Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 241 ศัตรูย่อมถูกลิขิตให้มาพบเจอ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 241 ศัตรูย่อมถูกลิขิตให้มาพบเจอ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 241 ศัตรูย่อมถูกลิขิตให้มาพบเจอ

ยอดฝีมือตระกูลหลงผู้รอดชีวิตทั้งห้ายังคงเดินหน้าต่อไป พวกเขาทั้งกล้าหาญและชํานาญการรบยิ่ง

เกิดการเปลี่ยนแปลงทั่วฟ้าดินเมื่ออาณาจักรสวรรค์ผุดขึ้นมาจากใต้พิภพ เหล่ายอดฝีมือผู้แข็งแกร่งและเลื่องชื่อที่สัมผัสได้จึงเร่งรุดมาเยือนโดยใช้เครื่องเคลื่อนย้ายจากเมืองหลวง ทว่าตอนนี้กลับเหลือรอดชีวิตเพียงห้าคนจากบรรดาสองร้อยกว่าคน ทั้งหมดต่างบาดเจ็บสาหัส และมีสีหน้าตึงเครียดขณะก้าวเดินบนครรลองมังกรปีศาจที่อันตรายเกินคาดเดา หากพวกเขาหันหลังกลับตอนนี้อาจไปกระตุ้นอาณาเขตบางอย่างเข้าอีกจึงทําได้เพียงแข็งใจเดินหน้าต่อไปเท่านั้น

อาจเป็นเพราะกองทัพที่สิ้นหวังมักถูกลิขิตให้ ได้รับชัยชนะหรืออาจเป็นเพราะเทพธิดานําโชคเข้าข้างพวกเขาในที่สุด จึงไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้ออีกแม้จะต้องปะทะกับมังกรใหญ่ตัวแล้วตัวเล่า พวกเขาหลบเลี่ยงจุดตายไปได้อย่างเฉียดฉิวในสถานการณ์คับขัน แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุด คือผู้พิทักษ์อาณาจักรสวรรค์ผู้ลึกลับจะฉกชิงก้อนผลึกมังกรไปทุกครั้งที่ปรากฏขึ้น

เยี่ยฉวนและหลงเอ๋อร์สะกดรอยตามหลังยอดฝีมือทั้งห้ามาตลอดทาง เพื่อสบโอกาสชิงก้อนผลึกมังกร ทั้งสองไม่เพียงรอจังหวะลงมืออย่างเดียว หากแต่ยังช่วยเหลืออีกฝ่ายอย่างลับๆอีกด้วย หลายครั้งที่เหล่ายอดฝีมือตระกูลหลงรอดพ้นจากสถานการณ์คอขาดบาดตายโดยไม่รู้ว่าตนเองหลบได้อย่างไร

ในตอนแรกหลงเอ๋อร์หดตัวด้วยความหวาดกลัว และตามติดเยี่ยฉวนอย่างใกล้ชิด แต่การปลุกใจจากเยี่ยฉวนทําให้เขาค่อยๆ มีความกล้าและแสดงทักษะอันน่าพึ่งออกมา

เยี่ยฉวนรู้สึกไม่สู้ดีนักเพราะการกัดกร่อนของ หมอกพิษและไม่สามารถอยู่ท่ามกลางสายหมอกเป็นเวลานานได้ ตรงกันข้ามกับหลงเอ๋อร์ที่ความว่องไวและพละกําลังเพิ่มขึ้นมหาศาลเมื่อถูกห้อมล้อมด้วยหมอกพิษราวกับพยัคฆ์ร้ายติดปีก เยี่ยฉวนจึงเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่เบื้องหลังขณะที่หลงเอ๋อร์เข้าไปชิงก้อนผลึกมังกรที่ร่วงหล่นออกมา

“ตึง!” มังกรอีกตัวล้มลงเสียงดังสนั่น

ครั้งนี้เป็นมังกรดําที่ดุร้ายและแข็งแกร่งเป็น พิเศษจนเกือบจัดการยอดฝีมือตระกูลหลงทั้งห้าได้ ร่างของมันแข็งที่อและระเบิดออกเป็นกองหิน ก่อนที่ก้อนผลึกมังกรสีดําสนิทจะกลิ้งออกมาจากส่วนหัว มันมีขนาดใหญ่กว่าก้อนผลึกมังกรที่พบทั่วไปถึงหนึ่งในสาม

หลงซานผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่ในชุดคลุมสีฟ้า และมีอายุราวสี่สิบปี แววตาของเขาทอประกายกล้าเมื่อเห็นก้อนผลึกมังกรสีดําตรงหน้าและรีบพุ่งเข้าหาทันที แต่วินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสมันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ร่างเล็กพุ่งผ่านสายตาของเขาไปเพียงแวบเดียวก่อน

จะหายเข้าไปใน หมอกพิษ

“บ้าจริง! มันอีกแล้ว!” หลงซานขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยโทสะ

“พี่ใหญ่ที่สาม สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจเลยขอรับ ก่อนหน้านี้เป็นผู้พิทักษ์ร่างใหญ่ มาตอนนี้กลับเป็นคนตัวเล็ก หรือพวกเขากําลังหมายหัวเราอยู่? หรือคําสาปแห่งความตายนั่นจะมีอยู่จริง… พวกเราต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆหรือขอรับ?”

ยอดฝีมือตระกูลหลงรุ่นเยาว์เผยสีหน้าเคร่งเครียดพลางกวาดสายตามองโดยรอบอย่างหวาดผวา วิญญาณร้ายหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวนั่นอาจโผล่ออกมาจากหมอกพิษสองข้างทางได้ทุกเมื่อ การถูกลอบสังหารด้วยใบมีดกลายเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเทียบกับหายนะของการถูกลากเข้าไปในหมอกพิษ พวกเขาคงทําได้เพียงมองดูร่างของตนค่อยๆ กลายเป็นโครงกระดูกอย่างสิ้นหวัง เพียงแค่คิดก็หวาดหวั่นในใจเหลือเกิน

“หุบปาก! คําสาปอะไรกัน?! เดินหน้าต่อไป!”

หลงซานกล่าวออกด้วยสีหน้าเย็นชาทว่าภายในกลับร้อนรนอยู่ไม่น้อย เขาไม่มีทางเลือกนอกจากแสดงท่าที่ไม่หวั่นไหวเพื่อนํากลุ่มคนเหล่านี้ให้เดินหน้าต่อไป ครั้งนี้ผู้อาวุโสตระกูลหลงได้มอบหมายภารกิจสําคัญให้เข้าไปชิงขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรสวรรค์มาให้จงได้ เขาจึงต้องแข็งใจเดินหน้าต่อไปไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอันตราย มากมายเพียงใด หากภารกิจล้มเหลว คงไม่อาจกลับไปแก้ตัวกับผู้อาวุโสที่เมืองหลวงได้

ลือกันว่าผู้อาวุโสตระกูลขุนนางมู่หรงกําลังจะบรรลุขั้นมหาปราชญ์ในอีกไม่ช้า ตระกูลหลงจึงต้องการขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรสวรรค์ เพื่อไม่ให้ตระกูลขุนนางมู่หรงมาย่ํายีเอาได้

ยอดฝีมือทั้งห้าหยุดพักครู่หนึ่งก่อนเดินหน้าต่อไป

คล้อยหลังพวกเขาคือเยี่ยฉวนที่กําลังหลับตาขัดเกลาก้อนผลึกมังกรสีดําอยู่หลังก้อนหินใหญ่ ฉับพลันเกิดกระแสพลังงานพลุ่งพล่านปะทุขึ้นในร่างประหนึ่งจะฉีกทิ้งสวรรค์และผืนดิน ชายหนุ่มยืนสงบนิ่งทว่ากล้ามเนื้อแขนทุกส่วนและแม้แต่กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังต่อเนื่องราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่าง พลังงานของเขารุนแรงเสียจนหลงเอ๋อร์ที่ตามมา เกิดหวาดกลัวและถอยห่างจากเขาเล็กน้อย

พลังงานมหาศาลหายวับไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับตอนปรากฏ เยี่ยฉวนลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อความแปรปรวนในร่างค่อยๆสงบลง เขารู้สึกแตกต่างออกไปแม้จะมียันต์กลี นกินสวรรค์หกใบและยังอยู่ขั้นซิวฉือระดับเจ็ดดังเดิม ร่างกายรู้สึกเฉียบคมราวกับใบมีด

“หลงซานผู้นี้ไม่เลว ดูเหมือนว่าตระกูลหลงแห่งเมืองหลวงที่สืบทอดมานานหลายร้อยปีจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว ไปกันเถอะหลงเอ่อร์!”

เยี่ยฉวนมองตามแผ่นหลังของเหล่ายอดฝีมือตระกูลหลงพลางยกยิ้มชั่วร้าย ก่อนจะเดินตามไปพร้อมกับหลงเอ๋อร์โดยไม่ลืมรักษาระยะห่าง

บรรดายอดฝีมือตระกูลหลงทั้งหดหูและคับข้องใจเมื่อก้อนผลึกมังกรที่ได้มาด้วยการสังหารมังกรอย่างยากลําบากหายวับไปต่อหน้าต่อตา แต่ไม่นานก็พบว่าพวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่อับโชคเช่นนี้

หลังหนึ่งชั่วยามล่วงไปชายตระกูลหลงทั้งห้าก็ตามกองทัพขนาดใหญ่ได้ทัน เยี่ยฉวนบังเอิญพบใบหน้าที่คุ้นเคย… โท่วป่าเซียงและเฟิงเหรินอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย!

นับเป็นเรื่องดีที่กลุ่มยอดฝีมือตระกูลหลงเดินตามหลัง เพราะโท่วป่าเซียง เฟิงเหริน และคนอื่นๆ ที่น่าหน้าต้องเผชิญกับมังกรจํานวนมากกว่าจนเนื้อตัวชุ่มโชกไปด้วยเลือด น่าแปลกใจที่มีศิษย์ในสํานักจํานวนมากอยู่เคียงข้างโท่วป่าเซียงและเฟิงเหริน โดยเฉพาะโท่วป่าเซียงที่มีศิษย์สํานักเครื่องนิลห้อมล้อมมากกว่าตอนเข้ามาหลายเท่าตัว ดูเหมือนว่าทางเข้าครรลองมังกรปีศาจจะไม่ได้มีแค่ทางเดียว

ยิ่งผู้คนมารวมตัวกันมากเท่าใดยิ่งพบมังกรมากเท่านั้น เสียงคํารามก๊กก้องของมังกรดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนเมื่อพวกมันพุ่งออกมาจากกลุ่มหมอกพิษ

เยี่ยฉวนและหลงเอ่อร์รั้งท้ายห่างไกลจากฝูงชนและเร่งฝีเท้าขึ้นไปเมื่อก่อนผลึกมังกร ปรากฏขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่มังกรทุกตัวที่มีสมบัติผนึกไว้ภายในเช่นเดียวกับรูปปั้นในป่าหิน ส่วนหัวของมังกรบางตัวว่างเปล่าและสมบัติบางชิ้นก็ไม่ใช่ก้อนผลึกหากแต่เป็นกระบีบิน ชุดเกราะและยาเม็ด ทุกครั้งที่สมบัติปรากฏขึ้นจะเกิดการต่อสู้รุนแรง ส่วนเยี่ยฉวนนั้นเพิกเฉยต่อทุกสิ่งที่ไม่ใช่ก้อนผลึก

“โฮก!” มังกรสีทองร่างมหึมาพุ่งตรงมาพร้อม เสียงคํารามลั่นและฆ่านักเดินทางไปห้าคนทันที บรรดาจอมยุทธ์ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อแสดงพ ลังและร่วมมือกันสังหารมังกรน่าเกรงขาม ร่างขอ งมันแตกออกและกลายเป็นหิน ก้อนผลึกมังกร ปรากฏต่อสายตาทุกคนพร้อมประกายสีทองระยิบระยับ ขนาดของมันใหญ่เป็นสองเท่าของก้อนผลึกมังกรธรรมดาและมีพลังงานบริสุทธิ์แผ่ออกมาอย่างไร้ขอบเขต แสงสีทองสาดส่องลงมาจากเบื้องบน บาดแผลของผู้ที่อาบแสงสีทองนี้สมานอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ “สมบัติชิ้นนี้เป็นของข้า! เคล็ดวิชาชาติวายุ!”

เฟิงเหรินแห่งสํานักเบญจลักษณ์กู่ร้องก่อนจะหายตัวไปปรากฏข้างโครงกระดูกและคว้าก้อนผลึกมังกรสีทองที่ส่องประกายทันที

เฟิงเหรินใช้พละกําลังทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ เพื่อชิงก้อนผลึกมังกรสีทองไปครอบครองขณะที่คนอื่นๆ กําลังตะลึงงันอยู่ ทันใดนั้นศิษย์สํานักเบญจลักษณ์ใต้การปกครองของเขาพร้อมใจกันพุ่งไปข้างหน้าและจัดกระบวนดาบแน่นหนาโดยรอบ เพื่อคุ้มกันชายชราจากยอดฝีมือคนอื่น!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด