Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – ตอนที่ 130 – วันเบาๆที่เป็นปกติ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก ตอนที่ 130 - วันเบาๆที่เป็นปกติ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก

 

130 – วันเบาๆที่เป็นปกติ

 

ด้วยประสบการณ์ครั้งก่อน ดูเหมือนการอาบน้ำที่ไปยิ่งช่วยโจวเจ๋าจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวหลิน?”

 

โจวเจ๋อถาม

 

“เจ้านาย ตอนที่เราไปคุณหมดสติอยู่บนพื้น พี่หลินยังไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ครอบครัวก็วุ่นวาย โดยเฉพาะในห้องน้ำ กระจกและกระเบื้องแตกกระจายไปหมด

 

เราพาคุณออกมา ต่อมาไม่มีใครจากฝั่งของตระกูลหลินมาถาม เกี่ยวกับเรื่องของคุณด้วยซ้ำ น้องสาวคนเล็กของพี่หลินไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนพี่หลินก็ไปทํางาน”

 

โจวเจ๋อพยักหน้าและมองเข้าไปในกระจก ผมของเขาดูยาวขึ้นเล็กน้อย เขาพูดกับไปยิ่งว่า

 

“ช่วยผมเล็มผมสักหน่อย”

 

“ตกลง”

 

ไปวิ่งออกไปหยิบกรรไกรเพื่อช่วยโจวเจ๋อตัดผม

 

เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์โจวเจ๋อก็ถูกนําตัวไปนั่งรถเข็นที่เพิ่งซื้อมาใหม่ มันเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถวิ่งไปเองคล้ายกับรถบั้มในสวนสนุก

 

“ใครซื้อ? “ ใบหน้าของโจวเจ๋อเป็นสีดํา

 

“เจ้านาย ไม่ชอบเหรอครับผมอุตส่าห์ซื้อมาเตรียมให้กับเจ้านายโดยเฉพาะ ดูสิ! ”

 

เหล่าเต๋ากดปุ่มบางอย่าง จากนั้นรถเข็นทั้งหมดก็เริ่มเรืองแสงด้วยแสงหลากสี เหล่าเต๋าคิดว่าโจวเจ๋อคงจะพอใจมาก

 

ไม่รู้ว่าวันนี้โจวเจ๋ออ่อนแอมากเกินไปหรือเปล่าแทนที่จะนั่งบนรถเข็นแต่เขากลับนั่งบนโซฟาตลอดทั้งวัน

 

ซูชิงหลางไม่ได้อยู่ในร้าน ดูเหมือนว่าเขาจะมีอะไรทําที่บ้านเดิม เขาจึงกลับไปแล้วแต่ว่าทิ้งน้ำผลไม้ไว้ค่อนข้างมาก

 

วันดูเหมือนว่าจะฟื้นคืนจังหวะที่คุ้นเคย ผ่านไปซักพักก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากในท้ายที่สุด

 

ในฐานะที่เป็นผีระดับเดียวกันภายในเมืองนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหญิงตัวน้อยจะไม่รู้ถึงการดํารงอยู่ของผู้หญิงชุดดําคนนั้น

 

แต่เธอไม่เคยบอกอะไรเขาเลย

 

โจวเจ๋อนั่งพิงโซฟาและอาบแดดผ่านกระจก ไป๋อิ่งทําหน้าที่ต้อนรับแขก แม้ว่าซูชิงหลางจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ไปอิงก็สามารถเรียนรู้วิธีชงกาแฟและเครื่องดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่โต๊ะข้างๆโจวเจ๋อ มีผู้หญิงสองคนที่มีผมยาวแต่เสียงของพวกเขาแหบแห้งเล็กน้อยเหมือนไม่ได้ทานน้ำมา

 

ผู้หญิงสองคนกําลังคุยกันเรื่องนิตยสารแฟชั่นในมือ และยิ่งพวกเขาคุยกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นเท่านั้น

 

“ฉันมีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง ฉันพบสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากเมื่อเร็วๆนี้

 

” พูดสิ”

 

“สัปดาห์ที่แล้ว ฉันสังเกตเห็นว่าถุงน่องและเสื้อคลุมอาบน้ำที่ฉันทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้า ในห้องน้ำที่บ้านหายไปไหนก็ไม่รู้”

 

“อ้าว มีคนเข้ามาขโมยของในบ้านเธอเหรอ”

 

“ ตอนแรกนึกว่าเป็นขโมย แต่กลับพบว่าไม่ใช่”

 

“ใครทํา?”

 

“เสี่ยวเหวิน ฉันสังเกตเห็นเวลานั้นมันคือเสี่ยวเหวิน หลังจากที่ฉันอาบน้ํา เขาเข้าไปในห้องน้ำด้วย เมื่อฉันกลับออกมาอีกครั้ง ฉันพบว่าถุงน่อง เสื้อคลุม และชุดชั้นในอื่นๆ ถูกพลิกกลับและมีรอยเปื้อนบางอย่าง”

 

“อา.”

 

ผู้หญิงอีกคนเอามือปิดปาก

 

“เสี่ยวเหวินทําอย่างนี้ได้ยังไง

 

“ฉันก็อารมณ์เสียเหมือนกัน”

 

“ไม่เป็นไร บางทีเสี่ยวเหวินเพิ่งโตขึ้นและมีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่ง ของของผู้หญิง เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านจุดนี้”

 

“ฉันต้องการปรึกษาจิตแพทย์ให้เขา”

 

“เธอต้องพยายามแนะนําเขาให้เหมาะสม “

 

“ฉันกําลังจะคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา แต่แล้วฉันก็พบอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อสุดสัปดาห์ ที่แล้วฉันกลับมาทํางานเร็วกว่าปกติ ฉันเห็นเสี่ยวเหวินอยู่ในห้องนอน สวมถุงน่อง เสื้อชั้นในและกระโปรงของฉันอยู่หน้ากระจก”

 

“ถ้าเพียงเกี่ยวกับเรื่องนั้นฉันอาจจะทําเป็นไม่ใส่ใจได้ แต่นี่เขาเอาเสื้อผ้าของฉันไปใส่มันไม่ปกติชัดๆ”

 

“โอ้ ลูกชายฉันโทรมาขออนุญาตรับก่อน”

 

ผู้หญิงคนนั้นรับโทรศัพท์และพูดกับเพื่อนของเธอว่า

 

“ขอโทษนะลูกชายของฉันบอกว่าหิวแล้วเดี๋ยวฉันจะไปทําอาหารให้เขาก่อน”

 

“อืม ฉันก็จะกลับเหมือนกัน”

 

“คิดเงินด้วยค่ะ”

 

โจวเจ๋อมองดูผู้หญิงสองเดินออกจากร้านอย่างครุ่นคิด

 

“เจ้านายรับน้ำร้อนเพิ่มไหม” ไป๋อิ่งถาม

 

“ไม่ต้องแล้ว” โจวเจ๋อส่ายหัวและยกถ้วยชาขึ้น

 

ไป๋อิ่งใช้มือเท้าสะเอวอย่างหงุดหงิดพร้อมกับบ่นออกมาว่า

 

“ผู้ชายสองคนเมื่อกี้นี้ปวยจริงๆ พวกเขาเป็นผู้ชายชัดๆแต่ทําไมต้องแกล้งแต่งตัวเป็นผู้หญิง”

 

“แค่ก…”

 

โจวเจ๋อที่กําลังดื่มน้ําสําลักอย่างรุนแรง

 

“คุณว่าอะไรนะ พวกเขาเป็นผู้ชายเหรอ” โจวเจ๋อตกตะลึงเล็กน้อย

 

“เจ้านายไม่รู้หรือไงพวกเขาเป็นผู้ชายแน่นอน” ไป๋อิ่งหัวเราะออกมาเบาๆ

 

โจวเจ๋อนั่งบนโซฟาของร้านหนังสือและใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับความงุนงง เขากําลังคิดถึงเรื่องมากมายในสมอง

 

นี่คือร้านหนังสือของฉันเอง นี่คือชีวิตของฉันหลังจากนี้

 

โจวเจ๋อเอื้อมมือไปแตะเล็บนิ้วมือที่สั้นลงแล้ว ไป๋อิ่งเพิ่งช่วยเขาตัดเล็บไปเมื่อสักครู่นี้ เมื่อมันสั้นลงทุกอย่างก็ดูคล่องตัวและสบายมือมาก

 

โจวเจ๋อเห็นถึงชื่อยืนอยู่ที่ประตู เธอยืนอยู่ได้สามชั่วโมงแล้ว เธอยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้บ่ายสามก็ยังไม่ขยับไปไหน

 

โจวเจ๋อไม่ได้ถามเธอว่าเธอกําลังทําอะไรอยู่ที่นั่น ทุกคนต้องการช่วงเวลาในการอยู่คนเดียว ซึ่งไม่ต้องการการปลอบโยนของคนอื่น

 

โจวเจ๋อโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับเปิด WeChat ไม่มีข้อความจากใครทั้งนั้น

 

ในความเป็นจริงโจวเจ๋อเหนื่อยเล็กน้อย แต่ชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่สําคัญว่าคุณ จะมองย้อนกลับไปในอดีตหรือไม่สุดท้ายก็แก้ไขอะไรไม่ได้ปัจจุบันยังคงเป็นปัจจุบัน

 

โจวเจ๋อหยิบแผ่นพับออกมาอ่าน เพื่อดูว่าความสําเร็จของเขาที่สามารถจัดการผู้หญิงชุดดําคนนั้นเพิ่มขึ้นมาหรือไม่

 

หญิงสาวชุดดําคนนั้นก็มีหนังสือรับรองเช่นเดียวกันกับเขา แต่พวกไปวิ่งบอกว่าไม่เคยเห็นมัน บางทีมันอาจจะถูกทําลายไปพร้อมกันกับความตายของเธอ

 

ในที่สุดถังซื้อก็ขยับตัว เธอค่อยๆนั่งคุกเข่า อาจเป็นเพราะว่าเธอยืนมานานแล้วขาจึงเป็นโจวเจ๋อยิ้ม

 

จากนั้นยังชื่อหันศีรษะและมองไปที่โจวเจ๋อที่กําลังมองดูเธอจากด้านหลังด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

 

ลิงน้อยกระโดดไปข้างหน้าโจวเจ๋อพร้อมกับโบกค้อนของเล่นในมือ โจวเจ๋อ เอื้อมมือออกไปและตบหัวมันเบาๆ

 

โจวเจ๋อยังคงไม่รู้ว่าโคลนพวกนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ประสิทธิภาพของมันดีมาก เขาคิดว่าเขาสามารถเปิดร้านขายยาได้ถ้าเขาไม่ทําเงินในอนาคต

 

ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้น ลิงน้อยถือโทรศัพท์มือถือและโบกมือให้โจวเจ๋อ

 

โทรศัพท์มือถือของลิงน้อยเป็นเหล่าเต่ซื้อให้

 

“จะให้ทําอะไร?” โจวเจ๋อถาม

 

ลิงชี้ไปที่เครื่องเสียงที่ผนังร้านหนังสือ แล้วชี้มาที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองอีกรอบ

 

“เชื่อมต่อบลูทูธ?” โจวเจ๋อถาม

 

ใบหน้าของลิงมึนงง แต่หลังจากนั้นมันก็พยักหน้า

 

หลังจากได้รับโทรศัพท์มือถือของลิงแล้วโจวเจ๋อก็ช่วยเชื่อมต่อบลูทูธ ลิงพยายามเล่นเพลง “การกลับมาของปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่” จนเสียงดังสนั่นทั่วร้านหนังสือ โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าอยู่ในร้าน

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด