ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 61 ครึ่งล้าน

อ่านนิยายจีนเรื่อง ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 61 ครึ่งล้าน อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์

ตอนที่ 61 ครึ่งล้าน

และเมื่อหยางซื่อเหมยเดินเข้าไปมองอย่างใกล้ชิดจึงค้นพบว่าปัญหานี้เกิดจากภาพวาดทิวทัศน์ที่แขวนเอาที่บนฝาผนังด้านหน้าที่นั่งของฮัวเหวินหัวซึ่งกรอบรูปภาพนี้เป็นกระจกที่ส่องแสงพุ่งตรงมายังตําแหน่งที่เขานั่ง

“คุณฮัว ระยะหลังมานี้ธุรกิจการลงทุน ในประเทศของคุณไม่ค่อยราบรื่น ใช่หรือเปล่าคะ?และมีหลายครั้งที่โชคลาภกําลังมาแต่คุณมักจะพลาดโอกาสเพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น”หยางซื่อเหมย สอบถาม

“ใช่ครับ ระยะหลังนี้ดูเหมือนว่าธุรกิจ ของผมมักจะติดขัดอย่างไม่คาดคิด”

และในทันใดดวงตาที่มืดมนของชายผู้ นี้ก็สว่างเป็นประกายขึ้นพร้อมกับจ้อง มองไปที่หยางซื่อเหมยด้วยความคาดหวัง

“อาจารย์น้อยมองเห็นสาเหตุของ ปัญหาแล้วใช่หรือเปล่าครับ?”

“ปัญหามันอยู่ที่การจัดวางสิ่งของในสํานักงานของคุณ”หยางซื่อเหมยหัว เราะและกล่าวอีกว่า

“ตําแหน่งของสิ่งของเหรอครับ? แต่ ผมขอให้ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยมาจัดห้องทํางานนี้เป็นการส่วนตัวเลยนะครับ!ทําไมถึงมีปัญหาได้?” ฮัวเหวินหัวเอ่ยถามด้วยความสับสน

ดังนั้นหยางซื่อเหมยจึงชี้ไปที่ภาพวาด ทิวทัศน์บนผนังพร้อมกับกล่าวว่า

“เดิมที่ทุกอย่างที่นี่ถูกจัดวางไว้อย่างดี และรูแบผฮวงจุ้ยก็มีความเหมาะสําหรับธุรกิจแต่ภาพวาดนี้ทําให้ความมั่งคั่งรั่ว ไหลออกไป”

“ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยกล่าวว่า รูป ภาพทิวทัศน์ที่ดีสามารถทําให้การทํางานเป็นไปอย่างราบรื่นและร่ํารวยมั่งคั่งดังนั้นผมจึงใช้เงินจํานวนมากจ้างศิลปินที่มีชื่อเสียงช่วยวาดภาพนี้ให้และแขวนเอาไว้ที่นี่

เพื่อสร้างความโชคดีและชื่นชมมัน ซึ่ง สิ่งนี้เป็นการใช้กระสุนนัดเดียวแต่สามารถยิงนกได้ถึงสองตัว แล้วอาจารย์น้อยจะบอกว่ามันทําให้ความมั่งคั่งรั่วไหลออกไปได้อย่างไร?”

“แต่เดิมไม่มีอะไรผิดปกติกับภาพวา ดทิวทัศน์ที่แขวนอยู่ โดยมันสามารถมีบทบาทในการส่งเสริมความมั่งคั่งได้ แต่ คุณไม่ควรติดกรอบด้วยกระจกสร้างเงา สะท้อน เนื่องจากกระจกนี้หันหน้าไป ทางโต๊ะทํางานของคุณ

ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อห้ามในสํานักงานทั่วไป ดังนั้นรูปภาพนี้จึงไม่ควรวางไว้ด้านหน้าโต๊ะทํางาน หรือควรเปลี่ยนพื้นผิวกระจก ด้วยการวัสดุที่ไม่สะท้อนแสงมิฉะนั้นความมั่งคั่งของคุณก็จะรั่วไหลจนทําให้ ทุกอย่างเกิดความผิดพลาด”

และเมื่อฮัวเหวินหัวได้ยินดังนั้นเขาก็ เหงื่อแตกจนท่วมตัว และเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะ ในตอนแรกเขากังวลว่าภาพวาดจะเสียหาย ดังนั้นเขาจึงจงใจสั่งให้ใส่กรอบกระจกแก้วซึ่งมันเป็นการ ฝ่าฝืนข้อห้ามของฮวงจุ้ยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่หยางซื่อเหมยเตือนเขา!

ต่อมาฮัวเหวินหัวได้สั่งให้คนงานเข้า มานําภาพทิวทัศน์ออกไปทันทีจากนั้นเมื่อแก้ไขแล้วจึงค่อยนํามาติดตั้งใหม่

“อาจารย์น้อยครับ เราต้องแก้ไขตรง จุดไหนอีก…”

ฮัวเหวินหัวยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อขณะ ที่กล่าวกับหยางซื่อเหมยอีกว่า

“ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือยัง ครับ?”

จากนั้นหยางซื่อเหมยได้ขอให้เขา ช่วยซื้อปากการูนกับชาดและกระดาษสีเหลือง อีกทั้งยังสั่งให้เขาเตรียมผลไม้ เหล้า อาหารคาวหวานธูปและเครื่อง สังเวยอื่น ๆ เพื่อเตรียมตั้งโต๊ะทําพิธี
การปลุกเสกเครื่องรางเป็นอาวุธวิเศษ ลี้ลับที่ส่งผลต่อผู้คนและเทพเจ้าดังนั้นจึงเรื่องที่จะทําอย่างมักง่าย ทําให้มีคําก ล่าวที่ว่า
การวาดอักษรรูนหากไม่ได้รู้เคล็ดลับ มันจะทําให้ผีและเทพเจ้าซ้ําเติมและมีหลายร้อยหรือหลายพันวิธีในการปลุก เสกเครื่องราง โดยบางคนต้องเรียกวิญญาณมาสถิตอยู่ที่เครื่องรางหรี อบางคนอาจจะบริกรรมคาถากํากับ…

โดยผู้เขียนจะต้องทําจิตใจให้ใส สะอาดและมีสมาธิที่สุด มิฉะนั้นภูตผีปีศาจร้ายอาจจะมาพังทลายพิธี ดังนั้นก่ อนปลุกเสกเครื่องรางผู้ประกอบพิธีจะต้องบวงสรวงด้วยเครื่องหอมเพื่อบูชา เทพเจ้าแห่งสวรรค์และโลก

หลังจากพิธีกรรมเสร็จสิ้นเด็กสา วก็หยิบหมึกหรือชาดออกมาพร้อมกับนั่งขัดสมาธิและตั้งจิตให้แน่วแน่เพื่อบรรจง วาดอักษรรูนลงบนแผ่นกระดาษสีเหลืองอย่างต่อเนื่องในคราวเดียวโดยไม่ต้อง หยุดตรงกลาง และในขณะที่วาดอักษรรูนผู้ประกอบพิธีจะต้องบริกรรมคาถาไปด้วย

นอกจากนี้มือซ้ายที่ไม่ได้ถือปากกาจะต้องทําท่าทางโดยเปลี่ยนปลายนิ้วทั้งสี่ ของมือซ้ายไปในลักษณะต่าง ๆ ที่แตกต่างกันสี่รูปแบบซึ่งแต่ละแบบมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป

และจุดประสงค์ของการใช้ยันต์นี้กล่าวกันว่าเพื่อรับพลังจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ซึ่งนั่นก็คือพลังหยินและหยางหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่บูชา

ต่อมาหลังจากวาดอักษรรูนแล้วเด็ก สาวก็ชี้ปากกาขึ้นลงและส่งพลังทั้งหมดไปยังแผ่นกระดาษสีเหลืองด้วยพร้อมกับตีด้วยปากกาสามครั้งและใช้ดาบเพชรชี้ไปที่กระดาษรูน

จากนั้นเธอได้ใช้นิ้วในการบังคับกระ ดาษรูนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างติดอยู่กับเครื่องรางด้วย ท่าทีที่น่าเกรงขาม และไม่นานนักกระดาษเครื่องรางก็ถูกดึงออกมาวนรอบ เปลวเทียนที่มีความร้อนแรงสามรอบแต่พิธีกรรมปลุกเสกก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

ขณะที่ฮัวเหวินหัวไม่กล้ามองไปที่ หญิงสาวตรงหน้าในตอนที่เธอกําลังร่ายมนตร์ที่เขาไม่เข้าใจลงบนกระดาษสี เหลือง และในที่สุดพิธีกรรมก็เสร็จสมบูรณ์ซึ่งมันลึกลับราวกับมาจากเทพ เจ้าในสมัยโบราณ

และแน่นอนว่าหยางซื่อเหมยสามารถ วาดอักษรรูนได้อย่างราบรื่นในครั้งนี้โดยไม่มีการหยุดชั่วคราวหรือหยุดชะงักก ลางคัน ขณะที่เขาพบว่า มันช่างมีเสน่ห์ และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเธ อก็พับยันต์แผ่นนั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม และมอบให้กับฮัวเหวินหัวเก็บเอาไว้ในกระเป๋า

ขณะที่ก่อนหน้านั้นฮัวเหวินหัวเคย สงสัยในตัวเด็กสาวหยางซื่อเหมยแต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นเธอเคลื่อนไหวด้วย พลังที่เปี่ยมล้นเพื่อปลุกเสกเครื่องรางมันจึงทําให้เขาเกิดความเชื่อมั่นอย่าง เต็มที่และมีความเชื่อถือในตัวเธอ

ดังนั้นหลังจากเก็บเครื่องรางแล้ว เขา จึงขอบคุณด้วยการเขียนเช็คครึ่งล้านให้กับเธอเป็นรางวัล ขณะที่หยางซื่อเหมย ยอมรับเช็คใบนั้นด้วยความเต็มใจ

อย่างไรก็ตามในฐานะอาจารย์ฮวงจุ้ย สิ่งที่เขาทําคือเปิดเผยความลับสวรรค์โดยการปรับเปลี่ยนสิ่งที่ส่งผลร้าย ซึ่งเป็ นการต่อต้านกฎแห่งธรรมชาติโดยใช้วิธีการคํานวณ

ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกรรมบาง อย่าง ที่สามารถส่งผลให้เกิดข้อเสียห้าประการและข้อบกพร่องสามประการแก่ ตนเอง ดังนั้นอาจารย์ฮวงจุ้ยจะต้องรวบรวมเงินจํานวนหนึ่งเพื่อชดเชยสิ่งนี้โดย การทําบุญ

และเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยน แปลงชีวิตของผู้อื่นเช่นนี้ ในอนาคตหยางซื่อเหมยยังคงวางแผนที่จะทํามัน ให้น้อยลง โดยเธออาจจะทําเพียงแค่ให้ คําแนะนําแก่ผู้คนเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ซึ่งมัน คงจะเป็นการดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงความ ชั่วร้ายและการทําร้ายตัวเองกับครอบครัวของเธอ

จากนั้นฮัวเหวินหัวก็ต้องการให้เลขา ไปส่งหยางซื่อเหมยกลับบ้าน แต่เธอกลับปฏิเสธ เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองที่ ไม่ใหญ่โตนัก ดังนั้นการเดินกลับบ้านจากที่นี่จึงใช้เวลาเดินเพียงแค่ยี่สิบนามี เท่านั้นและเหตุผลอีกประการคือเธอต้องการเดินเล่นแบบสบายๆ ตามท้องถนนเพื่อดูว่ามีอะไรแปลกใหม่บ้าง

แต่ทันใดนั้นผู้ชายหลายคนก็เดินเข้า มาขวางทางเธอ ขณะที่เห็นว่าหนึ่งในนั้นที่ปากของเขากําลังคาบบุหรี่ด้วย ใบหน้าที่ดูเหมือนอันธพาลกําลังจ้องมองมาที่หยางชื่อเหมยพร้อมกับสีหน้า ขบขัน

“สาวน้อยหยุดคุยกับพี่ก่อนสิจ๊ะ?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด