Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 151 ข้าชอบศิษย์น้องหญิงของข้าม…

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 151 ข้าชอบศิษย์น้องหญิงของข้าม... อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

Storm in the Wilderness – ขุนศึกสยบสวรรค์ ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 151 ข้าชอบศิษย์น้องหญิงของข้าม…

 

ราชินีเผ่าอสูรประกาศจุดยืนของนางในที่สุด นางไม่ได้มองเยี่ยฉวนหากแต่มองอาวุโสเถียนชิงที่ยืนอยู่เบื้องล่างพลางเอ่ยถาม “เถียนชิง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”

 

“องค์ราชินี นี่มัน..”

 

อาวุโสเถียนชิงผู้กุมอํานาจในการตัดสินใจเอ่ยตะกุกตะกัก 

 

แม้ราชินีเผ่าอสูรจะไม่ได้ตอบตกลงโดยตรง แต่เห็นได้ชัดว่านางเห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างเยี่ยฉวนและหญิงพรหมจรรย์เพื่อสานสัมพันธไมตรีไม่เช่นนั้นนางคงไม่ถามขึ้นมา หากตัดสินใจไปแล้วจะมาขอความเห็นจากเขาด้วยเหตุใดกัน? หรือนางต้องการ…

 

อาวุโสเถียนชิงครุ่นคิดก่อนจะเข้าใจความหมายของราชินีเผ่าอสูร “เราควรสานสัมพันธไมตรีด้วยการแต่งงานกับสํานักหมอกเมฆา การให้หญิงพรหมจรรย์ตบแต่งกับศิษย์พี่ใหญ่นั้นสอดคล้องกับธรรมเนียมของสํานักเรา แต่หงจื่อเซียงช่างงดงามและมีเสน่ห์อีกทั้งยังมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม หาตัวจับยาก สํานักหมอกเมฆาจึงควรแสดงความจริงใจในการสู่ขอหญิงพรหมจรรย์ของเรา แต่ข้าเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันของสํานักหมอกเมฆาไม่สู้ดีนักจึงเกรงว่าจะเป็นการลําบากหากต้องมอบสินสอดทองหมั้นจํานวนมาก ถ้าเช่นนั้นให้คุณชายเยี่ยคืนนางพญามังกรขาวแห่งทะเลสาบมังกรนิทราให้แก่เราและถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่ใช้สร้างอาณาเขตเมื่อครู่นี้ดีหรือไม่?”

 

ดังโบราณว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด อาวุโสเถียนชิงเข้าใจเจตนาของราชินีเผ่าอสูรในทันที เขาสามารถเสนอบางสิ่งที่ราชินีไม่สมควรเอ่ยได้อย่างตรงไปตรงมา

 

สัตว์อสูรผู้พิทักษ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อาณาเขตขุนเขาและสายน้ำที่เยี่ยฉวนสร้างเมื่อครู่นั้นน่าตื่นตาโดยแท้! อาณาเขตโบราณอันหาที่เปรียบมิได้และไม่มีผู้ใดในสํานักล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ช่างเกินคาดเสียจริง!

 

การใช้สตรีพรหมจรรย์เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับอาณาเขตโบราณที่สามารถต้านทานการโจมตีของมหาปราชญ์ได้ย่อมคุ้มค่า!

 

อาวุโสเถียนชิงตัดสินใจฉับไว ราชินีเผ่าอสูรผู้นั่งอยู่เบื้องบนพยักหน้าเห็นด้วย

 

“ไม่นะ… ท่านอาจารย์ ข้า…”

 

หงจือเซียร้อนรนเมื่อสิ่งที่นางกลัวกําลังเกิดขึ้นจริง ทว่าเมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าของราชินีเผ่าอสูรที่เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะพูดจบจึงได้แต่ปิดปากเงียบและไม่กล้าเอ่ยคําใดอีก 

 

ในฐานะศิษย์สายตรงผู้เดียวของราชินีเผ่าอสูรย่อมรู้ดีถึงผลลัพธ์ของการทําให้อาจารย์อุ่นเคือง แม้จะทําตัวตามใจตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นแต่นางกลับไม่กล้าขัดขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ราชินี

 

“พ่อหนุ่ม เจ้าคิดอย่างไร?” ราชินีเผ่าอสูรทอดมองเยี่ยฉวน

 

“ข้าไม่พึงใจนัก หรือจะให้พูดตรงๆ คือแย่มากทีเดียว” 

 

เยี่ยฉวนสันศีรษะอย่างเคร่งเครียด

 

ทุกคนในห้องโถงใหญ่แห่งสํานักอสูรเมฆามองเยี่ยฉวนด้วยดวงตาเบิกกว้าง คําขอของอาวุโสเถียนชิงไม่ได้มากมายจนเกินไป เยี่ยฉวนจะได้สาวงามไปครองและได้กลับสํานักหมอกเมฆาอย่างปลอดภัยเพียงแค่ตอบตกลง ทว่าเขากลับปฏิเสธอย่างน่าเหลือเชื่อ!

 

สตรีพรหมจรรย์ผู้เป็นกังวลและไม่รู้จะขัดขืนการแต่งงานครั้งนี้อย่างไรมองเยี่ยฉวนอย่างตกตะลึง

 

“พ่อหนุ่ม เจ้าไม่อยากพรากจากงูเผือกตัวนั้นอย่างนั้นหรือ? หรือเจ้าอยากเป็นผู้เดียวที่ได้ครอบครองอาณาเขตโบราณกันแน่?” แววตาเย็นเยียบของราชินีเผ่าอสูรจับจ้องเยี่ยฉวนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

 

เมื่อใคร่ครวญให้ดีแล้ว สํานักอสูรเมฆาเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการแต่งงานระหว่างสํานักครั้งนี้เสียด้วยซ้ำ จึงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเยี่ยฉวนจะปฏิเสธเช่นนี้

 

“ไม่ๆ องค์ราชินี ท่านกําลังเข้าใจผิด งูเผือกตัวนั้นเป็นสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของสํานักอสูรเมฆา ถึงอย่างไรก็ต้องคืนให้พวกท่านอยู่แล้ว ข้าไม่เคยคิดจะพามันไปจากที่นี่เลย ส่วนเรื่องการถ่ายทอดเคล็ดวิชาเพื่อใช้งานอาณาเขตขุนเขาและสายน้ำนั้นข้าเองก็ยินดี ข้าไม่ชิงอาณาเขตเก่าแก่ของสํานักท่านไปหรอก”

 

เยี่ยฉวนมองราชินีอสูรเกศาขาวพลางเอ่ยคําอย่างจริงใจ “คําขอของข้าไม่ใช่เรื่องยาก ข้าเพียงต้องการเข้าเฝ้าเพื่อหยิบยืมบางสิ่งจากท่านเท่านั้น ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอแต่งงานสร้างพันธมิตร ถึงแม่นางจือเซียจะงดงามมากอีกทั้งยังมีฝีมือยอดเยี่ยม แต่นางไม่ใช่สตรีแบบที่ข้าชอบหรอก ข้าชอบศิษย์น้องหญิงของข้ามากกว่า”

 

เกิดความโกลาหลขึ้นในห้องโถง ผู้คนพากันกระซิบกระซาบขณะมองไปที่เยี่ยฉวนและสตรีพรหมจรรย์ที่มักจะมองข้ามผู้อื่นอยู่เสมอ

 

ราชินีเผ่าอสูรประหลาดใจ ขณะที่ใบหน้าของหงจื่อเซียขึ้นสีแดง ทั้งกายสั่นสะท้านด้วยโทสะ

 

ไอ้เด็กนี่พูดว่านางไม่ใช่สตรีแบบที่เขาชอบและด้อยกว่าศิษย์น้องหญิงของเขาอย่างนั้นหรือ?!

 

สตรีพรหมจรรย์ทั้งโกรธทั้งอับอาย นางคิดไปว่าเยี่ยฉวนมีใจให้นางราวกับคางคกเกียจคร้านที่บังอาจลิ้มลองเนื้อหงส์และไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะพูดจาเช่นนี้! เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มาเพื่อการแต่งงานแต่เขาจงใจให้ทุกคนเข้าใจผิด แสร้งทําท่าที่ใสซื่อไม่มีพิษภัยเพื่อจงใจทําให้นางขายหน้า!

 

หงจือเซียโกรธเสียจนอยากฆ่าเยี่ยฉวนซ้ำๆ หากทําได้และอับอายเกินกว่าจะมองหน้าผู้ใด

 

“ก็ได้ เจ้าต้องการยืมสิ่งใด? ว่ามา!” ราชินีเผ่าอสูรเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“เตาหลอมระดับสวรรค์” เยี่ยฉวนตอบ ในที่สุดเขาก็เผยจุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้หลังผ่านเหตุการณ์พลิกผันมานับไม่ถ้วน

 

ว่าอย่างไรนะ?!

 

อาวุโสเถียนชิง เถียนกู่ และคนอื่นๆ ร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกตะลึงสุดขีด “เป็นไปไม่ได้”

 

“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด! องค์ราชินี เตาหลอมระดับสวรรค์เป็นสมบัติล้ำค่าของเราตั้งแต่โบราณกาลทั้งยังหยุดยั้งชะตากรรมสํานักอสูรเมฆาของเราเอาไว้ จะให้ผู้อื่นยืมไม่ได้เด็ดขาดนะขอรับ!”

 

อาวุโสเถียนชิงยืนกรานปฏิเสธหนักแน่น “สํานักหมอกเมฆาเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา สํานักร่วมสมัยหลายแห่งก็ล่มสลายไปตามสายธารแห่งกาลเวลา ทว่าสํานักอสูรเมฆาของเรากลับเฟื่องฟูและก้าวสู่การเป็นสํานักอันไร้เทียมทานในทวีปแห่งนี้ นั่นเป็นเพราะเหตุใด? ก็เพราะความอุตสาหะของศิษย์รุ่นต่อๆ ไปและเตาหลอมระดับสวรรค์ที่ยับยั้งชะตากรรมของเราเอาไว้ไม่ใช่หรือขอรับ? หากปล่อยให้ผู้อื่นยืมสมบัติล้ำค่านี้ไปคงไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งหายนะที่ใกล้เข้ามาได้”

 

อาวุโสเถียนชิงผู้กุมอํานาจค้านหัวชนฝาโดยไม่มีการประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น

 

หากเยี่ยฉวนใคร่จะแต่งงานกับหงจือเซียก็ไม่เป็นไร แต่การยืมเตาหลอมระดับสวรรค์ที่ชี้ชะตาสํานักอสูรเมฆานั้นเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

 

“ใช่ขอรับองค์ราชินี เราให้ยืมไม่ได้!”

 

“เพียงแค่ปริปากคําแรกก็ขอยืมเตาหลอมระดับสวรรค์เสียแล้ว ไอ้เด็กเหลือขอนี่ก่อแต่ปัญหาจริงๆ! ไล่มันออกไป!” 

 

ศิษย์สํานักอสูรเมฆาจํานวนมากพร้อมใจกันคัดค้านและปฏิเสธคําร้องขอนี้

 

“พ่อหนุ่ม เห็นแล้วใช่หรือไม่? ใช่ว่าข้าไม่อยากให้ยืม แต่หากทุกคนในสํานักไม่เห็นด้วยก็คงทําอะไรไม่ได้”

 

ราชินีอสูรเกศาขาวมองดูเยี่ยฉวนและผู้อื่นก่อนกล่าวออกเชื่องช้า “เห็นแก่หยุนเฟยหวู่อาจารย์ของเจ้าและการที่เจ้าเดินทางมาไกลถึงเพียงนี้ ข้าจะมอบกระบี่บิน ยาเม็ด และก้อนผลึกให้ รวมถึงให้เถียนชิงคุ้มกันเจ้ากลับไปยังสํานักดีหรือไม่?”

 

“ไม่ขอรับ ข้าต้องการเตาหลอมระดับสวรรค์เท่านั้น” เยี่ยฉวนปฏิเสธ

 

“หากข้าปฏิเสธเล่า?” สีหน้าของราชินีเผ่าอสูรมืดมนลงทันใด

 

“องค์ราชินี ข้าเกรงว่าท่านไม่อาจปฏิเสธ!”

 

เยี่ยฉวนเหยียดยิ้มเย็นเยือกขณะกวาดสายตามองเหล่ายอดฝีมือแห่งสํานักอสูรเมฆา “พูดอย่างสุภาพคือข้ามาที่นี่เพื่อยืมเตาหลอมระดับสวรรค์ แต่พูดตรงๆ คือข้ามาที่นี่เพื่อเอามันกลับไป พวกท่านจะทําอย่างไรก็ตามใจ แต่ในเมื่อท่านไม่ให้ยืมก็ขอประทานอภัยหากข้าจําเป็นต้องทําตัวหยาบคายสักหน่อย”

 

“เจ้ากําลังข่มขู่ข้างั้นหรือ?” ราชินีเผ่าอสูรโกรธเกรี้ยว ใบหน้าของนางถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำค้างแข็ง เส้นผมสีขาวลอยขึ้นทันใด!

 

“ท่านจะคิดเช่นนั้นก็ได้ คิดให้ดีเถิดองค์ราชินี พวกท่านคิดว่าจะหยุดข้าได้อย่างนั้นหรือ?”

 

เยี่ยฉวนคุยโว สีหน้าของสํานักอสูรเมฆาแปรเปลี่ยนทันทีที่ได้ยิน พวกเขาชักกระบี่ออกจากฝึกพร้อมจิตสังหารแผ่ซ่านในอากาศ ทว่ากลับใจสั่นรัวเมื่อนึกถึงอาณาเขตขุนเขาและสายน้ำรวมถึงภาพเตาหลอมระดับสวรรค์ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ผืนดิน

 

ยิ่งเยี่ยฉวนวางตัวยิ่งใหญ่มากเท่าใดยิ่งดูเหมือนว่าเขามีแผนการที่แยบยลมากเท่านั้น เมื่อคํานึงถึงความแข็งแกร่งในการเรียกใช้อาณาเขตขุนเขาและสายน้ำแล้ว ชายหนุ่มผู้นี้มีฝีมือพอจะชิงเตาหลอมระดับสวรรค์ไปได้เป็นแน่!

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด