บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 3 วันแห่งความยินดี
เวินหนิงทำภารกิจสำเร็จ กำลังจะออกจากที่นี่ เธออายที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สติก็ตาม
เวินหนิงเดินออกจากห้องนอนลู่จิ้นยวน นายท่านก็รอเธออยู่แล้ว
“วันนี้เป็นวันแรกที่เธอดูแลลู่จิ้นยวน เป็นยังไงบ้าง พอได้มั้ย?”
เวินหนิงพยักหน้า จู่ๆก็คิดถึงผู้ชายที่เจอวันนี้ขึ้นมา แน่นอน เขาหน้าตาหล่อเหลา ก็ไม่ได้ยากที่จะยอมรับ เพียงแค่ เธอยังมีปัญหาบางอย่างภายในใจที่จะต้องปล่อยวาง
อาจจะ วันเวลาเนิ่นนานแล้วเธอก็คงชินไปเอง
“ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
นายท่านลู่พยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในห้องพร้อมชุดสูทสีดำ ในมือมีสมุดเล็กๆอยู่สองเล่ม
“นี่เป็นทะเบียนสมรสของพวกเธอ ฉันจะเก็บไว้ให้พวกเธอเอง เธอไม่มีปัญหาอะไรนะ”
เวินหนิงส่ายหน้า บทสนทนาของนายท่านบอกเป็นนัยๆไม่ชัดเจน ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เธอกลายเป็นสะใภ้ของตระกูลลู่แล้ว ข้อแรกไม่มีสถานภาพ ข้อที่สองไม่อิสระ แม้ว่าทะเบียนสมรสนี้อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นใบหย่าแทน และเธอก็จะถูกส่งตัวกลับไปยังเรือนจำที่เป็นฝันร้าย หรืออาจจะจัดการทำให้เธอหายไปจากโลกนี้
เวินหนิงไม่ได้สนใจเรื่องสถานภาพ แต่เธอสนใจเรื่องอิสระ ทะเบียนสมรสใบนี้เป็นพันธนาการของเธอ แต่ก็เป็นแสงสว่างแสงเดียวที่ส่องให้เธอหลุดพ้นความมืดมน เธอต้องพึ่งทะเบียนสมรสนี้เพื่ออิสรภาพในวันข้างหน้า
เมื่อเห็นว่าเธอตกลง นายท่านก็พยักหน้า “ไม่มีธุระอะไรแล้วก็ไปเรียนรู้ว่าต้องนวดลู่จิ้นยวนยังไงจากหมอนวด จำไว้ให้ดี การดูแลลู่จิ้นยวนเป็นหน้าที่ภรรยาอย่างเธอ”
เวินหนิงกลับเข้าไปในห้องนอนห้องลู่จิ้นยวน หมอนวดก็เรียกให้เธอมานั่งดูอีกฝั่ง
เวินหนิงให้ความร่วมมือนั่งลง ตั้งใจดูกล้ามเนื้อของผู้ชายคนนี้ที่ถูกนวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เก็บความตื่นเต้นไว้ภายในใจ
มองดูกล้ามเนื้อของลู่จิ้นยวนที่นอนสลบมาสามปีเต็มไม่หดตัวเหี่ยวย่น ก็คาดการณ์ได้ว่าหมอนวดคนนี้ไม่ธรรมดา
ถ้าเธอเรียนรู้เคล็ดลับวิธีนวดนี้ได้ ก็อาจจะทำให้แม่เหมือนกับลู่จิ้นยวน แม้ว่านอนหมดสติอยู่บนเตียง ก็สามารถรักษากล้ามเนื้อและความแข็งแรงไว้ได้
เมื่อคิดถึงว่าไม่ได้เจอแม่มาสามปีแล้ว ดวงตาของเวินหนิงก็โศกเศร้าขึ้นมา
ตอนนั้นแม่ถูกคนตระกูลเวินสามคนนั่นทำพฤติกรรมไร้ยางอาย แม่โกรธมากจนหมดสติไม่ฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าฟื้นตัวเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
ที่เธอต้องการออกจากคุกเร็วๆไม่ใช่เพียงเพราะความทรมาน มากไปกว่านั้นคือเธออยากออกมาดูแลแม่
ดังนั้นเพื่อแม่ เธอต้องคว้าโอกาสการแต่งงานเข้าตระกูลลู่ในครั้งนี้ เพื่ออิสรภาพ
นวดเสร็จฟ้าก็มืดแล้ว เวินหนิงไปส่งหมอนวด และไปกินข้าวเย็น ชายชราบอกเธอว่า “ในเมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว หลังจากนี้ก็ให้นอนกับลู่จิ้นยวน”
คำสั่งของนายท่าน ปฏิเสธไม่ได้ง่ายๆ
ในเมื่ออยากจะแต่งงานเพื่อขจัดเสนียดจัญไร ก็ต้องทำให้เป็นทางการ
เวินหนิงพยักหน้า ในมือถือตะเกียบ
ในที่สุดก็ต้องนอนกับคนที่ไม่มีความรู้สึก คนที่ไม่มีความรู้สึก ไม่พูด ไม่ขยับ ก็ยังปลอดภัยกว่าคนที่อยู่ในคุกที่จะทำร้ายให้เธอตายได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นคำว่านอนด้วยกัน มันก็แค่เป็นความหมายตามตัวหนังสือเท่านั้นเอง
กินข้าวเสร็จ เวินหนิงก็กลับไปที่ห้องของลู่จิ้นยวน เพื่อบรรยากาศ เครื่องนอนก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงสด บนโต๊ะยังจุดเทียนสีแดงสองเล่ม มีคนมาปิดไฟไปแล้ว แสงสีแดงๆในห้องทำให้รู้สึกอบอุ่น
เวินหนิงเดินไปข้างเตียง ดูผู้ชายที่อยู่บนเตียง แสงสว่างของเทียนที่สะท้อนบนใบหน้าของเขาทำให้ดูอ่อนโยนขึ้นมาก ไม่มีความรู้สึกเยือกเย็น ถ้ามองผิวเผิน ทำให้คนคิดว่าเขาแค่นอนหลับ
“ตั้งแต่วันนี้ คุณก็คือสามีของฉัน คุณว่าน่าตลกมั้ย เพราะว่าคุณฉันเกือบตายหลายครั้งในสามปีนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกลียดคุณ คุณเองก็คงเกลียดฉันมาก แต่ตอนนี้เรากลับมาเป็นสามีภรรยากัน คงจะเป็นโชคชะตามั้ง”
“ที่จริงคุณจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลยก็ไม่สำคัญอะไร “เวินหนิงนั่งที่ขอบเตียง แล้วนวดให้ลู่จิ้นยวนตามที่เรียนมาวันนี้ ” ยังไง ฉันก็แค่อยากจะได้รับอิสระ คุณก็แค่ต้องการคนมาดูแล เราสองคนต่างคนต่างได้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ดีแล้ว”
เธอนวดตามที่หมอนวดสอน นวดไปเรื่อยๆจนครบหนึ่งชั่วโมง เวินหนิงก็หยุดนวด ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดคนที่ทำให้เธอต้องติดคุก แต่ในเมื่อเธอตกลงกับตระกูลลู่ไว้แล้ว เธอก็จะดูแลผู้ชายคนนี้ให้ดี
ความง่วงคืบคลานเข้ามา หลังจากออกจากคุกวันแรก สุดท้ายเวินหนิงก็รู้สึกถึงความอิสระเล็กน้อย นั่นเป็นความรู้สึกของคน เช่น ความรู้สึกเหนื่อยล้า ความรู้สึกง่วงที่กลับมาสู่จิตสำนึกของเธอ
ลู่จิ้นยวนนอนอยู่บนเตียงอีกด้านหนึ่ง เธอนอนบนเตียงอีกด้านหนึ่ง หลับตานอนขดตัวด้วยความเคยชิน
กลางดึก โรคความเหน็บหนาวบนขาของเวินหนิงก็กำเริบ เจ็บปวดจนเหงื่อท่วมร่างกาย ทนไม่ไหวจนต้องพลิกตัว เธอพลิกตัวจนไปโดนพลังงานความร้อนที่อยู่ข้างๆ ก็เลยพิงเข้าไปด้วยจิตใต้สำนึก ร่างอันบอบบางของเธอขดตัวอยู่ข้างๆเตาผิงนั้น
ชั่วครู่ความอบอุ่นจากร่างกายถ่ายทอดสู่ร่างกาย ทำให้โรคความเหน็บหนาวของเวินหนิงหายไป เธอค่อยๆหลับลึกลงไป
วันต่อมา
เวินหนิงที่อยู่ในคุกไม่ได้เห็นแสงสว่างรุ่งเช้ามานานมากแล้ว แสงดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างลอดเข้ามาในห้อง ทำให้เธอตื่น
เธอเปิดตาขึ้นมา ทันใดนั้นก็เห็นใบหน้าขาวนวลหล่อเหลา ร่างกายรับรู้ถึงความอบอุ่น เธอรู้แล้วว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของใครซักคน
เวินหนิงรีบผลักตัวเองออกมา รู้สึกร้อนผ่าวบนหน้า ถึงแม้ลู่จิ้นยวนจะเป็นคนไม่มีความรู้สึก แต่เขาก็เป็นชายหนุ่ม เวินหนิงไปนอนกอดกับเขา จะไม่รู้สึกเขิลอายได้อย่างไร
เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนที่เธอกำลังเดินออกไปข้างหน้าก็หันกลับมามองลู่จิ้นยวนที่นอนเงียบๆอยู่บนเตียง รู้สึกงุนงงในจิตใจ
เมือกี้ตอนที่เธอลุกขึ้น ที่สะโพกของเธอเหมือนจะรู้สึกถึงพละกำลังจากมือของลู่จิ้นยวน
รู้สึกไปเองรึเปล่า?
หรือลู่จิ้นยวนจะฟื้นขึ้นมาแล้ว?
คอมเม้นต์