กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 32 สมบัติ
หลินเสี่ยวเฟย ก้าวออกจากหงเป่ยโหลว
เธอหันศีรษะและมองขึ้นไป ราวกับว่าเธอสามารถเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในและรู้สึกว่าชายหนุ่มที่เธอเพิ่งพบ เขากำลังยืนอยู่ตรงนั้นและมองดูเธอขณะที่เธอเดินจากไป
สิ่งที่พวกเขาพูดถึงก่อนหน้านี้ ไม่ใช่สิ่งที่สามารถพูดคุยกันอย่างเปิดเผยได้ โดยเฉพาะต่อหน้าราชวงศ์ ใคร ๆ ก็รู้ว่าราชวงศ์กลัวการจลาจลมากแค่ไหน พวกเขาคอยเฝ้าระวังอยู่เสมอ แม้กระทั่งกับเจ้าหน้าที่ที่น่าเชื่อถือที่สุด หากใครก็ตามที่พวกเขารู้ว่ากำลังวางแผนก่อการจลาจล พวกเขาจะจัดการประหารชีวิตในทันที
ดังนั้น หากคำพูดของใครก็ตามที่ต้องการจะซื้อระเบิด ได้ผ่านหูของโอรสสวรรค์ บุคคลนั้นต้องโดนประหารชีวิตอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ หงเป่ยโหลว ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง จะไม่สามารถหลบหนีชะตากรรมเดียวกันกับผู้ซื้อได้ ดังนั้น หลินเสี่ยวเฟยจึงมั่นใจว่าหงเป่ยโหลวและผู้จัดการที่เธอพบเเละพูดคุยก่อนหน้านี้ เขาคงจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ เพราะเขากลัวว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม เธอไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ดยุคเซียวและหงเป่ยโหลวคืออะไร
เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ที่จู่ๆชายหนุ่มที่สวมหน้ากากก็แนะนำให้เธอ ไปตามหาสิ่งที่ต้องการจากดยุคเซียว? เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เขาพูด ดูเหมือนว่าเขากำลังเร่งรีบ เเละโยนดยุคเซียวไปที่ศูนย์กลางในหัวข้อของพวกเขาแทน และดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำการติดต่อกับดยุคหนุ่มผู้นั้นให้
ไม่ว่าอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง เป็นเช่นไรหลินเสี่ยวเฟยได้ตัดสินใจไปแล้ว
สมมติว่าจะต้องไปพบ ดยุคเซียว เขาต้องถามเธออย่างแน่นอนว่าเธอจะใช้ระเบิดเพื่อจุดประสงค์อะไร หลินเสี่ยวเฟยรู้ว่าเธอคงจะไม่สามารถโกหกต่อสายตาที่เฉียบแหลมของผู้มีประสบการณ์ในการต่อสู้และเคยผ่านสงครามมามากมาย และคนเช่นเขายังต้องต่อสู้ระหว่างข้าราชการที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ในราชสำนัก
ในฐานะที่เธอ เคยเป็นคนที่ต้องเผชิญกับอันตรายถึงตายเกือบทุกวัน หลินเสี่ยเฟยรู้ว่ามีอันตรายและความตายซ่อนอยู่รอบๆดยุคเซียวอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เธอยอมที่เสี่ยงเพื่อที่จะได้พบเจอกับเขา เพียงเพื่อจะต้องการระเบิดและนำมาดำเนินการตามแผนของเธอ
ระเบิดที่เธอจะนำมาใช้นั้น ไม่ได้นำมาใช้เพื่อก่อกบฏต่อราชวงศ์ แต่จะทำบางสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่า และนั่นจะทำให้อาณาจักรเซิงทั้งอาณาจักรจะต้องสั่นสะเทือนด้วยความ หวาดกลัว
เมื่อตอนหลินเสี่ยวเฟยยังเด็ก เธอมักจะเดินผ่านภูเขาระหว่างอาณาจักรเซิงและอาณาจักรฉู่ และจะหยุดพักผ่อนบนกระท่อมเล็กๆที่ถูกทิ้งร้างที่เชิงเขา ในเวลานั้น หลินเสี่ยวเฟยยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะที่เธอกำลังพักผ่อน เธอเห็นทหารและทาสสองสามกลุ่ม เดินขึ้นไปบนภูเขาราวกับกำลังเดินอยู่ในสวน
หลินเสี่ยวเฟย เด็กสาวที่ต้องการมีความ อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกโดยธรรมชาติ เธอได้เเอบติดตามพวกเขาไป แล้วซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้อย่างลับๆ เเละเเอบเดินติดตามพวกเขาไปเรื่อยๆ พวกเขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าปากถ้ำขนาดใหญ่ และที่นั่น เธอก็พบเห็นกับสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น
ในสี่อาณาจักร จักรวรรดิเซิงได้รับการพิจารณาว่าร่ำรวยที่สุด และสามารถแข่งขันกับสามอาณาจักรอื่นๆได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้เบื้องหลังเเละความจริงว่าทำไมอาณาจักรเซิง ถึงต้องดิ้นรนมาหลายศตวรรษเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด เเละก็บุกเข้าสู่อันดับสูงและสร้างชื่อเสียงได้มากมายขนาดนี้?
แน่นอนว่า หลินเสี่ยวเฟยยังเด็กมากในเวลานั้น เธอไม่ได้วิเคราะห์หรือคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเห็น แต่หลังจากแต่งงานกับหยูเฟิงซู เธอก็เข้าใจถึงความสำคัญของถ้ำแห่งนั้น
ในถ้ำมีอัญมณีทุกชนิดอยู่ทุกหนทุกแห่ง และลึกเข้าไปในถ้ำ มันเหมือนกับสมบัติที่เต็มจนล้น ที่ถึงแม้ว่าจะขุดลงไปที่ก้นบึ้ง เเต่ขุมทรัพย์ที่อยู่ภายในนั้นก็มีไม่สิ้นสุด
ถ้ำที่เป็นเปรียบเสมือนคลังสมบัติที่ไร้ก้นบึ้งนั้น ถูกสร้างเป็นเหมือง และด้วยคำสั่งของราชวงศ์ ผู้คนถูกรวบรวม เพื่อขุดอัญมณีและวัสดุอื่นๆที่พวกเขาหาได้
และถึงแม้ว่าการขุดวัสดุเหล่านี้ จะทำได้ยากและสามารถดึงดูดความสนใจของสาธารณชนได้ แต่ก็ไม่มีใครค้นพบสิ่งที่พวกเขากำลังทำ เนื่องจากมันถูกเก็บเป็นความลับและมีเพียงไม่กี่คนที่รู้
การที่หลินเสี่ยวเฟย ได้เจอกลุ่มคนที่เดินขึ้นไปบนภูเขา และได้เเอบติดตามพวกเขาไป
แต่ถ้าหากพวกเขาพบเธอในเวลานั้น หลินเสี่ยวเฟยมั่นใจว่าหัวของเธอจะหลุดออกจากบ่าเเละตกลงบนพื้นในทันที
พวกเขา ไม่สามารถเปิดเผยถ้ำที่พวกเขาค้นพบได้ และที่สำคัญพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้อาณาจักรเพื่อนบ้าน อย่างอาณาจักรฉู่ รู้ถึงการมีอยู่ของมันและมีส่วนร่วมกับสมบัติเหล่านั้น เนื่องจากถ้ำตั้งอยู่ในภูเขา ที่มีทั้งสองอาณาจักรเป็นเจ้าของนั้นคืออาณาจักรเซิงและอาณาจักรซู
เเละนี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องการระเบิด
เธอต้องการวางระเบิดถ้ำ และทำให้ถ้ามันไร้ประโยชน์และหายไป และปล่อยให้อาณาจักรฉู่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน จากนั้นพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาถูกปล้นโดยอาณาจักรเซิงมาโดยตลอด
ด้วยแหล่งความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติเช่นนี้ หลินเสี่ยวเฟยสงสัยว่าราชวงศ์จะเป็นอย่างไร เเละหยูเฟิงจูจะทำอย่างไร เพื่อแก้ปัญหานี้?
ตอนใช้ชีวิตอยู่กับเขา หลินเสี่ยวเฟยพนันได้เลยว่าเขาปฏิบัติต่อถ้ำนี้เสมือนกับเป็นทรัพย์สินของเขา
หยูเฟิงซู ชายผู้ไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากอยู่เหนือทุกคน หลินเสี่ยวเฟย ต้องการดูว่าใบหน้าของเขาจะเป็นอย่างไร เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด พังทลายกลายเป็นฝุ่นที่ไร้ประโยชน์
หลินเสี่ยวเฟย รู้สึกถึงหยดน้ำที่หยดลงบนแก้มของเธอ และเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่สว่างไสวและรู้สึกอบอุ่นในตอนเช้า ด้วยเมฆสีเทาเข้มที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ก่อนที่ฝนกำลังจะตกลงมาอย่างเเรง
คอมเม้นต์