Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – ตอนที่ 135 เบื้องหลังของขี้ผึ้งหยกดำ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก ตอนที่ 135 เบื้องหลังของขี้ผึ้งหยกดำ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

นิยาย Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก

 

135 – เบื้องหลังของขี้ผึ้งหยกดำ

 

ในวันนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นนอกจากหญิงชรา

 

โจวเจ๋อเอนตัวลงบนโซฟา เล่นโทรศัพท์อยู่พักหนึ่งแล้วอ่านข่าวที่อยู่ในเว่ยป๋อ ตอนนี้ร่างกายของเขามีบาดแผลที่กำลังตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงนอนนิ่งๆอยู่กับ

 

เหล่าเต่ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการทำความสะอาดร้านหลังจากทุกอย่างเสร็จแล้วเขาก็นั่งลงด้านหน้าโจวเจ๋อทุบเอวแล้วคร่ำครวญว่า

 

“เอวผมจะหักแล้ว”

 

“ก็คุณแก่แล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแรงเหมือนบวัยรุ่น” โจวเจ๋อแกล้งทำเป็นเห็นใจ จากนั้นเขาก็หันหน้าไปด้านข้างและพบว่าหญิงชรายังคงอยู่ที่เดิม

 

เหล่าเต่มองไม่เห็นเธอเพราะเขาไม่ได้เอาขี้เถ้าลงอาคมของซูชิงหลางมาเช็ดตา เหล่าเต่ำจึงไม่รู้ว่ามีผีประหลาดยืนอยู่ในร้าน

 

ในความเป็นจริงตั้งแต่เห็นหญิงชรายืนอยู่ที่เดิมโจวเจ๋อก็เลิกสนใจเธอไปตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะผ่านไปสองสามชั่วโมงดวงตาของเธอก็ยังจดจ้องไปที่นาฬิกาเช่นเดิม

 

ในเวลานี้ไปยิ่งเดินลงมาจากชั้นบน ท่าทางของเธอมีความสุขมากเห็นได้ชัดว่าเธอคงเพิ่งได้กินไก่มา

 

“เจ้านาย พวกเราไปนอนกันไหม”

 

ยัยเด็กโง่คนนี้มักจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเสมอ

 

เหล่าเต่มองโจวเจ๋อด้วยความอิจฉา

 

จู่ๆเขาก็รู้สึกแปลกๆในใจ ผีผู้ชายทั้งหมดที่คลานออกมาจากนรกอาจจะได้รับพรประเภทนี้มาจริงๆก็ได้?

 

เมื่อเจ้านายของเขาเปิดร้านในหรงเฉิงเมืองเฉิงตูก็มีหญิงสาวสวยมานอนกับเขาทุกคืน ในเวลานั้นเขาและเสี่ยวเฉียงต่างก็อิจฉากันมาก

 

เมื่อคิดถึงเสี่ยวเฉียง ชายชราก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก

 

“โย่ ยังมีคนยืนอยู่ที่นี่”

 

ไปยิ่งเห็นหญิงชราเธอจึงเดินไปหาแล้วโบกมือทักทายหญิงชรายังคงไม่ขยับเขยื้อนสายตาของเธอจ้องไปที่นาฬิกาเช่นเดิม

 

“เฮ้ สวัสดี มองมาที่ฉันเร็วๆ มองมาที่ฉันหน่อยถ้าคุณไม่มองมาฉันจะกินคุณแล้วนะ”

 

ไปยิ่งตะโกนอยู่ด้านหน้าหญิงชราแต่เธอก็ไม่ขยับเขยื้อน

 

“เจ้านาย ถึงซื้อทำอะไรกับเธอหรือเปล่า?”

 

“เธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่เข้ามา”

 

โจวเจ๋อยืนขึ้นภายใต้การประคับประคองของไปอิ่งแต่แล้วเมื่อนาฬิกาชี้ไปที่เที่ยงคืน

 

“บูมบูมบูมบูมบูมบูม!”

 

นาฬิกาแขวนเริ่มส่งเสียงดัง

 

หญิงชราซึ่งเคยอยู่ในอาการเหม่อลอยจู่ๆก็อ้าแขนออกและ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ได้เวลาแล้ว ได้เวลาแล้ว! ฉันตายได้แล้วในที่สุดฉันก็สามารถตายได้!”

 

หญิงชรากระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับได้รับการปลดปล่อย

 

“คุณป้าดีใจอะไร” ไปอิงพูดอย่างอธิบายไม่ถูก “คุณตายไปแล้ว และวิญญาณของคุณก็ออกจากร่างมาตั้งนานแล้ว”

 

เมื่อหญิงชราได้ยินคำพูดนี้เธอก็อึ้งไปทันที เธอหันมองไปรอบๆแล้วพบว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ มันเป็นสถานที่แปลกๆ

 

เป็นร้านหนังสือแปลกๆ

 

หญิงชราชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเองและมองไปที่ไปวิ่งด้วยความสับสน

 

“ฉันตายแล้วเหรอ”

 

“ใช่” ไปยิ่งพยักหน้า

 

ทันใดนั้นหญิงชราก็ล้มลงกับพื้น น้ำตาไหลพราก

 

“ตายแล้วเหรอ ฉันตายแล้วเหรอ! ฉันตายแล้วมันจบลงแล้

 

“เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ไปอิงประหลาดใจ

 

โจวเจ๋อก็ส่ายหัว แม้ว่าในชีวิตที่แล้วเขาจะเป็นหมอแต่ก็ใช่ว่าเขาจะเชี่ยวชาญในด้านจิตวิทยา

 

อาจเป็นไปได้ว่าหญิงชราคงนอนอยู่บนเตียงก่อนจะสิ้นลมหายใจ ในขณะเดียวกันสายตาของเธอคงจดจ้องไปที่นาฬิกาแขวนเพื่อดูว่าตัวเองจะตายตอนไหน

 

เมื่อดูจากลักษณะร้องไห้ฟูมฟายของหญิงชราก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เสแสร้ง เธอตายเป็นผีไปแล้วยังมีอะไรให้เสแสร้งอีก

 

แต่เมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุดโจวเจ๋อก็รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก ถ้าเธอยังร้องไห้อย่างนี้แล้วเขาจะนอนได้ยังไง

 

โจวเจ๋อไม่ใช่พระโพธิสัตว์และเขากินจิตสำนึกของตัวเองเข้าไปแล้วเขาจึงไม่ได้มีความเมตตาใดๆ เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงชรามันทำให้โจวเจ๋อรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

 

“ทำให้เธอหุบปากที่”

 

โจวเจ๋อสั่งไปยิ่ง

 

ไปยิ่งพยักหน้าก่อนจะแยกเขี้ยวให้หญิงชรา หญิงชราหยุดร้องไห้ทันที ตอนนี้เธอขดตัวอยู่ที่มุมร้านด้วยความหวาดกลัวและจากนั้นความหมกมุ่นของเธอที่มีอยู่ก็หมดไปเช่นกัน

 

เหตุผลที่วิญญาณธรรมดาสามารถอยู่ในโลกได้นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าความหมกมุ่น และเมื่อความหมกมุ่นหายไปพวกเขาจะกลับไปยังที่ที่ควรไปโดยธรรมชาติ

 

สิ่งที่โจวเจ๋อต้องส่งไปนรกคือวิญญาณที่ตายแล้วและมีความหมกมุ่นเหนือกว่าผีธรรมดา หลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่งพวกเขาจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นวิญญาณร้าย

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้าโจวเจ๋อส่งหญิงชราคนนี้ไปนรกผลประโยชน์ที่เขาได้รับนั้นจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

แม้ว่าโจวเจ๋อจะเสี่ยงต่อการกระตุ้นบาดแผลของตัวเองเขาก็ยังเปิดประตูนรกอีกครั้งเพื่อส่งหญิงชราเข้าไป ต่อให้ขายุงจะมีเนื้อน้อยแต่มันก็เป็นเนื้อเช่นเดียวกัน

 

“เจ้านายรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

 

ไปยิ่งซึ่งอุ้มโจวเจ๋อไว้ รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของโจวเจ๋อ

 

“มีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง”

 

โจวเจ๋อมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

 

ในเวลานี้โจวเจ๋อรู้สึกว่าเขาสามารถควบคุมกุญแจนี้ได้อย่าง สมบูรณ์แล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างแท้จริง เขารู้ดีว่าเด็กหญิงตัวน้อยต้องประสบภัยครั้งใหญ่ที่เฉิงตูอย่างแน่นอน

 

การนอนหลับในวันนี้จึงเป็นการนอนหลับสนิทที่สุดของโจวเจ๋อ นับตั้งแต่รู้จักกับเด็กหญิงตัวน้อยมา

 

เมื่อเขาตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น โจวเจ๋อพบว่าพละกำลังของเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อวาน โดยไม่รอให้ไปยิ่งช่วยโจวเจ๋อพยายามยืนขึ้นด้วยตัวเอง

 

แม่ว่ามันจะเต็มไปด้วยความยากลำบากแต่ในที่สุดเขาก็ยนด้วยขาของตัวเองได้สำเร็จ

 

“เจ้านายเป็นอะไรหรือเปล่า”

 

ไปยิ่งเป็นห่วงเขามากเพราะกลัวว่าโจวเจ๋อจะล้มลงโดยเฉพาะเวลานี้โจวเจ๋อกำลังเดินลงบันไดชั้นล่างด้วยตัวเอง

 

ด้วยสมรรถภาพทางกายของโจวเจ๋อในตอนนี้ มันไม่มีความแตกต่างอะไรจากปู่ย่าที่เคลื่อนไหวมือเท้าไม่สะดวก

 

ไปยิ่งกังวลว่าโจวเจ๋ออาจตกบันไดจนขาหักแขนหักและเมื่อถึงเวลานั้นรถเข็นที่มีไฟระยิบระยับปัญญาอ่อนของเหล่าเต่อาจกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ขึ้นมาจริงๆ

 

ทันใดนั้นความคิดแปลกๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอในภาพนั้นเธอมองเห็นโจวเจ๋อนั่งรถเข็นที่มีไฟระยิบระยับพร้อมกับดูดจุกนมไปด้วย

 

“ฮ่าๆๆๆ”

 

ไปวิ่งยิ้มและหัวเราะคนเดียว

 

“กำลังคิดอะไรแปลกๆอยู่เหรอ?” โจวเจ๋อถามด้วยสายตาดุดัน ไปยิ่งหุบยิ้มในทันที

 

“ยัยโง่” โจวเจ๋อหันกลับและพยายามเดินช้าๆเพื่อลงบันไดที่ละขั้น

 

ไปยิ่งไม่กล้าพูดถึงภาพที่เธอเพิ่งจินตนาการขึ้นมา

 

โจวเจ๋อรู้ดีว่าทำไมเธอถึงหัวเราะ มันคงไม่พ้นเรื่องรถเข็น ปัญญาอ่อนคันนั้นแน่นอน

 

ในขณะที่โจวเจ๋อค่อยๆค้ำยันบันไดลงไปข้างล่างเขา ก็มองเห็นเหล่าเด็กำลังคุยกันกับลิงและหัวเราะอย่างสนุกส

นาน

 

ชายชราถือโคลนสีดำอยู่ในมือและมีถุงใหญ่อยู่บนพื้นโจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย นั่นคือสิ่งที่ลิงน้อยใช้ทาบนบาดแผลที่อยู่ในร่างกายของเขา

 

โคลนพวกนี้มีประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่า “ขี้ผึ้งหยกดำ”ในนิยายเรื่องดาบมังกรหยกเลย

 

เพียงแต่ว่ากลิ่นของมันไม่ค่อยดีนัก และสำหรับคนอย่างโจวเจ๋อที่มีนิสัยชอบความสะอาด การทาโคลนไว้บนร่างกายของเขานั้นไม่แตกต่างอะไรจากความทรมานครั้งใหญ่

 

แต่แล้วสิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อต้องพบกับความทรมานอย่างแสนสาหัสก็เกิดขึ้น ชายชราส่งถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยโคลนให้ลิงน้อย

 

พูดตรงๆคือมันอยู่ใต้เป้าของลิงน้อย ในเวลาเดียวกันเสียง “บูบู บูบู…” ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“บรรพบุรุษน้อยคุณฉีเร็วๆหน่อยสิ ตอนนี้พวกเรากำลังจะรวยจากของสิ่งนี้ พวกเราจะมีเงินไปซื้อกล้องวีดีโอเครื่องใหม่แล้ว”

โจวเจ๋อมีสีหน้าดำมืด จริงๆแล้วยารักษาบาดแผลของเขาได้มาจากสิ่งนี้

 

“อุ้ย!”

 

ไปยิ่งมองเห็นฉากที่โจวเจ๋อลื่นตกบันไดพอดี

 

เหล่าเต่ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลังเขาจึงรีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

เขาพยายามยิ้มให้โจวเจ๋อด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าสดใสมากที่สุดมือข้างหนึ่งของเขายังคงถือโคลนสีดำอยู่

 

ถ้าคราวนี้โจวเจ๋อไม่ได้รับบาดเจ็บ ชายชราไม่รู้จริงๆว่าเขาจะตายไปกี่ครั้งแล้ว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด