​ขึ้น​เมื่อ​เยี​่ย​หลิง​ซี​และ​เยี​่ย​หมิง​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​ ​เดิมที​พวกเขา​ทั้งสอง​กำลัง​จัดการ​ดูแล​เรื่อง​ทั่วไป​ใน​ตระกูล​ ​ทว่า​เมื่อ​ได้ยิน​ข่าว​ ​ทั้งสอง​ก็​รีบ​มุ่งหน้า​มาที​่​นี่​ทันที​ ​เมื่อ​เห็น​บุรุษ​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ ​เยี​่ย​หมิง​ก็​ถึงกับ​อ้าปากค้าง​และ​แววตา​แสดงถึง​ความ​ไม่​อยาก​เชื่อ​อย่างชัดเจน

“​ท่าน​พ่อ​ดู​หนุ่ม​กว่า​ก่อนหน้านี้​มาก​ ​หลังจากนี้​หาก​ไป​บอก​ใคร​ว่า​ท่าน​คือ​บิดา​ของ​ข้า​ ​เกรง​ว่า​ผู้คน​คง​ไม่เชื่อ​เป็นแน่​”

เยี​่ย​หลิง​ซีก​้า​วอ​อก​ไป​ข้างหน้า​และ​กอด​แขน​เยี​่ย​ชาง​ไห่​พลาง​กล่าว​พร้อม​เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ

“​ใช่​ ​ใช่​เลย​ ​ท่าน​พ่อ​ดู​หนุ่ม​กว่า​ข้า​เสียอีก​”

เยี​่ย​หมิง​พยักหน้า​หงึกหงัก​อย่าง​เห็นด้วย​ ​ทว่า​การ​ที่​ผู้​เป็น​บิดา​ดู​หนุ่ม​กว่า​บุตรชาย​เช่นนี้​ทำให้​เขา​รู้สึก​ละอายใจ​ไม่น้อย

“​ท่าน​พ่อ​ ​ตอนนี้​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ท่าน​บรรลุ​ถึง​ระดับ​ใด​รึ​เจ้า​คะ​ ​?​”

เยี​่ย​หลิง​ซีพ​ยายาม​สัมผัส​ถึง​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​และ​เอ่ย​ถาม​อย่าง​สงสัย​ใคร่รู้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด