ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 67 เข่าทรุด
นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์
ตอนที่ 67 เข่าทรุด
ตอนที่ 67 เข่าทรุด
หลังจากที่กล่าวจบเขาก็เดินไปตรงหน้าหยางซื่อเหมย แต่ก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไรออกมาอีก ทันใดนั้นมือของ เด็กสาวก็ยื่นมาจับไหล่ของเขาและระดมกําปั้นใส่เขาอย่างไม่ยั้งจากนั้นก็โย นร่างของเขาใส่ฝาผนังอาคาร
ซึ่งในตอนนั้นหลินตงหนานได้หันกลับมาเห็นจังหวะที่ลิงตัวผอมถูกเหวี่ยงไปที่กําแพงและได้ยินเสียงกรีดร้องจากผู้คน รอบข้าง ขณะที่คิดว่าซี่โครงของเขาน่าจะหักหลายซี่
ส่วนฉินไคเหวินก็มีอาการตกตะลึงพร้อมกับกะพริบตาถี่ยิบด้วยความไม่เชื่อและสงสัยตนเองกําลังเห็นภาพลวงตา หรือเปล่า?
สําหรับหยางเจี้ยนหมิงที่ไม่สามารถขยับแขนได้เมื่อเห็นหยางซื่อเหมยโยนลิงผอมออกมาเหมือนหุ่นเชิดแล้ว เขาก็รู้สึกตกใจมากจนต้องรีบถอยหลังไปสองสามก้าว
ต่อมาเมื่อทุกคนที่อยู่ในห้องบริเวณนั้นได้ยินการเคลื่อนไหวต่างก็รีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น
ขณะที่เท้าของหยางซื่อเหมยยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและริมฝีปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยพร้อม กับรอยยิ้ม แต่นัยน์ตาที่มืดมิดและเย็นเยียบจนคนรอบข้างรู้สึกว่าอุณหภูมิ บริเวณนั้นลดลงอย่างน่าเหลือเชื่อ
และเมื่อชายหลายคนที่อยู่ด้านหลังหลินตงหนานเห็นลิงผอมถูกโยนในฉับพลันพวกเขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ เกรงกลัวความตายเพื่อล้อมรอบหยางซื้อเหมยเอาไว้
“ไปให้พ้น! ถ้ายังไม่อยากตาย!” หยางซื้อเหมยกล่าวอย่างเย็นชา
ในฐานะที่คือผู้ฝึกฝนวิชาดังนั้นเธอจึง ไม่ต้องการก่ออาชญากรรมและไม่ต้องการสะสมบาปกรรมกับความชั่วร้ายมากเกินความจําเป็นโดยเป้าหมายของเธอคือหลินตงหนานเท่านั้นและหากพวก เขาไม่เข้ามาข้องเกี่ยวด้วยเธอก็จะไม่ทําร้ายพวกเขา
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งนี้เอาเสียเลย!
ดังนั้นหยางซื่อเหมยจึงไม่จําเป็นต้องทําตัวสุภาพกับคนเหล่านี้อีกต่อไปโดยพบว่าเพียงแค่เธอเคลื่อนไหวไม่กี่กระ บวนท่า และเมื่อทุกคนกะพริบตาในทันใดผู้ชายเหล่านั้นก็ถูกเธอจัดการจนลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
แต่ยังเหลือหลินตงหนานที่ยังคงยืนอยู่ด้วยอาการสงบเงียบเมื่อเขาทราบว่า หญิงสาวกําลังเล็งตรงมาที่ตัวเอง!
ถึงจะแสดงท่าที่เช่นนั้นแต่เขาก็รู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นว่าคนที่แข็งแกร่งและทรงพลังในกลุ่มของเขาถูกเธอเหวี่ยงไปเหมือนคนที่ทําด้วยไม้เนื่องจากไม่มีการขัดขืนใด ๆ และถ้าไม่เห็นมันด้วยตา ของตนเองเขาจะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าเด็กสาวที่มีท่าทางนุ่มนวลจะมีพลังมากถึงเพียงนี้
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะใช้มือสัมผัสวัตถุแข็งที่เหน็บอยู่บริเวณเอวของตนเองซึ่งมันเป็นปืนพกขนาดเล็กที่มีคนแอบนํากลับมาจากต่างประเทศเพื่อใช้ป้องกันตัวเขา
อันที่จริงนักเลงข้างถนนที่ใจคอโหดเหี้ยมอย่างเขาบางครั้งว่าจะชกมวยเก่งแค่ไหนมันก็ไม่ดีเหมือนกระสุนปืนและเขาเห็นว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ามีวิชากังฟูขั้นสูงมิหนําซ้ํายังมีพลังที่มากมาย ผิดปกติซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับผู้ชายที่แข็งแกร่ง
และตอนนี้ดวงตาของหยางซื่อเหมยก็กําลังจ้องมองไปที่ผู้ชายตรงหน้าโดยทราบถึงความตั้งใจและการกระทําในขั้น ตอนต่อไปของเขา
ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็เป็นคนที่มีเลือดเนื้อเหมือนกับคนอื่นดังนั้นเธอจึงไม่สา
มารถต้านทานลูกกระสุนได้และโดยธรรมชาติเธอจะไม่มีวันให้โอกาสนี้แก่เขา
ดังนั้นทันทีที่เขาดึงปืนออกมาจากบริเวณเอวเธอก็ดีดนิ้วที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังหยินไปทางข้อมือของผู้ชายคนนี้ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนกของผู้คนรอบข้าง
ขณะที่หลินตงหนานรู้สึกว่าข้อมือของตนเองเย็นเฉียบราวกับถูกฟาดด้วยใบมีดน้ําแข็งอย่างรุนแรงและราวกับว่าความเย็นนั้นเจาะเข้าไปในกระดูกข้อมือของเขาทําให้แขนทั้งแขนของเขาอ่อนแรงลงส่งผลให้ปืนในมือของเขาร่วงหล่นลงบนพื้นทันที
จากนั้นแค่เพียงสาวน้อยสะบัดหน้าร่างของเขาก็กระโจนขึ้นไปบนอากาศและร่วงหล่นลงบนพื้นในทันใดขณะที่หลินตงหนานรู้สึกเพียงว่าไหล่ของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรงและด้วยการพยายามขยับแขนขวาจึงทําให้ทราบว่ากระดูก แขนของเขาหักแหลกละเอียดทั้งหมดแขนข
แต่ก่อนเขาจะขยับขาเพื่อที่จะเตรียมวิ่งหนีทันใดนั้นเขาก็เด็กสาวเตะเข้าไปที่เข่าข้างซ้ายจนทําให้เขาจําเป็นต้องย่อขาข้างนั้นลง เท่านั้นยังไม่พอเธอยังยกขาอันเรียวยาวขึ้นเพื่อเตะไปที่เข่าอีก ข้างหนึ่งของเขา
โอ๊ย…!
ส่งผลให้กระดูกสะบ้าหัวเข่าของเขาหักทําให้ผู้ชายคนนี้อยู่ในท่าคุกเข่าด้านหน้าหญิงสาว
และเมื่อได้เห็นภาพนี้ผู้สังเกตการณ์ทั้งหมดต่างก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจพร้อมกับจ้องมองไปยังหญิงสาวในชุดขาวด้วยความตกใจ
แต่สิ่งที่เห็นคือ เธอสงบนิ่งและริมฝีปากของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ดวงตาของเธอเย็นชาราวกับพายุเฮอริเคนในทะเลลึกซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่ากําลังจะกลืนกินทุกสิ่งและกวาดล้างทุกอย่างบนโลกใบนี้
ก่อนหน้านี้ทุกคนเคยรู้สึกว่าเธออ่อนแอและบริสุทธิ์อีกทั้งยังน่าทะนุถนอมแต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกเพียงว่าเธอเป็นเหมือนนักฆ่าจากที่มาจากนรกด้วยพลังที่น่ากลัวในร่างกายของเธอ
และเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมของหยางซื่อเหมยในตอนนี้ ทันใดนั้นหยางเจี้ยนหมิงก็มีอาการตกตะลึงจนถึงจุดที่ยืนตัวแข็งที่อโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่รู้สึกเพียงแค่ว่าขาของเขาอ่อนแอและไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อยด้วยความคิดที่ว่าหากเธอใช้วิธีนี้กับตัวเองเขาคงจะเป็นเหมือนกับเศษขยะข้างถนน
สําหรับเพื่อนของเขาทั้งสามคนคือหวังหลินโจวหยานและจางอี้เถียนต่างก็หันกลับมามองตากันด้วยความรู้สึกกังวลใจ
ขณะที่คิดว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กผู้หญิงที่มีทักษะเช่นนี้จะกลายเป็นของเล่นบนเตียงของหยางเจี้ยนหมิงอย่างเชื่อฟัง
โดยพวกเขาจําได้ว่า เมื่อที่เธอผลักประตูเข้ามาตอนนั้นดวงตาสีดําของเธอมีความเกลียดชังมากประมาณว่าเธอต้องการทําอะไรบางอย่างกับพวกเขาแต่โชคดีที่อาจารย์โง่เขลาคนนี้โผล่เข้ามา ขวางเอาไว้ทันและยังโชคดีซ้ําสองอีกที่ผู้โชคร้ายหลินตงหนานโดนเธอจัดการเสียจนหมอบทําให้พวกเขาสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้
แต่ทันทีที่คิดถึงการเคลื่อนไหวของเธอที่สามารถทําให้เข่าของผู้ชายคนนั้นทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรงในฉับพลันพวกเขาก็เขาก็รู้สึกเจ็บที่แขนขาและเท้าจึงพยายามรักษาระยะห่างจากหยางเจี้ยนห มิงโดยไม่รู้ตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทําร้ายจากเธอที่กําลังหันหน้าไปหาหยางเจี้ยนหมิง
จากนั้นเมื่อหญิงสาวจ้องมองไปที่หลินตงหนานที่กําลังคุกเข่าต่อหน้าตัวเอง ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่เกิดจากแขนที่หักในชาติที่แล้วก็ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งทําให้นัยน์ตาดําของเธอหดตัวลง จนทําให้ผู้คนรอบข้างสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกขณะที่เธอพุ่งตัวตรงไปที่หลินตงหนาน
ส่วนหลินตงหนานนักเลงข้างถนนผู้ซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานจากกระดูกหักแหลกละเอียดก็กําลังนอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความพยายามที่จะต่อต้านความเจ็บปวดอย่างรุนแรงด้วยการกรีดร้องรา วกับสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่งและร่างอันทึกบินของเขาก็เป็นเหมือนกับวัวที่กําลังโกรธเกรี้ยว
คอมเม้นต์