Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 360 เนื้อแท้ของเขาไม่ใช่บุรุษ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 360 เนื้อแท้ของเขาไม่ใช่บุรุษ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 360 เนื้อแท้ของเขาไม่ใช่บุรุษ

“ช้าก่อน! บอกกล่าวให้กระจ่างที่เถิด เจ้าจะจัดการกับสํานักหมอกเมฆาอย่างไร?” คุณหญิงมู่หรงเฟยหูเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงราบเรียบ

“ศิษย์น้องหญิง เจ้าใคร่รู้แผนการของข้ากระนั้นรึ?” เจ้าสํานักหลงเฟยชะงักการกระทําของตนก่อนถามกลับพลางเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียมไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ความคิดที่แท้จริงของเขา

“แน่นอน… ข้าอยากรู้

มู่หรงเฟยหูหยุดชะงักครู่หนึ่งก่อนกล่าวเสริม “ตอนนี้ถึงแม้เจ้าจะเป็นถึงประมุขแห่งสํานักทว่าข้าไม่อาจทนเห็นสํานักมังกรนภาย่อยยับลงด้วยน้ํามือของเจ้าได้ ต่อให้สํานักหมอกเมฆาเสื่อมโทรมลงทุกขณะแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสถานะเป็นสํานักผู้ฝึกตนซึ่งมีรากฐานสืบทอดมานับล้านปีทั้ง ยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสํานักใหญ่เช่นอสูรเมฆา ส่วนเยี่ยฉวนแม้ยังเยาว์นักแต่วรยุทธ์กลับสูงส่งเทียบเท่าขั้นยอดอัจฉริยะในรอบพันปีเขาสามารถระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายในสํานักได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังผนวกสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ให้รวมเป็นหนึ่งครั้งล่าสุดยังสามารถยุติสงครามระหว่างฝ่ายตนเองและกองกําลังทหารแห่งจักรวรรดิต้าฉันนั่นหมายความว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่เราจะจัดการกับเขาง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไรกัน?!”

“ข้าตระหนักดีว่าไอ้เด็กนั่นรับมือได้ยากยิ่ง และรู้ดีว่าภารกิจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าเราไม่อาจยอมแพ้โดยไม่ลองเสี่ยงเช่นนี้!”

“นอกจากปีศาจเฮยจอทั้งห้าตนแล้วยังมีผู้ใดอีกล่ะ?” คุณหญิงเอ่ยถาม

“ยังมีวิญญาณชั่วร้ายเก่าแก่ทั้งห้าจอมราชันที่แท้จริงแห่งยอดขุนเขา…” เจ้าสํานักหลงเฟยกล่าวตอบ

ทั้งสองผลัดกันปุจฉาและวิสัชนาอยู่ครู่ใหญ่

คุณหญิงมู่หรงเฟยหูสอบถามทุกรายละเอียดของแผนการจากปากอีกฝ่ายไม่ให้ตกหล่นไปแม้ แต่กระบวนการเดียวโดยใช้วิธีอ้างถึงความวิตกกังวลที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจส่วนเจ้าสํานักผู้เป็นสามี ก็ไร้ซึ่งท่าที่เคลือบแคลงสงสัย ทั้งยังอธิบายขั้นตอนให้นางฟังอย่างถี่ถ้วนเขาไม่รู้สึกเอะใจเลย แม้แต่น้อยว่ามีบุรุษอีกคนซ่อนกายอยู่บนเตียงนอน

หลังตกประหม่าไปชั่วขณะหนึ่งเยี่ยฉวนจึงลอบขยับกายเพื่อคล่าหามือของนางอย่างแผ่วเบา

ขณะที่คุณหญิงกําลังหลอกล่อหลงเฟยให้คายความลับโดยละเอียดพร้อมตั้งคําถามหลายประ การเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว เยี่ยฉวนจึงอาศัยจังหวะนี้เล่นกลบางอย่าง เขาจงใจหยอกเอ็นร่างกายนุ่มนวลของนางอย่างเชื่องช้า ครั้นสัมผัสอ่อนไหวถูกกระตุ้นคุณหญิงจึงเกิดอาการอ่อนระทวยและร่างกายสั่นสะท้านด้วยความซาบซ่าน

“ฮูหยิน เกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้ากระนั้นรึ?” เจ้าสํานักหลงเฟยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนในค่ำคืนนี้มีท่าทางที่แปลกไป

“ปะ…เปล่า ข้ามะ…ไม่ได้เป็นอะไร เพียงรู้สึกหนาวเท่านั้น”

คุณหญิงบอกปัดไปว่าตนรู้สึกเหน็บหนาว ทว่าร่างกายเปลือยเปล่าของนางกลับร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งฝ่ามือเย็นเยียบของเขาลูบไล้ไปทั่วผิวกายของนางก็เพิ่มอุณหภูมิเป็นร้อนจัด

“อาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของเจ้ากําเริบก็เป็นได้ ให้ข้าตรวจดูหน่อยเถิด” ดวงตาของหลงเฟยเปล่งประกายราวหมดความอดทนเพราะสงสัยในความผิดปกติบางสิ่งจากนั้นจึงสืบเท้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

เยี่ยฉวนชะงักการเคลื่อนไหวของตนก่อนเพ่งสมาธิไปที่การโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ในร่างเพื่อเตรียมพร้อมต่อการเคลื่อนไหวรุนแรงหากเจ้าสํานักหลงเฟยเล็กผืนผ้าห่มขึ้น

คุณหญิงมู่หรงเฟยหูปัดฝ่ามือรุ่มร่ามของเยี่ยฉวนทิ้งอย่างไม่แยแสก่อนกระโดดลงจากเตียงทั้งๆ ที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดสายตาจับจ้องไปยังหลงเฟยด้วยอาการสงบเยือกเย็น

ทั้งเยี่ยฉวนและหลงเฟยต่างตกตะลึงการกระทําของนางเป็นอย่างยิ่ง!

ประหลาดนัก! คุณหญิงแห่งสํานักมังกรนภาต้องการทําสิ่งใดกันแน่?!

เยี่ยฉวนสังเกตถึงความผิดปกติระหว่างความสัมพันธ์ของเจ้าสํานักหลงเฟยและคุณหญิงมู่หรงเฟยได้อย่างรวดเร็วทั้งคู่ไร้ซึ่งไมตรีพันผูกแน่นแฟ้นเฉกเช่นสามีภรรยาทั่วไปสิ่งนี้ทําให้จิตใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสงสัย ทั้งยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดคุณหญิงจึงเรียกเขาให้มาพบในค่ําคืนนี้?

เจ้าสํานักหลงเฟยตกตะลึงนิ่งไปชั่วขณะ ครั้นดึงสติกลับคืนมาสําเร็จจึงแค่นเสียงคํารามกลัวหัวเราะ “ฮ่าๆๆ! มิน่าเล่าวันนี้ท่าทีของเจ้าจึงเย็นชาผิดประหลาดนักเป็นเพราะเจ้าพร้อมสําหรับข้าแล้วนั่นเอง! ให้ได้อย่างนี้สิภรรยาผู้แสนดีของข้าเริ่มได้แล้ว!”

หลงเฟยยังหัวร่อไม่หยุดทว่าเขาไม่กระโจนใส่เรือนร่างเย้ายวนทรงเสน่ห์ของนางแต่อย่างใด ไม่แม้แต่จะกดร่างนางลงบนเตียงนอน หากแต่ถอยไปหย่อนกายลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่และทําท่าทางราวรอรับชมมหรสพตระการตา

คุณหญิงมู่หรงเฟยหูไม่ปริปากกล่าวค่าใด ทันใดนั้นแสงสีฟ้าสว่างวาบพลันปรากฏขึ้นพร้อมกับเครื่องพิณเจ็ดสายที่วางแนบอยู่บนหน้าอก นิ้วขาวเรียวประดุจหยกของนางดีดสายพิณจนเกิดเป็นท่วงทํานองไพเราะเพราะพริ้ง จากนั้นนางจึงเริ่มเต้นระบําด้วยใบหน้าที่เย็นชาไร้อารมณ์

ภายใต้เสียงดนตรีขับกล่อมเสนาะหูดังกล่าว เยี่ยฉวนมองเห็นเพียงเรือนร่างงามสง่าของนางที่เคลื่อนไหวร่ายรําไปตามจังหวะ บางครั้งทรวดทรงสะโอดสะองพลิ้วไหวไปตามทํานองที่กระชั้น…และบางครั้งจังหวะก็เนิบช้าลงเพื่อเน้นสรีระทุกส่วนสัด แม้เขาเคยผ่านสตรีมานับไม่ถ้วนในช่วงชีวิตภพชาติก่อน แต่เมื่อลอบสังเกตการแสดงของนางจากภายใต้ผืนผ้าห่มเช่นนี้ ลูกก ระเดือกของเขากลับขยับขึ้นลงเพราะลําคอแห้งผาก ผิวกายแปรเปลี่ยนเป็นร้อนระอุด้วยเพลิงราคะ ทว่าที่น่าแปลกคือกายแกร่งท่อนล่างของเจ้าสานักหลงเฟยที่นั่งมองอยู่บนเก้าอี้กลับไร้ปฏิกิริยาตอบสนองซ้ําร้ายเขายังจับจ้องนางด้วยความเพลิดเพลินราวรับชมจิ๋วที่มีเสื้อผ้าอาภรณ์มิดชิด!

ครั้นบทเพลงสิ้นสุดลง เรือนร่างงดงามหมดจดของมู่หรงเฟยหูจึงหยุดการเคลื่อนไหวอย่างเนิ บช่า

“ประเสริฐ! ประเสริฐยิ่ง! แคว้นใดในใต้หล้าไม่มีผู้ใดสามารถเทียบชั้นการร่ายรําเท่าฮูหยินของข้าผู้นี้! รูปร่างของเจ้าช่างงดงามนัก ทักษะการบรรเลงพิณเจ็ดสายยังล้ําเลิศ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวหรือก็ชวนมองไม่น้อยฮ่าๆๆ!”

เจ้าสํานักหลงเฟยปรบมือพร้อมร้องตะโกนและระเบิดเสียงหัวเราะลั่นด้วยความชื่นชมไม่นาน นักน้ําเสียงของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างกะทันหัน “นี่ก็ดึกมากแล้ว ฮูหยินควรพักผ่อน ร่างกายโดยเร็ว ส่วนเรื่องอีกสองวันตามแผนการที่ข้าบอกกล่าวก่อนหน้าตัวเจ้าไม่จําเป็นต้องมีส่วนร่วมแต่อย่างใดจงพักฟื้นร่างกายให้สมบูรณ์และรอคอยจนกว่าข้าจะกลับจากสํานักหมอกเมฆา ถึงเวลานั้นเจ้าควรบรรเลงบทเพลงให้ข้าชื่นชมอีกครั้ง ศิษย์พี่ผู้นี้ขอตัวไปฝึกฝนตําราลับมังกรนภาก่อน ฮ่าๆๆ!”

ครั้นคํากล่าวสิ้นสุดลงประมุขสูงสุดแห่งสํานักมังกรนภาจึงเดินจากไป

คุณหญิงมู่หรงเฟยหูเม้มริมฝีปากสนิทไร้ซึ่งค่าใดเล็ดลอดออกมา ร่างกายอวบอัดงดงามของนางสั่นเทาด้วยความหนาวเย็นจากบรรยากาศโดยรอบ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทําให้เยี่ยฉวนซึ่งเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ตกตะลึงยิ่ง!

เดิมที่เขาคิดว่าตนคงกลายเป็นสักขีพยานรักสําหรับคนทั้งสองโดยบังเอิญในค่ําคืนฤดูใบไม้ผลิอันหฤหรรษ์นี้เสียแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่ายังไม่ทันต่อสู้ทุกอย่างกลับลงเอยเช่นนี้ เจ้าสํานักหลงเฟยทอดสายตาชื่นชมความงามของภรรยาทุกส่วนสัดแต่เหตุใดจึงไม่กระทําการล่วงเกินแม้สัมผัส? เขายังคงความเป็นบุรุษเพศอยู่หรือไม่?

คุณหญิงเดินไปปิดประตูลงกลอน ก่อนหวนกลับไปที่เตียงนอนและแทรกกายเข้าไปอยู่ภายใต้ผืนผ้าห่มอย่างเงียบเชียบ

ครั้งนี้เยี่ยฉวนไม่ได้หยอกล้อกับเรือนร่างของอีกฝ่ายอีกต่อไป…

บรรยากาศภายในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัดกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนค่อนคืน

ทันใดนั้นเขาจึงได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วเบาดังขึ้นจากลําคอของนาง คุณหญิงไม่ได้กล่าวคําตัดพ้อใดๆ ทว่าผืนผ้าที่ปิดคลุมใบหน้าของนางกลับเปียกชื้นเพราะหยดน้ําตาสตรีผู้วางตนเร้นลับต่อหน้าผู้อื่นกําลังสะอื้นไห้ด้วยความโศกศัลย์อย่างที่สุด

สิ่งใดถือเป็นความอัปยศอดสูใหญ่หลวงสําหรับชีวิตคู่?

แน่นอนว่าไม่ใช่คนสองคนซึ่งมีความรักภักดีต่อกันแต่ไม่อาจเคียงคู่ร่วมชายคาทว่าเป็นบุคคลสองคนซึ่งไร้จิตปฏิพัทธ์ต่อกันหรืออาจถึงขั้นเกลียดชัง แต่กลับถูกบีบบังคับให้อยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันทุกคืนวัน ผู้อื่นที่เป็นคนนอกไม่อาจเข้าใจลึกซึ้งต่อความเจ็บปวดและอัปยศอย่างหาใดเปรียบที่พวกเขาต้องเผชิญ

เยี่ยฉวนตระหนักโดยทันที่ว่าเหตุใดจิตใจของคุณหญิงแห่งสํานักมังกรนภาจึงเต็มไปด้วยความโศกาเช่นนี้

เขาสันนิษฐานอย่างคลุมเครือว่าเจ้าสํานักหลงเฟยผู้นี้อาจเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจนไม่อาจปฏิบัติกิจเยี่ยงสิ่งที่บุรุษเพศสมควรกระทําได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือแววตาของชายผู้นั้นปราศจากความรักต่อภรรยาขณะที่คุณหญิงร่ายราพร้อมเปิดเปลือยเรือนร่างถึงเพียงนี้ ทว่าสีหน้าของเขากลับฉายความเย็นชาประหนึ่งไม่ใช่สามีแต่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับคู่รักอื่นอาจมองว่าเป็นการชื่นชมด้วยความรัก แต่สําหรับนางกลับคิดว่าเป็นเรื่องด่างพร้อยที่แสนอัปยศในชีวิตที่ผ่านมานางต้องกล้ํากลืนฝืนทนอยู่ในสภาพนี้มาโดยตลอดโดยไร้หนทางอื่น

“คุณหญิง โปรดอภัยให้ข้าด้วยสําหรับความผิดที่ข้ากระทําไปเมื่อครู่…”

เยี่ยฉวนกล่าวด้วยความสํานึกผิดและไม่สบายใจก่อนหยัดกายลุกขึ้นตั้งท่าจะจากไป ฉับพลันขาเรียวคู่หนึ่งกลับเกี่ยวกระหวัดรัดรอบกายเขา สตรีผู้เย็นชาดจภูเขาน้ําแข็งเป็นนิจเมื่ออยู่ต่อหน้าสามีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วก่อนผลักเยี่ยฉวนลงบนเตียงอ่อนนุ่มผิวกายของนางร้อนระอุ ราวกิ่งไม้แห้งที่ถูกสุมเป็นฟืนไฟท่าทางนั้นแสดงออกชัดเจนว่าเรียกเร้าเพียงใด

สัณชาตญาณสัตว์เมื่อตัวผู้ไล่ตามตัวเมีย พวกมันอาจสร้างกําแพงแยกจากกันเพราะทิวเขาที่กั้นขวางทว่าตราบใดที่ตัวเมียไล่ตามตัวผู้ พวกมันทั้งสองถูกคั่นกลางไว้ด้วยกระดาษไขแผ่นบางเท่านั้น

ทันทีที่คุณหญิงมู่หรงเฟยหริเริ่มฉีกกระดาษแผ่นบางที่กั้นขวาง การแสดงออกอันร้อนแรงของนางจึงกระตุ้นเปลวเพลิงแห่งกามารมณ์ในร่างกายของเยี่ยฉวนซึ่งถูกระงับมานานโขให้โหมกระหน่ำขึ้นอีกครั้ง!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด