หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 735 แสดงต่อไม่ไหวแล้ว / ตอนที่ 736 ให้คุณพูดก่อน

อ่านนิยายจีนเรื่อง หวานรักจับหัวใจท่านประธาน ตอนที่ 735 แสดงต่อไม่ไหวแล้ว / 736 ให้คุณพูดก่อน อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 735 แสดงต่อไม่ไหวแล้ว

ประโยคง่ายๆ ประโยคเดียว ราวกับสายฟ้าฟาดลงมาที่ข้างหูของเหนียนเสี่ยวมู่

มือที่ถือโทรศัพท์ของเหนียนเสี่ยวมู่กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ราวกับกลัวว่าตัวเองจะได้ยินผิดไป

อวี๋เยว่หานที่เมื่อครู่แกล้งเมาอยู่ ตอนนี้ก็ชะงักฝีเท้าไปแล้วหันกลับมามอง

ดวงตาดำขลับมีความซับซ้อนแฝงอยู่

โทรศัพท์สายนี้มาไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ เขาแสดงมาทั้งคืน อีกนิดเดียวก็จะเก็บแหแล้ว แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับโทรศัพท์สายเดียว……

ปวดใจ!

แต่คนที่ถานเปิงเปิงพูดถึง เขากับถังหยวนซือยังหาไม่เจอเลย ตอนนี้มีข่าวคราวแล้วก็ต้องจัดการเรื่องสำคัญก่อน

ราตีนี้ยังอีกยาวไกล เขารอได้

ดวงตาดำขลับของอวี๋เยว่หานกระพริบนิดหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่ รั้งร่างแข็งทื่อของหญิงสาวมาไว้ในอ้อมกอด

ความอบอุ่นที่ฝ่ามือของชายหนุ่มแผ่ไปที่ร่างของเธอ เหนียนเสี่ยวมู่ได้สติอย่างรวดเร็ว

“มิสเตอร์คาติอยู่ที่ไหน เธอส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย!”

“ไม่ต้องหรอก” ถานเปิงเปิงพูดขัดคำพูดของเธอ น้ำเสียงไม่ได้ห้วนมากนัก ค่อยๆ เอ่ยเสริม

“เขาตายแล้ว ตายตั้งแต่สามปีที่แล้ว”

“ตายแล้ว……”

สีหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่เปลี่ยนเป็นขาวซีดราวหิมะในชั่วพริบตา นึกไม่ถึงว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้

คนคนเดียวที่อาจรู้จักชาติกำเนิดของเธอ กลับตายไปแล้ว

เหนียนเสี่ยวมู่เม้มปาก พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็น “เปิงเปิง เธอจำคนผิดหรือเปล่า คนตระกูลสิงบอกว่ามิสเตอร์คาติแข็งแรงมากนะ เธอเคยเห็นรูปเขาแล้วหนิ เธอน่าจะรู้ว่าเขาอายุแค่หกสิบเอง……”

“พิสูจน์ตัวตนแล้ว ไม่น่าผิด ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุการตายที่แน่ชัด เดี๋ยวฉันจะส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องไปให้เธอทีหลัง อีกเรื่องที่เธอให้ฉันไปสืบเรื่องโรงเรียน ฉันก็ไปถามาแล้ว ไม่มีใครรู้จักคนที่ชื่อ “ลิ่วลิ่ว” เลย ซ่างซินจำชื่อเธอผิดหรือเปล่า”

ถานเปิงเปิงถามขึ้น

น้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเธออยู่ในโรงพยาบาลแล้วเผชิญหน้ากับคนไข้อยู่

เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้วอย่างไม่ยอมรับ “ถ้าซ่างซินคนเดียว อาจจะจำผิดได้ แต่ขนาดฟ่านอวี่ก็ยังเรียกฉันว่าลิ่วลิ่วเลย ชื่อนี้ต้องมีจริงแน่ๆ“

“แต่สืบหาคนที่ชื่อลิ่วลิ่วที่โรงเรียนแองเจิลไม่เจอนะ” ถานเปิงเปิงพูดยืนยัน

แบบนี้ เรื่องมันก็ดูยุ่งยากขึ้นแล้ว

ความจริงที่เกือบปรากฏตรงหน้า กลับไปอยู่ที่จุดเดิมอีกครั้ง

เหนียนเสี่ยวมู่เต็มไปด้วยความหวัง แต่สุดท้ายความหวังกลายเป็นศูนย์ ตอนวางสายลง ทั้งร่างก็สิ้นหวังขึ้นมาทันที

ลืมถามแม้กระทั่งว่าถานเปิงเปิงจะกลับมาเมื่อไหร่……

แต่พอวางสายลงกลับได้รับข้อความจากเธออีกข้อความหนึ่ง

(เรื่องบางเรื่องมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ไปรื้อฟื้นมันถึงจะรักษาความสุขในปัจจุบันเอาไว้ได้ ค่อยเป็นค่อยไป)

ถานเปิงเปิงมักจะเป็นแบบนี้ แข็งนอกอ่อนใน

เหนียนเสี่ยวมู่ตอบกลับข้อความของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เงยหน้ามองดูอวี๋เยว่หาน

เดิมทีกังวลอยู่ว่าชายหนุ่มเมาแล้ว คงฟังไม่รู้เรื่องว่าเธอพูดอะไรกัน แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นก็สบกับสายตาที่ดูมีสติที่ไม่น่าจะมีสติได้มากกว่านี้อีกแล้ว

ใบหน้าที่ดูเหมือนเมาของชายหนุ่มก็หายไปโดยไร้ร่องรอย

เมื่อได้ยินคำพูดของงถานเปิงเปิง ชายหนุ่มค่อยๆ ก้มหน้าลง ยกมือข้างหนึ่งกอดอกอีกมือเท้าคาง ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่……

สีหน้าดูเคร่งเครียด สายตามีแววเคร่งขรึมที่เธอไม่เข้าใจ

จากนั้น ก็ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอ ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้น หยุดชะงักการกระทำลง

จากนั้นก็เริ่มจะสวมบทบาทการแสดงอีกครั้ง

“อวี๋เยว่หาน ถ้าคุณยังกล้าแกล้งทำเป็นเมาอีกล่ะก็ ฉันจะถือโอกาสตอนคุณอาบน้ำกดหน้าคุณลงกับอ่างน้ำให้สร่างเมาไปเลย!”

ตอนที่ 736 ให้คุณพูดก่อน

อวี๋เยว่หาน “……”!!

“ใครบอกว่าผมเมา? ผมไม่ได้เมาสักหน่อย……ผมมีสติดี เรื่องที่คุยพูดกับถานเปิงเปิงเมื่อกี้นี้ ผมก็ได้ยินหมดแล้ว” อวี๋เยว่หานโอบหญิงสาวเอาไว้ แล้วเดินไปที่เตียงใหญ่

กดเธอให้นั่งลงบนเตียงจากนั้นตนเองก็นั่งลงข้างๆ

“คุณอย่างเพิ่งรีบร้อน เรื่องของมิสเตอร์คาติ ในเมื่อถานเปิงเปิงบอกว่าจะส่งอีเมลล์มาให้คุณ เราก็ควรรอดูก่อน ส่วนเรื่องโรงเรียนที่คุณเคยไปเรียน ถานเปิงเปิงสืบไม่เจอก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะสืบไม่เจอ ผมรู้จักอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแองเจิ้ลพอดี เดี๋ยวผมจะให้คนเอานามบัตรของผมไปสืบให้”

อวี๋เยว่หานพูดพลางเดินไปที่ด้านหน้าโต๊ะ เอื้อมมือไปหยิบโน้ตบุ๊คมาจากนั้นก็ยื่นให้เหนียนเสี่ยวมู่

“เข้าบัญชีของคุณ แล้วเช็คอีเมลล์”

“……”

เหนียนเสี่ยวมู่มองดูผู้ชายที่กลับมาเป็นปกติภายในหนึ่งวินาทีอย่างอึ้งไปพักใหญ่ถึงจะได้สติ

รับโน้ตบุ๊คมา

กำลังจะล็อกอินเข้าบัญชี แต่แล้วก็หันไปมองหน้าชายหนุ่มอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

ดังนั้น มันก็เป็นเหมือนที่เธอเดาไว้สินะ……

เหนียนเสี่ยวมู่เบิกตาโพลงจ้องเขม็ง!

“ตอนที่ฉันรับโทรศัพท์ก็รู้สึกแล้วว่ามันแปลกๆ ปกติเวลาคุณเมาไม่เคยเรียกฉันว่าคู่หมั้น มักจะเรียกว่าเหนียนเสี่ยวมู่ เอาแต่เรียกไม่หยุด วันนี้เรียกซะหวานจนฉันรู้สึกว่ามันอะไรแน่ๆ”

อวี๋เยว่หาน “……”!!

“คุณไม่ได้เมาแท้ๆ ทำไมถึงต้องให้ฉันไปรับด้วย แล้วเรื่องถังหยวนซือเข้าโรงพยาบาลอีก เขาป่วยเหรอ ซ่างซินรู้เรื่องที่เขาป่วยหรือเปล่า เป็นเพราะเขาป่วยใช่ไหมเลยต้องผลักใสให้ซ่างซินไปไกลๆ ที่เขาปิเสธซ่างซินคงไม่ใช่เพราะ……อื้อ!”

เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันจะพูดจบ อวี๋เยว่หานก็หมุนตัวกลับแล้วก้มหน้าไปหาเธอ

จากนั้นก็ประกบจูบลงไปที่ปากเล็กที่เอาแต่พูดไม่หยุดอย่างแม่นยำ

กำลังจะเริ่มขั้นตอนต่อไปแต่กลับโดนเหนียนเสี่ยวมู่ผลักออกเสียก่อน

ปากเล็กยู่ ขมวดคิ้วจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่ม

“เรื่องสำคัญล่ะ คุณมายั่วฉันทำไม”

“คุยเรื่องสำคัญเสร็จแล้วยั่วได้เหรอ” อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว

เหนียนเสี่ยวมู่ “???”

อวี่เยว่หาน “อย่างนั้นคุณล็อกอินเข้าบัญชีแล้วดูอีเมลล์ของถานเปิงเปิงก่อน”

“……”

แม้ในใจของเหนียนเสี่ยวมู่จะบ่นพึมพำ แต่อิทธิพลขงอวี๋เยว่หานแพร่กระจายเป็นวงกว้าง เธอบังคับนิ้วมือของตัวเองไม่ได้ กอดโน้ตบุ๊คเอาไว้แล้วล็อกอินเข้าอีเมลล์ที่เอาไว้ติดต่อกับถานเปิงเปิง

เมื่อเปิดอีเมลล์

ในนั้นมีอีเมลล์ที่ถานเปิงเปิงส่งแนบมาอยู่จริงๆ

ในอีเมลล์นั้น ล้วนเป็นข้อมูลที่ถานเปิงเปิงสืบหาได้ตอนที่อยู่ต่างประเทศ แล้วก็มีเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง

ชื่อเต็มของมิสเตอร์คาติยาวมาก ข้อมูลที่ปรากฏคือประวัติการศึกษาระดับสูงและเทคนิคมากมายต่างๆ ของพ่อบ้านระดับสูง

แต่สิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายก็คือ ตระกูลที่เขารับใช้อยู่ไม่มีเขียนบอก ดังนั้นเลยหาได้แต่ข้อมูลส่วนตัวของเขาแต่หาไม่เจอว่าเขาเคยทำงานที่ไหน เคยเป็นพ่อบ้านให้ใคร

สามปีก่อน ตายไปอย่างไม่คาดคิด

สาเหตุการตาย : ไม่ชัดเจน

ภายในเวลาสั้นๆ แบบนี้ ข้อมูลที่ถานเปิงเปิงหามาได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย

อีกอย่าง ถ้าหากมิสเตอร์คาติตายไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสามปีที่แล้วจริงๆ อย่างนั้นก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมคนที่ช่วยดูแลตระกูลสิงจึงได้หายตัวไป

“ถ้ามิสเตอร์คาติตายแล้วจริงๆ อย่างนั้นเบาะแสก็คงขาดไปที่ตรงนี้” อวี๋เยว่หานกวาดตามองอีเมลล์ที่หน้าจอคอม ดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้น

“คุณกำลังสงสัยอะไรอยู่ใช่ไหม”

เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาแปลกๆไป จึงหันไปถาม

สิ้นเสียง มุมปากของอวี๋เยว่หานก็ยกขึ้น “ถามแบบนี้แสดงว่าคุณก็คิดอะไรอยู่เหมือนกัน ให้คุณพูดก่อนแล้วกัน”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด