ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 79 น้ําเต้าหยก

อ่านนิยายจีนเรื่อง ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 79 น้ําเต้าหยก อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 79 น้ําเต้าหยก

เมื่อเขาได้ยินค่าว่า เธออายุห้าขวบ ซึ่งซวนก็นึกถึงภาพของเด็กสาวคนนี้ในวัยเด็กที่ถือวัตถุบิดเบี้ยวชิ้นหนึ่งของราชวงศ์ซ่งในมือเล็กและขาวอวบของเธอกับริมฝีปากที่อวบอิ่มน่ารัก ทําให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยน

มู่หรงหยุนซึ่งพยายามหาเหตุผลมาหักล้าง เนื่องจากเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคุณนายมิน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่เชื่อว่าจะมีวัตถุในโลกนี้ที่มีวิญญาณชั่วร้ายอยู่จริง

และเขากําลังจะสอบถาม แต่ทันใดนั้นเครื่องรางที่แกะสลักจากหยกบรรพบุรุษที่ห้อยอยู่บนคอของเขาก็หลุดร่วงลงสู่พื้นทําให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ส่งผลให้มู่หรงหยุนชิงยืนตัวแข็งที่อด้วยความรู้สึกตกใจทันที

ขณะที่หยางซื่อเหมยขมวดคิ้วขึ้นและจ้องมองลงไปพบกลุ่มวิญญาณชั่วร้ายสีดําที่เกาะอยู่บนเครื่องรางหยกที่แตกสลาย ปรากฏว่าเครื่องรางหยกชิ้นนี้สามารถช่วยให้มู่หรงหยุนชิงหยุดสนใจเรื่องอื่นได้

แน่นอนว่าหยกเป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณ หลังจากใส่ไปนานวันเข้ามันก็จะร่วมชะตากรรมเดียวกันกับคนผู้นั้น และถ้าวันหนึ่งมันเกิดแตกสลายขึ้นมาอย่างกะทันหัน นั่นก็เป็นเพราะมันช่วยคุณสกัดกั้นสิ่งเลวร้ายมันได้

ดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณเราชาวจีนจึงมักจะมีความเชื่อและชอบสวมใส่หยกบนร่างกายของพวกเขา อีกทั้งจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ก็ยังพบว่า อัญมณีหลายชนิดมีธาตุที่ดีต่อร่างกายมนุษย์เช่นโครเมียมและเหล็ก

เนื่องจากหยกเป็นสสารที่มีก๊าซมากที่สุด มันจึงมักถูกสวมใส่เพื่อแทรกซึมสารที่มีประโยชน์เหล่านี้เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านจุดสัมผัสของผิวหนังซึ่งสามารถปรับสมดุลหยินและหยางในเลือดและทําให้สุขภาพแข็งแรง

โดยหินหยกบางชนิดยังมีลักษณะทางกายภาพที่ยอดเยี่ยม ตัวอย่างเช่น เพชรที่สามารถดูดซับแถบคลื่นที่มีความถี่สั้นในดวงอาทิตย์ท่าให้เป็น “ที่เก็บ” ที่เหมาะสําหรับรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งสามารถฆ่าเชื้อในร่างกายมนุษย์ได้ อีกตัวอย่างหนึ่งคือบุษราคัม คริสตัล ฯลฯ

ซึ่งรวมถึง “เพชรตาแมว” ที่มีลักษณะพิเศษด้วย โดยเคยมีความเชื่อว่าเมื่อครบรอบหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันปีจะมีเทพจากสรวงสวรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์หนึ่งองค์ โดยเทพดังกล่าวจะมาเกิดเป็นแมวและจะทิ้งเพชรตาแมวของตนไว้ให้ ก่อนที่จะกลับขึ้นไปบําเพ็ญตบะบนสรวงสวรรค์ดังเดิม เพื่อเป็นการตอบแทนเจ้าของที่เลี้ยงดู

ตามตาราการแพทย์โบราณ และบันทึกอื่น ๆ บันทึกเอาไว้ว่าหยกมีฤทธิ์ในการ “บรรเทาความโกรธ และทําให้หัวใจกับปอดชุ่มชื่น อีกทั้งยังช่วยบํารุงผมและอวัยวะภายใน หรือแม้แต่ผ่อนคลายจิตวิญญาณ นอกจากนี้ยังมีใบสั่งยาจํานวนมากที่มีหยกหรือใช้เป็นส่วนผสม

อย่างไรก็ตามคนทั่วไปมีนิสัยชอบสวมกําไลหยก ซึ่งมีทั้งบทบาทในการเสริมสร้างสมาธิด้วยตนเองและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบ

และหากต้องการสวมหยกที่ดี คุณสามารถเลือกหยกหลันเถียนหรือหยกเหอเถียน ได้ เนื่องจากทั้งสองชนิดนี้เป็นหยกน้ํา โดยคุณสมบัติของพวกมันจะช่วยปรับสมดุล ลมหายใจและอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์และพวกมันจะมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ดังนั้นยิ่งคุณสวมใส่นานเท่าไหร่จิตวิญญาณก็จะแข็งแกร่งและมูลค่าก็จะยิ่งสูงขึ้น

จากนั้นมู่หรงหยุนชิงได้ก้มลงหยิบชิ้นส่วนของเครื่องรางหยกบนพื้นด้วยความปวดใจ เพราะนี่คือหยกของครอบครัวของเขาที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งเขาจ้างช่างแกะสลักมันขึ้นด้วยตัวเอง

“คุณมู่หรงคะ เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา ฉันขอแนะนําว่าคุณต้องจัดการกับเคเรื่องประดับหยกในห้องนี้โดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นมันจะส่งผลเสียอย่างมากต่อพนักงานของคุณและฮวงจัยของทั้งร้าน วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณโชคดีมากที่มีเครื่องรางหยกนี้ คอยช่วยสกัดกั้นความชั่วร้ายเหล่านี้ทําให้ร่างกายของคุณไม่ได้เป็นอะไร”

หยางซื่อเหมยมองไปที่มู่หรงหยุนกิ่งและพบว่า ตําแหน่งสําคัญบนในหน้าของเขามืดมิดทําให้วิญญาณชั่วร้ายชนิดหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นบนร่างกายของเขาตามธรรมชาติ ซึ่งการก่อตัวนี้เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณหลายดวง

เดิมที่วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ถูกปิดกั้นโดยเครื่องรางหยกที่เขาสวม ทําให้เธอมอง ไม่เห็นความมืดมิดนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเครื่องรางหยกถูกทําลาย วิญญาณชั่วร้ายก็ถูกป ล่อยออกจากการกักขังทันทีและยืนอยู่ตรงหน้าของเขา

ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่ามู่หรงหยุนซึ่งเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกับคุณซงซวน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียงผู้ชายที่มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนและอ่ามหิต จากนั้นเมื่อนึกถึงสิ่งนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังและอยู่ห่างจากเขาให้มากขึ้น

ปกติแล้วมู่หรงหยุนซึ่งเป็นคนที่อ่อนไหวมาก ดังนั้นเมื่อเขาเห็นการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนของหยางซื่อเหมยเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ทันใดนั้นดวงตาหลังเลนส์นั้นก็เผยความเย็นชาและน้ําเสียงของเขาก็บ่งบอกถึงความไม่พอใจ

“คุณท่าลายเครื่องรางหยกของผมเหรอ?”

เมื่อเขาได้ยินข้อสงสัยของเขา คิ้วของหยางซื่อเหมยก็ขมวดและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกแยกที่เพิ่มขึ้นของมู่หรงหยุนชิง ส่งผลให้น้ําเสียงของเธอมีความเย็นชาในทันที

“คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”

มู่หรงหยุนซึ่งจ้องตรงไปยังดวงตาที่ส่องแสงเหมือนดวงดาวของเด็กสาวด้วยความโกรธเพราะความสงสัยว่าเธอเป็นคนทําเช่นนี้ โดยไม่ทราบว่าการคาดเดาของตนเองนั้นผิดหรือไม่

แต่ตอนนั้นเขาเฝ้าดูเธออยู่ แต่เขาก็ไม่เห็นว่าเธอขยับนิ้วแต่อย่างใด?

เมื่อเครื่องรางหยกแตกสลาย ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอและความคิดในหัวของเขาก็ปรากฏภาพของคนที่ถูกเขาสั่งฆ่าเหล่านั้นในช่วงชีวิตที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถูกฆ่าตายด้วยตัวเขาเอง

จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นไปลูบคิ้วเพื่อพยายามทําจิตใจให้สงบ ขณะที่หยางซื่อเหมยพยายามสังเกตด้วยดวงตาพิเศษ จึงพบว่ามีวิญญาณบางอย่างแฝงอยู่ในร่างกายของเขาอีกครั้งทําให้การแสดงออกบนใบหน้าของเขาเริ่มกระสับกระส่าย

และด้วยความใจดีของเธอ!

ทันใดนั้นเธอก็หยิบน้ําเต้าหยกที่ตนเองสวมใส่อยู่ออกมา โดยน้ําเต้าหยกนี้แกะสลักด้วยตัวเธอเอง แม้ว่าฝีมือมันจะไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเครื่องมือวิเศษที่เธอใช้ในการฝึกฝนเป็นเวลาห้าปีซึ่งสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไปได้จริง

“รีบสวมสิ่งนี้” เธอส่งน้ําเต้าหยกให้กับมู่หรงหยุนชิง

มู่หรงหยุนชิงจ้องมองไปยังน้ําเต้าหยกสีเขียวใสที่อยู่ในฝ่ามืออันอ่อนโยนจนเป็นสีดอกกุหลาบของเธอ ขณะที่เห็นว่า น้ําเต้าหยกชิ้นนี้ไม่มีความสวยงามอะไรเลย มิหน้าซ้ํายังแกะสลักจากหยกเนื้อธรรมดามาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงผลงานของเด็ก ๆ เท่านั้น

อย่างไรก็ตามหยางซื่อเหมยเป็นผู้แกะสลักหยกน้ําเต้านี้เมื่อห้าปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่สิบขวบเท่านั้น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด