เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 141

อ่านนิยายจีนเรื่อง Leveling Up and Becoming Undefeatable เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย ตอนที่ 141 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เมื่อได้ยินเสียงนั้นลั่วเทียนก็ลืมตาขึ้นและกําหมัดทันที จากนั้นเขาก็เริ่มยิ้ม “พลัง ข้ารู้สึกได้ถึงพลังของข้าเพิ่มขึ้น 555..”

 

เพียงเขาได้หัวเราะเสร็จ

 

ท้องของลั่วเทียนก็กระเพื่อม จากนั้นน้ําย่อยก็พุ่งขึ้นมาที่คอ ก่อนที่เขาจะอ้วกออกมา

 

ซากศพของแมลงสีเขียวก็ไหลออกมาเช่นกัน

 

ลั่วเทียนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เขาเห็นและพูดออกมา “งั้นนี่คือแมลงที่อยู่ในหัวของข้า?”

 

“ฟื้ว – ฟื้ว”

 

ชายชราคิ้วขาวมีใบหน้าซีดเซียวขณะที่อ้าปากพ่นลมออกมา เขาพยักนห้าและถามว่า “ข้าพยายามกําจัดแมลงให้เจ้า ดังนั้นเจ้าวางแผนที่จะทําอะไรต่อ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในปัจจุบัน เจ้าไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของหยินซาง”

 

ใครบางคนที่อยู่ในจุดสูงสุดของปราณวิญญาณขั้น 9 นั้น แข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้นลั่วเทียนจึงไม่อาจสู้กับเขาได้ด้วยการอยู่ในขอบเขตปราณสุดยอดเชี่ยวชาญขั้น 1 ได้?

 

ลั่วเทียนมองไปที่ทะเลซากศพที่ไม่มีสิ้นสุดนอกบ้านและยิ้มด้วยความตื่นเต้น “แผนของข้าคือ ข้าจะฆ่าไอ้พวกนี้ทั้งก่อนที่จะไปสู้กับหยินซาง!”

 

“นั่นคือแผนที่ยอดเยี่ยมของเจ้า?”

 

ชายชราเกือบจะอาเจียนเป็นเลือด “เจ้าสามารถดวลกับหยินซางเพราะฆ่าไอ้คนพวกนี้?สมองเจ้าเป็นอะไร? ถ้าข้ารู้ ข้าจะช่วยผู้หญิงคนนี้แทน หรืออาจจะช่วยชายคนนั้นแทน เนื่องจากการบ่มเพาะของเขาอยู่ในขั้นปราณวิญญาณขั้น 5

 

“ปราณวิญญาณขั้น 5?”

 

ลั่วเทียนรู้สึกตกใจเมื่อมองไปที่ชายรูปงามที่ยืนอยู่ในห้องเหมือนกับรูปปั้นไม้ เมื่อลั่วเทียนได้พบกับผู้ชายคนอื่นๆ ความประทับใจส่วนตัวของเขาจะต่ําเตี้ยโดยอัตโนมัติ แต่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดูน่าเกลียดเท่าไรนัก “เขาเป็นคนของหยินซางด้วยเหรอ?”

 

“เขาลงมาที่นี่พร้อมกับเจ้าและมีแมลงภู่ฝังอยู่ในตัวของเขา ขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ หากเจ้าไม่ปรากฏขึ้น มันมีโอกาสอย่างมากที่แมลงภู่เขียวศักดิ์สิทธิ์จะไปอยู่กับเขาแทนและมันก็ไม่มีทางช่วยได้.”เสียงของของชายชราดูเหมือนจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว.

 

“ปราณวิญญาณขั้น 5 น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดี ตาเฒ่าเจ้าช่วยพวกเขาทั้งสองได้ไหม?”ลั่วเทียนถามพลางมองไปยังอกที่ใหญ่กว่าฉินหยู่เอ๋อร์ พี่สาวคนนี้ไม่เลว โดยเฉพาะเมื่อเขากําลังจะตาย นางก็บอกว่านางจะตายตามไปด้วย

 

โง่มากและไร้เดียงสา

 

ชายชราคิ้วขาวกลอกตาของเขาให้กับลัวเทียนและพูด“เจ้าคิดว่าการกําจัดแมลงภู่เป็นเรื่องง่าย? การจัดการกับทักษะต้องใช้พลังวิญญาณมากกว่ากลั่นแมลงภู่เสียอีก แม้ว่าแมลงภู่สองตัวนั้นจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับของเจ้า การกําจัดพวกมันยังต้องทําให้ผู้กําจัดจ่ายในราคาที่สูง อีกอย่างพูดถึงทั้งสองที่ไม่ได้มีเจตจํานงทางวิญญาณเลย การกําจัดแมลงภู่ต้องการความร่วมมือจากความตั้งใจของพวกเขาถึงจะประสบความสําเร็จ ผู้ใช้ต้องใช้พลังปราณมากกว่าปกติด้วยเหตุนี้ทั้งคู่อาจจะตายได้หากว่ามีอุบัติเหตุในการทํา”

 

“เพื่อกําจัดแมลงภู่เขียวศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเจ้า พลังปราณของข้าแทบจะหมดลงไปแล้วและมันจะไม่ฟท้นตัวอย่างน้อยครึ่งเดือน ในช่วงเวลาครึ่งเดือนนี้ข้ากลัวว่าเจตจํานงของพวกเขาจะถูกกลืนกินโดยแมลงภู่ ในเวลานั้นผลที่ได้ เฮ้อ…ข้าไม่อาจทําอะไรได้เลย!”

 

เมื่อแมลงภู่ถูกบ่มเพาะภายในตัวของพวกเขา แมลงเหล่านั้นจะกินน้ําเลี้ยงสมองตลอดเวลา

 

เมื่อมาถึงจุดหนึ่งหลังจากที่กินอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อนั้นแมลงจะควบคุมร่างกายอย่างสมบูรณ์ จากนั้นคุณก็จะได้เป็นหุ่นเชิดก็คือตรงนี้

 

การกําจัดแมลงภู่ออกไป เวลาจึงเป็นสิ่งสําคัญ! ยิ่งเร็วยิ่งดี!

 

ไม่ใช่ว่าชายชราคิ้วขาวไม่ต้องการช่วยพวกเขา แต่ตอนนี้ เขาไม่มีพลังแล้วจริงๆ

 

ลั่วเทียนคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะถามว่า “เจ้าสามารถสอนการจัดการกับทักษะกู้ได้ไหม? ข้าจะพยายามช่วยพวกเขา”

 

ท้ายที่สุดสองชีวิตนี้ก็ยังอยู่บนเส้นแห่งความตาย การช่วยพวกเขาให้สําเร็จจึงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

“เจ้า?”

 

“การปัดเป่าแมลงภู่เป็นความลับของเผ่าหลักของโลกที่ไม่อาจส่งต่อไปยังผู้อื่นได้ มันเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างมาก เมื่อตอนที่ภรรยาของข้าถ่ายทอดทักษะการกลั่นแมลงภู่ให้กับเจ้า ถ้าบรรพบุรุษของข้ารู้ว่าเราได้ทําอะไร เขาอาจจะขึ้นมาจาก หลุมแล้วด่าโครตเหง้าข้าชั่วนิรันดร์!” ชายชราคิ้วขาวตอบพร้อ มกับส่ายหัว

 

ทักษะกู่ทั้งสองเป็นรากฐานของความสามารถในเผาหลักของโลก หากคนนอกเรียนรู้ทักษะของพวกเขา พวกเผ่าหลักของโลกก็จะไม่อาจรอดชีวิตในโลกนี้ต่อไปได้

 

เพราะจะไม่มีใครกลัวเผ่าหลักของโลกอีกต่อไป!

 

ลั่วเทียนไม่ได้ยืนยันต่อไปและถอนหายใจเบาๆจากนั้นเขาก็พึมพํา“ช่างโชคร้าย ถ้าข้ามีผู้ช่วยอีกสองคน โอกาสที่จะฆ่าหยินซางก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

 

ทันทีหลังจากนั้น

 

ลั่วเทียนก็ออกจากบ้านและมองไปยังทะเลซากศพ ราวกับว่ามีแถบพลังชีวิตอยู่เหนือหัวของพวกมันเพราะพวกมัน ทุกตัวจะให้เขาได้รับค่าExp จากการประมาณเขาอาจจะได้รับExpมากกว่าล้านแต้ม ลั่วเทียนยิ้มและพูด “นี่คือสวรรค์ของข้าที่จะได้ฟาร์มค่าExp!”

 

เขาหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้นครั้งหนึ่งก่อนที่จะเดินไปกลางทะเลซากศพ.

ชายชราคิ้วขาวมองไปยังด้านหลังลั่วเทียนที่หายไปในทะเล ซากศพ จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง “ข้าควรจะถ่านทอดการปัดเป่าทักษะกู้ให้กับเขาหรือไม่? แต่นี่เป็นสิ่งต้องห้ามในเผ่าหลักของโลกเรา….บรรพบุรุษของเผ่าหลักโลก ข้าควรจะทําอย่างไรดี?”

 

หลังจากนั้น

 

ชายชราคิ้วขาวก็เริ่มขมวดคิ้วและเขาก็หัวเราะอย่างขมขื่น “เผ่าหลักของโลกกําลังจะถูกกําจัดทําไมข้าถึงต้องรักษา ความลับของมันด้วย?”

 

___

 

กลับมาที่สั่วเทียน

 

“Level 2 Berserk!”

 

“หมื่นสายฟ้าคําราม!”

 

“ตูม-, ต้าม-, บูมมม !”

 

ในรัศมี 50 เมตรมีสายฟ้ากว่าร้อยสายผ่าลงมา.

 

ทุกครั้งที่สายฟ้าผ่าลงมา ก็ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่

 

ซากศพเหล่านี้ล้วนบ่มเพาะแมลงภู่ แต่ขั้นตอนการทําอย่างไม่เสร็จสมบูรณ์ นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้พวกมันเดินไปรอบๆอย่างไร้จุดหมายเหมือนกับซอมบี้ในTV.

 

ลั่วเทียนจะไม่เผชิญหน้ากับการต่อต้านของพวกเขา

สิ่งที่เขาวางแผนก็คือ ใช้ทักษะหมื่นสายฟ้าคํารามอย่างต่อเนื่อง

 

ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นถึงสี่ขั้น หมื่นสายฟ้าคํารามจึงมีพลังอย่างยิ่ง เมื่อสายฟ้านับร้อยเส้นผ่าลงมาก็จะมีศพ70-80ตัวร่วงลงมา ในใจของลั่วเทียนก็จะมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันจะระเบิดให้ได้

 

“ติ้ง!”

 

“ติ้ง!”

 

“ติ้ง!”

 

เสียงมันดังจนทําให้ลั่วเทียนหูอื้อและกลายมาเป็นตื่นเต้น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา.

 

“ติ้ง!”

 

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการเลเวลอัพ ตอนนี้ท่าอยู่ในขั้นปราณสุดยอดเชียวชาญขั้น 2.”

 

ลั่วเทียนหัวเราะอย่างชอบใจ“ข้าเลเวลอัพแล้ว!”

 

หลังจากที่เลเวลอัพแล้ว พลังทั้งหมดของเขาก็กลับมาเต็มอีกครั้ง ลั่วเทียนกําหมัดแน่นขณะที่เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในใจของเขาและในจิตสํานึก กลิ่นอายที่บ้าคลั่งก็ระเบิดออกมาจากร่างของเขาขณะที่เขาพูดว่า “ของแม่งโครตดี! จิตสํานึกของข้าแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย! บิดาอยากจะรู้ว่าใครกันที่จะมากดดันข้าได้อีกในอนาคต!”

 

เช่นเดียวกับที่ชายชราพูดกับลั่วเทียนว่ามันจะเพิ่มขึ้นนับหมื่นเท่า!

 

จิตสํานึกของเขายิ่งใหญ่กว่าคนที่อยู่ในปราณวิญญาณเสียอีกและมันก็ใหญ่พอที่จะเรียกว่าเป็นทะเลอย่างแท้จริง 

 

ทั้งจิตสํานึกและจิตใจของเขามีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นเมื่ออย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นแล้วอีกอย่างก็จะเพิ่มขึ้นตามเป็นธรรมชาติ

 

“อย่างงี้ แสดงว่าตาเฒ่านั้นก็ไม่ได้โกหกข้า ฮี่ฮี่”

 

“ถ้าหากเขาถ่ายทอดทักษะการปัดเป่าแมลงให้กับข้า ข้าก็จะสามารถช่วยทั้งสองคนได้ ด้วยพลังของจิตสํานึกในปัจจุบัน.” ลั่วเทียนคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ขณะที่มองกลับไปยังบ้านจากระยะไกล จากนั้นเขาก็ส่ายหัว “ข้าควรจะรีบอัพเลเวลต่อไป”

 

พระราชวังราชามิฬท.

 

“องค์ราชาทมิฬ มีเสียงดังออกมาจากนรกชั้น 19 มันจะมีปัญหาอะไรไหม?” ชายกํายําที่ถือค้อนอยู่คู่หนึ่งถามด้วยน้ําเสียงที่เป็นกังวล

 

หยินซางพูดอย่างไม่แยแส “ตาแก่หนังเหนียวนั่นน่าจะพยายามฝึกฝนนายพลรบสีเขียวศักดิ์สิทธิ์ของข้า การที่มันจะเกิดเสียงที่อึกทึกครึกโครมแบบนี้ ต้องกมายความว่าการฝึกฝนจะใช้ได้เป็นอย่างดี”

 

นี่คือโลกที่เขาปกครองและไม่มีใครสามารถสร้างปัญหาที่นี่

 

ได้

 

มันเหมือนกับในภูเขาซากศพทมิฬเป็นอย่างไรนรกชั้น 19 ก็เป็นอย่างนั้น!

 

นอกจากนี้

 

หยินซางกําลังอารณ์ดีเพราะว่าเขาได้รับสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นภาชนะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตราบใดที่ลั่วเทียนถูกแมลงภู่สีเขียวกลั่นอย่างสมบูรณ์ หยินซางก็จะสามารถสกัดเลือดของแมลงภู่และนํามาปรับเปลี่ยนในร่างกายของตัวเองได้ ทําให้เขาเป็นราชาอมตะทมิฬอย่างแท้จริง!

 

ชายกํายํายังคงกังวลและพูดน้อยๆออกมาว่า “ราชาทมิฬ ถ้าอย่างนั้นข้าจะลองไปเช็คพวกเขาดู?”

 

หยินซางโบกมือและพูดว่า “หากเจ้าต้องการก็ไป เจ้าสามารถดูด้วยว่าการฝึกฝนของตาเฒ่านั่นไปถึงไหนแล้ว” 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด