เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 128 Chapter 129
Chapter 128 –
Chapter 129 – วิกฤตขนาดใหญ่
ในเทือกเขาวิญญาณที่ที่ลั่วเทียนอยู่.
“ตูม~!”
“แม่งเอ้ย คอยดูสิว่าเจ้าจะตายไหม!”
หมัดของลั่วเทียนได้กระแทกอย่างหนักทำให้แมงป่องหินระดับ 5 เขาหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นหนึ่งในกองทัพอันเดตของข้าแล้ว 555…”
เก้าวันเต็ม.
ลั่วเทียนไม่ได้หลับไม่ได้นอนหรือพักผ่อนขณะที่เขาหาสัตว์ปีศาจระดับสูง เขาได้กลั่นกรองแมลงกู่อย่างต่อเนื่อง.
เก้าวันที่มีชีวิตราวกับนรก.
มันช่างมหัศจรรย์อย่างมาก.
แต่เมื่อเขาคิดถึงบอสหยินซางในเมืองภูเขาศพทมิฬและทะเลศพที่อยู่ข้างใต้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูคุ้มค่า.
เก้าวันจากการฆ่าอย่างต่อเนื่องทำให้เขาไปอยู่ในขั้นที่ 9 ของปราณเชี่ยวชาญ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากปราณสุดยอดเชี่ยวชาญเพียงแค่ขั้นเดียวเท่านั้น!
ลั่วเทียนนั่งขัดสมาธิและทำตัวเองให้สงบ ภายในจิตสำนึกของเขามีพลังจากจิตสังหารที่น่าหวาดกลัวจากเส้นทางสังหารของเขาที่พรุ่งผล่านและแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขารู้สึกอึกอัดและเหงื่อของเขาก็ไหลออกมาราวกับสายฝน การแสดงออกของเขาเริ่มซีดเล็กน้อย.
“ฟู่ววว~…”
ลั่วเทียนสูดลมหายพร้อมกับอากาศที่สั่นสะเทือน.
ทันทีหลังจากนั้น…
เขาก็เริ่มขมวดคิ้วและทะเลสติของเขาก็สั่นอย่างรุนแรง จิตสังหารเริ่มแผ่สลายออกและไปกระทบที่วัตถุ เกิดเป็นแมลงกู่ที่มาจากจิตสังหาร!
ขณะที่แมลงกู่ที่เกิดจากจิตสังหารถูกสร้างขึ้นมา ร่างกายของลั่วเทียนก็ผ่อนคลายอย่างที่สุด ราวกับว่าเขาเพิ่งวิ้งมาราธอนมาหมาดๆและร่างกายของเขาก็หมดแรง การกลั่นทักษะกู่นี่มันเหนื่อยอย่างมาก.
ทักษะระดับปฐพี.
ไม่เพียงแต่ใช้พลังปราณเท่านั้น แต่ยังทำให้พลังจิตของเขาหมดไปด้วย.
ถ้าระดับการบ่มเพาะของลั่วเทียนเพิ่มขึ้นการเจ็บปวดก็จะทำให้เขาทรมาณน้อยลงด้วย.
แมลงกู่ตัวเล็กๆปรากฏอยู่บนมือของลั่วเทียน จากนั้นเขาก็วางไว้ที่ปากของแมงป่องหิน แมลงตัวเล็กเริ่มแหวกปากของศพก่อนที่จะเข้าไปภายใน.
“อาจารย์โซระอาโออิและพี่สาวมาเรียโอซาวะ โปรดมอบพรให้ข้าด้วย.”
“ข้ารักเจ้ามากจนตอนนี้เจ้าต้องให้พรข้า ข้าต้องการประสบความสำเร็จในการยิง*เพียงครั้งเดียว.”ลั่วเทียนกำลังอธิฐานในท่าทีที่เคร่งศาสนาอย่างมาก เพราะเขาไม่ต้องการสัมผัสกับการที่พลังจิตของเขาหายไปอย่างต่อเนื่องอีก.(*ยิงในที่นี้หมายถึงการ-แตก เพราะว่าอาโออิและมาเรียเป็นดาราAV)
ไม่นานหลังจากนั้น…
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลั่วเทียนจากการกลั่นสกัดสำเร็จ!”
“เชี่ย!”
“สำเร็จด้วยการยิงครั้งเดียว!”
ลั่วเทียนมองไปบนฟ้าและพูดว่า“แม้ว่าเราจะอยู่ต่างโลกกัน แต่ข้าก็ยังรักเจ้าสุดหัวใจ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของเจ้า ว่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
ในเก้าวันมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำการกลั่นเสร็จในครั้งเดียว.
อย่างไรก็ตามมันอาจจะพูดได้ว่า การบ่มเพาะทักษะกู่นี้ไม่ง่ายเลย ถ้าเจ้าล้มเหลว เจ้าก็ไม่ได้Exp มีแค่การทำสำเร็จเท่านั้นที่จะได้Expและสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของเรื่องนี้อะหรอ? มันต้องใช้ความชำนาญถึง 5,000 แต้มเพื่อเพิ่มให้มันเป็นเลเวล 2….มันดูง่ายอยู่มั๊ย!
แต่…
ในคำอธิบายทักษะ เมื่อทักษะกู่อยู่ในจุดสมบูรณ์แบบ แมลงกู่สามารถทำลายได้แม้แต่ปีศาจหรือเทพ ทั้งหมดได้! มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยใช่มั๊ย?!
มีเสียงสามคำที่ลั่วเทียนอยากจะพูดออกมาว่า“ข้า ชอบ มัน!”
แมลงกู่เริ่มเข้าไปในร่างกายของแมงป่องหินและมันเริ่มลุกขึ้นยืนเหมือนกับมันได้รับการชุบชีวิต จากนั้นมันก็มองมาที่ลั่วเทียนด้วยสายตาที่ไร้อารมณ์.
ลั่วเทียนยิ้มด้วยความพึงพอใจและจากนั้นก็โยนมันลงไปในป้ายมิติ“อีกตัวนึง ตั้งแต่ที่ข้ายังคงมีเวลาเหลืออีกหนึ่งวัน ดังนั้นข้าความจะพยายามเพิ่มอีกสักสองสามตัว ข้าสงสัยถึงฉากนี้ว่ามันจะเป็นอย่างไรหากว่าเอาฝูงสัตว์ปีศาจอันเดตทั้ง 5 ตัวไปยังเมืองภูเขาศพทมิฬ ฮี่ฮี่…”
“มีอะไรที่ยอดเยี่ยมบ้างกับการสร้างยามไม่รู้จักตาย?”
“บิดาได้สร้างสัตว์ปีศาจอันเดตซึ่งเป็นเหมือนกับภูเขาเล็กๆ! พวกมันแต่ละตัวฆ่าคนได้นับพันและไม่เพียงแค่นั้นทุกเส้นทางที่มันผ่านจะเต็มไปด้วยการสังหารเห็นมั๊ย?”
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ หัวใจของลั่วเทียนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.
————-
คืนที่เก้า ที่เผาหลักของโลก.
เนื่องจากพวกเขาอาศัยอยู่ใต้ดินมาตลอดทั้งปีเผ่าหลักของโลกจึงไม่มีแนวคิดกลางวันกลางคืน.
แต่…
เผ่าหลักของโลกอาศัยอยู่ในความมืด เมื่อเทียบกับบนพื้นโลกมันมืดยิ่งกว่า!
หยินซางมาถึงแล้ว!
เขามาถึงก่อนหนึ่งวัน.
นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหวังไว้.
ทั้งผืนฟ้าและผืนดินเต็มไปด้วยยามไม่รู้จักตายมหาศาล ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยเกราะสีดำและการจ้องมองของเขาก็แข็งกร้าวราวกับเหล็ก พวกเขาทั้งหมดยืนเป็นแถวกันเบื้องหลังหยินซาน.
หยินซาง ผู้นำของเมืองภูเขาศพทมิฬ!
ร่างกายของมนุษย์ที่มีแมลงเติบโตอยู่ในหัว!
ความสูงของเขาสูงถึงสองเมตรและบนหัวของเขาก็มีบางอย่างงอกยาวออกมาราวกับไม่ใช่มนุษย์ ตอนนี้มีแมลงตัวหนึ่งที่ดุร้ายอยู่ติดบนหัวของเขา! มันดำราวกับเป็นกลางคืนและปล่อยพลังแห่งความตายที่น่าพรั่งพรึงออกมา.
เขาไม่อาจถูกนับได้ว่าเป็นมนุษย์อีกต่อไป!
หยินซางได้รับการบ่มเพาะที่ไม่ครบถ้วนเมื่อเขาฝึกฝนทักษะกู่ ทำให้เกิดแมลงขนาดใหญ่งอกออกมาจากกระโหลกของเขา.
ในเวลานั้น…
มีผู้หญิงของเผ่าหลักของโลกถูกนำมาไว้รวมกันอย่างแออัดในสถานที่หนึ่ง พวกนางกำลังประสบกับความกลัวอย่างรุนแรง!
“มันเป็นใคร?!”
“มันเป็นใครที่ฆ่าหยู่ฮั่น?! ใครมันเป็นคนฆ่ายามของข้า?!”เสียงของหยินซางคล้ายกับเสียงกรีดร้องภูตผีที่มีเลือดไหลออกมา มีเด็กบางคนเริ่มร้องไห้จากความกลัวมากเกินไป.
การร้องไห้ของเด็กทำให้สายตาของหยินซางมีความดุร้ายอย่างมาก.
แมลงตัวใหญ่ที่อยู่บนหัวของเขาได้ปล่อยกลิ่นอายแห่งความตายออกมา.
เปลวเพลิงจากกลิ่นอายแห่งความตายได้แผ่ออกมาและยกเด็กคนนั้นไปบนอากาศ.
“อย่า!”
“อย่าทำร้ายเด็ก!”
แม่ของเด็กยังคงจับแขนเด็กไว้ เด็กยิ่งเริ่มร้องไห้เสียงดังมากขึ้นและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว.
หยินซางเปิดปากอย่างเย็นชา “ราชาคนนี้ได้เสด็จมาที่นี่พวกเจ้าไม่เพียงไม่รู้จักว่าอะไรดีกับตัวเอง แต่กับเริ่มร้องไห้และร้องเสียงดังเรื่อยๆ ราชาคนนี้ทำให้เจ้ามีความสุขไม่พองั้นหรอ ฮี่ฮี่…”
หยินซางเริ่มหัวเราะอย่างเย็นชา.
ตาของเด็กที่อยู่บนอากาศก็เริ่มถลนออกมาและมีเส้นใยแห่งความตายเข้าไปในปากและหูของเด็กอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเด็กเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทและร่างกายก็กระตุก ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีร่างกายของเด็กก็เริ่มแข็งขึ้น.
แต่…
มันยังไม่จบแค่นี้.
หยินซางเริ่มหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างบ้าคลั่งคล้ายกับวิญญาณที่ออกมาจากเหวนรก แมลงกู่ตัวใหญ่เริ่มสูดลมหายใจเฮือกใหญ่…
“ตูม~!”
กลิ่นอายแห่งความตายก็ระเบิดออกมาจากหยินซาง.
ทันใดนั้นแขนขาของเด็กก็ราวกับถูกสับออกและกองลงตรงหน้าของเด็กคนนั้น
แม่เด็กเริ่มร้องไห้และเริ่มรวบรวมแขนขาของเด็กอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเธอก็วิ่งไปทางหยินซาง.
“มุวฮ่าฮ่าฮ่า…”
“5555…”
“นั่งดอกทองที่รนหาที่ตาย!”
หยินซางหัวเราะอย่างดุเดือดก่อนที่จะชี้นิ้วขวาของเขาโดนเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เปลวเพลิงจากกลิ่นอายแห่งความตายเปลี่ยนรูปร่างเป็นลูกศรที่แหลมคมก่อนที่จะเข้าไปในหัวของผู้หญิงคนนั้น หัวของเธอระเบิดและร่างกายของเธอก็หล่นลงมา เลือดกระเด็นไปที่ใบหน้าของหยิงซางน้อยๆ ก่อนที่เขาจะเลียมันเข้าไปในปาก จากนั้นการแสดงออกของเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เมื่อเขาถามว่า “มีใครจะพูดอะไรไหม? ใครเป็นคนฆ่ายามของข้า?”
ไม่มีการเคลื่อนไหว.
หญิงสาวจากเผ่าหลักของโลกจ้องมองไปที่หยินซาง.
หยินซางเริ่มโกรธขณะที่จ้องไปที่ยายเฒ่า จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาพ“ซือมู๋ เจ้ามีอะไรที่จะบอกข้าหรือไม่?”
ยายเฒ่าเบิกตาจ้องมอง “ฝันไปเถอะ! ข้าควรจะให้ตาเฒ่าข้าเจ้าไปนานแล้ว!”
“5555…”
“ซือมู๋เจ้าควรหยุดล้อเล่นได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้าแล้วเผ่าหลักของโลกจะแข็งแกร่งได้อย่างไร? มันอีกไม่นานก่อนที่เราจะสร้างเส้นทางสังหารและสร้างอาณาจักรที่เป็นของพวกเราและดินแดนไร้ที่สิ้นสุดก็จะไม่มีเผ่าหลักของโลก 5555…”หยินซางเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง.
ทันทีหลังจากนั้น…
การแสดงออกของหยินซางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและพลังอำนาจบางอย่างก็แผ่ออกมาจากร่างของเขา พลังอำนาจนั้นกระแทกไปยังยายเฒ่าทำให้นางต้องคุกเข่าอยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็พูดด้วยความโกรธว่า “นังเฒ่าสารเลว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้ายังมีประโยชน์กับข้า ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับราชายามิในนรกแล้ว!”
“นอกเหนือหญิงสาวพรมจรรย์ทั้งหกแล้ว ที่เหลือฆ่าให้หมด!”
ยามที่อยู่เบื้องหลังของหยิงซางก็เริ่มวิ่งไปด้านหน้า.
ไม่มีใครต่อต้าน.
สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังอยู่ลึกๆ.
หลายคนเริ่มตะโกน“หยินซาง ไอ้หมาบัดซบสารเลว แน่นอนว่าอมตะจะไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
———–
คอมเม้นต์