มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years – บทที่ 33 เพื่อน(2)

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 33 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ลิเลียจ้องมองเฟรย์ที่เอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วถาม

“ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหม?

“ …คุณดูแตกต่างจากที่พี่ชายฉันบอกนิดหน่อย”

เฟรย์จับผมของเขาและพึมพำ

“ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย”

“ฉันเข้าใจละ อา…กรุณาพูดได้ตามสบาย คุณเป็นเพื่อนของน้องของฉันและยังเป็นลูกของตระกูลเบลค”

“ ได้เลย ”

ลิเลียมองไปที่เฟรย์ด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อยขณะที่เขาเห็นด้วยกับคำแนะนำที่สุภาพของเธอทันที

อย่างไรก็ตามเฟรย์ยังคงจ้องมองไปในอากาศด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงออก

‘ผู้ชายคนนี้มันยังไงกันนี้?’

ลูกๆในตระกูลขุนนางทุกคนที่เธอเคยพบมามักจะพยายามจีบเธอหรือสร้างความสัมพันธ์บางอย่าง

ลิเลียรู้ว่าเธอนั้นสวยมากและเธอก็รู้ด้วยว่าผู้ชายมักจะแสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าเธออย่างไร

ความงามของเธอเป็นอาวุธอย่างหนึ่งของเธอมากกว่าชื่อเสียงของตระกูล

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในตระกูลปฏิบัติด้วยแบบนี้

เธอมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เธอก็ซ่อนความคิดที่อยู่ในใจของเธอไว้และยิ้มสวยๆ แทน

“ ฉันได้ยินมาว่าคุณเรียนอยู่ที่สถาบันเวสต์โร้ดพี่ชายของฉันเป็นยังไงบ้างในสถาบันการศึกษา”

“ ฉันไม่รู้เหมือนกัน เพเรียนเป็นรุ้นพี่ของฉันและฉันก็ไม่เคยเจอเขาตอนอยู่ที่สถาบันเลย”

“ อ่า…ฉันเข้าใจแล้ว”

จึงกลายเป็นว่าพวกเขานั้นได้พบกันเป็นครั้งแรกบนคอร์เทซ

ในขณะที่การสนทนาเปลียนเป็นความเงียบรถม้าก็หยุดลง

พวกเขามาถึงตัวอาคารหลักแล้ว

ประตูค่อยๆเปิดออกและเผยให้เห็นใบหน้าที่รอต้อนรับอย่างอบอุ่น

“ ฮ่าฮ่า! นายมาซะที!”

เขาพูดกับเฟรย์ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข

“ นายเกือบจะมาสายไปแล้ว”

“ ฉันมีงานต้องทำมากมาย ฉันดีใจที่ฉันสามารถมาที่นี่ได้ทันเวลา”

“ นายเกือบจะพลาดไปแล้ว”

ลิเลียมองไปที่เพเรียนด้วยสีหน้าค่อนข้างตกใจ

อาจเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขามีความสุข เขาเป็นคนอ่อนโยนและยิ้มอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

เพเรียนที่เธอรู้จักตอนนี้กำลังยิ้มเหมือนกับเด็กน้อย

เมื่อเธอตระหนักว่าแม้แต่คนในตระกูลก็ยังไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้เธอก็รู้สึกอิจฉาเฟรย์เล็กน้อย

ลิเลียลงจากรถม้าอย่างสง่างามและพูด

“ ฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกันนะค่ะคุณพี่”

“ ฉันจะลืมเจ้าหญิงของเราไปได้ไง งานเลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ …พี่ไม่สนใจฉันเลยฉันทักเมื่อกี้”

“ เอ่อ..เมื่อกี้คืออะไร?”

“ ไม่มีอะไรหรอก”

ลิเลียหันหน้าออกไปอย่างรวดเร็วและเดินเข้าไปในคฤหาสน์

เพเรียนหันกลับมาและกล่าวด้วยใบหน้าที่เขินอาย

“ ฉันยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรให้ลิเลียต้องอารมณ์เสียได้ขนาดนั้น นายพอจะรู้ไหม?”

“ ไม่ ”

“ อืม…อืม ฉันจะต้องให้กำลังใจเธอในภายหลัง เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ มีอะไรอีกมากที่ฉันอยากจะพูดถึง”

เพเรียนมองเฟรย์ที่พยักหน้าเงียบๆ

เขาเป็นเหมือนกันผิวหนังและกระดูกที่เดินได้

เขามีแก้มที่ผอมซูบและข้อมือของเขาที่เผยให้เห็นจากในเสื้อคลุมสามารถจับได้สองข้อมือได้ด้วยมือเดียว

ผิวของเขาก็ดูหยาบกร้านเช่นกัน

เหนือสิ่งอื่นใดผมสีขาวบนศีรษะของเขาดึงดูดสายตามากที่สุด

‘เขาต้องผ่านอะไรมาหนักแน่ๆ ’

เพเรียนอยากรู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง แต่ก่อนอื่นเขาอยากให้เพื่อนของเขาได้พักผ่อนบ้างหลังจากการเดินทางมายาวนาน

“ นายพักผ่อนก่อนเถอะแดฟกอนได้โปรดพาเฟรย์ไปยังห้องพักด้วย เฟรย์นายหิวข้าวไหม?”

“ไม่เป็นไร ฉันต้องการแค่น้ำอุ่นๆ ”

“ แน่นอน แล้วค่อยมาพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้นายควรพักผ่อนบ้างนะ”

“ขอบคุณ”

เฟรย์ตามแดฟกอนไปที่ห้อง

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องที่มีขนาดใหญ่และมีพื้นที่เพียงพอที่ทำให้รู้สึกสบายตัว

เฟอร์นิเจอร์ก็มีคุณภาพสูงเช่นกัน

เฟรย์ยิ้มกว้างเมื่อเขารู้ว่าขนาดของห้องและเตียงใหญ่กว่าห้องที่หอของเขามาก

แดฟกอนยิ้มและวางขวดน้ำไว้บนโต๊ะกลาง

“ นี่คือน้ำที่คุณได้ขอ หากคุณมีความต้องการอื่นๆ ได้โปรดบอกกับสาวใช้”

เขาชี้ไปที่สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังเขา แต่เฟรย์ส่ายหัว

“ ฉันอยากอยู่คนเดียว”

เฟรย์ตระหนักว่าจริงๆแล้วแดฟกอนก็เป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังอยู่พอสมควรซึ่งอาจเตรียมไว้เพื่อดูแลเพเรียนในอนาคต

เขาไม่ปรารถนาที่จะพูดหยาบคายแม้กับคนที่อายุน้อยกว่าหรือเพียงเพราะเขาเป็นยามเฝ้าหน้าประตู

แดฟกอนมองอย่างงง ๆ

“แต่ว่า…”

“ ฉันขอโทษสำหรับความหยาบคายในการปฏิเสธคุณ แต่ได้โปรดเข้าใจว่าฉันเป็นนักเวทย์ก่อนที่ฉันจะเป็นแขก”

“อา…”

การทำสมาธิ

เห็นได้ชัดว่าพ่อมดต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขานั่งสมาธิเป็นครั้งคราวพวกเขาจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ

แดฟกอนก้มศีรษะของเขา

” ผมเข้าใจ ถ้าอย่างนั้นสาวใช้พวกนี้จะรออยู่ในห้องถัดไป หากคุณมีคำขอใดๆ ได้โปรดเรียกใช้พวกเขาทันที…”

“ขอขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ”

แดฟกอนรู้สึกประทับใจอยู่ภายใน

‘ฉันได้ยินมาว่าลูกชายคนที่สามของเบลคไม่เพียงแต่ขาดความสามารถในการเป็นพ่อมดเท่านั้นแต่ยังขาดมารยาทพื้นฐานและการขัดเกลาอีกด้วย…”

เนื่องจากหน้าที่การงานของเขา แดฟกอนจึงไวต่อข่าวลือเกี่ยวกับขุนนางและเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับลูกชายทั้งสามคนของตระกูลเบลค

ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินตัวตนของเพื่อนของนายน้อยของเขา เข้าก็ทำท่าแสดงความยินดีอยู่ภายนอกแต่ภายในเขากลับกังวล

เพเรียนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมในหลายๆด้าน แต่เขายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจความคิดของมนุษย์ได้เต็มที่

แต่การเผชิญหน้ากับเฟรย์ตัวต่อตัวทำให้เขาต้องตกใจมาก

มันไม่ต่างอะไรกับลูกชายที่เต็มไปด้วยความสามารถของตระกูลที่มีเกียรติ เขามีทัศนคติที่มีระเบียบวินัยมากดูเหมือนจะเป็นคนเรียบง่ายและมั่นคงพอที่จะไม่ยอมให้ใครหลอกได้ง่ายๆ

แดฟกอนนึกถึงผู้ชายคนหนึ่งของตระกูลเบลค

เมื่อเทียบกับตระกูลจุนแล้วมันอาจจะดูด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ตระกูลเบลดก็ยังทรงพลังพอที่จะเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ

ลูกชายคนโตและคนที่สองเป็นคนเก่ง แต่อำนาจหลักที่อยู่เบื้องหลังครอบครัวเบลคคืออิซากะเบลค

เขาเป็นหนึ่งในห้านักเวทย์ที่มีระดับ 7 ดาวในจักรวรรดิและในเวลาเดียวกันก็เป็นมาสเตอร์ของหอคอยเวทมนตร์ที่หก

เขาอายุน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอาร์ชเมจคนอื่นๆ แต่เขาก็ยังมีความสามารถพอที่จะใช้ฉายานั้น

แดฟกอนเคยพบกับอิซากะเบลคมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาทิ้งความประทับใจที่ค่อนข้างเย็นและแห้ง

‘ชายที่มีความสามารถขนาดนี่ยังไม่พอที่จะได้รับการยอมรับให้เป็นลูกของเขาจริงๆหรือ?’

แดฟกอนอดสงสัยไม่ได้ แต่เขาเก็บมันไว้กับตัวและพูดอย่างอื่นแทน

“ พรุ่งนี้จะมีการจัดงานเลี้ยง”

“ งานเลี้ยง?”

“ใช่แล้ว เนื่องจากคุณจะต้องกลับไปที่สถาบันในเร็วๆ นี้นายท่านจึงตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยง นายน้อยดูเหมือนจะต้องการให้คุณเข้าร่วมกับเขาด้วย”

“ …”

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเฟรย์ก็พยักหน้า

“ ได้สิ ”

“ขอบคุณ”

แดฟกอนถอยกลับไปเมื่อน้ำร้อนได้ถูกนำมาที่ห้อง

เฟรย์ล้างตัวด้วยน้ำเปล่าแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่วางไว้บนเตียงก่อนจะเข้านอนทันที

วันรุ่งขึ้นเฟรย์ตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง

ทันทีที่เขาตื่นขึ้นเขาก็นั่งลงและเริ่มทำสมาธิเพื่อระงับพลังงานเยือกแข็งของโฟรเซินริฟเวอะ

‘นี่คือทั้งหมดที่ฉันทำได้ในตอนนี้’

เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็มีสาวใช้ในวันก่อนยื่นอยู่ตรงหน้าเขา

เธอคุกเข่าต่อหน้าเขาทันทีและมองเฟรย์ด้วยใบหน้าซีดเซียว

“ ดิฉันดิฉันทำบาปลงไปแล้ว ”

“อะไร?”

“ ได้โปรดไว้ชีวิตของดิฉันด้วย ดิฉันขอโทษ”

เฟรย์ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงกลัวมาก

หลังจากปลอบโยนสาวใช้ที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะหลั่งน้ำตาเขาถามเธอและพบว่าเธออยู่ภายใต้ภาพลวงตาว่าเขากำลังนั่งสมาธิอยู่

และเขารู้ว่าแดฟกอนต้องบอกพวกเขาว่าอย่ารบกวนสมาธิของพ่อมด

เธอเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนน้ำที่ใช้แล้วจากเมื่อวานและนำอาหารเช้ามาให้เขาโดยไม่ได้มีเจตนาอื่นใด

“ ไม่เป็นไรตราบใดที่คุณไม่ได้แตะต้องร่างกายของพวกเขา”

หลังจากที่เขาส่งสาวใช้ออกไปเฟรย์ก็ล้างตัวด้วยน้ำและเขาควบคุมให้มันลอย

จากนั้นเมื่อเขาทานอาหารเสร็จเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

“ ผมเข้าไปได้ไหม? ”

“เข้ามาได้”

เป็นแดฟกอนที่เข้ามาทางประตู

แม้ว่าจะเป็นเวลาเช้าตรู่แต่เขาก็ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังถูกรบกวน

“ คุณชอบอาหารเช้าไหม? ”

“ มันน้อยไปหน่อย”

“ อย่างนั้นเหรอ? ผมจะให้พ่อครัวเพิ่มเป็นสองเท่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป”

ยิ่งเขากินอาหารได้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเพราะเขาจำเป็นต้องเพิ่มน้ำหนักอย่างเร่งด่วน

และเฟรย์ก็ชอบทานอาหารมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้กลับมาที่ทวีป

และตามที่คาดไว้อาหารที่ตระกูลจุนเสิร์ฟนั้นอร่อยมาก

“ นายน้อยกำลังรอคุณอยู่ ผมจะนำทางคุณไปที่นั่นดังนั้นได้โปรดเตรียมตัวให้พร้อม”

เฟรย์เปลี่ยนกลับไปใส่เครื่องแบบของเขา มันดูโทรมนิดหน่อย แต่เขาไม่มีอะไรจะใส่

หลังจากออกจากห้องเขาตามแดฟกอนไปอีกครั้ง

เพเรียนมองไปที่น้ำพุในสวน แต่เขาก็หัวเราะออกมาอย่างสดใสเมื่อเห็นเฟรย์

“ นายดูผอมมาก ฉันเดาว่านายคงไม่ได้กินข้าว”

“ มันเป็นหนึ่งเดือนที่แย่มากๆ แต่ฉันก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้วละ”

“ นั่นเป็นสาเหตุที่ต้องเฉลิมฉลอง”

เพเรียนยิ้มเบาๆ จากนั้นเขาก็พูดอีกครั้งราวกับว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาในใจ

“ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าปลายทางของนายคือภูเขานรก”

เราได้พูดถึงเรื่องนี้หรือไม่?

เฟรย์ครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะจำผู้หญิงสาวผมสีฟ้าได้

“ นายต้องเคยได้ยินมันจากโซเนียแน่ๆ”

“ถูกตัอง”

“เธออยู่ที่ไหน?”

“ห้องของเธอไม่ก็สนามฝึกซ้อม เธอฝึกดาบทันทีหลังจากลืมตาและก่อนเข้านอน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอผู้หญิงที่แกร่งขนาดนี้ อืมฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ”

เฟรย์หัวเราะออกมาขณะที่เพเรียนตัวสั่น

ถ้าหากเธอไม่มีพรแสวงแล้วละก็เธอจะไม่มีทักษะเช่นนี้ พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ

“ อาจเป็นได้ทั้ง 4 คน แต่สำหรับคุณโซเนียแล้วนายเป็นคนเดียวที่…”

“ฮะ?”

“ …ไม่ ไม่เป็นไร ฉันพูดไม่ได้”

เพเรียนยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวด้วยเหตุผลบางอย่าง

เฟรย์รู้สึกว่าเขาดูหดหู่มากทีเดียว

จากนั้นเพเรียนก็เปิดปากและเปลี่ยนหัวข้อ

“ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันอยากจะแนะนำให้นายรู้จักกับครอบครัวของฉัน”

“ใช่”

“ แล้วถ้าหากเป็นตอนนี้ล่ะ? โดยเฉพาะพ่อของฉัน ฉันอยากให้นายได้พบกับเขาจริงๆ”

ถ้าเป็นพ่อของเพเรียนเขาก็น่าจะหมายถึงหัวหน้าตระกูลจุน ชื่อของเขาก็คือเชพเพิร์ดจุน

เขาเป็นหนึ่งในห้านักเวทย์ระดับ 7 ดาวในจักรวรรดิอีกด้วย

นี่คือสิ่งที่เฟรย์ได้รับจากความทรงจำของเขา

‘คนที่ฉันควรพบอย่างยิ่ง’

ยิ่งพ่อมดมีพลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสที่พวกเขาจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับเดมิก็อดมากขึ้นเท่านั้น

“ เวลาไหนก็ได้”

“ นั่นเป็นความโล่งใจ ที่จริงมีไม่กี่ครั้งที่พ่อของฉันจะอยู่ที่บ้าน เขามีงานมากมายให้ทำที่หอคอย…”

เชพเพิร์ดจุนเป็นหัวหน้าของหอคอยที่สี่

เพเรียนดูตื่นเต้นมากในขณะที่เฟรย์พยักหน้า

เฟรย์จึงตามเพเรียนกลับไปที่ที่เชพพาร์ดอยู่

ในห้องขนาดใหญ่มีโต๊ะยาวปูผ้าสีขาววางทับอยู่

ด้านซ้ายและขวาของโต๊ะมีคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนในครอบครัวของเพเรียน

ลิเลียน้องสาวที่เขาเห็นเมื่อวานผู้ชายสองคนที่อายุใกล้เคียงกันและผู้หญิงที่สวยอีกหนึงคน

‘พวกเขาน่าจะเป็นพี่น้องและแม่ของเพเรียน’

ซึ่งหมายความว่าชายวัยกลางคนที่แข็งแรงซึ่งนั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็คือเชพเพิร์ดจุน

“ ผมชื่อเฟรย์เบลคหนึ่งในลูกชายสามคนของตระกูลเบลค ผมอาจจะแสดงความขอบคุณที่อาจจะล่าช้าเกินไปต่อน้ำใจของตระกูลจุน”

“ยินดีที่ได้รู้จักและเราเองก็ยินดีต้อนรับคุณในฐานะที่คุณเป็นเพื่อนของเพเรียน”

เฟรย์เงยหน้าขึ้นมองเชพเพิร์ด

ในแวบแรกเขาดูเหมือนจะเย็นชา แต่สีหน้าและน้ำเสียงของเขาก็นุ่มนวลดังนั้นความประทับใจจึงคงอยู่

แต่เฟรย์ให้ความสนใจกับบางสิ่งที่แตกต่างออกไป

มีรอยสักอยู่บนใบหน้าของเชพเพิร์ด

‘รอยสักนั้นคือ…’

“ เคาทเบลคเป็นอย่างไรบ้าง”

เฟรย์หยุดครุ่นคิดกับคำพูดของเชพเพิร์ดอยู่สักพัก และตอบอย่างเป็นทางการ

“ท่านสบายดี”

“ หอคอยที่หกอยู่ไกลมาก มันเลยทำให้ฉันได้พบกับเขาในระหว่างการประชุมหอคอยปีละครั้งเท่านั้น การสนทนากับเหล่าเคาทนั้นเป็นเรื่องที่สนุกสนานแถมยังมีข้อมูลดีๆอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย”

“…มันช่างน่าเสียดาย”

“ ฮูฮู นั่งลงสิ ฉันอยากได้ยินว่าคุณเป็นเพื่อนกับลูกชายของฉันได้อย่างไร?”

เมื่อเขาพูดเช่นนั้นเชพเพิร์ดก็ยิ้มอย่างสดใส

เฟรย์ก้มหน้าแต่ความคิดของเขาต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

มีรูปดาวหกแฉกที่มีพระจันทร์เสี้ยวอยู่ตรงกลางใต้ตาซ้ายของเขา

ไม่มีสิ่งอื่นใดที่เขาให้ความสนใจ

เพราะนั่นเป็นหนึ่งในรอยสักเวทย์มนตร์ที่ชไวเซอร์เป็นคนคิดและใช้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด