คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด – ตอนที่ 1226 นักล่าวิญญาณ

อ่านนิยายจีนเรื่อง คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด ตอนที่ ตอนที่ 1226 นักล่าวิญญาณ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ในเวลานี้​ ​ภายใน​วงล้อม​ของ​ข่าย​อาคม​เก้า​มังกร​ทลาย​พิภพ​ ​คู่​อสูร​วายุ​ทมิฬ​กลายเป็น​ซากศพ​ไร้​ชีวิต​ไป​แล้ว​และ​เห็นได้ชัด​ว่า​ซากศพ​ของ​พวกเขา​ยังคง​สด​ใหม่

ใบหน้า​ของ​พวกเขา​ดู​สงบนิ่ง​และ​บน​ร่างกาย​ไม่​ปรากฏ​บาดแผล​ใด​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เสียง​กรีดร้อง​แหลม​เมื่อ​ครู่​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​คง​ไม่​รับรู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​พวกเขา​เสียชีวิต​ไป​แล้ว

“​พวกเขา​ตาย​ไป​แล้ว​ ​!​”

สีหน้า​ของ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่ย​และ​เมิ​่ง​เถี​ยน​ถอดสี​เช่นกัน​ ​พวก​นาง​ทราบ​ดี​ว่า​ข่าย​อาคม​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​วาง​ไว้​มี​ความ​น่าสะพรึงกลัว​เพียงใด​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ใคร​สัก​คน​ฝ่า​ทะลวง​มัน​เข้าไป​และ​สังหาร​คู่​อสูร​วายุ​ทมิฬ​โดยที่​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่รู้​ตัว​ด้วยซ้ำ​ ​มิ​อาจ​คาดเดา​ได้​เลย​ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​คน​ผู้​นั้น​จะ​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​มาก​เพียงใด​…

“​ข้า​จะเข้า​ไป​สำรวจ​ดู​สักหน่อย​”

หลังจาก​ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ตัดสินใจ​ทันที​ว่า​จะ​ต้อง​เข้าไป​ดู​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ให้​เห็น​กับ​ตา​และ​ตรวจสอบ​สาเหตุ​การตาย​ของ​คน​ทั้งสอง

“​ศิษย์​น้อง​อวี​้​โม่​ ​เรา​จับกลุ่ม​ไป​ด้วยกัน​จะ​ดีกว่า​”

ตอนนี้​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เสิ่น​เสี่ยว​ไห่​ฟื้นฟู​กลับมา​พอสมควร​แล้ว​และ​อาการ​บาดเจ็บ​ก็ดี​ขึ้น​มาก​ ​เขา​จึง​ไม่​รอช​้า​และ​กล่าว​พร้อม​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที

แม้​จะ​มิท​ราบ​ว่า​จุดประสงค์​ของ​อีก​ฝ่าย​คือ​สิ่งใด​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​สิ่ง​ที่​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ก็​คือ​พลัง​อำนาจ​ของ​อีก​ฝ่าย​จะ​ต้อง​น่า​พรั่นพรึง​มาก​เป็นแน่​ ​หาก​ไป​ที่นั่น​เพียงลำพัง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​อาจจะ​ตกอยู่ในอันตราย​ ​ทว่า​หาก​ไป​ด้วยกัน​ ​อย่างน้อยที่สุด​ทุกคน​ก็​พอ​จะ​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง

“​ศิษย์​พี่​เสิ่น​ ​หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ ​คน​ผู้​นั้น​คงจะ​เกรงกลัว​บางอย่าง​ใน​เรือน​ที่​เรา​อยู่​ตอนนี้​และ​ไม่กล้า​บุก​เข้ามา​ ​การ​ที่​ทุกคน​อยู่​ที่นี่​ถือเป็น​ที่​ปลอดภัย​แล้ว​ ​ถึงอย่างไร​สอง​คน​นั้น​ก็​ตาย​ไป​แล้ว​และ​คน​ผู้​นั้น​คงจะ​กำลัง​ดักรอ​อยู่​ที่นั่น​ ​หาก​ข้า​ไป​คนเดียว​ ​ต่อให้​เผชิญ​กับ​ปัญหา​ ​การ​หลบหนี​เอาตัวรอด​ก็​จะ​ง่าย​กว่า​มาก​”

ฉิน​อวี​้​โม่​โบกมือ​ปัด​และ​กล่าว​ปฏิเสธ​ ​เรือน​ที่​ทุกคน​อยู่​ใน​ตอนนี้​ถือเป็น​สถานที่​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​แล้ว​ ​แม้​ไม่มี​การป้องกัน​ใด​ที่​เห็นได้ชัด​และ​ดูเหมือน​เป็น​เรือน​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​นาง​ก็​สัมผัส​ได้​ว่า​มัน​ไม่ธรรมดา​อย่างที่​เห็น​ภายนอก​อย่างแน่นอน

“​อวี​้​โม่​พูด​ถูก​ ​นาง​ไป​คนเดียว​จะ​ปลอดภัย​กว่า​มาก​ ​พวกเรา​เพียง​รอ​อยู่​ที่นี่​และ​รอ​ให้​นาง​กลับมา​จะ​ดีกว่า​”

เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่ย​และ​เมิ​่ง​เถี​ยน​กล่าว​ขึ้น​พร้อมกัน​ ​พวก​นาง​ตระหนักถึง​ความสามารถ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​อย่างดี​ ​แม้​ความแข็ง​แกร่ง​ภายนอก​อาจ​ไม่​มาก​เท่า​พวก​ตน​ ​ทว่า​พลัง​ใน​การต่อสู้​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​ก็​เหนือชั้นกว่า​ทุกคน​ใน​ที่​แห่ง​นี้​อย่างแน่นอน​ ​ต่อให้​เผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​ ​นาง​ก็​มีโอกาส​ที่จะ​เอาตัวรอด​ได้มาก

“​ถ้าเช่นนั้น​ก็​ระวังตัว​ด้วย​ล่ะ​”

เสิ่น​เสี่ยว​ไห่​ไม่​คัดค้าน​และ​กำชับ​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​อย่างจริงจัง

เถี​ยน​ซิน​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​ย้ำ​เตือน​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ระวังตัว​เช่นเดียวกัน​ ​ทุกคน​ไม่ต้องการ​ที่จะ​กลายเป็น​ภาระ​ตัวถ่วง​ของ​นาง

จากนั้น​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ออกจาก​เรือน​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เรือน​หลัง​ที่​วาง​ข่าย​อาคม​ไว้​อย่างรวดเร็ว

นาง​ไม่​รอช​้า​ขณะ​โบกมือ​เพื่อ​ถอน​ข่าย​อาคม​เก้า​มังกร​ทลาย​พิภพ​เพื่อ​ก้าว​เข้าไป​สำรวจ​สาเหตุ​การตาย​ของ​สอง​คนใน​นั้น

เวลานี้​ ​จิตวิญญาณ​ของ​เฮย​เฟิง​และ​ซวง​ซา​หายสาบสูญ​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย​และ​สูญเสีย​พลัง​ชีวิต​ไป​ทั้งหมด​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ภาพ​ที่​เห็น​ใน​ตอนนี้​ก็​บ่งบอก​อย่างชัดเจน​ว่า​พวกเขา​ไม่ได้​ดิ้นรน​ขัดขืน​ใด​ ​ๆ​ ​ก่อน​ตาย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พลัง​ของ​ศัตรู​ผู้​นั้น​แกร่งกล้า​พอที่​จะ​บดขยี้​พวกเขา​ได้​ง่าย​ ​ๆ​

​ ​ ​

ด้วย​การ​ที่​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เฮย​เฟิง​และ​ซวง​ซา​อยู่​ใน​ขอบเขต​เทพ​เซียน​หก​ดารา​เป็น​อย่างต่ำ​ ​เพียงเท่านี้​ก็​พิสูจน์​ให้​เห็น​แล้ว​ว่า​พลัง​ของ​ผู้​ที่​สังหาร​พวกเขา​จะ​ต้อง​เหนือ​ยิ่งกว่า​ขอบเขต​เทพ​เซียน​เสียอีก​และ​บรรลุ​ไป​ถึง​ขอบเขต​ที่สูง​กว่า​อย่างแน่นอน

ฉิน​อวี​้​โม่​อด​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ไม่ได้​ ​ด้วย​ความสามารถ​ของ​พวก​นาง​ ​หาก​ต้อง​ประจันหน้า​กับ​ศัตรู​ที่​ทรงพลัง​เช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​พวก​นาง​จะ​ไร้​หนทาง​ใน​การตอบโต้

ขณะที่​นาง​กำลังจะ​กลับ​ไป​เพื่อ​หารือ​กับ​เสิ่น​เสี่ยว​ไห่​และ​ทุกคน​เกี่ยวกับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ ​จู่​ ​ๆ​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​รู้สึก​ว่า​มีพลัง​ประหลาด​บางอย่าง​ที่​เข้า​ครอบงำ​ร่าง​ของ​นาง​จน​ขยับเขยื้อน​ไม่ได้

พลัง​ประหลาด​ดังกล่าว​พุ่งตรง​เข้าไป​ใน​ห้วง​จิต​ของ​นาง​ราวกับ​ต้องการ​จะ​กลืน​กิน​จิตวิญญาณ​ของ​นาง​ซึ่ง​ทำให้​ฉิน​อวี​้​โม่​รู้สึก​อึดอัด​อย่างที่​สุด

“​ไสหัวไป​ให้​พ้น​ ​!​”

นาง​เปล่งเสียง​ออก​ไป​ขณะ​พลัง​ของ​กาย​เทพ​มายา​แผ่​ไป​ทั่ว​ร่าง​เพื่อ​ปัดเป่า​ภัย​คุกคาม​ที่เกิด​จาก​พลัง​ประหลาด​นั้น

ทันทีที่​การเคลื่อนไหว​กลับคืน​เป็นอิสระ​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​พุ่งตรง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​จาก​มาก​่อน​หน้า​นี้​ทันที​ในขณะที่​วาง​ข่าย​อาคม​รอบตัว​อย่างต่อเนื่อง

พลัง​ดังกล่าว​ก็​ไล่ตาม​นาง​ไป​อย่างใกล้ชิด​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​ความเร็ว​และ​ทักษะ​การเคลื่อนไหว​ที่​คล่องแคล่ว​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ถูก​พลัง​นั้น​คว้า​ไว้​ได้​และ​เสียท่า​ในที่สุด​

พลัง​นั้น​ยังคง​ตามมา​ไม่​หยุด​จนกระทั่ง​นาง​มาถึง​เรือน​หลัง​เดิม​และ​เข้าไป​หลบซ่อน​ตัว​ข้างใน

เป็นจริง​ดังที่​คิด​ไว้​ ​เรือน​หลัง​นี้​มี​ความ​พิเศษ​บางอย่าง​ที่​ทำให้​พลัง​ชั่วร้าย​นั้น​หวาดกลัว

“​พี่​อวี​้​โม่​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​?​”

เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​รอ​อยู่​ใกล้​ประตู​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​เมื่อ​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​ปรี่​กลับมา​อย่าง​ร้อนรน​ ​นาง​ก็​พุ่งตัว​เข้าไป​หา​และ​เอ่ย​ถาม​ทันที

ทุกคน​ก็ตาม​ไป​เช่นกัน​และ​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​แววตา​เป็นกังวล

“​นั่น​มัน​อะไร​ ​?​!​”

ทันใดนั้น​ ​เถี​ยน​ซิน​อุทาน​ลั่น​ขึ้น​มา​และ​ทุกคน​หันขวับ​ไป​มอง​เป็น​ตาเดียว​ ​ท่ามกลาง​ความว่างเปล่า​ตรงหน้า​ ​ดวงตา​สีแดง​โลหิต​คู่​หนึ่ง​กำลัง​จับจ้อง​ตรง​มาที​่​คณะ​ศิษย์​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​อย่าง​ไม่​กะพริบตา​ ​ร่าง​ของ​สิ่ง​นั้น​ซ่อนเร้น​อยู่​ใน​ความว่างเปล่า​โดย​สมบูรณ์​และ​มองเห็น​ได้​เพียง​ดวงตา​คู่​เดียว​ซึ่ง​ทำให้​ทุกคน​หวาดหวั่น​ใจ​ขึ้น​มา

ทุกคน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอยร่น​ไป​อย่าง​พร้อมเพรียง​ ​ทว่า​ดวงตา​คู่​นั้น​ก็​หายวับ​ไป​อย่างรวดเร็ว​ราวกับ​ไม่เคย​ปรากฏ​มาก​่อน

“​นั่น​มันตั​วอะ​ไร​กัน​ ​?​”

ดวงตา​ของ​สวี​เยว​่​เบิก​กว้าง​และ​กล่าว​ด้วย​ใบหน้า​ที่​หวาดกลัว​ ​พลัง​ที่​อัด​แน่น​ใน​ดวงตา​สีแดง​คู่​นั้น​น่าสะพรึงกลัว​จน​นาง​ทำได้​เพียง​สบตา​กับ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​และ​ยืน​แข็งทื่อ​เท่านั้น​ ​นับประสา​อะไร​กับ​การต่อสู้​กับ​มัน

“​ข้า​ก็​ไม่ทราบ​เหมือนกัน​ ​มัน​คงจะ​เป็นตัว​การ​เบื้องหลัง​ของ​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ที่นี่​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​จนปัญญา​ก่อน​นำ​ทุกคน​เข้าไป​ใน​เรือน

“​เฮย​เฟิง​และ​ซวง​ซา​ถูก​พลัง​นั่น​ช่วงชิง​จิตวิญญาณ​ไป​โดยตรง​และ​ไม่มี​โอกาส​ต่อสู้​ด้วยซ้ำ​ ​หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ ​พลัง​นั่น​คงจะ​มี​ความสามารถ​ใน​การ​โจมตี​และ​ควบคุม​จิตวิญญาณ​ของ​คู่ต่อสู้​ได้​โดยตรง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าวถึง​สถานการณ์​ของ​บุรุษ​ชุด​ดำ​ทั้งสอง​พลาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​ได้​เผชิญ​กับ​ปีศาจร้าย​ที่สามา​รถ​โจมตี​จิตวิญญาณ​ได้​โดยตรง​ ​สำหรับ​จอม​ยุทธ์​เช่น​พวก​นาง​ ​หาก​แข็งแกร่ง​มาก​พอ​ ​พวก​นาง​ก็​สามารถ​จู่โจม​จิตวิญญาณ​ของ​คนอื่น​ได้​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​การ​ทำลาย​จิตวิญญาณ​ของ​อีก​ฝ่าย​ไป​โดยตรง​เป็นเรื่อง​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​นาง​จึง​สันนิษฐาน​ได้​ว่า​เจ้าของ​ดวงตา​สีแดง​โลหิต​นั้น​คงจะ​มิใช่​มนุษย์

“​หาก​มิใช่​มนุษย์​ ​แล้ว​มัน​เป็น​อสูร​ประเภท​ใด​กัน​ ​?​”

เถี​ยน​ซิน​กล่าว​ด้วย​ความ​ฉงน​งุนงง​ ​นาง​ไม่เคย​พบเห็น​อสูร​เช่นนั้น​แม้​ใน​ตำรา​ก็ตาม

“​ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​อสูร​ที่สามา​รถ​ช่วงชิง​จิตวิญญาณ​ได้​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ข้า​เคย​อ่าน​เจอ​บันทึก​บางอย่าง​ที่​ใกล้เคียง​กัน​”

เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​กล่าว​ขึ้น​ทันที​ ​แม้​ยัง​เยาว์วัย​ ​นาง​ก็​มีความรู้​ที่​กว้างขวาง​ใน​หลาย​ด้าน​ ​โดยเฉพาะ​จาก​การ​ที่นาง​ชอบ​อ่าน​ตำรา​เกร็ดความรู้​ต่าง​ ​ๆ​ ​อยู่​เป็นประจำ​ ​ตอนนี้​นาง​จึง​นึกถึง​บางสิ่ง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เหตุการณ์​ตรงหน้า​ขึ้น​มา​ได้

“​บันทึก​เกี่ยวกับ​อะไร​หรือ​ ​?​”

สายตา​ของ​ทุกคน​มอง​ไป​ที่​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​อย่าง​พร้อมเพรียง​และ​รอ​ให้​นาง​อธิบาย​ต่อ

“​นัก​ล่า​วิญญาณ​ ​!​”

เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​กล่าว​อย่าง​ช้า​ ​ๆ​ ​ทว่า​ทำให้​สีหน้า​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เสิ่น​เสี่ยว​ไห่​เปลี่ยนไป​ทันที

‘​นัก​ล่า​วิญญาณ​’​ ​แน่นอน​ว่า​พวก​นาง​ก็​เคย​ได้ยิน​มาบ​้าง​เช่นกัน​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​บันทึก​ใน​อดีต​กล่าวว่า​นัก​ล่า​วิญญาณ​ไม่ได้​มีตัว​ตน​อยู่​ใน​โลก​มนุษย์​ ​หากแต่​เป็น​นรก​ขุม​พิเศษ​ ​นัก​ล่า​วิญญาณ​ไม่มี​ร่างกาย​และ​สามารถ​ปลดปล่อย​พลัง​โจมตี​ทางจิต​วิญญาณ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ก็​ไม่มี​ผู้ใด​ที่สามา​รถ​ต้านทาน​พลัง​การ​โจมตี​ดังกล่าว​ ​เว้น​เพียงแต่​เป็น​จอม​ยุทธ์​ผู้​ที่​แกร่งกล้า​ที่สุด​เท่านั้น

สถานการณ์​นี้​คล้ายคลึง​กับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้นกับ​คู่​อสูร​วายุ​ทมิฬ

“​กล่าว​กัน​ว่านั​กล่าวิญ​ญาณ​มัก​วนเวียน​อยู่​ใน​พื้นที่​อันตราย​บางแห่ง​เพื่อ​เก็บเกี่ยว​จิตวิญญาณ​ของ​ผู้​ที่​ล้มตาย​ ​เมื่อ​รวบรวม​ได้มาก​พอ​ ​พวก​มัน​จะ​สามารถ​ควบแน่น​จิตวิญญาณ​เหล่านั้น​ให้​กลายเป็น​ลูกปัด​วิญญาณ​และ​สร้าง​กาย​เนื้อ​ขึ้น​มา​ได้​ซึ่ง​จะ​ดู​ไม่​แตกต่าง​จาก​คน​ทั่วไป​ ​ทว่า​พลัง​ของ​พวก​มัน​จะ​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งกว่า​สิ่งมีชีวิต​อื่น​ ​ๆ​ ​ใน​ดินแดน​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ข้า​จึง​คิด​ว่า​ศัตรู​ที่​พวกเรา​กล่าวถึง​คงจะ​เป็น​นัก​ล่า​วิญญาณ​เหล่านั้น​ ​!​”

เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​กล่าว​ต่อ​และ​ใบหน้า​ของ​นาง​เริ่ม​แสดง​ความตึงเครียด​มากขึ้น

“​แม่เจ้า​ ​เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​กัน​ดี​ ​?​!​”

เมื่อ​ได้​ทราบ​ว่า​ศัตรู​ที่​ต้อง​เผชิญหน้า​ถือได้ว่า​เป็น​สิ่ง​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ที่สุด​ใน​โลก​หล้า​ ​ทุกคน​ก็​ตื่น​อก​ตกใจ​กัน​ขึ้น​มา​ ​นัก​ล่า​วิญญาณ​เป็นตัว​ตน​ที่​น่าหวาดกลัว​อย่างที่​สุด​และ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​ทุกคน​ตระหนัก​ดี

ด้วย​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ปัจจุบัน​ของ​พวก​นาง​ ​เกรง​ว่าการ​ที่​พวก​นาง​มาที​่​นี่​จะ​เป็นการ​นำ​ศีรษะ​มาถ​วาย​โดยแท้​…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด