Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 265 ธารน้ําแข็งของข้าละลายให้เจ้าแต่ เพียงผู้เดียว

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 265 ธารน้ําแข็งของข้าละลายให้เจ้าแต่ เพียงผู้เดียว อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 265 ธารน้ําแข็งของข้าละลายให้เจ้าแต่ เพียงผู้เดียว

ตัวเลขนับถอยหลังข้างจอผลึกแก้วลดลงเรื่อยๆจนถึงเลขยี่สิบเจ็ดในชั่วพริบตา

เยี่ยฉวนและสตรีพรหมจรรย์ยังไม่รู้จะขอพรว่าอย่างไรจึงไม่ได้เอ่ยคําใด แต่สถานการณ์บีบบังคับให้องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันไม่อาจทนรออีกต่อไปหากหมดเวลาก่อนเขาจะพลาดโอกาสทองและถูกกงล้อสะบั้นมังกรเหนือศีรษะร่วงลงมานั่นคอเป็นแน่ส่วนหงจือเซียนั้นยังพอมีโอกาสไม่ต้องพูดถึงเยี่ยฉวนที่มีเวลารอดูวาระสุดท้ายของเขาอย่างเหลือเฟือ!

“ข้าขอให้กงล้อสะบั้นมังกรเบื้องบนขยับออกไปข้าอยากหนีออกไปจากที่เฮงซวยนี่ข้าปรารถนาจะครอบครองขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรส วรรค์…”
องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันรีบคิดสิ่งที่ต้องการในเวลากระชั้นชิดและเอ่ยปากขอพรเป็นคนแรก

ห้องโถงมังกรปีศาจยังคงเงียบสงัดไม่เปลี่ยนแปลง

องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันยังคงถูกมัดตรึงอยู่กับพื้นราวกับปลาขึ้นเขียง กงล้อสะบั้นมังกรยังคงลอยห่างจากเขาไปหนึ่งเมตรชายหนุ่มขอพรถึงสามข้อในชั่วอึดใจแต่กลับไม่สมหวังแม้แต่ข้อเดียว

ผู้ครอบครองอาณาจักรมังกรปีศาจสวรรค์เพียงแค่บอกให้พวกเขาขอพรแต่ไม่เคยรับรองว่าพรเหล่านั้นจะเป็นจริง

องค์รัชทายาทหลีก่วงฮานเผยสีหน้าซีดเผือดและแทบกระอักเลือดอยู่ภายใน

ตัวเลขข้างจอผลึกแก้วยังคงเดินถอยหลังต่อไปมันไม่มีทางหยุดเพียงเพราะองค์รัชทายาทสาปแช่งในใจด้วยความโกรธแค้นและหดหู
สตรีพรหมจรรย์หงจื่อเชียกล่าวออก“ข้าไม่ต้องการขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรสวรรค์ข้าแค่อยากหนีไปจากที่แห่งนี้”

คําขอของสตรีพรหมจรรย์เรียบง่ายกว่าองค์รัชทายาทมากพลังของอาณาเขตห้องโถงมังกรปีศาจทําให้นางหวาดกลัวและล้มเลิกความคิดที่ จะแย่งชิงขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรสวรรค์ไปเคราห์ร้ายที่แม้แต่พรง่ายๆ ของนางก็ไม่เป็นจริงภายในห้องโถงมังกรปีศาจยังคงไร้การเคลื่อนไหวดู เหมือนว่าการหนีออกจากอาณาจักรสวรรค์ก็เป็นคําขอที่มากเกินไปในขณะนี้

“ฮ่าๆๆ แม่นางจอเซีย เจ้าก็ไม่รอดหรือนี่ ฮ่าๆๆ”

หงจือเซียเผยสีหน้าไม่สู้ดี จะไม่ให้นางเป็นกังวลได้อย่างไรในเมื่อพรง่ายๆ เช่นนี้ยังล้มเหลว? ด้านองค์รัชทายาทหลีก่วงย่านนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ตอนนี้เขาไม่ใช่ผู้เดียวที่ล้มเหลวในการขอพรมีผู้ร่วมเสียหน้าเช่นนี้จะไม่ยินดีได้อย่างไร?

ว่ากันว่า “บุรุษมักเอ่ยวาจาดีงามในวาระสุดท้าย”แต่องค์รัชทายาทไม่เป็นเช่นนั้น เขายังคง มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นครั้งนี้หากไม่สงบปากสงบคําไว้อาจกระตุ้นอาณาเขตบางอย่างเข้าจนต้องตายก็เป็นได้ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังอดหัวเราะไม่ได้โชคดีที่กงล้อสะบั้นมังกรเหนือศีรษะของเขายังคงไม่ขยับเขยื้อน

“ต่อให้เราต้องตายกันหมด คนแรกที่ถึงฆาตกคงเป็นฝ่าบาทคราวนี้ยังทรงพระสรวลได้อยู่หรือไม่เพคะ?”

สตรีพรหมจรรย์เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาทําให้องค์รัชทายาทสลดลงทันใด
ทั้งสองเงียบเสียงลงพลางพร้อมใจกันหันไปมองเยี่ยฉวน

ตัวเลขนับถอยหลังยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องบัดนี้เหลือพรของเยี่ยฉวนเพียงผู้เดียวเท่านั้น

องค์รัชทายาทล้มเหลวเพราะขอมากเกินไปทว่าพรธรรมดาๆของสตรีพรหมจรรย์ก็ไม่เป็นจริงเช่นกันแล้วเยี่ยฉวนเล่าจะขอพรว่าอย่างไร?หรือผู้ครอบครองอาณาจักรสวรรค์เพียงแค่ต้องการเล่นสนุกกับพวกเขาโดยไม่คิดจะให้พรใดๆทั้งสิ้นกันแน่…

ทั้งสองต่างสับสนและตั้งตารอฟังเยี่ยฉวน

สตรีพรหมจรรย์ได้แต่หวังว่าพรของเยี่ยฉวนจะเป็นจริงและเขาจะสามารถหนีออกจากที่แห่งนี้ได้อย่างราบรื่นอย่างน้อยเตาหลอมระดับสวรรค์อัน เป็นสมบัติล้ําค่าของสํานักอสูรเมฆาจะได้ไม่ถูกฝังกลบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันไปพร้อมกับเยี่ยฉวนตรงกันข้ามกับองค์รัชทายาทที่รอดูความล้มเหลว ยิ่งได้รับบทลงโทษรุนแรงเท่าไรยิ่งดี!

เมื่อผู้คนต้องเผชิญกับโชคร้าย บางคนก็อดทนอยู่เงียบๆและหวังว่าชะตาจะพลิกผันเข้าสักวันแต่ก็มีบางคนที่หวังจะเจอผู้ที่โชคร้ายกว่าเพื่อให้ ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้นเห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทหลีก่วงฮ่านเป็นประเภทหลังเขาเป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่แต่กลับเห็นชีวิต ของคนส่วนใหญ่ไร้ค่า

“ท่านมังกรปีศาจผู้ประเสริฐ ข้าน้อยไม่ได้ต้องการหนีไปจากอาณาจักรสวรรค์อย่างปลอดภัยไม่ต้องการให้กงล้อสะบั้นมังกรเบื้องบนขยับไปไหน และไม่ต้องการสืบทอดมรดกจากท่านข้าเพียงแต่หวังว่ากงล้อสะบั้นมังกรเหนือร่างของสตรีพรหมจรรย์หงจือเซียจะขยับขึ้นไปอีกสักเมตรให้โอกาสนางอีกนิดเถิดขอรับ”

เสียงของเยี่ยฉวนดังขึ้นเมื่อตัวเลขข้างจอผลึกแก้วใกล้ถึงศูนย์เขากล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจังและเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น“หากพรข้อนี้ มากเกินไปข้าน้อยจะขอให้กงล้อสะบั้นมังกรเหนือร่างของข้าเคลื่อนลงมาอีกสองเมตรเป็นการแลกเปลี่ยนข้าเต็มใจจะชดเชยสองเท่าเพื่อแลกกับโอกาสของแม่นางจอเซีย”

ในที่สุดเยี่ยฉวนก็ขอพรออกมาในช่วงเวลาคอขาดบาดตายที่ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย

องค์รัชทายาทหลีก่วงฮานตะลึงงันและนึกสงสัยว่าเขาได้ยินผิดไปหรือไม่

สตรีพรหมจรรย์ก็ตกตะลึงไม่แพ้กันนัยน์ตาของนางแดงก่ําและรื้นไปด้วยหยาดน้ําใส
“คนโง่ มันคุ้มกันแล้วหรือไร?”

สตรีพรหมจรรย์พึมพํากับตนเอง นางพยายามสุดความสามารถที่จะไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าทุกคนแต่หยาดน้ําตากลับไหลรินอาบแก้มอย่างไม่ อาจควบคุมได้ภาพการพบกันครั้งแรกของนางและเยี่ยฉวนฉายชัดขึ้นในความทรงจําราวกับทุกสิ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ตั้งแต่เล็กจนโต หงจือเซียเติบโตขึ้นมาในสํานักอสูรเมฆาซึ่งห่างไกลจากความหยาบโลนและปัญหาทางโลกต่างๆเมื่อถูกรับเป็นศิษย์สายตรงของราชินีอสูรเกศาขาวและกลายเป็นสตรีพรหมจรรย์ก็ยิ่งสันโดษห่างเหินและสงวนตัว มากขึ้นไปอีกนางดํารงตําแหน่งอันสูงส่งและได้ทุกสิ่งที่ต้องการ ทว่าสิ่งเดียวที่นางไม่เคยได้รับคือความรักในที่พํานักของราชินีอสูรเกศาขาวมี เพียงความเกรงกลัวและความเคารพเชื่อฟังส่วนสิ่งที่ได้รับจากบรรดาศิษย์สํานักอสูรเมฆามีเพียงความยกย่องนับถือแม้ภายนอกจะดูเย็นชาแต่ ภายในใจของนางนั้นโดดเดี่ยวเหลือเกินไม่เคยมีผู้ใดถามไถ่ถึงความเป็นอยู่หรือแสดงความห่วงใยถึงส่วนลึกในจิตใจของนางแม้แต่คนเดียว

ทว่าเยี่ยฉวนนั้นแตกต่างออกไป แม้จะยั่วโทสะอยู่บ่อยครั้งแต่เขามักจะคอยช่วยเหลือทุกครั้งที่นางต้องการโดยไม่เคยปริปากบ่นซึ่งแสดงให้เห็น ถึงความเอาใจใส่อย่างยิ่ง

สถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไรน่ะหรือ? พวกเขาอาจตายด้วยกงล้อสะบั้นมังกรได้ทุกเมื่อแต่เยี่ยฉวนกลับไม่ร้องขอให้ตนเองหนีรอดจากที่ นี่อย่างปลอดภัยหากแต่ขอให้กงล้อเหนือร่างของเขาเคลื่อนลงมาอีกสองเมตรเพื่อแลกกับโอกาสในการอยู่รอดของนางอย่างนั้นหรือ?

“ในโลกนี้จะมีผู้ใดเหมือนเขาอีก? ท่านอาจารย์หรืออาวุโสเถียนชิงน่ะหรือจะทําเช่นนี้ได้?

หงจือเซียน้ําตาไหลอาบแก้ม หัวใจที่เย็นชาของนางหลอมละลายให้เยี่ยฉวนเพียงผู้เดียวเท่านั้น

“ครืด!” เสียงดังสะเทือนขวัญดังขึ้นพร้อมกงล้อสะบั้นมังกรที่ขยับเข้าใกล้เยี่ยฉวนอีกสองเมตรขณะที่กงล้อเหนือร่างของสตรีพรหมจรรย์เคลื่อนขึ้นไปหนึ่งเมตรเพื่อเพิ่มโอกาสให้นางอีกหน

การขอพรขององค์รัชทายาทหลีก่วงซ่านและสตรีพรหมจรรย์ล้มเหลวมีเพียงพรของเยี่ยฉวนที่เป็นจริงอย่างคาดไม่ถึง!

สตรีพรหมจรรย์เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อขณะที่สีหน้าขององค์รัชทายาทหลีก่วงซ่านแลดูไม่น่ามองยิ่งกว่าเดิมเขารู้สึกหงุดหงิดใจเมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างไม่อาจหักห้ามหากเขาเป็นสตรีพรหมจรรย์และเยี่ยฉวนขอพรเพื่อช่วยเขาแทนจะวิเศษเพียงใด?

องค์รัชทายาทหลีก่วงซ่านยังไม่อยากตายความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆแต่เขาเพิ่งจะสาปแช่งและถึงขั้นพยายามจะฆ่าอีกฝ่ายแล้วจะมีหน้าไปขอความช่วยเหลือได้อย่างไร?

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด