Almighty Game Designer ตอนที่ 52 จิตวิญญาณแห่งเกมการ์ด

 

ตอนที่ 52 จิตวิญญาณแห่งเกมการ์ด

 

ในโลกเก่า “Plants vs. Zombies” นั้น กวาดล้างไปทั่วโลกยอดขายในเวลาแค่ 9 วันก็เกินกว่าหนึ่ง ล้านดอลลาร์สหรัฐและทําลายสถิติไปจํานวนมาก

 

จากการคํานวณราคา 3 ดอลลาร์ หาก “Plants VS. Zombies” ขายได้ 1.5 ล้านชุดจะสามารถสร้างรายได้ถึง 4.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 27 ล้านหยวน

 

แล้วกระแสรายเดือนของ “My name is MT” ยังไงงั้นหรอ?

 

ในช่วง 13 ปีก่อนตอนที่ตลาดเกมมือถือในประเทศยังอยู่ในขั้นพัฒนานั้น เกมก็มีรายได้ถึง 55 ล้านหยวนแล้ว

 

กลับกัน “Plants vs. Zombies” ต้องพึ่งตลาดโลก แต่ “My name is MT” ฟังแค่ตลาดในประเทศเท่านั้น

 

“Plants vs. Zombies” เป็นเกมเล่นคนเดียวที่สร้างรายได้จากราคาขายเกมและยอดขายก็จะลดลงอย่างช้า ๆ ส่วน “My name is MT” นั้นปล่อยให้เล่นได้ฟรี แม้จะผ่านไปสามถึงสี่ปีแล้วแต่ก็ยังคึกคักอยู่ แถมยังหมั่นอัปเดตเวอร์ชันอย่างต่อเนื่อง

 

ความสําเร็จของ “Plants vs. Zombies” ไม่สามารถเลียนแบบตามได้ ส่วนเกมแนว “My name is MT” นั้นสามารถผลิตได้จํานวนมาก

 

เมื่อเทียบเกมทั้งสองกันแล้วจะเห็นว่าการทํารายได้ของเกมการ์ดในประเทศแข็งแกร่งมากกว่า

 

“My name is MT” อาศัยรูปแบบ “domestic Card” แล้วนักพัฒนาเกมในประเทศก็พบวิธีสร้ายรายได้รูปแบบนี้ เกม “My name is MT” ถือว่าเป็นมาตรฐานสําหรับรุ่นของเกมการ์ด ทําให้เกมถูกลอกเลียนแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งสามสี่ปีต่อมาก็ได้พบเห็นเกมคล้าย ๆ กันนี้จํานวนมาก

 

ก่อนที่ “Legend of Dota” จะมาปฏิวัติเกมการ์ด เกม “My name is MT” ถือว่าเป็นเกมการ์ดระดับประเทศอย่างแท้จริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเกมทรราชย์ที่คลองตําแหน่งบนสุดของลิสเกมขายดีที่สุดอย่างยาวนาน

 

เฉินโม่อยากทํารายได้ด้วยเกม “My name is MT” เกมในประเทศเกมนี้เป็นขั้นตอนแรกเพื่อก้าวไปยังระดับที่สูงขึ้น คุณสมบัติหลายอย่างของมันในตอนนี้ตรงตามความต้องการของเฉินไม่พอดี

 

อย่างแรก มันสร้างง่าย รูปแบบศิลปะของ “My name is MT” เน้นไปที่การ์ดตัวละครซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเชิงตัวเลขเกม ระดับเกม ระบบเกม หรือภาพต้นแบบ เป็นเรื่องง่าย ๆ สําหรับเฉินโม่ในตอนนี้

 

ระบบเกมไม่ซับซ้อน มีกฎการเล่นค่อนข้างชัดเจน ตราบใดที่ทรัพยากรศิลปะมีพร้อม การพัฒนาจริง ๆ ใช้เวลาไม่นานสองสามเดือนก็พอแล้ว

 

อย่างที่สอง คือการคัดกรอง เกม “My name is MT” นั้นไม่เหมือนเกมอื่น ๆ ในประเทศที่กระตุ้นความเกลียดโดยเรียกเก็บเงินของผู้เล่นอย่างโหดเหี้ยม กลับกัน เกมนี้มอบหินปูนให้เยอะมาก โดยเฉพาะวันปีใหม่และวันเทศกาลที่มอบให้อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง มันถือว่าเป็นมิตรที่ดีกับผู้เล่นสายฟรีเลยทีเดียว

 

ยิ่งกว่าไปกว่านั้น ก็คือไม่มีเนื้อหาสําหรับ PVP หรือ GVG ที่มีความเข้มข้นสูง เช่น สงครามระดับประเทศหรือสงครามระดับเมือง เพราะความรู้สึกทนทานของผู้เล่นสายฟรีนั้นค่อนข้างต่ำ

 

จากมุมมองนี้ “My name is MT” ถือว่าเป็นงานในช่วงเปลี่ยนผ่านชั้นดี

 

อย่างที่สาม คือการโปรโมต

 

ในจุดนี้เฉินโม่มีไอเดียดี ๆ แล้ว

 

อะไรคือแก่นของเกมการ์ด?

 

ไม่ใช่ระบบเกม แต่เป็นไอพี

 

ไอพี นั้นเป็นชื่อเรียกย่อของทรัพย์สินทางปัญหาที่แปลเป็นภาษาจีน

 

ในวงการเกมในประเทศ ไอพี. เป็นตัวระบุค่าของการ์ด ในการ์ดเกมเหมือนกัน ก็มีการแบ่งเทรนคือ การ์ดสีส้มของนายเป็นกวนกับจางเฟย แต่การ์ดสีส้มของฉันเป็นถึงอีเกิลอายกับเซารอน เห็นได้ชัดว่ากลุ่มผู้ใช้จากการ์ดเกมทั้งสองนั้นดึงดูดความสนใจได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผู้เล่นยอมจ่ายเงินเพื่อเอาการ์ดที่ดีกว่า

 

เกมสามก๊กถือได้ว่ามีไอพี.ที่แย่ที่สุด เนื่องจากมีคนเล่นเกมสามก๊กจํานวนมาก ทุกคนเลยคุ้นเคยกับมันดี

 

ในโลกเก่า เกม Naruto, Pirates, Fate, Jin Yong ล้วนแล้วแต่มีไอพี.ค่อนข้างใหญ่ ตราบใดที่ได้รับไอพี.พวกนี้มาก็สามารถทําเงินได้ในหนึ่งนาทีโดยเปลี่ยนรูปแบบศิลปะใหม่

 

หากเกมการ์ดไม่มีไอพี. เท่ากับไม่มีจิตวิญญาณ ใช่แล้ว ไม่ใช่พูดเกินจริงเลย

 

ในการเล่นเกมการ์ดต้องมีไอพี

 

หลังจากที่เฉินโม่ตัดสินใจสร้างเกมการ์ด เขาก็คิดถึงการแก้ปัญหาเรื่องไอพี

 

ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือซื้อไอพีเอส.ใหญ่ ๆ ในโลกคู่ขนาน แต่หลังตรวจสอบใบเสนอราคาก็ต้องยอมแพ้

 

ความตระหนักในการคุ้มครองลิขสิทธิ์ของโลกและจิตวิญญาณแห่งของแท้ที่แข็งแกร่ง แถมราคาของไอพีก็แพง

 

ในโลกเก่า ไอพีที่เพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ก็มีราคาถึงเจ็ดหลักในโลกคู่ขนานราคามีแต่แพงขึ้นกว่า

 

แน่นอนว่า ไม่มีทางที่ไอพีจะมีราคาแพงทุกอัน เช่น ไอพีนิยายกับอนิเมะบางอันที่ไม่ค่อยโด่งดังก็สามารถซื้อได้ในราคาหลักแสน แต่ระดับงานพวกนี้ก็มีข้อจํากัดมากเกินไป เฉินโม่ไม่อยากหันไปดู

 

ไอพีเป็นสิ่งสําคัญจริง ๆ ซื้อไอพีที่ไร้ชื่อ ไม่ซื้อยังจะดีกว่า

 

สําหรับเฉินโม่ตอนนี้ ไอพีราคาถูก ๆ นั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ไอพีราคาแพงก็ไม่อาจซื้อเอามาได้ แน่นอนว่า ต่อให้เขาซื้อมาได้แต่เขาก็ไม่อยากใช้เงินไปจํานวนนี้

 

หลังจากเฉินโม่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจสร้างไอพีของตัวเอง และ “My name is mt” ก็เหมาะสุดแล้วสําหรับไอพีที่สร้างขึ้นเอง

 

แน่นอนว่าเฉินโม่ยังมีทางเลือกอื่นอยู่ เช่น

 

หันไปวาด “One Piece” หรือ “Naruto” ไง?

 

หรือจะเขียน “มังกรหยก” หรือไม่ก็ “แปดเทพอสูรมังกรฟ้า” ดี?

 

น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่

 

นิยายและอนิเมะนั้นมีกระบวนการที่ยาวนานกว่าจะถึงตอนจบ ไม่ต้องพูดถึงระดับการวาดภาพพิมพ์ต้นแบบในตอนนี้ของเฉินโม่ การจะควบคุม “One Piece” หรือ “Naruto” ให้ตามความเร็วสัปดาห์ละตอน เฉินโม่เองก็ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าที่ผลงานจะโด่งดังขึ้นมา

 

นิยายค่อนข้างเร็ว แต่นิยายไม่เหมาะสําหรับดัดแปลงเป็นเกม มักจะเริ่มดัดแปลงเป็นหนังก่อน แอนิเมชัน แล้วถึงจะเป็นเกม การข้ามไปดัดแปลงจากหนังเป็นเกมเลยนั้นมีน้อยมาก

 

เนื่องจากภาพของนิยายเป็นภาพลวงตา การวาดภาพพิมพ์ต้นแบบของตัวละครในเกมก็มีความเฉพาะเจาะจงมากจากภาพลวงตาไปเป็นรูปรรมจึงจําเป็นต้องตรวจสอบและเร่งการดัดแปลงหนังก่อนเพื่อให้รับประกันว่าไอพีนี้จะร้อนแรง

 

เมื่อบรรจงคัดเลือกอย่างดี แอนิเมชันของ “My name is mt” นั้นสร้างได้ง่ายที่สุดแล้ว ตอนนี้ก็ตรงตามความต้องการของเฉินโม่มากที่สุดพอดี

 

ในโลกนี้ วงการแอนิเมชันในประเทศมีการพัฒนาค่อนข้างดี เฉินโม่เลยทําแค่ต้องออกแบบตัวละคร โครงเรื่อง และเนื้อเรื่องของ “My name is mt” เท่านั้นเพื่อส่งให้บริษัทผลิตแอนิเมชันดําเนินกระบวนการผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ ถึงคุณภาพจะไม่ดีกว่าในโลกเก่าแต่ก็ไม่แตกต่างกันมาก

 

เหนือสิ่งอื่นใด แอนิเมชัน “My name is mt” ในโลกเก่าถูกสร้างขึ้นโดยแฟนแอนิเมชันไม่กี่คนเอง และค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมาก

 

แอนิเมชัน “My name is mt” ได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนแรกของ “My name is MT” ถูกอัปลงที่ iQiyi จํานวนครั้งวีดีโอถูกเล่นมากกว่า 300 ล้านครั้ง มันถือได้ว่าเป็นผลงานอันมหัศจรรย์จนได้รับขนานนามว่าเป็นรุ่นต่อมาของ “World of Warcraft” และกลายเป็นความทรงจําของผู้ที่ชื่นชมอนิเมะเลยทีเดียว

 

ดังนั้น งานนี้จึงสามารถสร้างสุดยอดไอพีได้อย่างแน่นอน

 

แน่นอนว่ามีความเสี่ยงอยู่

 

ปัญหาที่ใหญ่สุดก็คือความโด่งดังของ “My name is mt” ในโลกเก่านั้นอาศัยภูมิหลังของ “World of Warcraft” และฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่จึงร้อนแรง แต่ในโลกคู่ขนานไม่มีเกม “World of Warcraft” เมื่อคนดูได้ดูอนิเมะเรื่อง “My name is mt” เซตติ้งหลายอย่างก็อาจทําความเข้าใจไม่ได้เลย

 

ตัวอย่างเช่น MT หมายถึงอะไร? MT คืออาชีพอะไร? ทําไมนายถึงมีอาชีพ MT? คุณสมบัติของอาชีพนี้เป็นยังไง? ทําไมเขาถึงเป็นตัวเอกของเรื่องนี้?

 

เรื่องพวกนี้ไม่จําเป็นต้องอธิบายให้ผู้เล่น “World of Warcraft” ไอเดียนั้นเพียงพอแต่คนดูในโลกคู่ขนานจะสามารถเข้าใจวัฒนธรรมเกม World of Warcraft” ที่แฝงอยู่ เบื้องหลังเกม ” My name is mt” ได้ไหม?

 

ถอยออกมาแล้วพูดว่า ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจ งั้นแสดงว่า เงาก็ไม่มีผลจากไฟ-อนิเมะเรื่องนี้