สามีข้า คือพรานป่า – ตอนที่ 109
สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 109
เฉินผิงอันเดินโซเซมาถึงบ้านและพบกับหลินชวนฮวาซึ่งกําลังอารมณ์ดี นางพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากดังนั้นจึงทําอาหารมื้อใหญ่ซึ่งส่งกลิ่นหอมฉุย!
เมื่อเห็นว่าเฉินผิงอันกลับมาแล้ว ดวงตาของหลินชวนฮวาก็ฉายแววแห่งความรังเกียจออกมาก่อนจะแสร้งทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม!
“ผิงอัน ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!” นางพูดพลางน้ำตาไหลราวกับคู่รักที่พลัดพรากจากกันมานาน!
เฉินผิงอันขาดพลังงานจากการไม่ได้นอนทั้งคืน ดังนั้นเขาจึงผลักหลินชวนฮวาออกไปทันทีก่อนจะนั่งลงและเริ่มกินอาหารเช้า
“ผิงอัน รู้ไหมว่าตอนที่เจ้าไม่กลับบ้านทุกอย่างวุ่นวายไปหมด!”
แม้หลินชวนฮวาจะพยายามจูงใจเขาเพียงใด แต่เฉินผิงอันก็ไม่สนใจอะไรเลย อย่างไรก็ตาม หลินชวนฮวาจะต้องพยายามหาวิธีผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงแย่เป็นแน่!
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลินชวนฮวาหน้ามุ่ยและแสร้งทําเป็นไม่พอใจก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเถียนเถียนไปพูดอะไรกับเฉินเฉินกันแน่! เด็กคนนั้นเริ่มไม่สนใจอะไรเลยทั้งยังประพฤติตัวไม่ดี! ข้าดุเขาไปเพียงสองสามคําเท่านั้น แต่เฉินเฉินกลับวิ่งหนีขึ้นไปบนภูเขา!”
“ข้ากลัวมากเพราะฝนตกหนัก! ไม่นึกเลยว่าเขาจะไปหาพี่สาวของเขาที่นั่น และพี่สาวเขาก็ทําเรื่องบัดสีบัดเถลิงกับพรานป่าบนภูเขา!”
เฉินผิงอันเริ่มโกรธอีกครั้ง “ลูกไม่รักดี! ในเมื่อเขาต้องการจะติดตามพี่สาวนักก็ปล่อยไปเถอะชวนฮวา! ข้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขอให้ข้าได้พักผ่อนเถิด! ไว้เย็นนี้ข้าจะจัดการสองคนนั้นให้หนัก!”
หลินชวนฮวาแสร้งทําตัวเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน นางช่วยพยุงเฉินผิงอันเข้าไปในห้องและเขาก็นอนหลับไป หลินชวนฮวาเองก็ไม่ได้พักผ่อนเช่นกันเพราะต้องซุ่มดูหยุนเถียนเถียนทั้งคืน ดังนั้นนางจึงใช้โอกาสนี้ล้มตัวลงบนเตียง และผล็อยหลับไปเช่นกัน
จนกระทั่งบ่ายโมงหยุนเถียนเถียนก็ตื่นขึ้นมา
เพราะมีไข้สูงจึงทําให้หยุนเถียนเถียนรู้สึกปวดหัว และอ่อนล้าเมื่อลืมตาตื่นราวกับว่าร่างกายของนางไม่ใช่ของนางอีกต่อไป!
นางพยายามดิ้นรนและในที่สุดก็ลุกขึ้นได้
หยุนเถียนเถียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากในห้องครัว เมื่อคิดดูแล้ว… เหมือนว่าหยุนเคอจะเป็นคนพานางลงมาจากภูเขา! ดังนั้นนางจึงค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะด้วยความมั่นใจและรินน้ำหนึ่งแก้วให้กับตนเอง!
ทันใดนั้น หยุนเค่อก็ออกมาจากครัวพร้อมกับถ้วยยาในมือ! เดิมที่เขาคิดว่าหยุนเถียนเถียนยังไม่ตื่นและคงต้องป้อนยานางด้วยปากอีกครั้ง!
แม้ว่าหญิงผู้นี้จะยังดูขาดสารอาหาร แต่ริมฝีปากของนางก็นุ่มนวลมาก! จนทําให้ยาจีนโบราณของหยุนเคอที่มีรสขมเริ่มหวานขึ้นทันที
เมื่อหยุนเคอเดินเข้ามาก็เห็นว่าหยุนเถียนเถียนกําลังนั่งอยู่! เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังและเสียใจราวกับว่าไม่มีโอกาสอะไรแล้ว!
“หยุนเคอ! เฉินเอ๋ออยู่ที่ไหน? อย่าส่งเขาให้หลินชวนฮวานะ!”
หยุนเคอวางชามยาลงบนโต๊ะ หยุนเถียนเถียนค่อนข้างมีสติและรับรู้ได้ว่าต้องกินยาเสียก่อน ดังนั้นนางจึงหยิบชามยาขึ้นและเทลงในปากทันที! จู่ ๆ ก็รับรู้ได้ถึงรสขมไปทั่วปาก!
เพราะรสชาติขมเกินไป หยุนเถียนเถียนจึงแลบลิ้นออกมา ซึ่งดูน่าขัน หยุนเค่อจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา!
“ดื่มเข้าไปเร็วเข้า!”
หยุนเถียนเถียนได้รับคําสั่งจากหยุนเค่อ ดังนั้นนางจึงหยิบขึ้นมาดื่มอีกครั้งและรับรู้ได้ถึงรสขมไปทั่ว
“ข้ารู้ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ส่งเด็กน้อยเฉินเฉินให้หลินชวนฮวาเด็ดขาด!” หยุนเค่อตอบกลับ
หยุนเสียนเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่จู่ ๆ หยุนเคอก็นึกถึงอีกเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เขารู้สึกประหม่าและไม่รู้ว่าจะบอกกับหญิงผู้นี้อย่างไรดี
เขาตัดสินใจอะไรไปโดยปราศจากความยิมยอมของนาง! แม้ตอนนั้นจะอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับ แต่… หยุนเคอก็กลัวว่าหยุนเสียนเถียนจะโกรธ
“มีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหมดสติไป…” หยุนเคอลังเลและไม่รู้ว่าจะพูดต่ออย่างไร
“มีอะไรหรือ?”
ทันใดนั้น! ป้าจี๋ชื่อที่ได้ยินข่าวก็เปิดประตูเดินเข้ามา
หยุนเค่อตะลึงที่จู่ ๆ นางก็โผล่เข้ามา จึงทําให้เขาถึงกับทําตัวไม่ถูก!
“ดูสิ เด็กคนนี้ ช่างโง่เขลาเสียจริง! เจ้าขึ้นภูเขาไปหาใครกัน? เหตุใดมีอะไรถึงไม่มาหาป้า? ไม่คิดว่าป้าเป็นคนในครอบครัวของเจ้าแล้วหรือ?”
หยุนเถียนเถียนมองดูหญิงตรงหน้าที่ดูห่วงใยนางและรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย!
“เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนั้นวุ่นวายมาก ข้าจึงไม่มีเวลามากพอที่จะตั้งสติหรือขอให้ใครช่วย!”
จี้ชื่อพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ไม่ว่าเด็กน้อยคนนั้นจะฉลาดหรือน่าสงสารแค่ไหน อย่างไรแล้วเขาก็เป็นลูกของหลินชวนฮวา! ปีศาจร้ายตนนี้ให้กําเนิดลูกชายคนโตที่เป็น ดั่งสัตว์ร้ายและลูกชายคนเล็กที่เป็นดั่งหนูที่คอยสร้างปัญหา เหตุใดเจ้าจึงเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเขา?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มเบาๆ “ไม่ดีหรือที่ข้าทําเช่นนี้? ป้า… ในตอนนั้นข้าไม่ทันได้คิดอะไรมาก ข้าเพียงนึกถึงเด็กน้อยเฉินเฉิน หากเกิดอะไรขึ้นต่อเขาคงจะ…”
“เจ้าไม่รู้ตัวเลยหรือ? หลินชวนฮวาผู้ชั่วร้ายใช้โอกาสนี้ทําลายชื่อเสียงของเจ้า! นางขายเจ้าให้พรานป่าผู้นี้ห้าสิบตําลึงทอง!”
สําหรับหยุนเถียนเถียนตอนนี้ ในหัวของนางมีแต่เครื่องหมายคําถามเต็มไปหมด!
เงินห้าสิบตําลึงทอง? ขายให้พรานปา?”
สีหน้าของหยุนเถียนเถียนนิ่งเฉยและเต็มไปด้วยความึนงงจนทําให้หยุนเคอรู้สึกประหม่า
“เอ่อ… เถียนเถียน! ข้าไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาเห็นข้าอุ้มเจ้าลงมาจากภูเขาในขณะที่เจ้าหมดสติ! หลินชวนฮวาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อบอกว่าข้าได้พรากความบริสุทธิ์ของ เจ้าไปและต้องการนําเจ้าไปถ่วงน้ำ!”
ป้าจี้ชื่อแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว “หยุนเคอถูกบังคับและขัดขืนไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องสัญญาว่าจะแต่งงานกับเจ้า แต่หลินชวนฮวากลับเรียกค่าสินสอดสูงลิ่ว นางขายเจ้าด้วยราคาห้าสิบตําลึงทอง ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดนางจึงหน้าด้านนัก!”
เมื่อหยุนเคอเห็นว่าการแสดงออกหยุนเถียนเถียน เริ่มเปลี่ยนไปจึงรีบพูดขึ้นทันที “ในตอนนั้นเจ้ามีไข้สูง ข้ากลัวว่าเจ้าจะเป็นอะไรไปหากไม่ได้พบหมอ จึงหยุดทุกอย่างโดยการตอบตกลงและจ่ายเงินให้นางห้าสิบตําลึงทอง!”
ตอนนี้ทั้งสองได้เล่าทุกอย่างให้หยุนเถียนถียนฟังแล้วและ นางก็รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น!
พฤติกรรมของหลินชวนฮวาในการขายหยุนเถียนเถียน ทําให้ทุกคนตาสว่างทันที
แม้ทุกคนในหมู่บ้านนี้จะคิดว่าหลินชวนฮวาทําเกินไป ทั้งหมดต่างตีตัวออกห่างจากนางได้อย่างชัดเจน แต่บางคนกลับเห็นด้วยว่านางมีสิทธิ์ที่จะเรียกค่าสินสอด จึงแส ร้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร!
แน่นอนว่า ชาวบ้านย่อมเคยเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าหยุนเถียนเถียนเสียบริสุทธิ์เมื่อคราก่อน นั่นคือเหตุผลที่ 1 ทําให้ทุกคนแสร้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นเช่นนี้ อันที่จริง ถูกหรือผิดไม่ใช่เรื่องน่าสนใจสําหรับพวกเขาอีกต่อไป แต่สิ่งสําคัญคือหญิงผู้นี้ได้ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปโดยพรานป่า!
จี้ชื่อเหลือบมองหยุนเคอที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยความเป็นอาย “แม้หยุนเคอจะเป็นพรานป่า แต่ก็ไม่ควรให้เรื่องนี้มาเป็นปัญหาใหญ่ในการแต่งงาน ตอนนี้เจ้าไม่สามารถทํา อะไรได้ตามอําเภอใจ ไม่ว่าอย่างไรพวกเจ้าก็ต้องแต่งงานกันหยุนเคอเองที่ช่วยเหลือเจ้า เขาก็ถูกบังคับให้แต่งงาน ไม่รู้เลยว่าจิตใจของเขาจะเป็นอย่างไร?!”
แม้ป้าจี้ชื่อจะพูดกับเถียนเถียน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าหยุนเคอกําลังฟังอย่างตั้งใจ
คอมเม้นต์