เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 83 – นายท่าน-สาวน้อยคนนี้ยอมรับความผิด

อ่านนิยายจีนเรื่อง Leveling Up and Becoming Undefeatable เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย ตอนที่ 83 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 83 – สาวน้อยชั้นสูงที่ยอมรับความผิด

เมืองภูเขาหยกตระกูลลั่ว.

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลซ่งเป็นเรื่องที่ไร้ความเป็นธรรมอย่างมาก.”

“สาวกที่ชื่อตระกูลก็ถูกขับออกและพวกที่อยู่ต่อก็ถูกฆ่าในที่เกิดเหตุ.”

“ไม่มีสาวกในตระกูลซ่ง แม้แต่เด็กทารกที่อยู่ในเปลก็ไม่มีอีกแล้วเช่นกัน! ซูเซี่ยงเฟยเป็นคนที่ต่ำกว่าเดรัจฉาน!” ลั่วคุนซานพูดผ่านร่องฟัน.

ในห้อง

ใบหน้าของซ่งหยวนนานและซ่งหยวนไคว่นั้นค่อนข้างซีด ตาของเขาหมองคล้ำและไม่มีชีวิตชีวา หัวใจของพวกเขาตายและไม่อาจพูดได้แม้แต่คำเดียว.

พวกเขาจะไม่มีวันลืมฉากการสังหารหมู่ตลอดชีวิตของพวกเขา.

ความเจ็บปวดนี้จะได้รับการจารึกในหัวใจ มันเป็นคำเจ็บปวดเกินกว่าคำบรรยาย.

พวกเขาเจ็บปวดมากจนไม่อาจพูดอะไรอีก พวกเขาดูเหมือนว่าได้ตายไปแล้วและเหลือเพียงร่างกายที่เป็นเปลือกเท่านั้น.

ลั่วคุนซานกำลังขมวดคิ้ว เขาต้องการปลอบโยนพวกเขา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี.

ตระกูลซ่งที่ก่อตั้งขึ้นมาหลายศตรววษในเมืองภูเขาหยกได้ถูกสังหารไปจนกลายเป็นแม่น้ำสีเลือด เขาจะปลอบโยนพวกเขาเช่นไร? คำพูดแบบไหนที่จะใช้ปลอบใจพวกเขาได้?

ลั่วคุนซานถอนหายใจไม่กี่ครั้งก่อนจะพูด: “ประมุขซ่ง พวกท่านทั้งสองควรจะสบายใจและอยู่ที่นี่ ตราบเท่าที่คนตระกูลลั่วยังอยู่ เราจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องคุณ.”

หลังจากที่กล่าวอย่างนั้นลั่วคุณซานก็ถอนหายใจขณะที่เขาเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิด. “ตระกูลดีๆอย่างนี้ได้ถูกลบไปแล้ว เฮ้อ…”

เมื่อตระกูลซ่งถูกทำลาย แรงกดดันต่อตระกูลลั่วยิ่งมากขึ้น.

อย่างไม่มีข้อแม้…

เป้าหมายต่อไปของตระกูลซูจะต้องเป็นตระกูลลั่วของพวกเขา แม้ว่าลั่วคุณซานได้เตรียมพร้อมต่อภัยที่กำลังจะมาถึงอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาก็ยังหวังว่าลั่วเทียนจะกลับมาเร็วๆนี้ เขาไม่อาจทนรับความกดดันได้อีกต่อไป…

มีสาวกหลายคนที่ไม่ได้มีสกุลลั่วได้ตัดสินใจที่จะออกจากตระกูล ภายในระยะเวลาเหล่านี้สาวกที่เหลืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ในเวลานี้เขาสามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง.

อาจกล่าวได้ว่าในหนึ่งคืน ตระกูลซูได้กลายเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองภูเขาหยกทั้งหมด แม้แต่ตระกูลโจวที่เป็นฝ่ายเขาก็ไม่อาจดำเนินการใดๆที่ไม่จำเป็นได้.

ทั่งทั้งเมืองภูเขาหยกตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อตระกูลซู.

ปัจจุบันตระกูลซูเริ่มที่จะเผด็จการในเมืองภูเขาหยกมากขึ้น ใครก็ตามที่กล้าทำเสียงดังจะถูกทำลายทันที!

“อาวุโสลั่ว…”

ทันใดนั้น ซ่งหยวนนานก็พูดขึ้นขณะที่ลั่วคุณซานจะออกจากห้อง: “น้องลั่วยังอยู่ในเทือกเขาวิญญาณ ดังนั้นคุณควรจะส่งคนไปแจ้งข่าวให้เขาหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนกว่าที่เขาจะมีกำลังมากพอ จนถึงตอนนั้นอย่าได้มาที่เมืองภูเขาหยกอีก.”

จำนวนผู้เชี่ยวชาญในตระกูลซ่งมีไม่น้อย อาจจะกล่าวได้ว่าตระกูลเขามีมากที่สุดในสี่ตระกูลใหญ่…

ต่อหน้าซูซางเฟยและอีกสองสาวจากสาวกนิกายเมฆคราม พวกเขาไม่มีอำนาจที่จะต่อต้านได้เลย พวกเขาถูกโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ ตายทันที!

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่อยู่ขั้น 9 ปราณเชี่ยวชาญ ซ่งหยวนนานได้พ่ายแพ้ต่อซูซางเฟยไม่ถึง 10 กระบวนท่า และซูซางเฟยก็ยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมาทั้งหมด!

ตระกูลซ่งถูกทำลาย ตระกูลลั่วที่กำลังสั่นไหวจากแรงลมและฝนอย่างอ่อนแอ พวกเขาจะสามารถรอดได้อย่างไร?

การล่มสลายของตระกูลลั่วจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้า.

นั่นเป็นเหตุผลที่ซ่งหยวนหนานกังวลเรื่องลั่วเทียนแม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ ลั่วเทียนที่ยังคงอยู่ในเทือกเขาวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงต้องให้ลั่วคุณซานไปเตือนว่าเขาจะทำอย่างไร.

ตาของลั่วคุณซานเบิกกว้างและหัวใจของเขาก็ตื่นตระหนก.

โดยไม่รอการตอบสนองจากซ่งหยวนหนานลั่วคุณซานพูดขึ้น: “ท่านควรจะเข้าใจอารมณ์ของลั่วเทียน ถ้าท่านบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญกับการฝึกซ้อมของเขา ดังนั้นเราจึงไม่อาจทำให้การฝึกซ้อมของเขาหวั่นไหวได้”

หลังจากนั้น ซ่งหยวนหนานก็มองออกไปทาวหน้าต่างและพูดเบาๆ: “ข้าเชื่อเขา.”

ทั้งสามก็มองออกไปยังนอกหน้าต่างเหมือนกันพร้อมกับความหวังที่ไม่มีสิ้นสุด.

พวกเขามองไปยังอนาคตเมื่อถึงเวลาที่ลั่วเทียนกลับมา!

ตระกูลลั่ว มองไปยังลานเล็กๆอย่างสง่างาม.

หลีซูเอ๋อร์มีหน้าตาหน้าเกลียดบนใบหน้าและพูดอย่างโกรธๆว่า “ตระกูลกระจ้อยร่อยอย่างตระกูลซู พวกเขาฆ่าคนเหมือนกับตัดหญ้า!”

ใต้ผ้าคลุมดำ หลิงฮานซวง ก็พูดด้วยเสียงที่หนาวเหน็บ: “นี่เป็นกฏของป่าที่ผู้คนสามารถมีชีิวิตอยู่ได้ ตระกูลซ่งได้เปิดเผยว่าเขาได้สนับสนุนตระกูลลั่ว. ตระกูลซูที่ซ่อนไพ่ลับเอาไว้ เมื่อ ซูซางเฟยได้กลับมา ข้าก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าตระกูลซ่งจะต้องได้รับความทรมาณ. สิ่งที่ข้าไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าซูซางเฟยจะชอบฆ่าคน. เขาดูน่ารังเกียจที่คิดว่าการฆ่าคนเป็นการเล่นสนุก.”

จากนั้นซูเอ๋อร์ก็ถาม: “พี่ซวง ท่านคิดว่าตระกูลซูจะมาหลังจากตระกูลลั่ว?”

หลิงฮานซวงตอบ: “ส่วนใหญ่แล้ว ตอนนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ ดูเหมือนตระกูลซูจะบอกว่าลั่วเทียนยังไม่ได้กลับมา.”

“สิ่งที่ตระกูลซูกำลังวางแผนคือการทำลายรากฐานทั้งหมดในครั้งเดียว เมื่อลั่วเทียนกลับมา ข้ากลัวว่า…”

“ฮึ่ม!”

“เมื่อพี่ใหญ่ลั่วเทียนกลับมา เขาจะเอาชนะทุกคนให้อยู่บนพื้น.” หลี่ซูเอ๋อร์เชื่อมั่นในลั่วเทียน คำพูดของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ.

มันเป็นประเภทเชื่ออย่างไม่มีเหตุผล แม้ว่าท้องฟ้าจะร่วงลงมา หลี่ซูเอ๋อร์ก็เชื่อว่าลั่วเทียนจะสามารถกอบกู้ท้องฟ้าได้!

หลิงซูเอ๋อร์หัวเราะอย่างเย็นชา.

เสียงหัวเราะของเธอหนาวเหน็บราวกับภูกเขาน้ำแข็งพันปี เสียงหัวเราะของเธอเต็มไปด้วยการดูถูกและเหยียดหยาม: “เขา? เขาสามารถพัฒนาไปได้มากแค่ไหนในเวลาสั้นๆเพียง 1 เดือน? แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในระดับต่อไป แต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเซียงเฟย ความแตกต่างระหว่างการบ่มเพาะเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง.”

“ฮึ.”

หลี่ซูเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายใจ.

เธอไม่ชอบเมื่อมีคนมาพูดเกี่ยวกับลั่วเทียนในทางที่ไม่ดี หลังจากที่หยุดคิด, “ครั้งล่าสุด พี่ใหญ่ก็ได้ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับกิ้งก่าลาวา เขาก็ยังชนะได้ ข้ายังได้รางวัลเป็นหินหยวน 100 ก้อนจากมัน ตอนนี้ท่านกำลังพูดว่าพี่ใหญ่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับซูซางเฟย พี่ซวง ท่านว่าเรามาเดิมพันกันหน่อยไหม?”

หลิงฮานซวงตอบเสียงเย็น: “ครั้งล่าสุดเป็นข้าที่ตัดสินใจผิด วันนี้จะไม่ใช่อย่างแน่นอน ลั่วเทียนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับซูซางเฟยได้.”

หลี่ซูเอ๋อร์รู้สึกไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้ เสียงของเธอเริ่มดังเป็นอย่างมาก: “พี่ซวง ข้าจะโกรธท่านถ้าท่านยังคงพูดว่าพี่ใหญ่ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับไอ้หัวหมูฟางได้ ¹ เพียงแค่บอกข้าว่าท่าจะเดิมพันมันหรือไม่?”

หลิงฉานซวงตอบ: “ของเดิมพันคือ?”

หลี่ซูเอ๋อร์หัวเราะคิกคัก: “ถ้าข้าชนะ ท่านจะต้องถอดเสื้อคลุมสีดำนั่นออกและคำนับพี่ใหญ่เพื่อขอโทษ ท่ายังต้องพูดว่า ‘นายท่าน, สาวน้อยคนนั้นยอมรับผิด!’”

ผิวของหลิงฮานซวงก็แปรเปลี่ยนไปเรื่อย เมื่อร่างกายของเธอสั่นสะท้าน จากนั้นเธอก็ถามอย่างอดทน: “ถ้าข้าชนะ?”

หลี่ซูเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่ลังเล: “ข้าจะกลับบ้านพร้อมท่านทันที.”

หลิงฉานซวงตอบทันที: “นั่น ก็ดี! ข้าจะบอกล่วงหน้าว่าข้าจะไม่ช่วยพี่ใหญ่ลั่วเทียนของท่าน!”

เธอเกลียดลั่วเทียน!.

มันเป็นเพราะลั่วเทียน หลี่ซูเอ๋อร์จึงไม่เต็มใจที่จะออกจากเมืองภูเขาหยก นอกจากนี้สถานะของหลี่ซูเอ๋อร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่ลั่วเทียนจะมองไปได้ เขาไม่คู่ควรจะหลี่ซูเอ๋อร์.

มีแค่มู่หรงหวันจิงจากเมืองนภาแยกเท่านั้นที่จะเหมาะกับเธอ!

ริมฝีปากของหลี่ซูเอ๋อร์กระตุกน้อยๆด้วยความโกรธ: “อย่างกับว่าพี่ใหญ่ลั่วเทียนจะยอมให้ท่านช่วง เพียงแค่มองดูพี่ใหญ่ของข้าเอาชนะซูซางเฟยจนกระทั่งเขาไม่อาจกลับมาได้ ฮึ!”

หลังจากพูดไป…

หลี่ซูเอ๋อร์ก็ไม่ได้มองกลับมาและเข้าห้องของเธอไป การแสดงออกที่หยิ่งยโสของเธอเพียงอย่างเดียวก็ดูน่ารักไม่ใช่น้อย.

หลังจากที่เข้าห้องของเธอ หลี่ซูเอ๋อร์ก็จับมือไว้และสวดอ้อนวอน: “คุณพ่อต้องอวยพรให้พี่ใหญ่ลั่วเทียนเพื่อให้เขาหลีกเลี่ยงวิกฤติเหล่านี้ได้.”

———-

เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆและพริบตาเดียวมันก็เป็นวันที่ 29 แล้ว.

เมืองภูเขาหยกเงียบมากในเวลานี้ มันเงียบจนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจ.

จุดชุมนุนที่เทือกเขาวิญญาณ.

ลั่วเทียนมองไปที่สาวกทั้ง 10 ที่เขาได้เลือกเข้ามาฝึกฝน เขาไม่อาจรู้สึกตื่นเต้นในขณะที่เขาสังเกตเห็นทุกคนต่างไปจากเดิม.

“ไปเถอะ กลับไปเมืองภูเขาหยก!”

—————-

¹ – ชื่อของตระกูลซู ออกเสียงเหมือนหมู ในภาษจีน หลี่ซูเอ๋อร์จึงเล่นคำเพื่อเรียกเขาว่าหัวหมู

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด