Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 203 หนทางแห่งปีศาจ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 203 หนทางแห่งปีศาจ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Storm in the Wilderness – ขุนศึกสยบสวรรค์

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 203 หนทางแห่งปีศาจ

บทที่ 203 หนทางแห่งปีศาจ

 

หลังจากช่วยเหลือหนาลุ่ยจากสํานักเบญจลักษณ์แล้วเยี่ยฉวนยังคงวิ่งนําทุกคนต่อไปอย่างดุเดือด อย่างไรซะตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยท่ามกลางอาณาเขตโบราณของปาหมื่นอสูรแห่งนี้แต่กลับไม่มีใครสามารถรับรู้ได้

ในขณะที่เยี่ยฉวนกําลังวิ่งไปด้านหน้าเพื่อเปิดเส้นทาง หลิวหงเหยียบกระบี่บินของตนตามมาติดๆ เช่นกัน ด้านหลังของนางคือโท่วปาเซียงเพียวพี่ใหญ่ลู่หนาซานและหนาสู่ย ทั้งหมดวิ่งตามเยี่ยฉวนและเพิ่มระยะห่างกับหลิวหงอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งยังปฏิเสธที่จะช่วยเหลือในยามที่นางต้องเจอเรื่องยุ่งยากด้วย

 

พี่ใหญ่รู้สึกผิดหวังกับหลิวหงอย่างแท้จริง อีกฝ่ายไม่แม้แต่พยายามจะช่วยเขาเลย แม้แต่หนาซานและหนาสู่ยที่อยู่ร่วมสํานักนางก็ไม่คิดช่วยเหลือตอนนี้ทุกคนไม่พอใจและแยกตัวออกห่างเช่นนี้จึงทําให้หลิวหงผู้แต่งตัวอย่างโดดเด่นและมีบริวารล้อมรอบกลับกลายเป็นโดดเดี่ยวไร้พวกพ้อง

 

หลิวหงคือใคร?

นางคือสตรีที่มีทักษะในการแยกแยะว่าผู้คนคิดอย่างไรกับนางผ่านภาษากายอีกทั้งนางยังเชี่ยวชาญด้านการวางแผนตอนนี้จึงตระหนักได้ถึงทัศนคติที่ผู้คนโดยรอบมองมาอย่างรวดเร็วทว่ากลับไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย นางแสร้งติดตามเยี่ยฉวนด้วยใบหน้านิ่งเฉยและทําเป็นไม่รับรู้บรรยากาศโดยรอบอย่างสมบูรณ์ ดวงตาของนางจับจ้องที่เยี่ยฉวนเท่านั้นทุกท่วงท่าการโจมตีข องนางรุนแรงและรวดเร็ว ดวงตาของอสูรหินหลายคู่จําเป็นต้องหลุดจากเบ้าด้วยน้ํามือของหญิงสาวผู้นี้

สตรีผู้นี้คือนางมารที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์

เยี่ยฉวนไม่ได้หันหลังกลับแต่ตระหนักได้ถึงออร่าชั่วร้ายของหลิวหงเขาเพียงยกยิ้มเย้ยหยันเท่านั้น

ในการสํารวจอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้ เขาไม่ได้ต้องการสร้างความวุ่นวายใดแต่ถ้าหลิวหงคิดว่านางสามารถทําสิ่งใดก็ได้หลังจากเรียนรู้เคล็ดวิชาขนปักษาสีครามแล้วนั่นคือความคิดที่ผิดมหันต์!

ตึง ตึง ตึง! เสียงอู้อี้ดังขึ้นอีกครั้ง ฉับพลันหมอกสีเทาลอยเคว้งพร้อมอสูรร้ายปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอสูรหินที่ยืนอยู่ก่อนหน้ายิ่งดุร้ายมากขึ้นหลายเท่า

ตอนนั้นเองที่เยี่ยฉวนหยุดฝีเท้าอย่างกระทันหัน

 

ทางซ้ายห่างออกไปกว่าร้อยเมตร มันหยุดยืนอยู่ด้านหลังของอสูรหินเศียรสุนัข เขามองเห็นเพื่อนเก่าที่รูปร่างประหลาด มันคืออส รพิษครึ่งคนร่างกายทั้งหมดประกอบไปด้วยหินแม้แต่เกล็ดหรีอหางยังเป็นหินหน้าตาของมันแปลกประหลาดด้วยการเหลือบ มองเพียงครู่เดียวก็ทําให้หนังศีรษะชาวาบได้

อสรพิษครึ่งคน!

อสรพิษครึ่งคนปรากฏขึ้น มันหลบอยู่ในกลุ่มของอสูรหินเศียรสุนัข ดูเหมือนว่ามันจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเยี่ยฉวนและตอนนี้มันกําลังเฝ้ารอโอกาสที่จะโจมตีเช่นกัน อย่างไรแล้วอสรพิษครึ่งคนเป็นสัตว์อสูรที่รับมือยากยิ่งกว่าวิหคทรราชย์

 

“ พวกเจ้าวิ่งไปก่อน เดี๋ยวข้าตามไป!”

ทันทีที่กล่าวจบ เยี่ยฉวนวิ่งออกจากกลุ่มพร้อมมุ่งหน้าไปหาอสรพิษครึ่งคนทันที เมื่อมาถึง อสูรหินเศียรสุนัขตั้งท่าจะโจมตีแต่ยังไม่ทันได้บ้างแขน มันถูกทุบตายด้วยหมัดเดียวจากชายหนุ่ม!

อสรพิษครึ่งคนแข็งแกร่งและรับมือได้ยากทว่าสมบัติที่อยู่ภาย ในร่างกายของมันก็เป็นเลิศเช่นกัน หลังจากได้ลิ้มรสผลึกโสมปีศาจแล้วเขาไม่อาจปล่อยให้รสชาติที่โปรดปรานหลุดลอยไป

 

ฟอ!

จู่ๆ อสรพิษครึ่งคนหลบซ่อนอยู่ด้านหลังของอสูรหินเศียรสุนัขพลันอ้าปากกว้างพร้อมพ่นพิษออก ในตอนนั้นอสูรหินเศียรสุนัขที่อยู่รอบๆวิ่งเข้าหาเยี่ยฉวนอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกันส่วนโทวปาเซียงเนียวและคนอื่นพลันขนลุกซู่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เพียง แค่อสูรหินเศียรสุนัขอสูรหินเศียรพยัคฆ์ วิหคทรราชย์และอสู รอื่นๆ หัวใจของพวกเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วแต่สิ่งตรงหน้าคือ อะไรกัน? อสรพิษครึ่งคนตัวนี้สร้างแรงกดดันมหาศาล เมื่อเยี่ยฉวนวิ่งออกไปรับหน้าแทนทั้งหมดพลันถอนหายใจออกอย่างโล่งอก แต่สําหรับเยี่ยฉวนแล้วตอนนี้ความกดดันทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีเขาถูกล้อมเอาไว้โดยสมบูรณ์

 

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทําให้โท่วปาเซียงเนียวและคนอื่นๆ หยุดฝีเท้าลง พวกเขาไม่รู้เลยว่าควรจะวิ่งไปทางไหนเขาควรจะไปช่วยเยี่ยฉวนหรือวิ่งฝ่าวงล้อมออกไป? พี่ใหญ่ลู่หนาซานและหนาสู่ยก็คิดหนักเช่นเดียวกัน สมองบอกให้วิ่งหนีไป แต่ว่าชีวิตของพวกเขาถูกช่วยเหลือไว้โดยเยี่ยฉวนการละทิ้งอีกฝ่ายยามอันตรายเช่นนี้จะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยงั้นหรือ?

 

“รีบไปเร็วเข้า เดี๋ยวข้าตามไป!”

เยี่ยฉวนคํารามลั่น เขาสั่งให้โท่วปาเซียงเนียวและคนอื่นๆออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขากระโดดเหยียบอสูรหินเศียรสุนัขอย่างคล่องตัวพร้อมกับพุ่งเข้าหาอสรพิษครึ่งคนตรงหน้า หมัดดร้ายถูกปลดปล่อยอย่างอิสระจนอากาศบิดเบี้ยว

หมัดหนักสร้างลมกรรโชกรุนแรง

 

ท้องของอสรพิษครึ่งคนยุบตัวลงขณะต้านรับพลัง หากมันต้องรับหมัดนี้ตรงๆ คงไม่อาจต้านรับได้ น้ําหนักของหมัดมากถึงเก้าหมื่นจินแม้ว่าร่างของมันจะเป็นเหล็กกล้าก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้

อยู่ดี

ฟอ!

 

อสรพิษครึ่งคนส่งเสียงขู่ขณะที่ร่างกายของมันกวัดแกว่งไปมาอย่างแปลกประหลาด ท้ายที่สุดแล้วมันสามารถหลบหมัดของเยี่ยฉวนได้

 

อสรพิษร้ายหมอบลงกับพื้นพร้อมกับพุ่งไปหาเยี่ยฉวนทันทีเบี้ยวพิษขนาดใหญ่ถูกเผยออกมา หลังจากถูกเยี่ยฉวนโจมตีอย่างหนักหน่วงเมื่อครู่ มันรีบโต้กลับศัตรูอย่างรวดเร็ว

“งน้อยเอ๋ยช่างโชคร้ายนัก… ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!”

 

เยี่ยฉวนเย้ยหยันพร้อมเผยใบมีดบางเฉียบระหว่างนิ้วเหมือนว่าหมัดหนักจะใช้การไม่ได้ในเวลานี้ แต่ใบมีดของเขาสามาร ถผ่าท้องของมันได้อย่างแน่นอนหลังจากกรีดลงด้วยทักษะพิเศษ บาดแผลขนาดใหญ่จํานวนมากปรากฏบนร่างอสรพิษครึ่งคนเลือด ทะลักออกมาราวกับน้ําตก อีกทั้งเลือดของมันยังเป็นพิษกัดกร่อนหินที่อยู่ด้านล่างด้วย

 

“มอบมันมาให้ข้า!”

เยี่ยฉวนกระโดดหลบเลือดพิษพร้อมกับพุ่งตัวออกจากช่องท้องของอสรพิษครึ่งคน ในขณะที่เขากําลังจะสังหารอสูรหิน เศียรสุนัขที่อยู่โดยรอบทันใดนั้นเองมีแสงกระบี่สาดส่องขึ้นต่อหน้า เป็นหลิวหงเหยียบกระบี่บินพุ่งเข้ามาพร้อมกับยื่นมือเข้าไปในท้องของอสรพิษครึ่งคนตัวนี้นางต้องการจะยึดสมบัติที่ถูกผนึกไว้ในร่างกายของปีศาจร้าย!

ที่ผ่านมาเยี่ยฉวนเปิดเส้นทางให้กับทั้งกลุ่มด้วยการสังหารวิหคทรราชย์อสูรหินเศียรสุนัขและอสูรหินเศียรพยัคฆ์จํานวนมากเขาไม่เคยชําเลืองมองสมบัติใดแต่ตอนนี้เขากลับออกจากตําแหน่งเดิมเพื่อจะจัดการกับอสรพิษครึ่งคนเห็นได้ชัดว่ามัน แปลกประหลาดนั่นหมายความว่าสมบัติที่ถูกผนึกไว้ในร่างกายขอ งอสรพิษครึ่งคนนั้นล้ําค่ายิ่งกว่าก้อนผลึกมนุษย์มากโขอีกทั้งมูลค่า ของมันอาจสูงกว่าถึงสิบหรือร้อยเท่า

แม้หลิวหงจะไม่กล่าวสิ่งใดออกแต่นางมองดูทุกย่างก้าวของเยี่ยฉวนและเมื่อถึงช่วงเวลาสําคัญนางจึงเคลื่อนไหว

 

หลังจากได้ลิ้มรสเคล็ดวิชาขนปักษาสีครามแล้ว นางยิ่งปรารถนาสมบัติล้ําค่ามากขึ้น นางต้องการที่จะแข็งแกร่งกว่านี้

“กรี้ด!”

 

หลิวหงที่กําลังจะเอารัดเอาเปรียบกลับกรีดร้องออกพร้อมกับถอยร่นทันที มือขวาของนางเต็มไปด้วยเลือด…เมื่อครู่นางยื่นมือเข้าไปค้นในท้องของอสรพิษครึ่งคน แต่ยังไม่พบสมบัติใดทว่ามือของนางแทบจะละลาย เป็นเพราะนางต้องการจะฉวยโอกาสที่อสรพิษครึ่งคนบาดเจ็บสาหัสและฉกฉวยสมบัติไปก่อนที่เยี่ยฉวนจะมาจึงเกิดเรื่องเช่นนี้

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่หลิวช่างมาถึงในเวลาที่เหมาะสมยิ่ง!”

เยี่ยฉวนเย้ยหยัน เขาชําเลืองมองมือน้อยที่เปื้อนเลือดของนางเพียงครั้งพร้อมกับหันหลังจากไป เขากลับไปหากลุ่มโท่วปาเซียงเนี ยวอีกครั้งและพาคนอื่นๆฝ่าลงล้อมเช่นเดิม ส่วนหลิวหงถูกทิ้งไว้ ข้างหลังอย่างเดียวดายนางแสร้งทําเป็นไม่รู้เรื่องพร้อมกับพุ่งตาม หลังเยี่ยฉวนไปทันทีทว่าเมื่อเห็นแผ่นหลังของอีกฝ่ายชัดเจนขึ้น ใบ หน้าของหญิงสาวพลันเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด

 

นางใช้แผนที่ดีที่สุดเพื่อฉกฉวยสมบัติในร่างของอสรพิษครึ่งคนแต่หน้าประหลาดใจที่นางไม่พบสิ่งใดเลย! อีกทั้งยังไม่รู้ว่าสิ่งใดถูกผนึกอยู่ภายในและเกือบจะสูญเสียมือข้างหนึ่งไปด้วยซ้ํา!

 

หลิวหงจับจ้องแผ่นหลังของเยี่ยฉวนอย่างเดือดดาล แววตาของนางฉายแววความดุร้าย ในเวลานี้หลิวหงผู้ที่งดงามและอ่อนโยนพลันหายไปแล้ว

คล้ายกับการเดินทางครั้งนี้กําลังนําพาสู่หนทางแห่งปีศาจ ยิ่งหลิวหงออกเดินมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งห่างไกลจากคนเดิมมากเท่านั้นไม่รู้ว่านางได้รับผลกระทบใดจากอาณาเขตโบราณของปาหมื่นอสูรหรือไม่ อย่างไรซะหลังจากที่นางเริ่มฝึกฝนเคล็ดวิชาขนปักษาสีครามได้นางกลับกลายเป็นสตรีผู้โหดเหี้ยมและอํามหิตย์ราวกับไม่มีหัวใจ

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด