Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 363 ถ้ําปีศาจ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 363 ถ้ําปีศาจ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 363 ถ้ําปีศาจ

เที่ยงวันต่อมา กองคาราวานค้าขายที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลมาถึงเมืองมังกรนภาในที่สุด ด้วยการจัดการของพ่อค้าคนกลางทําให้พวกเขาแทบไม่ทิ้งร่องรอยใดเอาไว้ ผู้คนส่วนใหญ่ ในขบวนนี้เป็นพ่อค้าและหน่วยคุ้มกันทั่วไปแทบทั้งหมด ทว่าผู้ร่วมขบวนบางคนกลับไม่ธรรมดาอย่างที่คิด

ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยิน ปีศาจเพลิง หนานเทียนโตว และคนอื่นๆ เร่งรุดมายังเมืองมังกรนภาทันที่ที่ได้รับสารจากเยี่ยฉวนและเข้าพํานักในที่ที่คุณหญิงมังกรนภาจัดเตรียมไว้ให้

หลังค่ําคืนบ้าระห่สิ้นสุดลง เยี่ยฉวนกลับไปยังห้องพักของตนเพื่อชําระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะฝึกตนรอการต่อสู้อันดุเดือดในค่ําคืนนี้อย่างเงียบเชียบ

ทั้งสองฝ่ายแอบพบปะกันอย่างลับๆ และเตรียมการทุกสิ่งไว้พร้อม เหลือเพียงเฝ้ารอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น

เจ้าสํานักหลงเฟยนั่งรถม้าออกจากสํานักมังกรนภาไปเมื่อตะเกียงไฟถูกจุดขึ้นในยามโพล้เพล้

รถม้าธรรมดาที่มีผู้คุ้มกันเพียงห้าคนแล่นออกทางประตูข้างของสํานักโดยไม่มีผู้ใดสนใจรวมถึงคนนอกอย่างองค์รัชทายาทหลีก่วงซ่าน แม้แต่คนสนิทของหลงเฟยยังไม่รู้ตําแหน่งของเขาในขณะนี้

บนเนินเขามืดมิดนอกเมือง เยี่ยฉวนและคุณหญิงมังกรนภายืนอยู่เคียงข้างกันพลางจับจ้องรถม้าของเจ้าสํานักหลงเฟยด้วยสายตาเยือกเย็น เบื้องหลังมีกลุ่มคนในชุดคลุมสีดําและหมวกไม่ไผ่ใบกว้างราวโหลหนึ่งยืนอยู่ ทุกคนต่างเคร่งขรึมและสงบเงียบ

“คุณชายเยี่ย ทําตามคําขอของข้าอย่างหนึ่งได้หรือไม่?” คุณหญิงเฟยหูถามขึ้น

“ว่ามา” เยี่ยฉวนตอบ

“หากข้าต้องตายตกที่นี่ โปรดฝังข้าไว้เคียงข้างหลุมศพของท่านพ่อ”

คุณหญิงกล่าวออกด้วยท่าที่เคร่งขรึมก่อนเสริมขึ้น “ท่านแม่จากไปเร็วนัก ท่านเสียชีวิตจากการให้กําเนิดข้าจึงมีแต่ท่านพ่อเพียงผู้เดียว ในวัยเด็กข้าซุกซนมากจนโดนดอยู่บ่อยครั้ง พอโตมาได้สักหน่อยก็เอาแต่เล่นไปวันๆ ไม่เคยคิดเชื่อฟังทั้งยังฝึกตนอย่างไม่เต็มใจ กว่าข้าจะเติบใหญ่จนเริ่มมีเหตุผลและเข้าใจเรื่องการประพฤติตนให้เหมาะสม ท่านพ่อก็จากไปเสียแล้ว ฉะนั้น ข้าจึงอยากหลับใหลเคียงข้างท่านเพื่อจะได้ปรนนิบัติท่านอย่างเหมาะสมในโลกหลังความตาย”

“ตกลง” เยี่ยฉวนพยักหน้า

“คุณชายเยี่ย แล้วท่านเล่า? ไม่มีคําสั่งเสียใดเลยหรือ?” คุณหญิงเอ่ยถาม

“ไม่”

เยี่ยฉวนสันศีรษะ “ข้าไม่ต้องการให้ผู้คนที่ข้ารักได้ยินคําสั่งเสียของข้า ขณะเดียวกันผู้คนที่รัก ข้าก็ไม่ต้องการได้ยินมันเช่นกัน ฉะนั้นข้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ว่าจะเพื่อคนที่ข้ารักหรือรักข้าก็ตาม”

“คนที่ข้ารัก…คนที่รักข้า..” คุณหญิงมังกรนภาพึมพํากับตนเองและหันไปมองร่างสูงสง่าของเยี่ยฉวนด้วยความตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

รถม้าของเจ้าสํานักหลงเฟยเร่งความเร็วขึ้นทันทีที่ออกจากสํานักมังกรนภา

“ไปกันเถอะ!”

เยี่ยฉวนพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่นๆ เพื่อไล่ตามรถม้าของหลงเฟยที่กําลังจะหายลับขอบฟ้าไป คนทั้งกลุ่มไล่ล่ารถม้าตรงหน้าอย่างเลือดเย็นดุจฝูงค้างคาวออกล่าเหยื่อยามราตรี

หนึ่งชั่วยามล่วงไป รถม้าหยุดลงหน้าหุบเขาแห่งหนึ่ง

เจ้าสํานักหลงเฟยกระโจนออกจากรถม้าเข้าสู่ถ้ําที่สุดปลายหุบเขาด้วยตนเอง แม้จะยืนมองจากระยะไกลก็ยังได้ยินเสียงคํารามดังแว่วมาจากภายในพร้อมเสียงลากโซ่ตรวน ชวนให้เยี่ยฉวนนึกถึงมังกรปีศาจเพิ่งเอ๋ที่เคยถูกกักขังอยู่ในกันบึงหุบเขามังกรปีศาจ

ทั้งภายในและภายนอกหุบเขามีออร่ารุนแรงเกินบรรยายปกคลุมอยู่ แม้แต่อุณหภูมิโดยรอบยังแตกต่างไปจากบริเวณอื่น ระลอกคลื่นความร้อนพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ

เยี่ยฉวนและพรรคพวกหยุดอยู่นอกหุบเขาก่อนคุณหญิงเฟยหูจะส่งสัญญาณ ชายชุดคลุมสีดําคนหนึ่งแกว่งตัวไปมาราวกับงูและแหวกว่ายไปข้างหน้า ไม่นานทหารอารักขานอกหุบเขาก็ล้มลงทีละคนโดยปราศจากรอยเลือด มีเพียงส่วนหัวที่ถูกบิดจนห้อยพับปวกเปียกไปด้านข้าง

ปรมาจารย์นาคา!

เขาคือหนึ่งในบรรดายอดฝีมือที่ภักดีต่อคุณหญิงเฟยหู ทั้งยังเป็นศิษย์สามัญของบิดาของนางที่เชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารมากที่สุด

เยี่ยฉวนและคุณหญิงมังกรนภามุ่งมั่นที่จะทําปฏิบัติการในค่ําคืนนี้ให้สําเร็จลุล่วง พวกเขาจึงต้องปลิดชีพทหารอารักขาทั้งภายในและภายนอกหุบเขาก่อนที่จะลงมือสังหารหลงเฟยเพื่อกําจัดตัวแปรทั้งหมดให้สิ้น

ภายในหุบเขามีแนวป้องกันอยู่เพียงสองแนว!

ทหารอารักขารอบนอกมีหน้าที่คุ้มกันทางเข้าหุบเขา แม้ฐานการฝึกตนของพวกเขาจะโดดเด่นทว่าส่วนใหญ่แล้วอยู่เพียงขั้นซิวฉือ มิหนําซ้ํายังมีจํานวนราวยี่สิบถึงสามสิบคนเท่านั้น ปรมาจารย์นาคาจึงจัดการพวกเขาทั้งหมดได้โดยไม่มีผู้ใดไหวตัวทัน

หลังปรมาจารย์นาคาจัดการจนเสร็จสิ้นแล้วก็ถึงคราวของคุณหญิงเฟยหูแห่งสํานักมังกรนภา!

นางถอดหมวกไม่ไผ่ออกและตรงไปยังถปีศาจที่ปลายหุบเขาพร้อมผู้คุ้มกันจํานวนหนึ่ง ทหารอารักขาภายในถ้ําแข็งแกร่งกว่าภายนอกหลายเท่าตัวนัก พวกเขาทั้งหมดเป็นยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอาณาเขตปกคลุมอยู่มากมาย แม้แต่ปรมาจารย์นาคาก็ไม่อาจลักลอบเข้าไปได้

“ใครน่ะ? หยุดเดี๋ยวนี้!” ทหารอารักขานายหนึ่งตะโกนขึ้นเมื่อเห็นกลุ่มคนใกล้เข้ามา

“อะไรกัน? วันนี้เป็นเวรยามของผู้ใด? เหตุใดจึงจําข้าไม่ได้?!” คุณหญิงมังกรนภาเอ่ยคําแข็งกร้าวพลางเดินหน้าต่อไปโดยมีเหล่าสาวกเดินตามหลัง

“เอ่อ คุณหญิงนี่เอง!”

เหล่าทหารอารักขาจําได้และรีบทําความเคารพทันที ผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยถามอย่างกระอักกระอ่วน “คุณหญิง มะ…มาที่นี่ได้อย่างไรขอรับ?

“ท่านพ่อยังมาได้ สามีของข้าก็ยังมาได้ แล้วเหตุใดข้าจะมาไม่ได้เล่า?”

คุณหญิงเฟยหูก้าวมาข้างหน้าไม่หยุดยั้ง ทหารอารักขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดทางให้

หัวหน้าทหารขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติเมื่อคนกลุ่มนี้เดินผ่านไป กลุ่มผู้ติดตามในชุดคลุมสีดํามีจิตสังหารแผ่ซ่าน “หยุด หยุดพวกเขาเอาไว้!”

แสงกระบี่เย็นเยียบถึงกระดูกพลันสว่างวาบ

บรรดายอดฝีมือเบื้องหลังคุณหญิงมังกรนภาลงมือสังหารเหล่าทหารอารักขาและทําลายอาณาเขตนอกถ้ําในพริบตา! เถาวัลย์นับไม่ถ้วนผุดขึ้นจากพื้นดิน ลูกศรแหลมคมพุ่งลงมาจากท้องฟ้าราวกับฝนห่าใหญ่ กระบีบินพุ่งหวีดหวิวแหวกอากาศ… กองกําลังทั้งหมดต่างพร้อมใจกัน เคลื่อนไหวเพื่อจู่โจมทหารที่เหลืออยู่ทันใด!

หุบเขาที่ถูกคุ้มกันอย่างเข้มงวดตกไปอยู่ในมือของเยี่ยฉวนอย่างรวดเร็ว!

จากนั้นกลุ่มผู้ติดตามของคุณหญิงจึงสร้างอาณาเขตขึ้นใหม่ตามแผนการ อาณาเขตนี้ไม่เพียง เพื่อรับมือกับการโต้กลับจากสํานักมังกรนภาที่อาจเกิดขึ้น หากแต่ยังเพื่อต่อกรกับเจ้าสํานักหลงเฟยที่ล่วงหน้าเข้าไปในถ้ําปีศาจก่อนพวกเขาอีกด้วย พวกเขาต้องการล้อมฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตกไปในหุบเขานี้!

คุณหญิงมังกรนภาเฟยหูงดงามและมีเสน่ห์ตามแบบฉบับของผู้ใหญ่ ภายนอกแลดูอ่อนโยนทว่าภายในกลับแข็งแกร่งดุจหินผา นางวางอุบายเพื่อสังหารเจ้าสํานักหลงเฟยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมานานหลายวัน วิธีการของนางช่างโหดเหี้ยมเตือนให้เยี่ยฉวนนึกถึงสตรีอีกคน นั่นคือหลิวหงแห่งสํานักเบญจลักษณ์ผู้สะสวยและร้ายกาจในเวลาเดียวกัน ทั้งสองมีเสน่ห์และรูปแบบการวางแผนที่คล้ายคลึงกัน แต่เมื่อเทียบกับหลิวหงแล้ว คุณหญิงมังกรนภามีพื้นฐานจิตใจที่ดีงาม และมีกลิ่นอายความเป็นหญิงมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังมีโชคกว่าหลิวหงเล็กน้อย

หลิวหงช่างอาภัพนัก นางพยายามเกาะติดชายผู้มั่งคั่งและมีอานาจไปทุกหนแห่ง แต่สุดท้ายกลับต้องตายตกกลายเป็นรูปปั้นหินในอาณาจักรสวรรค์ นางไม่อาจล่อลวงผู้คนได้อีกไม่ว่าจะงดงามเพียงใดก็ตาม

เยี่ยฉวนยังไม่ได้ลงมือทําสิ่งใดนอกจากเฝ้าดูอย่างพินิจพิเคราะห์

การต่อสู้ดเดือดที่แท้จริงยังไม่เริ่มต้นขึ้น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด