เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 51 – เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ซูเอ๋อร์
Chapter 51 – เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ซูเอ๋อร์
ค่ำคืนที่เงียบสงัดได้มีดาวที่ส่องแสงได้ดับลง
ภายในห้องที่มีเพียงเสียงกรนที่ได้ยิน
ลั่วเทียนที่นอนหลับลึกมากๆ เขาไม่ได้นอนมาเกือบ8วันแน่นอนเขาเหนื่อยล้า.
แต่…
ความผันผวนของพลังงานจางๆได้แว่บผ่านตาเข้ามาทำให้เขาลุกขึ้นมานั่งทันที.
เขาแผ่สัมผัสออกไปและริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็นน้อยเป็นรอยยิ้ม ลั่วเทียนใส่ชุดหลวมๆและเดินออกจากห้อง
“มันเป็นจริง!”
“คุเจ้าได้ผ่านขั้นปราณเชี่ยวชาญแล้ว!”
“ตอนแรกข้าไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ข้าได้แต่ทำใจ เจ้าน่าประทับใจอย่างมาก”เงาดำที่ยืนอยู่นิ่งๆไม่ไหวติง โทนเสียงของเขาแสดงให้เห็นถึงความโกรธ,ความรังเกียจ,และความต้องการฆ่าอย่าไม่มีสิ้นสุด.
ลั่วเทียนไม่ได้เข้าไปใกล้และอยู่ห่างๆก่อนที่จะยิ้มออกน้อยๆ“เจ้าไม่เพียงเข้ามาที่นี่เพื่อยืนยันว่าข้าได้ทะลวงผ่านปราณเชี่ยวชาญแล้วหรอกนะ?”
เจตนาฆ่าได้หลุดออกมาจากลั่วจินซานทำให้ลั่วเทียนประหลาดใจเล็กน้อย.
เขามาเพราะลั่วเฉิน?เป็นไปไม่ได้!
เพราะลั่วเทียนยุ่งมากในช่วงสองสามวันนี้? มันเป็นไปไม่ได้!
ยังคงมีเจตนาฆ่าออกมาจากลั่วเซียวซานที่ไม่ได้รั้งกลับไว้? มันเป็นไปไม่ได้.
เจตนาฆ่าในครั้งนี้มีความหนาแน่นมากและมันน่าจะปล่อยเพื่อตัดสินเป็นตาย นั่นเป็นเหตุผลที่ได้ข้อสรุปว่าควรจะมาเพราะลูกชายของเขาลั่วเฉินการฆ่าลูกชายของคนอื่นทำให้มีเจตนาฆ๋าอย่างรุนแรง.
“จากท่าทางที่แสดงออกมา คงรู้จุดจบลั่วจินซานแล้ว.”ลั่วเทียนตะลึงภายในใจเล็กน้อยแต่การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยน.
เห็นได้ชัดว่าลั่วจินซานไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขาแค่เพียงยืนอยู่ที่นั่น อย่างน้อยก็ตอนนี้เพราะชื่อของเขายังไม่ได้เป็นสีทอง!
“บอกมาตรงๆ.”
“เจ้าจะตายในวันหรุ่งนี้” ลั่วจินซานบอกตรงๆ.
ลั่วเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “โอ้?”
ลั่วจินซานยังกล่าวต่อ “เจ้าจะไม่มีทางไหนนอกจากตาย…”
ลั่วเทียนถาม “เงื่อไขคืออะไร?”
ริมฝีปากของลั่วจินซานยิ้มขึ้นเล็กน้อย “นำแกนปีศาจกระทิงเดือดฟ้าคะนองมา,ทำลายการบ่มเพาะ,และข้าจะให้เจ้ามีชีวิตที่สงบ.”
“โอ้?”
ลั่วเทียนส่งเสียง “โอ้”ถึงสองครั้งก่อนที่จะถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าไม่ต้องการแก้แค้นให้ลูกชายเจ้า? เจ้าไม่แก้แค้นให้กับน้องชายของเจ้าลั่วเซียวซาน?เจ้าจะไม่แก้แค้นให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าลั่วหมิง?”
“ลั่วเทียน…!”
ลั่วจินซานคำรามออกมาขณะที่รัศมีส่องประกายอย่างหนาวเย็น ความโกรธของเขาเพิ่มสูงขึ้นและความตั้งใจฆ่าก็แผ่ออกมาทั่วลาน
พลังมาก -ลั่วจินซานมีพลังมากอย่าแท้จริง.
ลั่วเทียนตกใจอย่างมาก แต่ก็ยังคงยิ้มกับตัวเองขณะพูด “มันไม่อาจเป็นลาสบอสได้ท้าเขาไม่มีพลัง!”
“หืม…”
ลั่วจินซานหายใจอย่างหนักก่อนจะพูดว่า “พวกเขาตายไปแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆนั่นคือเหตุผลที่ข้าสามารถปล่อยมันไปได้.”
ลั่วเทียนประหลาดใจไม่คิดว่าลั่วจินซานจะปล่อยวางได้เร็วมาก
แน่นอน…
ลั่วเทียนไม่เชื่อเขา.
เขาไม่ได้โง่ มีแต่คนตาบอดที่ทำลายการบ่มเพาะอีกครั้งและเลือกที่จะกลายเป็นขยะ?
ลั่วเทียนสงสัยอย่างมากว่าลั่วจินซานถูกทิ้งตั้งแต่เด็กหรือไม่ก็ถูกฟ้าผ่า เขาพูดอย่างนั้นได้ไง?
แต่…
ในที่สุดเขาก็พบว่าทำไมลั่วจินซานได้ยอมถอยหลังแทนที่จะออกตัว-แกนปีศาจ!
แกนของกระทิงเดือดฟ้าคะนอง!
ลั่วเทียนตระหนักว่าในมือของเขาไม่เคยมีแกนปีศาจ เมื่อคิดถึงฉากนั้นเขาก็ยิ้ม. “ดูเหมือนฟางเล่ยจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 6 เพราะแกนปีศาจ.”
พลังของแกรปีศาจมีมหาศาลอย่างแท้จริง!
ลั่วเทียนหันกลับไปและเริ่มเดินกลับไปที่ห้องก่อนจะกล่าวว่า“ขอโทษด้วย เจ้าสามารถปล่อยวางได้ทุกสิ่ง แต่บิดาไม่สามารถทำได้ เราจะได้เจอกันที่สนามประลองวันพรุ่งนี้!”
ลั่วเทียนบอกทุกสิ่งทุกอย่างตรงๆ.
เมื่อคุณกำลังเล่นวิดีโอเกมส์และเห็นลาสบอส เจ้าปล่อยมันไปได้หรือไม่?
เจ้าจะไม่คิดหาวิธีการฆ่ามันเลย?
ทำไมไอ้น้องถึงต้องเล่นเกมส์และเมื่อเจ้าเห็นลาสบอสเจ้าจะไม่ฆ่า? ทำไมต้องเล่นอย่างนั้น?
ลั่วเทียนจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป การไม่สนใจลาสบอสเพียงเพราะว่าลั่วจินซานได้กักขังหลี่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยอยู่ อย่างนั้นลั่วเทียนจึงไม่อาจปล่อยมือได้
เจ้ากล้าที่จะจำกัดการเคลื่อนไหวของพี่น้องบิดาคนนี้? มันเป็นการหาที่ตาย!
เจ้ากล้าที่จะข่มขืนผู้หญิงของบิดาคนนี้? มันเหมือนกับเป็นการหาที่ตายมากที่สุด!
ลั่วจินซานหลี่ตาและพูดอย่างเย็นชาด้วยน้อเสียงเย็นๆ “เจ้าจะเปลี่ยนความคิดวันพรุ่งนี้ แต่จากนั้นเงื่อนไขมันจะไม่ง่ายแค่ทำลายการบ่มเพาะ.”
หลัวจากกล่าวแล้วลั่วจินซานเดินออกจากลาน การแสดงออกทางสีหน้าของเขาดูเงียบลงและการกระทำของเขาก็สบายเมื่อเทียบกับการมาครั้งแรก.
“นี่นายท่าน ลั่วจินซานคุยกับท่านเรื่องอะไร?” เมื่อลั่วจินซานออกไป ฟางเล่ยก็ออกมาจากห้องและถามพลางเกาหัว.
ลั่วเทียนยิ้ม “ไม่มีอะไรมา เจ้ากลับไปนอนได้แล้ว.”
ทันใดนั้น…
ลั่วเทียนคิดถึงบางสิ่งและถามขึ้น “นี่เจ้าอ้วนเจ้ามีแกนปีศาจของกระทิงอยู่ไหม?”
“อุ?”
“นายท่าน ในขณะที่ข้าดูดกลืนแก่นโลหิตมีบางอย่างที่เหมือนกับหินคริสตัลเลือดถูกดูดเข้าไปด้วย ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร นั่นเรียกมันว่าแกนปีศาจหรอ? ตอนนี้มันอยู่ในร่างกายของข้า แต่ข้าไม่ทราบวิธีที่จะเอาออก.”ฟางเล่ยตอบอย่างจริงจัง.
ลั่วเทียนยิ้ม “ไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับมัน กลับไปนอนได้แล้ว!”
รุ่งเช้าท้องฟ้าแจ่มใส.
ลั่วจินซานยินอยู่ในลานจ้องมองท้องฟ้าที่สว่างสไวโดยไม่เคลื่อนไหว.
อีกสักพัก…
เงาดำก็ลงมา.
คนที่อายุใกล้เคียงลั่วจินซานยืนอยู่ในลาน ดวงตาของเขาที่ดูมีแต่ตาขาวขณะที่เขาแผ่กลิ่นอายของปราณเชียวชาญออกมา.
ผู้นำตระกูลโจว โจวไทเหริน!
อยู่ในจุดสูงสุดของปราณเชี่ยวชาญขั้น8 ความแข็งแกร่งของเขาทรงพลังมาก.
โจวไทเหรินมองหน้าดูท้องฟ้าด้วยความเบื่อหน่าย“พี่ลั่ว ข้าได้ใส่ยาของท่านลงไปในแหล่งน้ำของกิ้งก่าลาวา ท่านสามารถบอกได้ไหมว่ายานี้คืออะไร?”
ลั่วจินซานยิ้มและมองไปที่ท้องฟ้า“ยาโด๊ป เพียงแค่เล็กน้อยก็ทำให้มันหลุดจากการควบคุม.”
“ยาโด๊ํป?!”
เกิดความคิดฉับพลันขึ้นขณะที่โจวไทเหรินนึกถึงยาโด๊ป จิตใจของเขาตกใจและถามอย่างไม่แน่ใจ “จะเกิดอะไรขึ้นหากกิ้งก่าลาวาได้กินยาโด๊ป?”
ลั่วจินซานพูดเสียงเย็น “มันจะเปลี่ยนเป็นสัตว์ปีศาจระดับ5!”
ตาของโจวไทเหรินสั่นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น!
ลั่วจินซานน่ากลัวเกินไป!
————
ค่ำคืนที่เงียบวงบ แต่สิ่งที่เงียบสงบมีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่.
ลั่วจินซานได้แอบวางแผนทุกอย่าง
คาาวนี้ไม่เพียง แต่เขาจะได้รับแกนปีศาจเท่านั้น เขายังทำให้ลั่วเทียนประสบกับหายนะอย่างสิ้นเชิงไปจงถึงวิญญาณเขาต้องแยกออกจากร่างกาย ลั่วเทียนไม่แม้แต่จะลงนรกได้แม้ว่าเขาจะต้องการ!
เช้าตรู่.
ลั่วเทียนล้างหน้าก่อนที่จะพาเจ้าอ้วนเข้าไปยังสนามประลอง.
“อ้วนเล่ย เจ้าเห็นเด็กสาวนั่นไหม?”
“น้องสะใภ้? ข้ายังไม่เห็นเธอ เธออาจะทิ้งเราไว้.”
“โอ้…” ลั่วเทียนรู้สึกถึงลางร้ายอย่างช่วยไม่ได้
“555…”
“น้องลั่ว,วันนี้ข้าจะเชียร์เจ้า ข้าได้ใช้เงินทั้งหมดในชีวิตของข้าเดิมพันลงไป”ซ่งหยวนไคว่หัวเราะขึ้นมา.
ที่ด้านข้างของเขามีชายที่ดูหล่อเหลาพยักหน้าให้ลั่วเทียนด้วยรอยยิ้ม.
ซ่งหยู่หนาน ผู้นำตระกูลซ่ง.
ลั่วเทียนยิ้มอย่างสุภาพ แต่ไม่ได้เดินมาต้อนรับเขา.
ในเวลานั้น…
ชายที่ดูเหมือนชาวบ้านได้วิ่งขึ้นมาและมอบอะไรบางอย่างให้เขา. “มีบางคนต้องการให้สิ่งนี้แก่คุณ”
ลั่วเทียนเปิดมันขึ้นมาและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ร่างกายของเขาปะทุด้วยความโกรธ“ลั่วจินซาน พ่องตาย!!!”
เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ซูเอ๋อร์!
คอมเม้นต์