เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 1 – ย้ายร่าง

อ่านนิยายจีนเรื่อง Leveling Up and Becoming Undefeatable เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย ตอนที่ 1 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 1 – ย้ายร่าง

ทวีปเทียนหยวน ที่ซึ่งเหล่านักรับที่มีทัักษะการต่อสู้ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุด

พูดอีกอย่าง ความแข็งแกร่งและทักษะการต่อสู้คือสิ่งสำคัญที่สุด.

ผู้บ่มเพาะที่มีระดับเท่ากันที่มีทักษะการต่อสู้ที่ห่างชั้นกันสามารถกำหนดผลการต่อสู้ได้.

นี้เป็นเหตุผลที่ว่า ทักษะการต่อสู้ดีๆอาจทำให้ตระกูลหรือแม้กระทั่งกำหนดอนาคของนิกายได้.

——————-

เมืองภูเขาหยก คอกม้าตระกูลลั่ว.

“พะ พู่ กลิ่นนี้คืออะไร ทำไมกลิ่นเหม็นแบบนี้?”

เด็กชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดๆเต็มไปด้วยคำบ่น.

ลั่วเทียนลืมตาขณะที่สิ่งที่ม้ารอบๆได้ทักทายเขา ด้านบนต้นขาของเขาเป็นกองมูลของสัตว์ของม้าที่ไม่เหมือนกับวันพรุ่งนี้ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความแปลกใจและนิ่งอึ้ง, “ม้า? เชี่ย?!”

“เชี่ยไรเนี่ย?! กรูอยู่ไหน?”

จิตใจของลั่วเทียนข้างเติ่ง ปากของเขาขด ตาของเขาเบิกกว้างและไม่รู้สึกตัวเป็นเวลานาน.

“เกิดไรขึ้น?”

“ย้ายร่าง?!”

“กรูแค่ดาวน์โหลดนิยายละเมิดลิขสิทธิ์มาหลายร้อนเรื่อง ดังนั้นมันกรูเลยต้องถูกลงโทษอย่างนี้?”

รอบๆเมืองที่คุ้นเคย แต่ไม่คุ้นกับลั่วเทียนเท่าไรนัก.

เขามองไปที่เสื้อผ้าที่เขาใส่และใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่ผมที่ยาวจนถึงเอว ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกายเดิมของเขา ดังนั้นนี่เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเขาได้ย้ายร่าง!

ที่โลก ลั่วเทียนเป็นแค่โอตาคุ ธรรมดาๆ.

เขาเป็นคนที่ธรรมดามากๆ และทำในสิ่งที่โอตาคุทั่งหลายทำไม่ว่าจะเป็น วิดิโอเกมส์,อนิเมะ,นิยาย หรือแม้แระทั่ง อึ๊บ ตุ๊กตายาง…

ก่อนหน้านี้…

ลั่วเทียนกำลังเล่นเกมส์ขณะโหลดนิยายในเวลาเดียวกัน.

เมื่อได้ยินเสียง “ตึง ตึง” รอยยิ้มของเขาก็โผล่มาจากใบหน้าพร้อมกับพึมพำ: “โหลดนิยายเสร็จสักที ตอนนี้เราจะได้มีอะไรอ่านไปอีกหลายวัน.”

จากนั้นเขาก็เปิดไฟล์E-Bookของเขาและมองเข้าไป.

ข้างในมีนิยายออนไลน์ที่ฮิตที่สุด เช่น การผันแปรของดวงดาง,เดินผ่านสวรรค์,ฉู่เซียน,ศึกรบทะลุสวรรค์, ลูกพลัมในแจกันทอง…

มีหลายร้อยเรื่องและแต่ละเรื่องก็เป็นที่นิยมมาก.

ลั่วเทียนมีจุดอ่อนที่พิเศษของเขาอย่างมาก แม้ว่าหลังจากจะอ่านไปแล้วแต่เขาก็ไม่ลบออก ด้วยคำพูดที่ว่า ;ในคืนที่เหงาและน่าเบื่อ เราอาจจะได้กลับมาอ่านอีกครั้งเพื่อความสนุก.

หลังจากที่ดาวน์โหลดนิยายใหม่เสร็จแล้ว ลั่วเทียนก็ดึงสายUSBออก.

ขณะที่มือของเขาแตะสายUSB…

หน้าจอคอมพิเตอร์ก็สลับไประหว่างเกมส์และนิยาย หน้าจอกระพริบวูบวาบราวกับว่ามันจะตาย.

หน้าจอคอมพิวเตอร์กระพริบและCPUก็ดังอย่างบ้าคลั่ง.

หลังจากนั้น…

เหมือนกับมีมีดมาตัดสายไฟ ทำให้ไฟฟ้าเกิดการประทุกับไฟฟ้าที่ลัดวงจร.

มีควันออกจากCPUและจอภาพ ที่ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นคือมีควันออกจากหัวของลั่วเทียนด้วย ในเวลานั้นCPUและมอนิเตอร์ก็มาปรากฏอยู่ในดวงตาและตาของเขาก็เหลือกขึ้นจากนั้นเขาก็หลับไปอย่างไร้สติ.

เขาไม่อาจหาอะไรได้อีกหลังจากนั้น.

เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาก็มาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย.

ตอนนี้ลั่วเทียนหดหู่อย่างมาก.

เขารู้สึกหดหู่ใจว่ามันเหมือนกับคนที่อยู่บนเกาะร้างซึ่งไม่รู้ว่าจะรอดไปถึงพรุ่งนี้ได้หรือไม่. “แม้ว่ามันจะเจ็บปวดแต่พี่ก็เป็นโอตาคุ และมือของฉันที่มักจะล็อคในเวลากลางคืน แต่การพากรูมานี่มันไม่เหมือนกับการใช้ชีวิตของกรู!! ถูกมั๊ย?”

“ให้มันน้อยๆหน่อยดิวะ สถานการณ์อย่างนี้?”ลั่วเทียนได้แต่สาปแช่ง.

แม้ว่าในความฝัน เขาก็ไม่อยากไปต่างโลก.

เขาชอบอ่านนิยายออนไลน์ โดยเฉพาะ ตัวหลักที่สิงร่างคนอื่นและเดินหน้าไปเหยียบและทุบตีจนเป็นเละขี้ นอกจากนี้เขายังสนุกไปกับตัวหลักที่ช่วยกันเพิ่มความแข็งแกร่งของเพือยดั่งพี่น้อง นอกจากนี้เขายังชอบที่ตัวหลักออกไปผจญภัยพร้อมกับสาวงามที่หาเปรียบไม่ได้…แต่สิ่งพวกนี้เป็นอะไรที่เขาแค่ชอบอ่าน.

ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนอยู่แต่ในจินตนาการของเขาเท่านั้นและไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตจริง.

ย้ายร่างเป็นเพียงประเภทของนิยายบางเล่มเท่านั้นและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น.

ถ้ามีใครสามารถอาสาสมัครเพื่อทำการย้ายร่างได้ เขาจะเป็นคนแรก เพราะนี่คือวิธีการเดียวที่เขาจะสามารถเปลี่ยนชีิวิตปัจจุบันของเขาได้.

ตอนนี้เข้าได้ย้ายร่างมาจริงๆ แต่มันก็ยังทำให้เขาไม่มีความสุข.

ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจาก…

ประสบการณ์เจ้าของร่างนี้ เบื้องหลัง,ครอบครัว,และความจริงที่เขาเป็นคนพิการและไม่อาจบ้มเพาะได้.

พื้นๆเขาอาจจะน่าประทับใจ เป็นลูกชายคนเดียวของผู้นำตระกูลคนก่อนหน้านี้ ประเด็นคือ “ก่อนหน้า!”

พ่อของเขาตายจากการต่อสู้และแม่ของเขาก็ตรอมใจตาย.

เมื่อพ่อแม่ของเขาตายลงเขาก็เหมือนกับดิ่งลงจากสวรรค์ เดิมเขาเป็นนายน้อยของตระกูลลั่วและกลายมาเป็นคนรับใช้ที่กวาดคอกม้า สถานะของเขาต่ำกว่าคนรับใช้.

สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีกคือการที่เขาได้รับบาดเจ็บและไม่อาจบ่มเพาะได้.

เดิมทีเขามีพรสวรรค์และมีศักยภาพที่ไม่รู้จบและได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเมืองภูเขาหยก แต่แล้วเมื่อ 3 ปีก่อนเขาได้รับบาดเจ็บจากคนลึกลับและได้ใช้ยาสลายการบ่มเพาะ เรื่องนี้ได้ทำให้เขากลายเป็นพิการและไม่อาจบ่มเพาะได้.

ในโลกที่คนนับถือความแข็งแกร่ง คนที่ไม่อาจบ่มเพาะก็เท่ากับนักโทษประหาร เขาไม่สามารถโงหัวขึ้นได้ตลอดชีวิตของเขา

ช่วงเวลาที่เขากลายเป็นขยะเขาก็ถูกรังแกทุกวัน คนในตระกูลเดียวกันจะมาทุบตีและเยาะเย้ยเขาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสาวกของตระกูลอื่นๆที่จะดูถูกและหัวเราะหลังจากที่เขาเดิมมาที่ถนนหลัก.

ตอนนั้นเหล่าสาวกไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเมื่อเขาก้าวออกไปในที่สาธารณะ บางทีอาจจะเพราะต้องการแวดต่อหน้าหญิงสาว.

ตระกูลลั่วไม่เคยใส่ใจในการดูแลเขา พวกเขาก็มาย้ำซ้ำๆว่าเขาไม่ควรจะออกไปข้างนอกให้อับอายขายหน้าของตระกูลลั่วอีก.

ทำไมอาวุโสของตระกูลถึงไม่สนใจเกี่ยวกับเขา? พวกเขากังวลอย่างมากเพื่อรอให้ลั่วเทียนตายเร็วๆ อย่างแรกควรจะทราบว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลลั่ว ดังนั้นเมื่อเขามีอายุพอตามที่กำหนดเขาจะขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลลั่วได้.

เมื่อลั่วเซิน(พ่อของเขา)ยังมีชีวิตอยู่นี่เป็นสิ่งที่เขาสร้างไว้ที่ด้านหน้าของโถงบรรพบุรุษ นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าใครต้องการก็ตาม ใครก็ตามที่คิดจะเปลีี่ยนก็ต้องพร้อมทนแรงสาปแช่งของบรรพบุรุษนับหมื่น.

ด้วยเหตุนี้ความเสียใจของเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่ง.

เขาต้องทุกข์ทรมาณ์ในแต่ละวันโดยไม่มีเหตุผล ลั่วเทียนยอมรับทุกอย่างเหมือนกับแมลงสาบเพื่อการอยู่รอด.

จนถึงเมื่อวาน…

ลั่วหยู่นำหญิงสาวมาที่คอกม้า.

เด็กสาวคนนั้นชื่อซูเม่ยเธอเป็นลูกสาวของอาวุโสสามที่ตระกูลซู ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่หนึ่งในสี่ของเมืองภูเขาหยก เธอเคยเป็นคู่หมั้นของลั่วเทียน แต่…

วันนั้นลั่วเทียนถูกทำร้ายจากคนของตระกูลซูที่เข้ามาถึงคอกม้าของเขา มันเหมือนกับว่าถูกวางแผนไว้แล้ว.

ที่แปลกยิ่งกว่านั้นเรื่องเหล่านี้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ลั่วจินซานผู้นำตระกลูลั่วคนปัจจุบันไม่ได้ติดตามเรื่องนี้และเห็นด้วยในตรงนั้น.

ลั่วเทียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อหนึ่งเดือนก่อนที่ตระกูลลั่วได้ประกาศต่อสาธารณะเกี่ยวกับลั่วหยู่และซูเม่ย.

วันนั้นเขายิ้มอย่างขมขื่น.

ลั่วหยู่กำลังเลือกม้ากับซูเม่ยเพื่อออกไปเทียวเล่น.

เดิมเพียงให้คนรับใช้มาเอาไปก็พอ แต่วันนั้นลั่วหยู่ได้แสดงความเหนือชั้นกว่าโดยการพาซุเม่ยที่แต่งกายมาอย่างสวยงามและซูเม่ยก็ประหลาดใจกับความตั้งใจของลั่วหยู่ ทั้งสองเริ่มแสดงความสนิทสนมกันต่อหน้าลั่วเทียนและแม้กระทั่งดูหมิ่นลั่วเทียนด้วยวิธีต่างๆ.

ลั่วเทียนหันมามองและแสร้งว่าไม่มีอะไร.

แต่เพราะเหตุนี้ลั่วหยู่จึงเต็มไปด้วยความโกรธ เขาพูดว่าลั่วเทียนไม่รู้วิธีขี่ม้า.

ทันใดนั้น…

ลั่วหยู่ก็เร่งพลังและโจมตีไปที่ลั่วเทียนจนฟุบด้วยหมัดเดียว.

ใครบางคนอาจจะชอบที่จะเห็นลั่วเทียนต่อสู้อย่างไม่ประมาณตนของปราณพื้นฐานระดับอย่างลั่วหยู่? ลั่วเทียนหมดสติจากการโจมตีเพียงหมัดเดียว แต่ลั่วหยู่ยังระบายไม่เพียงพอ.

เขายังคงเร่งพลังระดับ 5 และเตะไปที่อกของลั่วเทียนอีกครั้ง เขามั่นใจว่าลั่วเทียนจะไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ช่วงเวลานั้นซูเม่ยก็ปรบมือและพูด”เตะได้ดีๆ!”เธอยังคงเยินยอพี่ชายที่แสนดีของเธอลั่วหยู่ มองไปที่พลังของลั่วหยู่ที่เอาชนะขยะลั่วเทียนให้กลายเป็นเศษขยะได้,ตาย ฯลฯ ในขณะที่พูดคำพูดเหล่านั้น เธอก็เข้าไปเตะลั่วเทียนด้วยตัวเองอีกสองสามครั้ง.

ต่อจากนั้นฉากโศกนาฎกรรมของเจ้าของร่างก่อนหน้านี้นายน้อยของตระกูลลั่วได้ตายลง.

และโอตาคุลั่วเทียนก็ได้มาถึง.

“ชีวิตที่น่าเศร้าของนายได้สิ้นสุดลงแล้วคราวนี้ถึงทีของฉันบ้าง”ลั่วเทียนมองไปที่คอกม้าด้วยสายตาหดหู่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไร้อำนาจและเขาก็ตามกับตัวเองว่า “ทำไงดี? ฉันจะทำไงดีต่อจากนี้? สวรรค์ชั้นฟ้าทั้งหลายคุณสามารถช่วยฉันได้ไหม?โอตาคุจะอยู่รอดในโลกได้จากสุนัขที่คอยกินโลก?”

ลั่วเทียนคิดอยู่ครึ่งวัน แต่ก็ยังไม่อาจหาทางที่ลัดที่หลากหลายได้ เขาเป็นโอตาคุธรรมดา เขาไม่รู้เกี่ยวกับการหาเงิน.
เขาเล่นเพียงเกมส์ออนไลน์ได้ดีเท่านั้น.

ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาเพิ่มเลเวลได้อย่างรวดเร็วและขายไอเทมเกมส์ออนไลน์เพื่อเงิน เมื่อมันเกี่ยวกับการฆ่ามอนเตอร์ เพิ่มเลเวล ทำเควสและทำไร่ เขาถือว่าเป็นอัจฉริยะ แม้แต่นักกีฬามืออาชีพยังไม่อาจแข่งกับเขาได้.

แต่…

โลกนี้ไม่รู้จะหาคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงเกมส์ออนไลน์.

“โฮ่ แกตื่นแล้ว?”

ทันใดนั้น…

ได้ยินเสียงจากด้านนอกคอกม้า.

เขาเป็นผู้ดูแลคอกม้าที่ชื่อหม่าทง ใบหน้าของเขาประหลาดใจเมื่อเห็นลั่วเทียนตื่นขึ้นมาพึมพำ: “เขายังมีชีวิตอยู่หลังจากถูกทำร้ายจนถึงชีวิต ชีวิตของขยะมีเยอะอย่างมาก!”

เขาอยู่ในเหตุการณ์ที่ลั่วเทียนถูกทำร้าย เขาเฝ้ามองลั่วหยู่ต่อยออกไปโดยเจตนาฆ่า แต่เขาก็ไม่คิดว่าลั่วเทียนจะยังรอดอยู่.

หลังจากที่หายจากอาหารอึ้ง หม่าทงก็ยิ้มน้อยอย่างรวดเร็วและเดินเข้าไปในคอกม้าและเตะต้นขาของลั่วเทียนจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา: “ถ้าแกตื่นแล้วก็หยุดแกล้งตายต่อบิดาคนนี้ แกตื่นและยังคงนอนอยู่ที่นี่และไม่ได้ทำงาน เชื่อไหมว่าบิดาคนนี้จะทุบเจ้าจนถึงแก่ความตายด้วยชีวิตขยะๆอย่างเจ้า.”

หลังจากถูกเตะและถูกพ่นคำพูดเหล่านั้น ลั่วเทียนยังถูกถ่มน้ำลายใส่.

กลับมา ผู้ดูแลคอกม้าเล็กๆอย่างหม่าทงไม่มีคุณสมบัติที่จะมาหาเขา ตอนนี้เมื่อหม่าทงเห็นลั่วเทียนบาดเจ็บเขาก็ได้เข้ามาและขู่ว่าจะทำร้ายเขาให้ตาย ทำให้ลั่วเทียนตระหนักได้ดีว่า สถานะปัจจุบันของเขาตอนนี้ในตระกูลลั่วอยู่ในจุดต่ำสุดของที่สุด.

ตาของลั่วเทียนหดลงจากความโกรธที่พุ่งเข้ามาในหัวใจเขา แต่ในเวลาสั้นๆเขาก็สงบลง จากนั้นเขาก็หัวเราะและยิ้มออกมา “ข้าจะลุกและไปทำงานทันที”

คนฉลาดไม่สู้เมื่อมีคนมาขัดแย้งเขา.

หม่าทงมีการบ่มเพาะอยู่ที่ปราณพื้นฐานระดับ 3 ทำให้เขามีกำลังมากกว่าเขา.

แม้ว่าเขาจะไม่กล้าฆ่าลัวเทียนแต่เขาก็จะไม่เมตตาขณะที่ใช้กำลังเตะสักสองสามที ตอนนี้เขาบาดเจ็บอยู่และลั่วเทียนก็แน่ใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้หรือไม่.

แต่เขาจะจำมันอย่างชัดเจนว่าวันหนึ่งเขาจะให้มันจ่ายคืน.

ลั่วเทียนมีปัญหาเล็กน้อยจากการยืนและสะดุดคอกม้า.

หม่าทงเตะไปที่ก้นลั่วเทียนอีกครั้งและพูดอย่างร่าเริง: “ไอ้สุนัข ทำไมเจ้าถึงช้าอย่างนี้? เจ้าต้องการตายก่อนรึ?”

ลั่วเทียนขมวดปากและกำมือไม่กี่นาน แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไร.

หม่าทงหัวเราะอย่างสนุกสนานและเยาะเย้ย: “ไอ้ขยะ เจ้าเป็นความอับอายของมนุษย์ ข้าไม่รู้จริงๆว่าเจ้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร.”

“เรื่องจริงก็คือเรายังมีชีวิตอยู่.” ลั่วเทียนหัวเราะอย่างขมขื่นและพูดกับตัวเอง.

ทันใดนั้นก็มีเสียง “แผละ”.

ลั่วเทียนหยุดและดูด้วงที่อยู่บนมูลสัตว์ที่ถูกเขาฆ่า ลั่วเทียนกำลังเดินต่อจากนั้นเขาก็ได้ยิน.

“ติ้ง!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด