หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 133 หุ้นตกเหรอ
เขาพูดจบแล้วก็เห็นเหนียนเสี่ยวมู่วิ่งออกจากห้องพักผ่อนไป
เขาหรี่ตา พลางเลิกคิ้วมองเธอ กำลังคิดว่าเธอได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่หรือไม่ เหนียนเสี่ยวมู่ก็วิ่งกลับมาตรงหน้า สองมือเธอยันอยู่บนโต๊ะ จ้องมองเขาด้วยสายตาเคร่งขรึม
“คุณชายหาน คุณลืมเรื่องสำคัญมากๆ เรื่องหนึ่งหรือเปล่า”
“…” อวี๋เยว่หานชะงักไปเล็กน้อย
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขา แต่เห็นเขาไม่ตอบ ก็ยังคงพูดต่อไป “ฉันไปแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว ใครจะดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่วล่ะ”
เธอเพิ่งพูดจบ ก็เห็นร่างเล็กนุ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินออกมาจากในห้องพักผ่อน
เด็กหญิงกอดตุ๊กตาตัวโปรดเอาไว้ในอก กำลังขยี้ตา ท่าทางเพิ่งตื่นนอน ดูสะลึมสะลืออยู่บ้าง
มวยผมเอียงไปหมดแล้ว
เด็กหญิงลังเลอยู่ชั่วขณะเมื่อหันหน้าไปเห็นสองคนในห้องทำงาน สุดท้ายก็วิ่งไปหาเหนียนเสี่ยวมู่ พูดจาออดอ้อน “พี่สาวคนสวยอุ้ม”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้ามองใบหน้าเล็กจ้อยสะสวยเหมือนหยก จากนั้นก็หันไปมองอวี๋เยว่หาน
เธอใช้สายตาสอบถามเขา ‘จะอธิบายกับเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างไร’
อวี๋เยว่หานเห็นเธอพูดเรื่องนี้ สีหน้าจึงอ่อนลง จากนั้นก็กวักมือเรียกเจ้าหญิงน้อยของตัวเอง “มานี่สิ”
เขาอุ้มร่างเล็กนุ่มนวลขึ้นมา ก่อนจะหยิกแก้มเล็กๆ ของเด็กหญิง
เจ้ากบฏใจร้ายตัวน้อย
“อีกนานไหมกว่าแผลของเสี่ยวลิ่วลิ่วจะหายเป็นปกติ” เขาเอ่ยปากเรียบๆ
“แผลพอจะสมานกันแล้ว เปลี่ยนยาอีกสองสามวัน จากนั้นก็อย่าให้แขนที่บาดเจ็บยกของหนักช่วงพักฟื้น เด็กน่ะฟื้นตัวเร็วมาก อีกเดี๋ยวก็หายแล้วล่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่อธิบายอย่างเป็นมืออาชีพ
เธออยากหาเงิน แต่ก็ปล่อยวางเสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ได้เช่นกัน
พอคิดว่าต้องจากเธอไป ในใจของก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อยู่บ้าง
อวี๋เยว่หานตาเป็นประกาย “เสี่ยวลิ่วลิ่วจะมาที่บริษัทกับผมทุกวัน คุณทำงานที่บริษัท ขอแค่เจียดเวลามาเปลี่ยนยาให้เธอตรงเวลา จนกระทั่งแผลเธอหายดี มีปัญหาไหม”
“ไม่มีปัญหา!”
เมื่อได้ยินว่าเธอดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่วต่อไปได้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตอบรับโดยไม่คิด
จากนั้นก็หันไปจัดการขั้นตอนเข้าทำงานกับผู้ช่วยอย่างเบิกบาน
“…” อวี๋เยว่หานเห็นรอยยิ้มบนหน้าของเธอแล้ว หัวใจเหมือนหยุดเต้นอย่างน่าประหลาด
ทั่วไปแล้วคนจะดีใจที่ได้อยู่ข้างกายเขา แต่เธอกลับดีใจที่จะได้อยู่กับลูกสาวของเขาต่อไป!
เหนียนเสี่ยวมู่จัดการขั้นตอนเข้าทำงานเสร็จสิ้นในบ่ายวันนั้น
วันต่อมาเธอมารายงานตัวที่แผนกประสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ
แต่เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูแผนกประชาสัมพันธ์ เธอก็เหม่อลอยไปเล็กน้อย
เธอมองบัตรประจำตัวที่แขวนอยู่ตรงหน้าอกตนเอง แล้วจึงเงยหน้ามองประตูแผนกตรงหน้าที่เพิ่งเคยเห็นเพียงครั้งเดียว แต่ในใจกลับรู้สึกคุ้นเคยมาก
เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ดังนั้นจึงมองในบริษัทตระกูลอวี๋อีกหลายครั้ง แต่อย่างไรก็คิดไม่ออกว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในบริษัทตระกูลอวี๋อย่างเป็นทางการ
“คุณเหนียน อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เลขาคนที่รับรองเธอเมื่อวานกล่าวทักทายอย่างมีมารยาททันทีที่เห็นเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่หลุบตา พร้อมกับเดินไปข้างหน้า ในมือถือประกาศเข้าทำงานเอาไว้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ฉันมาหาผู้จัดการเหวิน เธอมาหรือยังคะ”
“ผู้จัดการเหวินเป็นคนที่มาเช้าที่สุดในแผนกของเราตลอดเลยค่ะ เธอรอคุณอยู่ในห้องทำงานแล้ว คุณเข้าไปหาเธอได้เลยค่ะ” เลขากล่าว พลางชี้ไปทางห้องทำงานผู้จัดการ
เหนียนเสี่ยวมู่พยักหน้าให้เธอเป็นการขอบคุณ ก่อนจะเดินไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว
เธอมาถึงค่อนข้างเช้า ตอนนี้แทบจะไม่มีเพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์เลย
เธอมุ่งหน้าไปยังประตูห้องทำงานของผู้จัดการ แล้วยกมือเคาะประตู “ผู้จัดการเหวิน ฉันเหนียนเสี่ยวมู่ค่ะ”
คอมเม้นต์