เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 87 – รางวัลลึกลับในกลางคืน

อ่านนิยายจีนเรื่อง Leveling Up and Becoming Undefeatable เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย ตอนที่ 87 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 87 – รางวัลลึกลับในกลางคืน

กลางคืนผ่านไปโดยไม่มีการพูดคุยจนเช้าวันรุ่งขึ้น.

ในจัตุรัสกลางของเมืองภูเขาหยกได้มีการเตรียมตัวสำหรับการแข่งระหว่างตระกูล.

ในเวลานั้น…

ในจตุรัสเต็มไปด้วยผู้คนที่มีชีวิตชีวา.

“พวกแกได้ยินไหม? เมื่อคืนลั่วเทียนได้กลับมาจากการฝึกในเทือกเขาวิญญาณ เมื่อเขากลับมาเขาได้ฆ่าสาวกของนิกายเมฆครามที่หน้าร้านอมตะเมามาย เขาไม่แส่หาความตายหรอกรึ?”

“สาวกนิกายเมฆครามได้ฆ่าคนของตระกูลซ่งเป็นอย่างมาก เขาสมควรได้รับแล้ว”

“ถูกต้อง ให้พวกเขารู้ว่าคนที่อยู่ในเมืองภูเขาหยกไม่ได้เป็นคนที่รังแกได้ง่าย.”

“พวกเจ้าบ้าไปแล้ว? นิกายเมฆครามจะส่งคนที่อยู่ขั้นสุดยอดปราณเชี่ยวชาญมาและทำลายทั้งเมืองภูเขาหยก”

“เจ้าเด็กลฃั่วเทียนอย่างไรก็เป็นคนที่ยโสเกินไป เขาได้ฆ่าทุกคนที่ชนะ เป็นไปได้ว่าตระกูลลั่วจะเดินตามรอยตระกูลซ่ง.”

“ข้าคิดว่าตระกูลลั่วจะไม่กล้ามาแข่งขันในวันนี้ ขึ้นไปบนเวทีก็หมายถึงความตายและตระกูลซ่งที่ถูกทำลายก็เป็นตัวอย่างแล้ว กับคนอ่อนแออย่างตระกูลลั่วพวกเขาคงจะกลัวมากจนฉี่รดกางเกง.”

“555…คราวนี้เป็นชัยชนะที่เด็ดขาดของตระกูลซู.”

คนทั่วไปกำลังพูดคุยกันเรื่องนี้ บางคนกังวลกับตระกูลลั่ว ในขณะที่บางคนก็สนุกกับการเยาะเย้ย.

หลายคนคิดว่าตระกูลลั่วจะไม่กล้ามาปรากฏและต่อสู้.

หนึ่งต้องเข้าใจว่าตระกูลลั่วไม่ได้เพียงเผชิญกับตระกูลซู พวกเขายังต้องรับมือกับการดำรงอยู่กับการต่อสู้ของนิกายเมฆคราม.

นิกายเมฆคราม เป็นเจ้าของพื้นที่ในรัศมีแสนกิโลเมตร โชคชะตาสำหรับการกระทำกับนิกายเมฆครามนั่นเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย.

ลั่วเทียนได้ฆ่าลูกชายของอาวุโสฝ่ายนอก ดังนั้นจึงไม่มีทางใดที่ตระกูลลั่วจะสามารถหลบเลี่ยงชะตากรรมในการถูกทำลายได้.

หลังจากนั้นไม่นาน…

มีกลุ่มคนเดินกันมาจนสุดซอย ขณะที่สาวกชั้นสูงของตระกูลซูเปิดทางให้ พวกเขาตระโกนออกมา: “ถอย ถอย ถอยออกไปซิวะ.”

เสียงของพวกเขาตะโกนกันเต็มอากาศอย่างเย่อหยิ่ง.

นับตั้งแต่ซูซางเฟยได้กลับมา แม้ว่าสาวกจะทำท่าทางป่าเถื่อ แต่ก็ไม่มีใครจ้องตาพวกเขาสักคน.

สาวกชั้นสูงเปิดทางกว้างกว่าสามเมตร สัตว์อสูรที่สูงกว่าหนึ่งเมตรก็ก้าวเข้ามาขณะที่พ่นลมหายใจออกจากจมูกจนเห็นควันสีขาว มันย่ำก้าวไปช้าๆและแบกที่นั่งอันยิ่งใหญ่ของเจ้าของมัน พวกเขามองไปที่ผู้คนเต็มไปด้วยความรังเกียจและไม่เห็นใครในสายตาของพวกเขา.

สัตว์ร้ายตัวใหญ่ความจริงเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 2 ที่เหมือนกับภูเขาย่อมๆ.

สัตว์ร้ายเป็นสิ่งที่ซูซางเฟยเช่ามาจากนิกายเมฆคราม จุดประสงค์ของเขาคือการแสดงออกถึงสถานะในสายตาของผู้คน.

ขณะที่นั่งอยู่หลังสัตว์ร้าย ซูซางเฟย ก็หันไปฟังการพูดคุยของผู้คนที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดวงตาของเขาเย็นชาขณะที่เขาแสดงให้ทุกคนเห็น.

“โอ้โครตเท่!”

“เขาดูดีมาก! ฉันรักคุณพี่ใหญ่ซูซางเฟย!”

“การปรากฏตัวของซูซางเฟยนี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เพียงแค่สัตว์ปีศาจระดับ 2 ที่เหมือนภูเขา…เห้อ สาวกของนิกายเมฆครามอยู่ในระดับที่แตกต่างอย่างมาก.”

“เป็นธรรมชาติ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าเขาเป็นศิษย์ชั้นหนึ่งของสาวกฝ่านนอก? แม้แต่กษัติย์ก็ยังให้ความสนใจเขา ดังนั้นเขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในนิกายเมฆครามในอนาคตแน่นอน.”

พูดโดยสรุปซูซางเฟยเป็นที่นิยมอย่างมาก.

ที่สูงยิ่งกว่าซูซางเฟยคือตระกูลซูที่จะกลายเป็นเจ้าของเมืองภูเขาหยก.

ด้านข้างซูซางเฟยเป็นชายอีกคนที่ขี่สัตว์ร้ายขนาดใหญ่ การแสดงออกของเขาก็ยิ่งเย็นชาและมองต่ำด้วยความรังเกียจขณะที่บางครั้งเขาก็พูดเบาๆด้วยความรังเกียจ: “พวกบ้านนอกนี่อะไรกัน.”

“ซางเฟย ไอ้ขยะของตระกูลลั่วจะไม่ออกมาในวันนี้ใช่หรือไม่?” เฉินซ่งถามด้วยความกังวลขณะที่เขามองเข้าไปในฝูงชน.

ซูซางเฟยยิ้มเย็นชาและพูด: “ไม่ต้องกังวล ข้าได้จัดการให้บางคนเฝ้าทางออกของเมือง แม้ว่าเขาจะหนีไปจนสุดแผ่นดินใหญ่ข้าก็จะไปที่นั่นและฆ่าเขา!”

เฉินซ่งยิ้มรางๆ: “พี่ซางเฟย คุณต้องแสดงให้ดีในครั้งนี้ อารมณ์ของลุงของข้า…”

โดยไม่ต้องรอให้เฉินซ่งจบประฌยค ซูซางเฟยก็ขัดจังหวะ: “แน่นอน ว่าข้าจะให้คำอธิบายแก่อาวุโสเฉิน.”

“ลั่วเทียน เจ้าต้องตายเป็นเศษขี้ในวันนี้!”

“ตระกูลลั่วต้องถูกทำลาย.”

ทั้งสองคนเงียบและสัตว์ใหญ่ทั้งสองก็เดินผ่านไปยังจตุรัสของเมือง.

ทันใดนั้น…

อีกด้านของสนาม มีกลุ่มคนเดินออกมาด้วยความกระตือรือร้น.

มีบางคนตะโกนออกมา: “สมาชิกของตระกูลลั่วมาแล้ว!”

ในขณะที่ผู้คนตะโกนก้องก็เกิดความสับสนจนต้องหันไปมองทางพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นที่ด้านซ้ายของลั่วเทียน มันคือโลลิตัวน้อยน่ารักชุนชุนทางขวามือของเขาคือหลี่ซูเอ๋อร์ที่สวยงามมากจนเธออาจทำให้ผู้คนหดหู่ ด้านหลังของเขาเป็นกลุ่มคนของตระกูลลั่วที่ดูสง่างามราวกับเป็นคนจีนโบราณที่กำลังออกไปสู้รบ พวกเขาดูมีพลังอย่างมาก.

“พี่หญิงซูเอ๋อร์ มีคนมากมายที่นี่และดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก.” ชุนชุนหัวเราคิดคัก.

รอยยิ้มของเธอน่ารักอย่างมาก.

ความน่ารักของเธอมีมากจนหลี่ซูเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะรักเธอเช่นกัน.

ทั้งสองสาวไม่อาจปฏิเสธได้ เมื่อชุนปรากฏตัวหลี่ซูเอ๋อร์ก็ตกหลุมรักเธอทันที เธอยังบอกชุนชุนว่าอย่าเข้าไปใกล้ลั่วเทียนมากเกิดไปเพราะเขาเป็นชายสารเลวที่หลอกลวงอย่างสิ้นเชิง.

และมีเพียงรอยยิ้มเล็กยิ้มน้อย ชุนชุนก็ได้รับชัยชนะ.

จากนั้นเป็นต้นมาชุนชุนมักจะยืนอยู่ข้างหลี่ซูเอ๋อร์ ถ้าลั่วเทียนจะกอดหลี่ซูเอ๋อร์เขาต้องได้รับการยินยอมจากหลี่ซูเอ๋อร์ก่อน.

โศกนาฎกรรมแค่ไหน!

หลี่ซูเอ๋อร์แสดงรอยยิ้มบางๆขณะที่สัมผัสที่ไหล่ของลั่วเทียน. “ขณะที่กลุ่มอื่นนั่งอยู่บนสัตว์ขนาดใหญ่ ขณะที่ท่านเดินมา ท่านคงจะเสียหน้าอย่างมาก?”

“หืม?”

ลั่วเทียนก็แข็งค้างเพียงชั่วครู่เพราะเขาก็รู้สึกไม่สบายใจที่ได้เผชิญหน้ากับเรื่องนี้.

หลี่ซูเอ๋อร์ค่อยๆดึงแขนลั่วเทียนเพื่อที่เธอจะได้กระซิบเบาๆ: “ข้าจะให้กำลังใจท่าน:ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ทั้งหมดในวันนี้ ถ้าท่านชนะพวกเขาทั้งหมด คืนนี้ข้าจะให้รางวัลใหญ่ที่ลึกลับ.”

“คือนี้?รางวัลใหญ่ลึกลับ?” หัวใจของลั่วเทียนเริ่มเต้นเร่า จากนั้นเขาก็มองไปที่ยอดเขาสูงตระหง่านทั้งสองที่อกของหลี่ซูเอ๋อร์และได้ยินเสียงจากลูกกระเดือกของเขา.

หลี่ซูเอ๋อร์กลอกตาและแกล้งทำเป็นโกรธใส่ลั่วเทียน: “ท่านขี้โกง ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?”

ลั่วเทียนหัวเราะอย่างตื่นเต้น, “แน่นอนว่าข้าจะเอาชนะพวกมันทั้งหมดวันนี้เพื่อเจ้า เจ้าพอจะมีคำใบ้หรือไม่?”

“ไม่.”

“ท่านจะได้รู้เมื่อถึงเวลา” หลี่ซูเอ๋อร์ยิ้มอย่างลึกลับ ลักษณะการพูดที่คลุมเครือยิ่งกระตุ้นเป็นอย่างมาก.

น้องชายตัวน้อยของลั่วเทียนเริ่มสั่น คืนนี้มันอาจจะ…ฮึบ ฮึบ ฮูเร่!

“ชุนชุน จับมือของพี่ชายลั่วเทียนไว้ เพื่อให้เขาแสดงความสามารถออกมาได้.” หลี่ซูเอ๋อร์ขดริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม.

ชุนชุนหัวเราะคิกคักก่อนที่จะหยิบมือของลั่วเทียนจากนั้นเธอก็พูดเบาๆ: “พี่ใหญ่ลั่วเทียน ข้าอยากจะจับมือท่านเอาไว้ให้นานกว่านี้ แต่กลัวว่าพี่สาวซูเอ๋อร์จะบ่นข้า นั่นเป็นเหตุผลให้ข้าต้องอดทน…”

ลั่วเทียนถอนหายใจยาว.

“โว้ว ดูนั่น! เจ้าเด็กลั่วเทียนมีโชคกับผู้หญิงไม่เลว.”

“เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม? ข้าไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต.”

“เด็กสาวอีกคนก็เหมือนกัน เพียงแค่มองไปที่รูปร่างอันเร่าร้อนของเธอ ด้วยดวงตาที่เย้ายวนขนาดนี้ ข้าพนันได้ว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้นสักสองสามปี เธออาจจะขโมยวิญญาณติดตัวเธอไปก็ได้.”

“ซูซางเฟยได้ขี่สัตว์ใหญ่มาที่นี่ แต่ลั่วเทียนได้จับมือกับสองสาว ข้าคิดว่าซูซางเฟยคงจะเสียเวลามากเป็นแน่.”

เมื่อซูซางเฟยมองไปที่หลี่ซูเอ๋อร์ที่อยู่ห่างจากลั่วเทียน เขาก็พึมพำ: “มีสาวสวยขนาดนี้ปรากฏตัวเมื่อใดในเมืองภูเขาหยก?”

เฉินซ่งมองด้วยความประหลาดใจก่อนที่จะแย้มริมฝีปากของเขาเป็นรอยยิ้มและพูดเบาๆ: “พี่ซางเฟย ถ้าเราจัดการกับเด็กสาวทั้งสองคนได้ ข้าว่าอารมณ์ของท่านลุงจะลดลงไปกว่าครึ่ง.”

ซูซางเฟยยิ้มเบาๆก่อนจะพูดว่า “เดินช้าๆ.”

ตาของฟางเล่ยหดเกร็งก่อนที่จะวิ่งไปทางลั่วเทียนและพูด: “นายท่านกลุ่มของตระกูลซูเดินช้าลง.”

ลั่วเทียนยิ้มเบาๆและพูด: “ข้าเห็น คิดว่าพวกมันกำลังวางแผนทำให้เกิดปัญหาบางอย่าง?”

หวกว่าพวกเขากำลังก่อนปัญหา พวกเขาก็รนหาที่ตาย?!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด