Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 292 ผู้ใดจะขึ้นเป็นใหญ่?

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 292 ผู้ใดจะขึ้นเป็นใหญ่? อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 292 ผู้ใดจะขึ้นเป็นใหญ่?

พลังปราณวิญญาณฟ้าดินหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศอย่างต่อเนื่องและรวมตัวกันเหนือชั้นบรรยากาศบนค่ายกลวิญญาณโอสถจากนั้นจึงค่อยๆ ซึมซาบลงสู่ร่างของเยี่ยฉวน

โครงสร้างของห้องโถงหมอกเมฆาลึกลับซับซ้อนทั้งยังใหญ่โตกว้างขวางผนังชายคากระเบื้องเคลือบรวมถึงหลังคาที่มุงจากต้นพืชสร้างขึ้นอย่างประณีตวิจิตรกลายเป็นค่ายกลรูปแบบประหลาดตา หากนั่งฝึกตนอยู่ภายในห้องโถงดวงจิตจะรู้สึกสงบกว่าสถานที่อื่น หนําซ่ำผลลัพธ์การฝึกฝนเคล็ดวิชายังก้าวหน้าขึ้นกว่าปกติถึงสองเท่าแม่ใช้ความเพียรพยายามเพียงครึ่งเดียวห้องโถงแห่งนี้นับเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของสํานักหลายล้านปีมาแล้วราชาโอสถหัตถ์ วิญญาณได้สร้างขึ้นภายใต้คําชี้แนะของเขา

หลายล้านปีผันผ่านไปเพียงชั่วพริบตากระต่ายเฒ่าผู้ก่อตั้งสํานักหมอกเมฆาหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้เสียแล้วทว่าเยี่ยฉวนผู้เคยเป็นใหญ่เหนืออีกฝ่ายเมื่อภพชาติก่อนกลับถือกําเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งและนั่งอยู่บนบัลลังก์หนังเสือตัวใหญ่กลางห้องโถงแห่งนี้!

โชคชะตาพลิกผันเล่นสนุกกับชีวิตผู้คนอย่างน่าอัศจรรย์!

ชายหนุ่มหวนนึกถึงอดีตอันรุ่งโรจน์พลางทอดถอนใจจากนั้นจึงสงบจิตใจอีกครั้งเพื่อเปิดรับพลังทั้งมวลอย่างเต็มที่ร่างกายแกร่งอาบไล่ไปด้วยปราณวิญญาณฟ้าดินอันไร้เทียมทานจากภายนอกสู่ภายในขั้นการฝึกตนของเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นสัญญาณที่ชัดเจนของการบรรลุสู่ขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับที่สองอยู่ว่าไร…

หลังประสบหายนะใหญ่หลวงเช่นภัยพิบัติมังกรสังหารในอาณาจักรสวรรค์แห่งมังกรปีศาจเมื่อก่อนหน้านี้ เขาจึงเริ่มเร่งความรวดเร็วในการบ่มเพาะขั้นการฝึกตนเพราะมุ่งหวังบุกทะลวงไปถึงระดับขั้นที่สูงขึ้น แต่ลึกๆ แล้วเขายังเกิดความกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพมากกว่าทั้งยังคาดหวังว่าตนจะควบแน่นยันต์กลืนกินสวรรค์ใบใหม่ได้ในไม่ช้านี้!

ล่าพังยันต์กลืนกินสวรรค์เพียงหนึ่งใบก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ถึงหนึ่งหมื่นแปดพันจีนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าด้านการฝึกตนยิ่ง!นอกจากนี้การควบแน่นของยังเป็นวิถีที่แท้จริงของประมุขสูงสุดน่าเสียดายที่แม้ว่าจุดตันเถียนของเขาจะหมุนวนด้วยความแข็งแกร่งสูงเพียงใดก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าที่มันจะแปรสภาพเป็นยันต์กลืนกินสวรรค์ใบใหม่การฝึกตนดําเนินเข้าสู่ช่วงตีบตันเต็มที่เวลานี้ข้อบกพร่องที่มีอยู่คงต้องพึ่งโอกาสและโชคชะตาเท่านั้น

หากเขาละกิจวัตรทางโลกทั้งหมดและฝึกฝนเคล็ดวิชาในคัมภีร์มังกรอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการผสานการฝึกตนร่วมกับสตรีพรหมจรรย์หงจือเซีย…จะสามารถเพิ่มพลังยุทธ์ให้บรรลไปอีกขั้นได้หรือไม่?

หลังเยี่ยฉวนปล่อยหงจือเซียให้หลบหนีไปอย่างเงียบเชียบ แนวปราการป้องกันรอบสํานักหมอกเมฆาก็เพิ่มมาตรการคุ้มกันอย่างรัดกุมยิ่งขึ้นแม้เป็นสิ่งที่ดีแต่ยังนับว่ามีข้อเสียเพราะหญิงสาวจะไม่อาจลอบเข้ามาได้อีก อีกทั้งเขายังไม่อยู่ในสถานะที่จะลอบไปมาหาสู่กับนางได้โดยง่าย

ความคิดบ้าบินของเยี่ยฉวนก่อเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่แล้วเขากลับโคลงศีรษะสลัดมันทิ้งไปพลางเผยรอยยิ้มขมขื่น

ช่วงที่สถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้การลักลอบเข้าไปในสํานักอสูรเมฆาไม่ใช่ความคิดที่ดีนักซ่ำร้ายยังอาจสร้างความลําบากใจให้แก่หงจือเซียมากขึ้นโดยไม่จําเป็นและหากยอดฝีมือชั้นเลิศของสํานักอสูรเมฆารู้เข้าว่าระหว่างเขาและสตรีพรหมจรรย์ผู้สูงส่งมีความสัมพันธ์ซ่อนเร้นอย่างไร ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคงร้ายแรงเป็นเท่าทวี!โทษสถานเบาที่นึกขึ้นได้ในเวลานี้คือถูกทุบตีจนถึงแก่ความตายเท่านั้น!

เขาสลัดห้วงคํานึงอันฟุ้งซ่านทิ้งไปอีกครั้งและเริ่มเข้าสู่สมาธิฝึกตนอย่างจริงจัง หากการคํานวณของเขาไม่ผิดพลาด…เจ้าสํานักโท่วป่าเซียงแห่งสํานักเครื่องนิลคงกําลังเตรียมการบางอย่างเพื่อเคลื่อนไหว ถึงเวลาศิษย์ร่วมสํานักที่เขาส่งไปสอดแนมกลับมารายงานเหตุการณ์ภายนอกเต็มที่ไม่แน่ว่าการต่อสู้อันดุเดือดรุนแรงอาจคืบเข้ามาใกล้เร็วกว่าที่คาดการณ์ดังนั้นเขาจึงจําเป็นต้องสะสมพลังปราณเพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งพอจะรับมือ
เวลาผ่านเข้าสู่ช่วงพลบค่า…จ้าวต้าจอเร่งผลักประตูเข้ามารายงาน
สถานการณ์ ตอกย้ําว่าการคาดเดาของเยี่ยฉวนตลอดทั้งวันก่อนหน้าล้วนถูกต้อง!

“ศิษย์พี่ใหญ่! ข้าได้รับข่าวสารจากภายนอกมาแล้วขอรับ! เกิดเรื่องใหญ่!”

เจ้าอ้วนเดินโซซัดโซเซเข้ามาพลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ด้านหลังของเขามีศิษย์ชั้นเลิศหลายรายที่เผยสีหน้าตึงเครียด

“เกิดเหตุใดขึ้นงั้นรึ?! ค่อยพูดค่อยจาเถิด” เยี่ยฉวนกล่าวออกขณะลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงสมาธิ

“ศิษย์พี่ใหญ่ สิ่งที่ท่านคาดการณ์ล้วนถูกต้อง! ตาเฒ่าโท่วป่าเซียงนั่นมีเจตนาร้ายจริงๆด้วยขอรับ! แม้ภายนอกดูไร้การเคลื่อนไหวทว่าภายในกลับรวบรวมกําลังพลจํานวนมากสองชั่วโมงที่แล้วพวกมันเพิ่งจะยกทัพทั้งรังไปยังทิศที่ตั้งของสํานักเบญจลักษณ์มันต้องการโจมตีสํานักเบญจลักษณ์ก่อนมาหาพวกเรา!”เจ้าอ้วนละล่ําละลักรายงานข่าวสารอันน่าตกตะลึงอย่างเร่งด่วนจซื้อเจียรีบวิ่งเข้ามาพร้อมโท่วป่าเซียงเนียวเมื่อได้ยินข่าวจากปากเจ้าอ้วน…โท่วป่าเซียงเพียวจึงมีสีหน้าสลดลงเมื่อรับรู้ว่าบิดาของตนคิดกระทําการชั่วช้าถึงเพียงนั้น

“ว่าอย่างไรนะ?! มุ่งหน้าเข้าโจมตีสานักเบญจลักษณ์อย่างนั้นรึ?”

เยี่ยฉวนยันตัวลุกขึ้นยืนพลางครุ่นคิดชั่วครู่ ทันใดนั้นจึงเข้าใจทุกอย่างกระจ่างขึ้นทันที

เจ้าสํานักชราปล่อยให้บุตรสาวเร่ร่อนออกจากสํานักเพื่อหาที่หลบภัยเพราะเขามีเจตนาร้ายที่เฟื่องฟอย่างแท้จริง!ประการแรก…เขาต้องการแบ่งเบากองกําลังที่คอยคุ้มกันนางและโยกย้ายไปสู้รบจากนั้นจึงใช้ประโยชน์จากการเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องดังกล่าวหมายโจมตีสํานักเบญจลักษณ์ที่ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงจากการนํากองกําลังเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ประการที่สอง…เขาหวังใช้โท่วป่าเซียงเพียวเพื่อยับยั้งการกระทําของตนและนําความสัมพันธ์ฉันครอบครัวเพื่อเป็นการถ่วงเวลา

ช่างปราดเปรื่องเสียจริง!

แผนการของโท่วป่าเซียงในครั้งนี้แยบยลนัก!

หลังเขาบุกเข้ายึดครองอํานาจเบ็ดเสร็จของสํานักเบญจลักษณ์และรวบรวมทรัพยากรจํานวนมหาศาลภายในสํานักสําเร็จก็ถึงเวลาเข้าโจมตีสํานักหมอกเมฆาที่แข็งแกร่งกว่าโดยมีความพร้อมที่มากขึ้น!

จิตใจของเยี่ยฉวนเต้นรัวแรงเมื่อพอเข้าใจสาเหตุของฝ่ายศัตรู สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

“ศิษย์พี่ใหญ่! เป็นเช่นนี้แล้วพวกเราควรทําอย่างไรดี?” จ้าวต้าจ่อเอ่ยถาม

เจ้าสํานักโท่วป่าเซียงแห่งสํานักเครื่องนิลยกไพร่พลมุ่งหน้าไปยังสํานักเบญจลักษณ์อย่างกะทันหัน แม้ยังไม่ทราบผลแพ้ชนะจากการกระทําทว่ายังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงบนเทือกเขาหมอกเมฆาในรอบสหัสวรรษ! เวลานี้สิ่งที่สํานักหมอกเมฆาควรทําคือนั่งมองการสู้รบนองเลือดจากบนยอดเขาสูงสุดหรือควรหยุดยั้งความกระหายอานาจของโท่วป่าเซียงเพื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของเทือกเขาหมอกเมฆากว้างใหญ่ไพศาลนี้?!

“เจ้าอ้วน เจ้ามีความคิดเห็นเป็นอย่างไร?” เยี่ยฉวนหารือกับอีกฝ่ายโดยตั้งคําถามกลับ

“ขะ…ข้าคิดว่า…สํานักของเรานิ่งเฉยเข้าไว้คงเป็นการดียิ่ง! ไม่ว่าอย่างไรสํานักเบญจลักษณ์ก็ไม่เคยมีมิตรไมตรีอันดีต่อเรา ปล่อยให้พวกเขาโรมรันกันเองนั่นแหละดีแล้ว!หากเราส่งกองกําลังเข้าช่วยเหลือและกองทัพของสํานักอสูรเมฆา รวมถึงทหารราชวงศ์ต้าฉันบุกเข้าโจมตีจะทํา อย่างไร?!” เจ้าอ้วนกล่าวคําเบาส่วนโท่วป่าเซียงเพียวซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินเขาบรรยายถึงสถานการณ์เลวร้ายต่างๆระหว่างสองสํานักใบหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกําด้วยความอับอายพลางก้มศีรษะต่ําโดยไม่ปริปากเอ่ยคําใดยิ่งบิดาตนร้ายกาจเพียงใดนางยิ่งทําสิ่งใดไม่ถูกเท่านั้น

“เจียเจีย แล้วเจ้าล่ะ?” เยี่ยฉวนหันไปทางจซื้อเจียพร้อมเอ่ยถาม

“โท่วป่าเซียงมีนิสัยทะเยอทะยานยิ่งนัก หลังยึดครองอํานาจสนักเบญจลักษณ์สําเร็จเขาต้องเบนหัวเรือมาทางสํานักของเราเป็นแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้เราไม่ควรเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นและปล่อยให้พวกเขาทําลายล้างกันโดยไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทว่าสิ่งที่เจ้าอ้วนกล่าวก็นับว่ามีเหตุผลทั้งราชวงศ์ต้าฉันและสํานักอสูรเมฆาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามซึ่งยากเอาชนะเวลานี้พวกเราไม่อาจส่งกองกําลังออกนอกสํานักโดยไม่คํานึงถึงสิ่งนี้” จซื้อเจียหยุดชะงักชั่วครู่ก่อนกล่าวเสริมด้วยน้ําเสียงหนักใจ “ข้าเสนอว่าควรแจ้งข่าวไปยังสํานักเบญจลักษณ์เป็นการเฉพาะอย่างเร่งด่วนก่อนสํานักเครื่องนิลจะยกทัพเข้าโจมตีจากนั้นจึงปล่อยให้พวกเขาเตรียมการรับมือกันเองภายในหลังผ่านไปสักระยะจึงส่งยอดฝีมือชั้นเลิศไปสนับสนุน”

“ถูกแล้ว! ศิษย์พี่หญิงกล่าวถูกต้อง!”

ทันทีที่นางกล่าวจบผองศิษย์จึงโห่ร้องสนับสนุนความคิดของนางเป็นเสียงเดียวเมื่อพิจารณา อย่างถี่ถ้วนรอบด้านวิธีที่นางเสนอแนะถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดจากนั้นเสียงพูดคุยสนทนาจึงเงียบลงทุกคนหันกลับไปมองศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนเพื่อรอคอยคําสั่ง

“วิธีการของจ้าวต้าจอและเจียเจียล้วนสมเหตุสมผล ทว่าทั้งหมดนั่นยังไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดแม่โท่วป่าเซียงผนวกกําลังสํานักเบญจลักษณ์เข้ากับสํานักเครื่องนิลสําเร็จทว่าความสามารถของพวกมันยังไม่คณามือข้า…” เยี่ยฉวนปฏิเสธข้อเสนอของศิษย์น้องคนสนิททั้งสอง

“ศิษย์พี่ใหญ่ เช่นนั้นท่านหมายความว่า…” จซื้อเจียรู้สึกประหม่าทันทีเมื่อพอจะคาดเดาความหมายที่อีกฝ่ายต้องการสื่อได้อย่างเลือนราง
“ฉวยโอกาสที่พวกมันยกไพร่พลทั้งหมดออกจากสํานักเดินหน้าโจมตีอย่างเต็มกําลัง! พวกเราจะใช้โอกาสนี้กวาดล้างสํานักเครื่องนิลให้ราบคาบ!” เยี่ยฉวนประกาศกร้าว

ฝูงชนที่ยืนอยู่ด้านล่างเผยสีหน้าซีดเผือดอย่างตื่นตระหนกยิ่ง! แม้แต่จซื้อเจียยังตกตะลึงเมื่อได้ยินการตัดสินใจเช่นนั้น ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ทว่าเขากลับเลือกส่งกองกําลังทั้งหมดออกไปโจมตีโดยไม่คํานึงถึงอันตรายรอบด้าน หากชนะอาจเป็นเรื่องดีที่สํานักหมอกเมฆาจะกลับขึ้นสู่จุดสูงสุดซึ่งเรื่องอ่านาจมหาศาลทว่าหากล้มเหลวกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันสํานักหมอกเมฆาอาจเผชิญหายนะจากการถูกกวาดล้างอย่างไม่ต้องสงสัย!

“ไม่! เยี่ยฉวน เจ้าทําเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!” โท่วป่าเซียงเพียวรีบก้าวไปด้านหน้าเพื่อยับยั้งการกระทําของชายหนุ่มต่อให้บิดาโกรธแค้นถึงขั้นขับไล่นางออกจากสํานักอย่างไรสายเลือดของนางก็ยังคงพันผูกอยู่กับสํานักเครื่องนิล นางไม่มีวันทรยศสหายร่วมสํานักได้ลงคอเป็นแน่จะให้ทนดูพวกเขาล่มสลายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?!

“ในเมื่อไม่มีผู้ใดมีอํานาจเพียงพอที่จะหยุดยั้งความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราจึงต้องดําเนินการโดยใช้โอกาสที่เกิดขึ้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสํานัก ไม่เช่นนั้นผู้อ อนแอย่อมถูกฝ่ายศัตรูบดขยี้จนไม่เหลือซากพวกเจ้าเคยตระหนักหรือไม่ว่าเหตุใดเทือกเขาหมอกเมฆาจึงไม่กลายเป็นปึกแผ่นเดียวกัน?นั่นก็เพราะสามสํานักใหญ่หมายมั่นแต่จะโรมรันเพื่อชิงอํานาจอันที่จริงความคิดของโท่วป่าเซียงไม่เลวเลย…สามสํานักควรปรองดองเป็นหนึ่งและควรมีประมุขที่ภาวะผู้นําสูงส่งโชคร้ายที่บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเช่นนั้นหาใช่โท่วป่าเซียงแต่อย่างใดสานักเครื่องนิลยังขาดทรัพยากรที่เหมาะสมมากนัก”

เยี่ยฉวนหันไปสบตาโท่วป่าเซียงเพียวผู้เผยใบหน้าซีดเซียวมาตั้งแต่ต้น แววตาที่จ้องมองนางแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงถึงกระนั้นท่าทีที่แสดงออกยังคงแข็งกร้าวและเยือกเย็นยิ่งเขาหยุดชะงักชั่วครู่ก่อนกล่าวเสริม “ต่อให้ข้าไม่กวาดล้างสํานักเครื่องนิลและทําลายอํานาจของบิดาเจ้า เสียตั้งแต่ครานี้ไม่นานสํานักจากต่างแดนย่อมบุกเข้าทําลายทุกสิ่งอย่างจนราบคาบในสักวันแม่นางเซียงเนียวโปรดเชื่อมั่นในตัวข้าและปล่อยให้ข้ากระทําการแต่โดยดีด้วยวิธีของข้าศิษย์ร่วมสํานักส่วนใหญ่ของเจ้าจะยังมีชีวิตรอดนอกจากนี้ข้าสัญญาว่าจะไว้ชีวิตท่านพ่อของเจ้าหากข้าไม่ทําเช่นนี้เกรงว่าจักรวรรดิตฉินและสํานักอสูรเมฆาคงกวาดล้างสํานักเครื่องนิลจนไม่เหลือซากอย่างแน่นอนทหาร!กระจายค่าสั่งของข้าออกไป!ผู้ฝึกตนที่บรรลุขั้นซิวฉือและศิษย์ชั้นเลิศทุกรายจะต้องรวมตัวกันตั้งแต่บัดนี้!”

เยี่ยฉวนออกคําสั่งทันทีที่ตัดสินใจอย่างเฉียบขาด เขาต้องการสร้างมรสุมฟ้าคะนองเพื่อทลายอํานาจของสํานักเครื่องนิลที่ได้มาตรการป้องกันรัดกุมให้สิ้นซากด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว! เขาลอบส่งสัญญาณให้จซื้อเจียเพื่อเร่งดําเนินการตามคําสั่งหญิงสาวพยักหน้ารับก่อนหันไปสั่งการให้ศิษย์บางส่วนเข้าล้อมรอบโท่วป่าเซียงเนียวทันที!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด