กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ – ตอนที่ 37 เข้าปะทะอย่างไร้ทางเลือก
ตอนที่ 37 เข้าปะทะอย่างไร้ทางเลือก
ด้วยความแข็งแกร่งของจี้เทียนซิงในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9 นั้น ไม่ว่าจะมองมุมใดก็มิอาจเห็นหนทางชนะได้เลย
แต่การแสดงออกของเขายังคงผึ่งผาย ดวงตาจับจ้องไปที่วานรเพลิงสีชาดที่กำลังเข้ามาอย่างช้าๆ
เสี่ยวปิงหูซุกหัวเล็กๆปุยๆของมันเข้าไปในย่ามและขดริมฝีปากหลังจากที่ได้เห็นวานรเพลิงสีชาด
“บ้าเอ้ย ! เป็นเจ้าลิงงี่เง่าตัวนั้นนี่เอง ”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วอย่างกะทันหันและถามด้วยความสงสัยว่า “หรือว่ามันมาเพื่อล้างแค้นเจ้า ? เจ้าไปฆ่าลูกมันหรือไง ?”
เสี่ยวปิงหูไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ มันกล่าวว่า “ก็ไม่เชิง”
“ก่อนนั้นข้าเบื่อๆอยู่ในถ้ำน้ำแข็งทมิฬและเห็นหลานชายตัวน้อย(ลูกลิง)นั่งยองๆอยู่นอกถ้ำ ข้านึกสนุกและเห็นมันก็เหงาเหมือนกันเลยจับมันลงมาในหลุมที่ข้าอาศัยอยู่เพื่อเล่นเป็นเพื่อน”
“แต่ข้าก็คาดไม่ถึงว่ามันจะอ่อนแอปวกเปียกขนาดนั้น ข้าเล่นกับมันไม่กี่ครั้งมันก็ตายหยังเขียด….. ”
จี้เทียนซิงอึ้งจนพูดไม่ออกและหัวเราะอย่างเอือมระอา “นี่คือเหตุผลของเจ้า ? น้ำเสียงของเจ้าฟังดูเหมือนไม่ค่อยสนุก แต่เป็นผิดหวังเสียมากกว่าที่มันตายเร็วไป !”
“โอ้…อย่าพูดถึงเรื่องเก่าๆเป็นคนแก่เลยหนา” เสี่ยวปิงหูส่ายหัวและกล่าวว่า
“เจ้าควรคิดหาทางว่าจะรับมือกับเจ้าลิงหน้าโง่ตัวนี้ยังไงจะดีกว่า”
“เจ้า…!”
จี้เทียนซิงกัดฟันแน่นและแทบจะทนไม่ไหวที่จะทุบตีเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ให้ตายคามือ
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้วานรเพลิงสีชาดก็ตามติดเขาเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีจนห่างกันเพียง 5 ฟุต
มันเหยียดแขนของมันลงกับพื้น ดวงตาจับจ้องไปที่จี้เทียนซิงและเปิดปากกว้างจนเผยให้เห็นฟันที่แหลมคมสองแถว
จี้เทียนซิงได้กลิ่นเลือดโชยมาจากปากของมันจนหายใจไม่ออก เห็นได้ชัดว่ามีเศษเลือดและกระดูกติดอยู่ในฟันของมัน
เขาลอบกระชับกระบี่มังกรโลหิตไว้แน่น กล้ามเนื้อเกร็งไปทุกส่วนเตรียมปกป้องชีวิตตนเอง
“ฮู่มมมมมมมมมมม !”
วานรเพลิงสีชาดกระแทกพื้นและพุ่งเข้ามาดั่งลูกธนูที่ถูกปลดปล่อยจากคันศร มันเหวี่ยงกรงเล็บขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่ศีรษะของจี้เทียนซิงอย่างดุดัน
ชายหนุ่มสาวเท้าหลบออกในทันทีและหลบหนีจากการโจมตีของมันไปได้
“ปัง ! ปัง !”
กรงเล็บขนาดใหญ่ของวานรเพลิงสีชาดทุบลงที่พื้นจนทำให้หินสีฟ้าแตกเป็นเสี่ยงๆในทันที
“วานรเพลิงสีชาดช่างทรงพลังนัก !”
จี้เทียนซิงตกใจและฟาดกระบี่ของเขาใส่ด้านหลังของวานร
วานรเพลิงสีชาดหันกลับมาและปัดกระบี่มังกรโลหิตด้วยแขนทั้งสองข้างจนกระเด็นเข้าไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล
จี้เทียนซิงตกตะลึงและร่างของเขาก็กระเด็นล้มลงไปบนพื้นหญ้าเช่นเดียวกัน
ไหล่ขวาของเขาสั่นเทาและชาด้าน ความสามารถในการต่อสู้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง
ฮู่มมมมมม !
วานรเพลิงสีชาดเหวี่ยงแขนออกไปกระแทกเข้าใสจี้เทียนซิงอีกครั้ง ทำให้ร่างของชายหนุ่มลอยละลิ่วไปไกล 2 เมตร พุ่งชนต้นไม้ใหญ่และกลิ้งไปบนพื้นหญ้าอีกรอบ
เสื้อด้านหลังของเขาฉีกขาดด้วยกรงเล็บของวานรเพลิงสีชาดจนแผ่นหลังทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยโลหิตแดงสด ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย
เมื่อถูกทุบกระแทกด้วยพลังอันมหาศาลของวานรเพลิงสีชาด จี้เทียนซิงรู้สึกราวกับกระดูกทั่วร่างแตกละเอียดและวิงเวียนศีรษะจนไม่อาจลุกขึ้นได้
ย่ามที่สะพายอยู่ข้างหลังก็ถูกวานรเพลิงสีชาดกระแทกจนตกลงไปในพงหญ้าและอาหารแห้งในนั้นก็หกหมด
เสี่ยวปิงหูนั้นยังคงปลอดภัยอยู่ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดี มันก็กระโดดออกมาและขึ้นไปหลบบนยอดไม้ใหญ่
วานรเพลิงสีชาดไม่ได้ไล่ล่าจี้เทียนซิง แต่ดวงตาที่แดงก่ำอย่างบ้าคลั่งของมันจับจ้องไปที่เสี่ยวปิงหูบนยอดไม้แทน
“บัดซบ !”
เสี่ยวปิงหูสบถออกมาและกระโดดเด้งขึ้นไปสูงกว่าสามเมตร จากนั้นก็โบกกรงเล็บน้อยๆลงมาราวกับจะเย้ยหยัน
ตูม !
เมื่อเสียงแตกดัง “แกร่ก แกร่ก” ดังขึ้น โคนต้นไม้ที่เสี่ยวปิงหูกระโดดขึ้นไปหลบก็แตกเป็นเสี่ยงๆกระจายไปหมด มันตกลงมาจากต้นไม้
เมื่อมันเห็นว่าไร้ที่หลบซ่อนอีกต่อไป ดวงตาสีเงินของมันก็แสดงออกถึงโทสะและร่ำร้องออกมา
“เจ้าลิงเฒ่าบัดซบ ตายซะ !”
มันโบกอุ้งเท้าคู่หน้าและยิงเส้นสายของลำแสงสีฟ้าที่ดูเหมือนคลื่นกระบี่ออกไปหาวานรเพลิงสีชาดทันที
วานรเพลิงสีชาดที่พุ่งเข้ามาหาอีกฝ่ายอย่างบ้าบิ่นนั้นไม่มีเวลาหลบได้ทันและโดนลำแสงสีฟ้าของเสี่ยวปิงหูเข้าทันที
“ปึง !!“
วานรเพลิงสีชาดส่งเสียงในลำคอและกระเด็นเป็นเส้นโค้งบนท้องฟ้าล้มลงกับพื้นอย่างหนัก
เมื่อวานรเพลิงสีชาดพยายามจะลุกขึ้น หน้าอกของมันก็เต็มไปด้วยเลือดไหลนอง กำปั้นของมันเผยให้เห็นถึงรูเลือดขนาดใหญ่
ถึงแม้ว่าเสี่ยวปิงหูจะยิงลำแสงน้ำเงินออกไปจนทำให้วานรเพลิงสีชาดบาดเจ็บได้ แต่ลำแสงน้ำเงินนั้นก็สูบกลืนพลังของมันจนหมดสิ้น ร่างกายของมันโงนเงนและล้มลงในพงหญ้าทันที
เมื่อได้เห็นภาพนี้ ดวงตาของวานรเพลิงสีชาดก็ดุร้ายยิ่งขึ้น มันกระโจนจากจุดที่ล้มขึ้นไปบนอากาศ
จี้เทียนซิงเห็นเสี่ยวปิงหูสลบไปและไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้าน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ในใจเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
แต่กระบี่มังกรโลหิตของเขาก็หลุดมือและไม่รู้ว่ากระเด็นหายไปไหน เขาจะใช้อาวุธอะไรไปต้านรับความบ้าคลั่งของวานรเพลิงสีชาดได้ ?
ในช่วงวิกฤตเขาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในถ้ำน้ำแข็งทมิฬ
ในเวลานั้นเขาถูกเส้นสายสีน้ำเงินของเสี่ยวปิงหูรัดพันตัวเอาไว้ เขาได้พยายามจนสามารถบังคับให้ปราณกระบี่ทั้ง 12 พวยพุ่งออกจากร่างและบินวนรอบตัวเขา
เมื่อคิดได้ดังนี้เขาจึงตั้งสมาธิเพื่อปะทุปราณกระบี่ในร่างอย่างเต็มพิกัดเพื่อบังคับให้พวกมันออกจากร่างกาย
“เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง !”
ปราณกระบี่ทั้ง 12 สายปรากฏขึ้นในทันทีและหมุนวนรอบตัวเขา
“ไป…..”
จี้เทียนซิงพึมพำและควบคุมปราณกระบี่ทั้งหมดให้พุ่งไปโจมตีวานรเพลิงสีชาด
มันได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีสุดกำลังของเสี่ยวปิงหูจึงทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก และความเร็วก็ลดลงไม่น้อย
มันรีบวิ่งไปหาเสี่ยวปิงหูและยกมือคู่ใหญ่ชูขึ้นฟ้าเตรียมจะทุบร่างน้อยๆของอีกฝ่ายให้แหลกเหลว
ในช่วงเวลานี้เอง ปราณกระบี่ทั้ง 12 สายก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !”
ปราณกระบี่เฉือนผ่านหัวไหล่และลำคอของวานรเพลิงสีชาดทิ้งบาดแผลเรียวยาวสามรอย ตามมาด้วยเลือดสีแดงสดที่ฉีดพุ่งในทันที
ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บของมันจะไม่หนักนัก แต่ปราณกระบี่ทั้ง 12 ต่างก็บินวนรอบๆตัวมัน จนมันไม่อาจเข้าไปใกล้เสี่ยวปิงหูได้
ฮูม !!!!!!!!
มันคำรามด้วยความโกรธและโบกมือไปรอบๆเพื่อจะปัดปราณกระบี่พวกนั้นให้กระเด็นและไปคิดบัญชีกับจี้เทียนซิงที่พยายามขัดขวางการล้างแค้นของมัน
ใบหน้าของจี้เทียนซิงซีดขาวราวกับกระดาษ เขาต้องหนีแต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะต้องจดจ่ออยู่กับการควบคุมปราณกระบี่ทั้งหลาย
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ! ! !”
วานรเพลิงสีชาดร่ำร้องคำรามและพยายามเข้าประชิดตัวจี้เทียนซิง แต่มันก็ถูกแทงอีกหลายแผลด้วยปราณกระบี่จนทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดที่มากขึ้นเรื่อยๆ
จี้เทียนซิงพยายามฝืนดิ้นรน ในระหว่างนี้ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลท่วมและแทบจะหมดสติลงไปได้ในทุกวินาที
จนถึงตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า การปะทุปราณกระบี่ทั้งหมดให้ออกไปโจมตีราวกับมีชีวิตนั้น เป็นภาระต่อร่างกายและจิตใจอย่างสูง
โชคดีที่วานรเพลิงสีชาดได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว หลังจากถูกรุมซ้ำด้วยปราณกระบี่ ความแข็งแกร่งของมันย่อมลดลงอย่างรวดเร็ว
ฮูมมมมมมม !!
มันทนได้อีกเพียงไม่กี่กระบี่ จากนั้นก็กรีดร้องด้วยความโกรธแค้นและหันหลังหนีกลับเข้าไปในป่า
ดวงตาของจี้เทียนซิงแทบจะปิดลง จิตวิญญาณและพลังกายทั้งร่างของเขาหมดสิ้นจนไม่อาจไล่ตามมันไปได้
“กลับมา……”
เขารีบชักนำ 12 ปราณกระบี่กลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โงนเงนล้มลงกับพื้น
*********
คอมเม้นต์