หงส์สยายปีก – ตอนที่ 19 กลับบ้านไปคิดให้ดีดี
ตอนที่ 19 กลับบ้านไปคิดให้ดีดี
เมล็ดพันธุ์ทั่วไปเหล่านี้มีราคาต่ํากว่าสองร้อยหยวนต่อกิโลกรัม ซึ่งส่วนใหญ่ราคาไม่เกินหนึ่งร้อยหยวนด้วยซ้ําจิงจิงพยายามซื้อเมล็ดพืชที่มีราคาไม่แพง และเลือกซื้อหลายๆ พันธุ์ที่สามารถจะซื้อได้ เธอมีเงินจํากัด ดังนั้นเธอจําเป็นจะต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เธอพยายามเลือกเมล็ดพันธุ์อย่างตั้งใจ และท้ายที่สุดเธอเลือกเมล็ดพันธุ์ได้ ยี่สิบชนิด
เมื่อเธอมองไปที่เมล็ดพันธุ์อื่นๆ ที่เหลืออยู่ เธอเผยแววตาแห่ งความโลภขึ้นมาทันที เมื่อหมอกังและชายเจ้าของร้านเห็นก็ได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
ถึงอย่างนั้นการเลือกเมล็ดพันธุ์ของจิงจิงมีหลักการ เพียงแค่ใน ตอนนี้เธอไม่ค่อยมีเงินนั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่มีเงินไปตลอด ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะปฏิเสธ
เธอพบสถานที่ในการหาเม็ดพันธุ์ ดังนั้นในอนาคตมันคงไม่ใช่เรื่ องยากถ้าเธอจะหาสถานที่ปล่อยขายยาจากสมุนไพรที่เธอปลูก
ร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศยังจําเป็นต้องซื้อวัตถุดิบยาเช่ นกัน ถ้าหากเธอเลี้ยงเมล็ดสมุนไพรเหล่านี้จนเติบโตจนถึงตอนนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะขายสมุนไพรเหล่านั้นในราคาสูงได้
เมื่อเธอสามารถแก้ไขความกังวลของตนเองได้แล้ว จิงจิ งก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมากหลังจากที่เธอแยกทางกับหมอกังเรี ยบร้อยแล้วเธอก็รีบตรงไปที่โรงเรียนทันที
ตอนที่เธอมีปัญหากับกลุ่มอันธพาล ครูจินแนะนําให้เธอแจ้ งความกับตํารวจ ให้พูดตามตรงอันธพาลเหล่านั้นควรได้รับการตอบโต้และเอาคืนซะบ้าง
ตั้งแต่ตอนที่นักเรียนทุกคนสอบเสร็จโรงเรียนก็เงิบยสงบทันที ทว่าผู้คนที่เธอเดินผ่านก็ยังเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ดี
“จิ้งหยุนเฉา พ่อของเธอมาที่โรงเรียนท่าทางของเขาโกรธมาก เขาบอกว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่ดีเขาจะพาเธอกลับบ้านเพื่อกลับไปครุ่นคิดและทบทวนเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น” จู่ๆ นักเรียนคนหนี้งก็พูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงหัวเราะเยาะเย้ย
ถึงเหวยหมิงจะไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของเธอ ทว่าเขาก็เป็นผู้ใหญ่ใน ชีวิตคนเดียวที่เหลืออยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะเลวร้ายลงมาก แม้แต่จิง จิงก็ต้องรับกรรมในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่ออย่างนั้นหรือ?
จิ้งหยุนเฉาเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ เธอทั้ง สวยและเรียนเก่ง แค่สองเหตุผลนี้มันมากพอที่จะทําให้คนอื่นๆ อิจฉาเธอ
ที่มากไปกว่านั้นคือเธอชอบอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว ภา พลักษณ์นั้นทําให้เธอดูเป็นคนอ่อนแอเธอเป็นเด็กที่โดนกลั่นแกล้ งอยู่บ่อยครั้ง
จิงจิงหันไปมองรอบๆ ด้วยสีหน้าที่แตกต่างออกไปและพูดว่า “แกว่าไงนะ?!”
เสียงที่โกรธเกรี้ยวของเธอทําให้เด็กคนอื่นๆ ตกใจ
เด็กที่พูดเมื่อครู่สะดุ้งทันทีและหันหน้าหนีพร้อมกับเม้มริมฝีปาก “ฉันพูดความจริง…ฉันไม่ได้ว่าร้ายเธอนะเมื่อกี้พ่อของเธอยังอยู่ตรงทางเข้าโรงเรียนอยู่เลย เขาเอะอะโวยวายว่าเธอไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้านเลยหรือไงที่นอนกับพวกอันธพาลตั้งแต่อายุยังน้อยที่จริงแล้วเขาพูดน่ากลัวว่าที่ฉันเล่าไม่รู้กี่เท่า…ฉันแค่ก็อปปี้คําพูดของเขามาก็เท่านั้นเอง”
นักเรียนคนนั้นไม่ได้โกหก ทันทีที่เหวยหมิงมาถึงที่โรงเรียน เขาก็ พยายามวิ่งตรงเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่พูดไม่จาดังนั้นเขาจึงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกักตัวเอาไว้ก่อน
แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดเหวยหมิงเอาไว้ได้ เขาตะโกนด่าทอครูจิ นว่าสอนจิงจิงให้เป็นคนชั่ว ด่าครูจินว่าเธอไม่รู้วิธีสอนเด็กให้เป็นคนดีหรืออย่างไร! และจะไม่ให้จิงจิงเรียนกับเธออีกต่อไปแล้ว
การที่เหวยหมิงทําเช่นนี้ได้ทําลายชื่อเสียงของครู จินและโรงเรียนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…ครูจินได้นําเหวยหมิงไปพบกับผู้บริหารของโรงเรียนเพื่อเซ็นใบลาออกของจิ้งหยุนเฉาถ้าหากจิงจิงเร็วพอเธอจะสามารถยับยั้งการกระทําเหล่านั้นได้ ถ้า มิเช่นนั้น เขาอาจเซ็นใบลาออกให้เธอได้สําเร็จแล้ว
จึงหยุนเฉากําหมัดแน่น แววตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความ โกรธและเย็นชา นักเรียนคนอื่นๆตกใจเพราะไม่เคยเห็นเธอเป็นเช่นนี้
เธอเป็นเด็กขี้อายมาโดยตลอด และผลการเรียนของเธอยัง ยอดเยี่ยมเกินไป เธอเพิ่งจะเรียนมัถยมปลายมาได้ครึ่งเทอมทว่า ข่าวลือน่าอายมากมายได้แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนแล้ว
วันแรกที่เธอเข้าโรงเรียนมาต่างมีข่าวลือว่าคะแนนที่สูงเป็นอัน ดับหนึ่งของเธอนั้นมาจากการโกงมีใครบางคนต้องการจะบอกว่าเธอเจ้าเล่ห์และขี้โกง เธอมักจะทําสิ่งต่างๆ อย่างลับๆ มีคนบอกด้วยซ้ําว่าเธอชอบโปรยเสน่ห์ให้แก่เด็กผู้ชายไปทั่วเธอถูกกล่าว หาว่าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี!
เพราะข่าวลือเหล่านั้นจึงทําให้ทุกคนไม่อยากเข้าใกล้จิงจิง!
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยเก็บข่าวลือบ้าๆพวกนั้นมาสนใจ เธอ อยู่คนเดียวมาโดยตลอดและไม่เคยทําให้ใครเดือดร้อน แม้จะมีบ้างครั้งที่เธอมักจะถูกดูถูก…ทว่าเธอก็ไม่เคยสู้ตอบโต้
ไม่เหมือนวันนี้ ปฏิกิริยาของเธอแปลกออกไปอย่างเห็นได้ชัด เธอดูสู้ไม่ถอย!
คอมเม้นต์