มังกรซ่อนเล็บเนี่ยฟง – บทที่ 72
เปรี้ยง ตูม ในขณะที่ทั้งสองกำลังจดจ่ออยู่กับจระเข้คลั่งตัวใหญ่ด้านหน้า เสียงระเบิดจากด้านข้างแว่วเข้ามา เนี่ยฟงมองหาหลันเซ่อก็พบว่าหายไป จึงรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างแปลกประหลาด ชั่วขณะที่กำลังครุ่นคิดบางอย่าง ลูกตุ้มหนามก็ถูกฟาดลงมา เปรี้ยง เกราะสายฟ้ายังคงต้านรับได้เป็นอย่างดี หยางเวยเรียกอสรพิษดำออกมา อสรพิษดำเลื้อยเข้ามารัดจระเข้คลั่งเอาไว้ หยางเวยพุ่งทะยานมาบริเวณรอยแผลข้างลำตัว โคจรลมปราณไปที่มีดอย่างสุดกำลังจ้วงแทงมีดออกไป มีดเสียบเข้าไปในแผลพร้อมกับปราณสีม่วงที่เต็มไปด้วยพิษร้าย จระเข้คลั่งดิ้นไปมาเพราะความเจ็บปวด
เนี่ยฟงรอจังหวะโคจรลมปราณไปที่มือขวาพุ่งทะยานออกไปทางด้านศีรษะของจระเข้คลั่ง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็กก่อตัวอย่างรวดเร็วที่ด้านหน้าของหมัดขวา เนี่ยฟงใส่พลังไปถึงหกส่วน เปรี้ยง เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกับของเหลวสีเหลือง มันนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น หยางเวยรีบเรียกสัตว์อสูรกลับ อสรพิษดำหายกลายเป็นแสง จระเข้คลั่งลืมตาขึ้นอีกครั้ง มันพุ่งเข้าหาหมายกัดหยางเวยอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เกราะสายฟ้าพุ่งเข้าสกัดไว้เสียก่อน ตูม เกิดเสียงระเบิดดังจากด้านข้างอีกครั้งต้นไม้หักโค่น เนี่ยฟงจ้องมองสังเกตดูพบว่าเป็นหลันเซ่อนอนแน่นิ่งอยู่ใต้โค่นไม้
“ หยางเวยเจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ข้าจัดการเอง เจ้าไปดูหลันเซ่อหน่อยว่าอาการเป็นอย่างไร ”
หยางเวยหันไปมองตามมือของเนี่ยฟงที่ชี้ไปยังหลันเช่อ พบว่าหลันเช่อนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น สภาพมีแต่บาดแผลเต็มร่างกาย ทันทีที่หยางเวยพุ่งออกไปเนี่ยฟงก็เรียกมีดสั้นออกมาอีกครั้ง รีบโคจรลมปราณไปที่มีดไม่นานก็กลายเป็นดาบ
“ เจ้าหนูเจ้าไหวหรือไม่ ”
“ ยังพอสู้ได้ขอรับท่านลุ่ยกง ข้าจะใช้เพลงดาบผ่าธรณี ”
“ เจ้าระวังตัวด้วย ”
เนี่ยฟงรีบโคจรลมปราณไปที่ดาบ จระเข้คลั่งพุ่งเข้ามาอีกครั้งมันเอียงคอหมายกัดศัตรูด้านหน้า เนี่ยฟงพุ่งทะยานออกไปพร้อมกับเหยียบไปที่เกราะสายฟ้า กระโดดขึ้นพร้อมกับฟันดาบออกไป ปราณดาบสีฟ้าที่มีประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาจระเข้คลั่ง เปรี้ยง ปราณดาบผ่าไปที่ปากของจระเข้คลั่ง เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด พื้นดินเป็นรอยฟันของปราณดาบขนาดใหญ่ หลังจากจัดการเสร็จสิ้นเนี่ยฟงก็จัดการผ่าแก่นพลังปราณเก็บไว้ในแหวน ในจังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนดังมาจากหยางเวย
“ เนี่ยฟง เราเจอปัญหาใหญ่แล้ว ”
ทันทีที่หันไปมองหยางเวยก็พบเห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีดำปกปิดใบหน้าด้วยผ้าสีดำ ถือดาบจ้องมองกลับมาด้วยสายตาอำมหิต ไม่นานชายผู้นั้นก็แสยะยิ้ม เอ่ยบางอย่างออกมา
“ ไม่คิดว่าหมูที่ให้สังหารจะเก่งกาจจนสังหารสัตว์อสูรระดับสีส้มขั้นกลางได้ ดีข้าจะเล่นกับเจ้าก็แล้วกัน ”
เนี่ยฟงยืนนิ่งโคจรลมปราณไปที่ดาบ
“ ไอ้หนูเจ้าพบเจอปัญหาใหญ่ดั่งที่เพื่อนเจ้ากล่าวเสียแล้ว มันผู้นั้นอยู่ในระดับสีส้มขั้นสูง อีกไม่กี่ก้าวก็จะตัดผ่านระดับสีแดง เจ้าจะทำอย่างไร ”
“ มันคงตั้งใจมาสังหารข้าเป็นแน่ ”
เนี่ยฟงหันไปมองหยางเวย
“ หยางเวยฝากดูแลหลันเซ่อที หากมีโอกาสเราคงได้พบกัน ”
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานออกไปอีกทาง ชายฉกรรจ์ผู้นั้นรีบพุ่งติดตามเนี่ยฟงออกไปอย่างรวดเร็ว หยางเวยรีบเข้าไปอุ้มหลันเช่อพุ่งทะยานหลบหนีออกไป ปราณดาบสีขาวพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงจากด้านหลัง ตูม ตูม ตูม ตูม ปราณดาบสีขาวพุ่งปะทะกับพื้นดินและต้นไม้ข้างทางเสียงดังสนั่น เนี่ยฟงโคจรพลังปราณไปที่เท้าทั้งสองข้าง ใช้ออกด้วยท่าเท้าเหยียบนภา วิ่งหลบหลีกปราณดาบที่พุ่งติดตามมาจากด้านหลัง ในระหว่างทางก็ฟาดฟันดาบออกไปด้านหลัง ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าหาชายฉกรรจ์ที่พุ่งติดตามมา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบสีฟ้าถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
“ เจ้าหนูเจ้าจะทำสิ่งใด ให้หลิงฉีหรือข้าออกไปช่วยหรือไม่ ”
“ ไม่ต้องขอรับ ข้าคิดแผนการบางอย่างออกแล้ว ”
ตลอดทางที่พุ่งหลบหนี เนี่ยฟงค่อยๆสังเกตข้างทางตลอดเวลา หลังจากนั้นก็แอบสะบัดมือขวา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมา พร้อมกับพุ่งหายตามพื้นดิน เนี่ยฟงวิ่งวนอ้อมไปมาเป็นวงกลม เกือบหนึ่งชั่วยามเนี่ยฟงก็หยุดนิ่งพร้อมกับทำท่าเหนื่อยหอบออกมา
“ เป็นอย่างไรละไอ้หนู เจ้าไม่คิดจะหลบหนีแล้วรึ ”
เนี่ยฟงไม่กล่าวตอบอันใดยังคงทำท่าเหนื่อยหอบเช่นเดิม
“ เหอะ ในเมื่อเจ้าไม่กล่าวสิ่งใด เช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าก่อนก็แล้วกัน เจ้าไม่ต้องห่วงข้าจะลงมือสังหารเพื่อนของเจ้าติดตามเจ้าไป ”
เนี่ยฟงจ้องมองชายฉกรรจ์ด้านหน้าด้วยสายตาอ้อนวอน
“ ข้าขอถามท่านบางอย่างได้หรือไม่ เหตุใดท่านถึงคิดสังหารข้า ”
ชายผู้นั้นยกยิ้มเดินเข้าหาเนี่ยฟงอย่างช้าๆ
“ ได้ข้าจะบอกกล่าวต่อเจ้า เป็นเพราะพวกเจ้าทั้งสองทำให้คนผู้หนึ่งได้รับความอับอาย ”
“ ใครหรือขอรับ คนผู้หนึ่งที่ได้รับความอับอายที่ว่า ”
“ เจ้าสำนักกิเลนไฟฉีหวังลู่ เจ้าคงพอรับรู้ได้นะว่าคนผู้นี้เป็นใคร แล้วเหตุใดเจ้าถึงถูกข้าตามล่า อีกอย่างค่าหัวของพวกเจ้าทั้งสอง เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่คิดว่าเด็กเช่นเจ้ามามีค่าหัวมากถึงเพียงนี้ ”
เนี่ยฟงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ ได้โปรดพี่ชาย ได้โปรดอย่างสังหารข้าเลย ”
“ เหอะ ความอวดดีของเจ้าเมื่อครู่หายไปไหนแล้ว ”
เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ชายฉกรรจ์ผู้นั้นส่ายศีรษะไปมา
“ น่าเสียดายฝีมือแล้วความสามารถของเจ้า เก่งกาจจนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสีส้มขั้นกลางได้ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงในป่าแห่งนี้ เอาเถอะข้าจะสังหารเจ้าให้ตกตายอย่างรวดเร็วก็แล้วกัน ”
“ ได้โปรดพี่ชาย ท่านต้องการสิ่งใดข้าจะหามาให้ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักจางหลิง ”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นถึงกับตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ เหอะ เห็นทีจะไม่ได้เสียแล้ว ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของเจ้าเฒ่านั้น เมื่อครั้งอดีตมันทำกับข้าไว้มาก เช่นนั้นก็ดี ข้าจะสังหารเจ้าแล้วส่งศีรษะเจ้าไปให้เจ้าเฒ่านั่นดู อยากรู้นักเมื่อเจ้าเฒ่าจางหลิงเห็นศีรษะเจ้าแล้วจะทำหน้าอย่างไร ”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นค่อยๆเดินเข้าหาเด็กหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายที่คุกเข่าร้องของชีวิต ไม่ถึงสามลมหายใจชายฉกรรจ์ก็เดินมาอยู่ที่ด้านหน้าของเด็กหนุ่ม ง้างฝ่ามือขวาขึ้นหมายจะซัดออกไปที่ศีรษะ แต่ทว่าเกิดบางอย่างขึ้น วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าเริ่มก่อตัวที่ใต้เท้าของชายฉกรรจ์ ไม่ถึงสองลมหายใจมันก็ล้อมตัวชายฉกรรจ์ไว้ ชั่วน้ำเดือดมันก็กลายเป็นแสงพุ่งเข้าประทับที่จุดตันเถียนของชายฉกรรจ์ ในระหว่างนั้นเนี่ยฟงก็ลุกขึ้นมาถือมีดสั้นไว้ในมือ ชายฉกรรจ์รับรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงคิดรวบรวมลมปราณ
แต่ทว่าต้องตกใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พลังปราณหดหายจากระดับสีส้มขั้นสูง หลงเหลือเพียงสีน้ำตาลขั้นสูง เมื่อตรวจสอบไปที่จุดตันเถียนพบว่ามีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าประทับอยู่ด้านใน
“ บัดซบเจ้าทำสิ่งใดกับข้ากัน ”
คอมเม้นต์