ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 182 ความรู้สึกที่หัวใจเต้นระรัว
ในลำแสงที่น่ากลัวแฝงไปด้วยการทำลายล้าง
ถูกมันจองจำไว้แล้ว เจียงหลีรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่สามารถขยับตัวได้!
นี่มันอะไรกัน ในใจนางรู้สึกตกใจไม่ว่าจะตัวนางเองหรือภายในความทรงจำในร่างเจ้าของเดิมล้วนไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับระเบิดวิญญาณ
แต่นี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการรับรู้ผลลัพธ์ของการถูกสิ่งนี้โจมตี
หนี!
ความคิดที่จะหลีกเลี่ยงขอบคมนั้นดังขึ้นในใจ
แต่ว่านางไม่สามารถขยับตัวได้
หรือว่าวันนี้ต้องตายที่นี่ เจียงหลีรู้สึกไม่เต็มใจ
ลำแสงที่เข้าใกล้เรื่อยๆ นางเหมือนจะเห็นรอยยิ้มดุร้ายของแม่ทัพต้าฉินที่มองมา ดูเหมือนว่าเขาสรุปไปแล้วว่านางต้องตาย
ข้าไม่อาจตายที่นี่ เจียงหลีส่งเสียงคำรามภายในใจ
นางพยายามสุดแรง ต้องการหนีจากการถูกจองจำนี้
เลี่ยเทียนซื่อ นางส่งเสียงเรียกเลี่ยเทียนซื่อในใจ
แม้ว่าขณะนี้ร่างนางกำลังสวมเสวียนกังกุยอยู่ก็ตาม ภายใต้ระเบิดวิญญาณนี้นางสูญเสียความมั่นใจที่จะรอดชีวิตไป
โฮกกก!
วิญญาณยุทธ์เลี่ยเทียนซื่อมาตามคำสั่งเรียก
มันพุ่งชนไปยังลำแสงที่มุ่งตรงมาอยากจะป้องกันพลังทำลายล้างนี้ แม้ว่าจะพุ่งชนไปได้สักหน่อยก็ยังดี
แต่ว่าระเบิดวิญญาณกลับไม่เอามันไว้ในสายตา ลอดผ่านตัวมันไปและเป้าหมายยังคงเป็นเจียงหลี
เจียงหลีลืมตากว้างขึ้นมองไปยังลำแสงที่เข้าใกล้มากขึ้น
เข้ามาใกล้แล้ว ในที่สุดนางก็เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในลำแสงนั่น มันคือลูกไฟที่เปล่งออกมาจากความผันผวนของพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง พื้นผิวโลหะของมันปกคลุมไปด้วยลวดลายสีเข้มลึกลับ
ในการกลิ้งที่รวดเร็วทำให้พลังวิญญาณอยู่ในขั้นของการปะทะที่แข็งแกร่ง
เมื่อโดนชนเข้าก็จะเกิดการระเบิดที่รุนแรงขึ้น
“ข้ายังตายไม่ได้ ข้ายังตายไม่ได้”
เจตจำนงที่แข็งแกร่งกระตุ้นการอ่านจิตที่มีไม่มากนักของเจียงหลี
กรอบ!
มือของนางเหมือนจะขยับได้แล้ว
แต่ว่าตอนนี้ระเบิดวิญญาณได้มาถึงตรงหน้านางแล้ว ใบหน้าของนางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ถูกพลังวิญญาณบาด
“ฮ่าๆๆ ตายซะ ระเบิดวิญญาณหนึ่งลูกเปรียบได้เหมือนพลังระเบิดตัวเองของหลิงเจี้ยงระดับสูง ระเบิดวิญญาณหนึ่งลูกสำหรับประเทศชาติแล้วเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ประดิษฐ์ยาก วัสดุก็หายาก ครั้งนี้ ฮ่องเต้ของข้าให้นำมาแค่สามลูก หนึ่งในนั้นใช้กับเจ้า เจ้าควรรู้สึกโชคดี” คำพูดของแม่ทัพส่งผ่านลมมายังหูของเจียงหลี
ระเบิดวิญญาณ!
สิ่งนี้เรียกว่าระเบิดวิญญาณ!
เจียงหลีดวงตากลมโต นางยกแขนที่ขยับไม่ได้ขึ้นเพื่อป้องกันระเบิดวิญญาณ
การกระทำของนางนี้ ทำให้แม่ทัพต้าฉินตกใจจนยืนบนหลังม้า “เป็นไปได้อย่างไร ถูกระเบิดวิญญาณจองจำไว้แล้วทำไมนางยังขยับได้อีก!”
แต่แล้วเขาก็นั่งลงด้วยความผ่อนคลาย เขาหัวเราะในใจ “ถึงจะขยับได้แล้วอย่างไร คิดว่าแค่ใช้สองมือก็สามารถหยุดแรงระเบิดของระเบิดวิญญาณได้แล้วหรือ”
แม่ทัพต้าฉินเฝ้ารอช่วงเวลาที่เจียงหลีจะถูกระเบิดกลายเป็นดอกไม้ไฟยามค่ำคืน
บนพื้นดินทหารต้าฉินค่อยๆ ถอยห่าง เพราะกลัวว่าจะได้รับลูกหลงจากระเบิดวิญญาณ
ความเป็นความตายทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทุกชั่วขณะ
ในขณะนั้น เจียงหลีรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง รู้สึกถึงภาพที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในสมองเหมือนโคมไฟหมุนติ้ว
สุดท้ายภาพไปหยุดที่ชุดสีแดงที่พร่างพราวราวกับดวงอาทิตย์ ยังมี…
ใบหน้าที่สวยงามสะท้อนในแววตาเจียงหลี เข้ามาแทนที่ความน่ากลัวของลำแสงในแววตานาง
ลู่เจี้ย…
ภายในใจนางเอ่ยเรียกชื่อนี้เบาๆ โดยไม่รู้ตัว
ดูเหมือนว่าจะถูกสลักเข้าไปในหัวใจของนางโดยไม่รู้ตัว
เจียงหลีกอดอกกันร่างกายของตัวเองเพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่นางสามารถทำได้
เปลวไฟของระเบิดวิญญาณพุ่งตรงมาที่นางมันทำลายเกราะแขนของนาง เสวียนกังกุยถูกนางเรียกใช้เพียงขั้นต้นเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านระเบิดใหญ่วิญญาณที่มีอนุภาพสูงราวกับการระเบิดตนเองของหลิงเจี้ยงระดับสูงได้
แขนเสื้อนางถูกเผาไหม้เปลวไฟเผาไหม้ผิวหนังอันบอบบางของนางความเจ็บปวดจากการเผาไหม้เริ่มแผ่ขยายไปที่มือของนาง
ลู่เจี้ย ข้าจะตายแล้ว
ในความเป็นความตายนางกลับสงบผิดปกตินี่เป็นคำพูดที่เป็นธรรมชาติราวกับเป็นการอำลาโลกนี้
“หลีเอ๋อร์!”
ขณะที่ใกล้จะหมดสติดูเหมือนว่านางจะได้ยินเสียงที่ร้อนรนของลู่เจี้ย
ความกลัวที่ปรากฏในเสียงนั้น เป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสได้จากตัวลู่เจี้ย
ตู้มม!
พลังที่ไร้รูปทรงกลายเป็นมือยักษ์มากั้นระหว่างเจียงหลีกับระเบิดวิญญาณ มือยักษ์ไร้รูปทรงนั้นเพียงแค่ดันออกไปด้านนอกช้าๆ ก็ทำให้ระเบิดวิญญาณที่จองจำเจียงหลีหลุดไปอย่างง่ายดายและพุ่งไปยังทิศทางที่แม่ทัพต้าฉินอยู่
อ้ากๆๆ!
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันกลางอากาศทำให้แม่ทัพต้าฉินร้องลั่นด้วยความตกใจ
เขาขี่ม้าหนีแต่ก็หนีการโจมตีของระเบิดวิญญาณไม่พ้น
ทหารต้าฉินที่อยู่ข้างเขาก็กระจัดกระจายหนีไปรอบๆ ในทันใด
ตู้ม!
ระเบิดวิญญาณตกลงมาส่งเสียงดังขึ้นเปลวไฟร้อนกระจายไปรอบๆ ดั่งคลื่น
ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดขวางพลังของระเบิดวิญญาณ
เสียงระเบิดราวกับอยู่ในหูแต่ว่าเจียงหลีกลับไม่มีปฏิกิริยา นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ร่างยาวที่ลงมาจากท้องฟ้า ภายใต้ใบหน้าที่มีเสน่ห์สีหน้าที่เป็นกังวลริมฝีปากขมุบขมิบที่ดูเหมือนจะสื่อถึงคำพูดบางอย่าง ทำให้ใจนางสงบลง มีเสียง ตึง เกิดขึ้นกะทันหันและสั่นไหวอย่างรุนแรง
ในขณะนั้นไม่มีเสียงใดในโลกอีก
นางมองไม่เห็นภาพกองทัพฉินได้รับผลกระทบจากปืนใหญ่ ไม่ได้ยินเสียงร่ำไห้จากรอบทิศ ในสายตานาง มีเพียงร่างไร้ตัวตนที่วิ่งเข้ามากำบังนางเท่านั้น หูของนาง มีเพียงเสียงเรียก “หลีเอ๋อร์” ครั้งแล้วครั้งเล่าเท่านั้น
“หลีเอ๋อร์ ข้ามาช้าไปแล้ว ข้าขอโทษ หลีเอ๋อร์เด็กโง่ของข้า หญิงโง่ของข้า!” การเข้าใกล้ของลู่เจี้ย นำมาซึ่งลมที่หนาวเย็นที่พัดเสื้อคลุมของเขาขึ้น
เห็นเด็กสาวที่แขนเปื้อนเลือดดูสับสน เขาโอบนางไว้ในอ้อมแขนไม่ให้นางเห็นความทุกข์ในสายตาของเขา
เจียงหลีรู้สึกงุนงงเล็กน้อยที่ได้รับการปกป้องจากลู่เจี้ย นางตกใจในความรู้สึกใจเต้นของนาง แขนของนางโอบเอวเขากลับอย่างธรรมชาติ ซึมซับกลิ่นไอในอ้อมอกของชายหนุ่ม
เมื่อถูกเด็กสาวกอดแน่นดูเหมือนว่าลู่เจี้ยจะรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังและความกลัวของนางก่อนหน้านี้ ภายใต้แววตาที่เย็นชา เขากอดเจียงหลีไว้ที่อ้อมอกแนบแน่นและดูแลอย่างทะนุถนอม ในริมฝีปากที่ใสไร้สีนั้น กลับมีเสียงที่ฟังดูเหมือนมาจากผีนรกทั้งเก้า “ผู้ที่ทำร้ายหลีเอ๋อร์ของข้า มันต้องตาย!”
ตาย ตาย ตาย ตายยยยยย!
เสียงที่ลากยาวแปรเปลี่ยนเป็นเสียงฟ้าร้องยามค่ำคืนห่อหุ้มทหารต้าฉินที่เหลืออยู่บนพื้นดิน
พลังที่ไร้รูปร่างออกมาจากร่างของลู่เจี้ยแปรเปลี่ยนเป็นใบมีดจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปฆ่าผู้ที่เหลือรอด
แม่ทัพต้าฉินถูกระเบิดวิญญาณกลืนกินไปแล้ว และทหารนับแสนนายที่มากับเขาได้รับการชดใช้ที่เจ็บปวดที่สุดจากการออกคำสั่งผิดพลาดของเขา
เสียงที่สิ้นหวังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพวกเขาหนีไม่พ้นและไม่อาจหนีรอดได้!
เสียงเหล่านี้เมื่อมาบรรจบกันฟังดูเหมือนเพลงบีบวิญญาณทำให้ผู้ที่ได้ยินหวาดผวา
เจียงหลีถูกลู่เจี้ยกอดไว้ในอ้อมอกไม่รู้สึกกลัวสิ่งใดแต่กลับรู้สึกอุ่นใจ แต่ว่านางไม่รู้ในมุมที่นางมองไม่เห็นในช่องว่างของริมฝีปากที่เม้มแน่นของลู่เจี้ยนั้นมีเลือดค่อยๆ ไหลออกมา
คอมเม้นต์