เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 64 – ปล่อยไปตามธรรมชาติ
Chapter 64 – ปล่อยไปตามธรรมชาติ
เขาจูบเธอ…
หลี่ซูเอ๋อร์ก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงมัน เธอปิดตาอย่างเบาๆ ขณะที่หัวใจเต้นแรง แก้มของเธอแดงอย่างกับว่าเธอเป็นเจ้าสาวตัวน้อยๆที่อยู่ในห้องเจ้าสาว
เพียงเล็กน้อยก่อนที่จะมากไปกว่านี้…
หัวใจของลั่วเทียนเต้มรัวๆ.
ด้วยความนึดคิดของโอตาคุ ฝ่ามือของเขาเหงื่อออกและหัวใจของเขาเต้นอย่างกับคนป่า.
เมื่อเขาอยู่ห่างจากปากของเธอ 1 เซนฯ…
“แค่กๆๆ…”
“นายหญิง!”
มีเสียงออกมาจากลานหลี่ซูเอ๋อร์เปิดตาของเธอด้วยความตกใจเหมือนกับกระต่ายตื่นตูม เธอโยกศรีษะหลบลั่วเทียนจากนั้นก็วิ่งออกจากห้องไปทันที.
หัวของลั่วเทียนที่กำลังโค้งด้วยดวงตาที่ปิดอยู่ เขาดูอย่างมึนงงที่ดูได้ชัดเจนบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดกับตัวเอง: “เด็กน้อย ฉันอยู่นี่.”
เขาได้คิดถึงบางสิ่งที่เขาจะทำหลังจากนั้น.
ก่อนอื่นพวกเขาจะจูบและถอนเสื้อผ้าออก จากนั้นเขาก็จะค่อยๆเคลื่อนไหวช้าๆ…
“เอ๋?”
“จูบยังไม่มา?” ลั่วเทียนรู้สึกประหลากใจเล็กน้อยและหรี่ตาของเขาออกมา เขาค่อยๆเปิดตาและมองไปรอบๆ, “เรื่องบ้าอะไรเนี่ย? มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ใครมันไม่มีสามัญสำนึกเลยฟระ?”
“ขัดจังหวะในเวลานั้น? เจ้ามีความตั้งใจอะไร?”
“แม่งเอ้ย!”
ลั่วเทียนโกรธมาก แกะตัวน้อยกำลังเข้าปากของเขาและก็หนีไป หมาป่าตัวใหญ่ที่หิวโหยอย่างเขาจะทำอะไรได้ในตอนนี้?
อย่างน้อยที่ผ่านมาเขาก็มีเสียงที่เรียกว่าความทรงจำจากชาติก่อน มันทำให้เขารู้ว่าตัวตนนั้นๆจะต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ยังมีจากภาพยนต์แอคชั่นจากหลายๆประเทศ แต่ตอนนี้พี่ชายคนนี้ทำไมเทพถึงได้เลือกที่จะเราไปกัน?
เขาควรจะทำให้ความสามารถของเขาโด่งดังไปยังโลกภายนอกดีหรือไม่?
เวรเอ้ย!
“ฟู่~…”
ลั่วเทียนถอนหายใจลึกๆเพื่อเอาความร้อนที่อยู่ในตัวออกมา หัวใจของเขาสงบลงเล็กน้อยและไฟแห่งความชั่วร้ายก็ได้ลดลงนิดหน่อย จากนั้นเขาก็ลุกออกจากเตียงและออกไปข้างนอก.
เงาดำที่อยู่เบื้องหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์.
บุคคลที่อยู่ในชุดดำนั่นไม่มีความผันผวนทางพลังงานใดๆ ลั่วเทียนยังไม่สามารถตรวจพบสัญญาณชีวิตใดๆจากบุคคลดังกล่าว.
หลี่ซูเอ๋อร์เห็นลั่วเทียนออกมาและช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าของเธอก็เริ่มแดงอีกครั้ง มันเป็นเพราะความมืดจึงไม่มีใครเห็นใบหน้าที่เป็นสีแดงของเธอ ขณะที่เธอนึกถึงฉากก่อนหน้าหัวใจของเธอก็เริ่มเต้นอย่างบ้างคลั่ง มีหัวเราะน้อยๆและพูด: “พี่ใหญ่ลั่วเทียน…”
ลั่วเทียนกับยิ้มและส่งเสียง “อึ้ม.”
ขณะที่เขายังพูดต่อ โดยมองไปยังผู้เชี่ยวชาญชุดดำ “ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้…”
ไม่รอให้ลั่วเทียนพูดจบ เขาก็ถูกชุดดำขัดจังหวะ: “ไม่จำเป็น.”
เสียงไม่ดังมาก แต่มันหนาวยะเยือกเหมือนกับอยู่บนตึดที่อยู่บนยอดน้ำแข็งอีกที.
แต่เพราะมันเป็นเสียงนุ่มทำให้ลั่วเทียนไม่สามารถระบุได้ว่าเขาเป็นชายหรือหญิง และเนื่องจากคนๆนี้กำลังช่วยเหลือ แต่เขาก็เย็นชา มันไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นมิตรกับคนเห้ๆแบบนี้.
ถ้าไม่มีใครไว้หน้าเขา เขาจะไว้หน้ามันทำไม?
หลีร่ซูเอ๋อร์หัวเราะและพูด: “พี่ใหญ่ลั่วเทียน เขามักจะเป็นอย่างนี้ ดังนั้นอย่ารังเกียจ.”
ลั่วเทียนตอบ: “ทำไมข้าต้องสนใจ? ผู้เชี่ยวชาญปกติจะรำคาญที่จะคุบกับข้า อย่างนี้ใช่ไหม? คุณผู้เชี่ยวชาญ?”
คนชุดดำก็ทำให้ลั่วเทียนหนาวจับใจ.
“นายหญิง เราต้องไปแล้วตอนนี้.” ชุดดำพูด.
ปากของหลี่ซูเอ๋อร์ดูยื่นออกมาเล็กน้อยขณะที่เธอดูเศร้านิดๆ จากนั้นก็มองไปพูดว่า: “ได้…”
หลังจากนั้นเธอก็เดินไปสองก้าวก่อนที่จะหัวเราะคิดคัก “พี่ใหญ่ลั่วเทียน ข้าจะมาพบกับท่านในวันพรุ่งนี้ พักผ่อนดีๆหล่ะ.”
หลังจากนั้นเธอก็กระโดดเหมือนกระรอกอย่าวร่าเริงและค่อยๆหายไป.
ลั่วเทียนเฝ้ามองเธอลับตาไปก่อนจะพูดว่า “เด็กโง่.”
ลั่วเทียนคิดว่าตัวตนของหลี่ซูเอ๋อร์คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีพลังขนาดนี้ การบ่มเพาะของชายชุดดำอาจจะถึงขั้นปราณจิตหรือสูงกว่า.
เพียงแค่คนเดียวก็สามารถทำลายเมืองภูเขาหยกได้ทั่งหมด.
และจากเท่าที่มองบุคคลนี้เป็นเพียงผู้คุ้มกันหลี่ซูเอ๋อร์เท่านั้น.
เพียงแค่มีสาวกที่ทรงพลังขนาดนี้ แล้วตระกูลเธอ…
หัวใจของลั่วเทียนฟ่อลงเล็กน้อยขณะที่ขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยดวงดาวและจมอยู่ในความคิดตัวเอง.
สักพัก…
ลั่วเทียนสูดลงหายใจเข้าลึกๆและพูดกับตัวเอง: “เราจะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ!”
———–
ขณะที่เดินกลับ…
หลี่ซูเอ๋อร์ถามด้วยใบหน้าที่เงียบสงบ: “ทำไมพี่ใหญ่ลั่วเทียนถึงได้เปลี่ยนความเชื่อง่ายๆ?”
บุคคลในชุดสีดำตอบ: “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน.”
หลี่ซูเอ๋อร์ก็ประหลาดใจและพูดว่า: “พี่สาวซวง ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นปราณจิตและเป็นนักแปลธาตุ ท่าไม่รู้เหตุผลได้อย่างไร?”
ปราณจิตขั้นที่ 6 มีความแข็งแกร่งอย่างมากและเธอยังเป็นนักแปรธาตุระดับสามอีกด้วย เธอจะมีพลังมากน้อยแค่ไหนกัน?
ตอนนี้เราต้องมุ่นมั่นบ่มเพาะให้สูงขึ้น จำนวนนักแปรธาตุในทวีปเทียนหยวนได้ถูกมองให้เป็นบุคคลที่อยู่บนจุดสูงสุด!
จุดสำคัญคือ…
ผู้เชี่ยวชาญชุดดำคือผู้หญิง และเธอก็เย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง.
และปกติแล้วนี่อาจจะเรียกได้ว่า “พี่สาว(oneesan)” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่รู้ว่าเป้าหมายของลั่วเทียนต้องการคนที่อยู่ในประเภทนี้หรือไม่ ถ้าเขารู้เขาอาจจะรุกล้ำเข้าใส่ผู้หญิงที่เรียกว่า “พี่สาว” นี้ได้.¹
หญิงชุดดำก็บอกว่า: “เขาสามารถทำให้ร่างวกายของเขาเร่าร้อนขึ้นได้ทันทีถ้าเข้ามีความเชื่อ และความมุ่งมั่นในหัวใจของเขาก็รุนแรงมากขึ้น ความมุ่นมั่นในการฆ่าของเขาที่รุนแรงขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน คล้ายกับบรรดาปีศาจชั้นสูงที่มั่งมั่นไปในทางสังหาร นายหญิง จะดีทีี่สุดถ้าจะอยู่ห่างจากเขา. และ… และ…”
กลิ่นอายสังหารของเธอมีความรุนแรงขึ้น ด้วยพลังปราณจิตขั้น 6 ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมาณอย่างมาก.
เมื่อเธอกำลังตรวจสอบอาหารบาดเจ็บของลั่วเทียน เจตนาฆ่าที่เขาปล่อยออกมาเกือบทำให้จิตใจของเธอหยุดเต้น.
ในใจของเธอ ลั่วเทียนเป็นตัวอันตราย
ตอนนี้เขาอาจจะไม่ใช่คนเดียว แต่เขาจะกลายเป็นหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน.
เธอได้รับคำสั่งเดียวขณะที่เธอติดตามหลี่ซูเอ๋อร์มาที่นี่ – จัดการภัยคุกคามจากเธอให้หมด!
เจตนาฆ่าภายในลั่วเทียนก็ถือว่าเป็นภัยคุกคาม ตราบเท่าที่เป็นภัยคุกคามแม้แต่นิดเดียวที่มุ่งเป้าไปยังหลี่ซูเอ๋อร์ เธอจะฆ่าเขาโดยไม่ลังเล!
หลี่ซูเอ๋อร์ถามเบาๆ: “และอะไร?”
หญิงชุดดำตอบกลับ: “เขาไม่เหมาะกับท่าน ท่านและนายน้อย เจียน…”
คิ้วของหลี่ซูเอ๋อร์กระตุกขณะที่เสียงของเธอก็เปลี่ยนไป, “อย่าเอ่ยชื่อเขาต่อหน้าข้า!”
การแสดงออกของหญิงสาวในชุดดำก็หยุดลงทันที.
ทั้งสองเดินไปในความเงียบ – หนึ่งด้านหน้า หนึ่งด้านหลัง ไปยังสนามประลองขององค์กรไวโอเล็ต.
———
เช้าตรู่.
ทั้งตระกูลลั่วกำลังมีบรรยากาศรื่นเริง เมื่อพวกเขาตกแต่งคฤหาสน์ของพวกเขา.
ภายในสนามฝึก.
ลูกศิษย์หลายร้อยคนในตระกูลลั่วกำลังยืนเข้าแถวเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ดวงตาของเขาสดใสขณะที่พวกเขากำลังจ้องมองไปยังกลางเวลที.
ฟางเล่ยโบกมือให้.
ทุกคนตะโกนพร้อมกัน: “ทักทายผู้นำคนใหม่!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นเมื่อสาวกหลายร้อยคนคุกเข่าลงที่พื้น ฉากนี้ทำให้ลั่วเทียนตกใจมาก!
ลั่วเทียนกระแอมและจ้องมองไปที่ฟางเล่ยครั้งนึง จากนั้นเขาก็บอกว่า: “เราทุกคนเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นไม่ต้องทำแบบนี้ ทุกคนลุกขึ้น!”
เมื่อเห็นคนจำนวนมากอยู่ด้านหน้าเขา มันก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น.
ตระกูลลั่ว!
ตอนนี้เขาได้เป็นผู้นำตระกูลลั่วแล้ว.
เมื่อลั่วเทียนหมดสติเมื่อวานนี้ ฟางเล่ยก็จัดการเคลื่อนไหวทำความสะอาด ทุกคนที่ใกล้ชิดกับลั่วจินซานถูกปลดออก
การตายของลั่วจินซานและตระกูลลั่วเหมือนกับการทำลายตระกูล.
ผู้อาวุโสสามคนที่อยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญและครึ่งนึงของสาวกชั้นสูงตาย ในช่วงการแข่งขันล่าสัตว์ ลั่วเทียนได้ใช้พลังของกระทิงเดือดฟ้าคะนองที่มีพื้นที่อย่างมาก เพื่อฆ่าสาวกชั้นนอกตายหลายคนทันที ทั้งหมดนี้ทำให้ตระกูลลั่วเข้าสู่สภาวะวิกฤติ.
ตระกลูลั่วปัจจุบันสามารถบอกได้เลยว่ายังเหลืออีกหลายอย่างที่ต้องแก้ไข.
ลั่วเทียนเป็นเพียงโอตาคุที่ไม่มีความสามารถในการจัดการกับตระกูล ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะไม่อยู่ในเมืองภูเขาหยกเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น.
แต่เมื่อเขาได้เป็นผู้นำ เขาก็ยังอุทิศตัวเพื่อทำให้ตระกูลของเขาแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าจะเขาออกจากเมื่อไป.
“รายงาน!”
“รายงานผู้นำ: ตระกูลซูและกลุ่มคนจากตระกูลโจวได้มารวมตัวกันมากมายและตอนนี้กำลังจะมาถึงทางเข้าหลักตระกูลลั่วแล้ว!”
ลั่วเทียนขมวดคิ้วแน่น, “พวกเขาต้องการมาที่นี่เพื่อยั่วยุเรา?”
ในเวลานี้ มีสี่ตระกูลหลักอยู่ในเมืองและตระกูลลั่วก็อยู่ในนั้น แต่ตอนนี้ก็มีสองตระกูลหลักได้มาอยู่เบื้องหน้าพวกเขา? ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการสงคราม!
————-
¹ – ในกระณีนี้ผู้อาจจะไม่รู้ว่า วัฒนธรรมของหญี่ปุ่นการที่มีคนรักที่มีอายุมากกว่า 18-35 ปี นั่นจะถือว่าเป็นสาวใหญ่และเซ็กซี่อย่างมาก.
ผู้แปล: ปราณจิตขั้น 6 คอยช่วยเหลือหลี่ซูเอ๋อร์ แต่นางโดนจับตัวไปหลายวัน ปราณจิตขั้น 6 ไปทำห่าที่ไหนมา มึงไปเบ็ตมาใช่มั๊ย 555
คอมเม้นต์