Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 339 บรมครผู้เหี้ยมโหด
บทที่ 339 บรมครผู้เหี้ยมโหด
“ท่านบรมครู ไอ้สารเลวนั่นเป็นคนปลิดชีพพรตเต๋สังหาร ทั้งยังทําให้ข้าสูญเสียใบหน้าครึ่งหนึ่ง แขนข้างหนึ่ง และนิ้วอีกสามนิ้ว มัน…” หลีก่วงฮ่านร้อนรนขึ้นมาทันใด
องค์รัชทายาทหนุ่มรอคอยการได้เห็นความตายของเยี่ยฉวนกับตามานานแสนนาน เขาปรารถนาจะเห็นอีกฝ่ายถูกท่านบรมครูฉีกร่างเป็นชิ้นๆ แต่สุดท้ายเยี่ยฉวนกลับได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ภายใต้ราชวงศ์ต้าฉิน เช่นนี้ขอกระอักเลือดให้ตายเสียยังดีกว่า!
“แล้วฝ่าบาททรงมีข้อเสนอแนะอื่นใดหรือไม่?
บรมครูเจียงเดินเชิงมองดูอีกฝ่ายด้วยท่าที่เคารพนบนอบ ตรงข้ามกับหลีก่วงฮ่านที่โกรธเกรี้ยว และเป็นกังวลจนเหงื่อไหลโซมกาย
บรมครูเจียงเฉินเชิงถือเป็นบุคคลสําคัญในจักรวรรดิต้าฉันอย่างแท้จริง แม้แต่จักรพรรดิต้าฉันยังต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ นับประสาอะไรกับองค์ชายรัชทายาท ในรอบพันปีอาจไม่มีบรมครูขั้นกึ่งปราชญ์อุบัติขึ้นแม้แต่คนเดียว ขณะที่ราชวงศ์ยังมีเจ้าชายทั้งพระราชบุตรและพระราชนัดดาอีกนับไม่ถ้วน หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอาจมีองค์ชายรัชทายาทองค์ใหม่มาแทนที่เขาได้ทุกเมื่อ!
“ไม่มี ข้ามิบังอาจหรอก”
หลีก่วงฮ่านสันศีรษะ แม้บรมครูเจียงเดินเชิงจะไม่ได้แผ่แรงกดดันออกมา ทว่าหัวใจของเขากลับสันกลัวจนไม่กล้าขัดขึ้นแม้แต่น้อย
บรมครูเจียงเดินเชิงยกยิ้มก่อนหันไปกล่าวกับเยี่ยฉวน “ว่าอย่างไรพ่อหนุ่ม? เจ้าตรึกตรองถ้วนแล้วหรือยัง? หากตอบตกลง เจ้าจะกลายเป็นแม่ทัพคนสําคัญแห่งจักรวรรดิต้าฉินโดยมีอํานาจอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์คอยหนุนหลัง ในภายภาคหน้าเจ้าจะได้ปกครองทุกสํานักทั่วหล้าและ การบรรลุสู่ขั้นมหาปราชญ์คงไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่หากเจ้าปฏิเสธสํานักหมอกเมฆาของเจ้าจะ ต้องดับสูญภายใต้ฝ่าเท้าของจักรวรรดิต้าฉิน สํานักที่สืบทอดมาหลายล้านปีคงต้องมอดดับไปอย่างน่าเสียดาย
บรมครูกวาดสายตามองยอดเขานับไม่ถ้วนภายในสํานักหมอกเมฆาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปราณวิญญาณอันหนาแน่นพลางทอดถอนใจอย่างนึกเสียดาย
การต่อสู้อันดุเดือดยุติลงทันที ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปทางเยี่ยฉวน
เยี่ยฉวนได้รับอภัยโทษและรางวัลอันยิ่งใหญ่เกินจะกล่าว เวลานี้พวกเขาต่างเฝ้ารอว่าเยี่ยฉวนจะยอมรับข้อเสนอหรือยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะถึงจุดจบอันขมขึ้น!
“ดินแดนหนึ่งหมื่นลี้ยังไม่มากพอ” เยี่ยฉวนกล่าวตอบอย่างเหนือความคาดหมายของทุกคน
เขาไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธแต่เลือกที่จะต่อรองแทน
บรมครูเจียงเฉินเชิงประหลาดใจเล็กน้อยหากแต่ไม่ได้แสดงท่าที่ใดออกไป “ถ้าเช่นนั้นหนึ่งแสนล้ําเล่า? หรือจะเป็นทั้งเทือกเขาหมอกเมฆาพร้อมสามมณฑลโดยรอบ?”
บรมครูยื่นข้อเสนออีกครั้ง เขาดูเหมือนนักปราชญ์ผู้รอบรู้แต่กลับใจกล้าให้คํามั่นสัญญาอันน่าทึ่ง หากเยี่ยฉวนได้ครอบครองทั้งสํานักหมอกเมฆาและสามมณฑลโดยรอบ ราชันแห่งดินแดนทางใต้คงไม่ใช่เพียงฉายาอีกต่อไป เขาจะกลายเป็นอนุกษัตริย์แห่งจักรวรรดิต้าฉันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ตําแหน่งแม่ทัพคนสําคัญอาจเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอมแต่ที่ดินที่ได้ครอบครองนั้นเป็นของจริง!
“ยังไม่พอ” เยี่ยฉวนสั่นศีรษะ
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาที่ยืนกรานจะสู้จนตัวตายเมื่อครู่เริ่มคล้อยตาม ทว่าเยี่ยฉวนกลับปฏิเสธต่อไป
“ในนามขององค์จักรพรรดิ ข้าจะมอบองค์หญิงฉินที่งดงามที่สุดให้เจ้าเป็นคู่ครอง จากนั้นเจ้าจะกลายเป็นพระชามาดา” ในองค์จักรพรรดิ เจ้าว่าอย่างไร?” บรมครูเจียงเฉินเชิงยังวางหมาก เพิ่มอย่างไม่ลดละ หลีก่วงฮ่านเผยสีหน้าไม่สู้ดีทันทีที่ได้ยิน
*พระชามาดา = ลูกเขย
องค์หญิงฉินไม่เพียงงดงามที่สุด หากแต่ยังไม่มีผู้ใดเปรียบในศาตร์ทั้งสี่ด้านไม่ว่าจะเป็นการบรรเลงพิณ การเล่นหมากล้อม การประดิษฐ์ตัวอักษร และการวาดภาพ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นพี่สาวร่วมสายเลือดของหลีก่วงซ่าน หากเยี่ยฉวนตอบตกลง เขาจะต้องนับถือศัตรูที่เขาชิงชังที่สุด เป็นพี่เขยอย่างนั้นหรือ?!
ตาเฒ่าผู้นี้มาเพื่อโค่นล้มสํานักหมอกเมฆาหรือทําให้เขาโกรธจนขาดใจตายกันแน่?!
ใบหน้าของหลีก่วงซ่านบิดเบี้ยว เขาเริ่มรู้สึกคิดผิดที่เขียนสาส์นโลหิตเรียกบรมครูเจียงเกินเชิงมา ชายหนุ่มไม่กล้าแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดออกไปแม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใดก็ตาม
หากเขารู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าคงสั่งการให้กองทัพหลักเคลื่อนทัพอย่างค่อยเป็นค่อยไป และกวาดล้างสํานักหมอกเมฆาด้วยตนเองจะได้ไม่ต้องรู้สึกเช่นนี้ บรมครูเจียงเฉินเชิงผู้แข็งแกร่ง รับฟังคําสั่งจากบิดาของเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ชายชราไม่เคยคํานึงถึงความรู้สึกของหลีก่วงฮ่าน แม้เศษเสี้ยว
หลีก่วงฮ่านรู้สึกถูกละเลยและเพิกเฉย โทสะในใจของเขากําลังคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าไม่สนใจเจ้าหญิงที่ไหนทั้งนั้น” เยี่ยฉวนปฏิเสธอย่างไม่ลังเลทําให้หลีก่วงซ่านลอบถอนใจด้วยความโล่งอก
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด?” บรมครูเจียงเฉินเชิงถาม สีหน้าของเขายังคงไร้อารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
“ข้าต้องการ…ทั้งจักรวรรดิต้าฉัน!”
เยี่ยฉวนเอ่ยสิ่งที่น่าตกตะลึงออกไปก่อนเสริมขึ้นอย่างเย็นชา “แค่ดินแดนยังไม่เพียงพอให้เยี่ยฉวนผู้นี้ถอดเขี้ยวเล็บหรอก ให้ข้าเป็นจักรพรรดิต้าฉันสิค่อยฟังดูเข้าที่หน่อย!”
ในฐานะอดีตมหาปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์ผู้ปกครองทั่วทั้งดินแดนรกร้าง เขาจะยอมรับข้อเสนอพรรค์นี้ได้อย่างไร?
เยี่ยฉวนเล่นลิ้นเพื่อถ่วงเวลาก่อนปฏิเสธอย่างเย็นชา เคราะห์ร้ายที่แม้จะล่าช้าไปนานก็ยังได้ วี่แววของอาวุโสลําดับเจ็ด บางทีเขาอาจเข้าสู่การฝึกตนอย่างสันโดษที่ใดสักแห่งโดยไม่ได้สนใจความเป็นไปของโลกใบนี้
สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนทันทีที่ได้ยินเยี่ยฉวนเอ่ยปากว่าอยากเป็นจักรพรรดิต้าฉันองค์ใหม่ ชายผู้นี้เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร?! เขาจงใจยั่วโทสะบรมครูเจียงเฉินเชิงและรนหาที่ตายงั้นหรือ?
ทั้งสองฝ่ายพลันกลัดกลุ่มขึ้นมาทันใด
ทหารจักรวรรดิต้าฉันยกดาบขึ้นพลางจ้องมองศิษย์สํานักหมอกเมฆาอย่างดุดันเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการนองเลือด
“ฮ่าๆๆ ดี พูดจาอวดดีสมกับเป็นศิษย์พี่ใหญ่สํานักหมอกเมฆาเสียจริง ฮ่าๆๆ”
บรมครูเจียงเฉินเชิงหัวเราะสุดเสียง กระแสพลังงานอันแข็งแกร่งหาใดเปรียบปะทุออกจากร่างของเขาพร้อมจิตสังหารแรงกล้าแผ่ปกคลุมทั่วฟ้า นักปราชญ์ท่าทางธรรมดากลับกลายเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศเทียบเทียมสวรรค์ในชั่วพริบตา เขาเอื้อมมือไปโบกธงชัยโลหิตกล้าแผ่วเบาจนเกิดพายุหมุนรุนแรง
ฟื้ว! สายลมกระโชกแรงพัดพาศิษย์สํานักหมอกเมฆาลอยออกไปราวกับคลื่นยักษ์ ส่วนร่างของปีศาจเพลิงและคนอื่นๆ โงนเงนไปมาตามแรงลมที่ปะทะ มีเพียงเยี่ยฉวนที่ยังคนยืนหยัดอยู่บนพื้นดินตรงหน้าบรมครูเจียงเฉินเชิงอย่างมั่นคง เมื่อสายลมเริ่มอ่อนกําลังลงเขาจึงพุ่งไปข้างหน้าเพื่อเปิดฉากโจมตีราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ การปะทะกันระหว่างจอมยุทธ์ขั้นปรมาจา รย์แห่งเต๋ระดับสองและขั้นกึ่งปราชญ์แทบไม่อาจเรียกได้ว่าการต่อสู้เสียด้วยซ้ํา!
“อย่านะ ศิษย์พี่ใหญ่…”
“คุณชาย ขาด้วย อี้เหยียนจอไปกันเถอะ!”
“ฮิๆๆ ข้าด้วย!”
จูซือเจีย เจ้าอ้วน และสาวกคนอื่นๆ กรีดร้อง ขณะที่ปีศาจเพลิงปีศาจเขาโค้ง และปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินกัดฟันพุ่งเข้าไปพร้อมกัน พวกเขาต้องการสู่เคียงข้างเยี่ยฉวนไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม!
“ใครจะเข้ามาอีก? ดาหน้ากันเข้ามา ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นพลังที่แท้จริงของธงชัยโลหิตกล้าเอง ฮ่าๆๆ”
บรมครูเจียงเฉินเชิงแผดเสียงหัวเราะพลางโบกสะบัดธงในมือ เยี่ยฉวนและคนอื่นๆ ที่กําลังพุ่งทะยานไปข้างหนารู้สึกราวกับถูกดูดเข้าไปในวังน้ําวนใต้ห้วงทะเลลึกจนแทบไม่อาจยืนอยู่ได้ ธงชัยกระทบเข้ากับร่างของพวกเขาเพียงแผ่วเบาก่อนที่เยี่ยฉวน ปีศาจเพลิง และปีศาจเขาโค้งจะกระเด็นออกไปพร้อมกระอักเลือดเต็มปากยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับเจ็ดยังไม่อาจรับมือบรมครูเจียงเฉินเชิงได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว! มีเพียงปีศาจเฒ่าหลัวเต่อที่อยู่ขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าระดับสูงสุดเท่านั้นที่พอจะต้านทานได้หนึ่งหรือสองกระบวนท่าด้วยความยากลําบากแสนสาหัส
บรมครูเจียงเดินเชิงช่างเหี้ยมโหดเสียจริง!
ในเมื่อการโน้มน้าวหาพรรคพวกของเขาไม่ประสบความสําเร็จ เจียงเฉินเชิงจึงเผยด้านที่ร้ายกาจพร้อมพลังมหาศาลท้าทายสวรรค์ เขามีธงชัยโลหิตกล่าเป็นอาวุธสังหาร อีกทั้งยังแผ่แรงกดดันอันทรงพลังที่ทําให้ผู้คนหวาดกลัวจนต้องถอดใจยอมแพ้
โฮก!
เยี่ยฉวนลูกขึ้นคํารามก้องก่อนโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์อย่างบ้าคลั่งเพื่อเข้าสู่สภาวะกิ่งมังกรร่างของเขากลับกลายเป็นครึ่งคนครึ่งมังกรที่มีพลังปราณทวีคูณขึ้นมาก เขากระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างดุดันขณะที่เสียงคํารามของมังกรปีศาจที่แท้จริงดังขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า
หลงเอ๋อร์น้อยในร่างมังกรปีศาจบินตรงมาพร้อมภูตทะเลไหลี่ลี่บนหลัง
บรมครูเจียงเดินเชิงแข็งแกร่งมากจนมังกรปีศาจที่แท้จริงยังไม่อาจต่อกรได้ นับประสาอะไรกับกายากิ่งมังกร เยี่ยฉวนกัดฟันพุ่งไปข้างหน้าโดยฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่พลังโดยกําเนิดของภูตทะเลสาว ขอแค่บรมครูเจียงเฉินเชิงมึนงงไปวินาทีเดียวก็เพียงพอแล้ว นี่เป็นไพ่ตายใบสุดท้ายและเป็นความหวังเดียวที่สํานักหมอกเมฆาจะอยู่รอดต่อไปได้!
คอมเม้นต์