เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 75 งานเลี้ยง
บทที่ 75 งานเลี้ยง
เข็มกลัดดาราอีก 10 ชิ้น?
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ หลินเป่ยเฉินมีเข็มกลัดดาราอยู่ในการครอบครองถึง 20 ชิ้นเชียวหรือ?
ให้ตายเถอะ!
ใครก็ได้บอกทีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน?
เจ้าเศษขยะมันจะทำได้อย่างไร?
หลินเป่ยเฉินเนี่ยนะตามหาเข็มกลัดดาราได้ถึง 20 ชิ้น ถือเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไปแล้ว เพราะมันเป็นจำนวนที่มากกว่าเข็มกลัดของทุกคนรวมกันตลอดทั้งเก้าวันเสียอีก เว้นแต่ว่าหลินเป่ยเฉินจะหาวิธีโกงเอามาได้เท่านั้น
แต่ก่อนที่ทุกคนจะสลัดความมึนงงทิ้งไปได้ หลินเป่ยเฉินก็เริ่มต้นการประมูลเรียบร้อยแล้ว
ครั้งนี้ บรรดาศิษย์ที่ยังไม่มีเข็มกลัดดาราต่างเข้าร่วมประมูลกันอย่างบ้าคลั่ง
การประมูลดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่ร้อนระอุ
ก่อนที่ 2 เค่อต่อมา เข็มกลัดดาราทั้ง 10 ชิ้นจะถูกประมูลออกไปหมดสิ้น
ครั้งนี้หลินเป่ยเฉินได้มาทั้งหมด 480 เหรียญทองคำ
การประมูลครั้งนี้มีเงินสะพัดมากกว่ารอบแรก
และด้วยเหตุนี้ ศิษย์ที่มีเข็มกลัดดาราจึงมากกว่า 20 คนแล้ว
หลี่เทากับเถาว่านเฉิงเริ่มมีสีหน้าเป็นกังวล
เพราะตลอดเก้าวันที่ผ่านมา พวกเขาเพิ่งหาเข็มกลัดดาราได้คนละชิ้นเท่านั้น
นั่นหมายความว่าต่อจากนี้ไป ไม่มีอะไรรับประกันอีกแล้วว่าพวกเขาจะเข้าสู่รอบ 20 คนสุดท้ายได้สำเร็จ
เซินเฟยก็กำลังขมวดคิ้วด้วยใบหน้าหมองคล้ำ
เด็กหนุ่มกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกคนก็ต้องส่งเสียงฮือฮาอีกครั้ง
หรือว่าโลกนี้ใกล้ถึงคราวล่มสลายกันแล้วนะ
เพราะหลินเป่ยเฉินนำเข็มกลัดดาราออกมาประมูลเพิ่มเติมอีก 10 ชิ้น
เด็กหนุ่มเจ้าของฉายาเศษขยะประจำเมืองหยุนเมิ่งฉีกยิ้มด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา และกล่าวด้วยน้ำเสียงมีความสุขว่า “เด็กหนุ่มเด็กสาวทุกท่าน ข้าสัมผัสได้ว่ายังมีอีกหลายคนกระวนกระวายใจ ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจแล้วที่จะนำเข็มกลัดดาราออกมาประมูลเพิ่มเติมอีก 10 ชิ้น ทุกคนจงฟังให้ดี ใจจริงข้าไม่อยากนำพวกมันออกมาประมูลเลย เพราะฉะนั้นอย่าพลาดโอกาสนี้เด็ดขาด มีแต่พวกเจ้าเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ในครั้งนี้…”
“มีแต่เจ้าต่างหากที่ได้ประโยชน์อยู่คนเดียว!” หลายคนอยากจะสวนกลับเด็กหนุ่มไปเช่นนี้เหมือนกัน แต่ก็ทำได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หลินเป่ยเฉินพูดทุกอย่างเหมือนการประมูลรอบที่แล้วไม่มีผิด
หลิงเฉินที่อยู่ในตัวตนของเจ้าหญิงจอมเผด็จการแทบจะรักษาความเย็นชาของนางไม่ได้อีกแล้ว ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยปราศจากความรู้สึก ขณะนี้เต็มไปด้วยความสับสนและสงสัยยามจ้องมองหลินเป่ยเฉิน นางมั่นใจว่าเต็มที่เขาก็คงมีเข็มกลัดแค่ 20 ชิ้นเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเป่ยเฉินจะหยิบออกมาอีก 10 ชิ้นได้หน้าตาเฉย…เขาคิดว่าเข็มกลัดดาราเหล่านี้เป็นผักหญ้าตามข้างทางที่นึกจะเด็ดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ?
“ช้าก่อน เจ้าไปเอาเข็มกลัดมาจากไหนเยอะแยะถึงเพียงนี้? หลินเป่ยเฉิน หวังว่าเข็มกลัดของเจ้าคงไม่ใช่ของปลอมหรอกกระมัง?” เถาว่านเฉิงอดถามออกมาไม่ได้
คำถามของเขาคือสิ่งที่หลายคนกำลังสงสัย
นี่คือเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อเกินไป
หรือว่าหลินเป่ยเฉินจะมีฝีมือในการเป็นช่างหลอมอย่างหาตัวจับยาก ทำให้เขาสามารถปลอมเข็มกลัดดาราได้แนบเนียนขนาดนี้?
หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอ หยิบเข็มกลัดดาราส่งให้หลิงเฉินตรวจสอบด้วยความสุขุมเยือกเย็นและกล่าวว่า “แม่นางหลิง ช่วยตรวจสอบให้ข้าหน่อยว่านี่คือเข็มกลัดดาราของจริงหรือไม่?”
หลิงเฉินรับเข็มกลัดไปพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน นางถึงกับใช้พลังสสารลึกลับตรวจสอบด้วยซ้ำ แล้วไม่กี่อึดใจต่อมา นางก็พยักหน้าที่สวยงามปานรูปปั้นแกะสลักของตนเอง ยืนยันกับทุกคนว่าเข็มกลัดดารานี้ “เป็นของจริง”
เกิดความแตกตื่นยิ่งกว่าอุกกาบาตพุ่งชนโลกเสียอีก
หลายคนเกิดหลากหลายความรู้สึกปนเปกันไป
หลิงเฉินย่อมพูดจาเชื่อถือได้ที่สุดแล้ว
มันเป็นของจริง
เข็มกลัดดาราของหลินเป่ยเฉินเป็นของจริง
พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เจ้าเศษขยะไร้ความสามารถอย่างหลินเป่ยเฉิน สามารถตามหาเข็มกลัดดาราได้ถึง 30 ชิ้น
เขาทำได้อย่างไรกัน?
ความคิดต่างๆ มากมายผุดขึ้นมาในสมองของทุกคน
แต่ในไม่ช้า ก็ไม่มีใครสนใจเรื่องราวนี้อีกแล้ว
เพราะว่าการประมูลเริ่มขึ้นแล้ว
แม้แต่เถาว่านเฉิงก็ยังเข้าร่วมการประมูล
“60 เหรียญทองคำ…”
“65 เหรียญ!”
“100 เหรียญ! ข้ายินดีจ่าย 100 เหรียญทองคำ”
บรรยากาศตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง
เถาว่านเฉิงคำรามเสียงดังว่า “ข้ายินดีจ่าย 200 เหรียญทองคำ!”
ทันใดนั้น ทุกคนเงียบกริบกันทันที
นับเป็นราคาสูงสุดตั้งแต่เปิดการประมูลมาแล้ว
หลินเป่ยเฉินยิ้มรักษามารยาท พูดว่า “ขอโทษที แต่ข้าไม่มีทางขายให้เจ้าเด็ดขาด”
“ว่าไงนะ?” เถาว่านเฉิงใบหน้ากระตุกด้วยความฉุนเฉียว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
หลินเป่ยเฉินตอบว่า “นี่เจ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือ? ข้าว่าข้าก็พูดชัดเจนแล้วนะ”
“ข้ายินดีจ่าย 200 เหรียญทองคำ” เถาว่านเฉิงพูดอีกครั้งด้วยความเดือดดาล “ข้าประมูลราคาสูงที่สุด”
หลินเป่ยเฉินเหยียดยิ้ม “ต่อให้เจ้ายอมจ่ายหมื่นเหรียญทองคำ ข้าก็ไม่เห็นเจ้าอยู่ในสายตา เจ้ามีปัญหาไหมล่ะ?”
ใบหน้าของเถาว่านเฉิงหมองคล้ำ พูดว่า “เจ้า…เจ้าทำผิดกฎการประมูล!”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอ “ใช่ ข้าทำผิดกฎ แล้วเจ้าจะกระโดดงับคอข้าหรือไง?”
“เจ้า…” เถาว่านเฉิงพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
เขารู้ดีว่าหลินเป่ยเฉินมีเจตนาไม่ให้เขาเข้าร่วมการประมูล
แต่มันก็เป็นปัญหาที่เถาว่านเฉิงจนปัญญาจะแก้ไข
เพราะจะเอาชนะแย่งชิงมาก็ไม่ได้
จะเข้าร่วมการประมูลก็ไม่ได้
เขาทำอะไรหลินเป่ยเฉินไม่ได้เลยจริงๆ
“เอาละทุกคน เมื่อสักครู่นี้ มีใครให้ราคาเท่าไหร่บ้างนะ…?”
การประมูลดำเนินต่อไป
หลังจากนั้น หลี่รุ่ยก็ประมูลไปได้ด้วยราคา 200 เหรียญทองคำ
เมื่อเห็นว่าหลี่รุ่ยได้เข็มกลัดดาราไปครอบครองด้วยราคาที่เท่ากับข้อเสนอของตนเอง เถาว่านเฉิงก็ทั้งโกรธแค้นและกระวนกระวาย เพราะหมายความว่าตอนนี้หลี่รุ่ยมีลำดับคะแนนแซงหน้าเขาไปแล้ว ทำให้สถานการณ์ของเถาว่านเฉิงย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ
แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
กาลเวลาไหลผ่านไป
พริบตาเดียว หลินเป่ยเฉินก็ได้รับสัญญากู้ยืมเป็นมูลค่าสูงถึง 700 เหรียญทองคำ
เหล่าศิษย์อัจฉริยะ อาทิ หลี่รุ่ย จั้วไคซิน หวังซินอวี่ ต่างก็ประมูลเข็มกลัดไปครอบครองเป็นชิ้นที่สอง ทำให้ในขณะนี้มีลำดับคะแนนเทียบเท่ากับเซินเฟย แซงหน้าหลี่เทากับเถาว่านเฉิงสองอัจฉริยะจากสถานศึกษากระบี่หลวงไปเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร ต่อให้ถูกแซงหน้า แต่อย่างน้อยเราก็ยังติดอยู่ใน 20 อันดับแรกอยู่ดี”
ถึงเถาว่านเฉิงจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็แอบโล่งอกในเวลาเดียวกัน
เป้าหมายของเขาในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องลำดับคะแนน แต่เป็นการเข้าสู่รอบต่อไปให้สำเร็จ
ตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็ยังมีความหวังเสมอ
เหมือนที่เซินเฟยได้กล่าวเอาไว้ ขอแค่พวกเขาเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ก็ยังมีโอกาสแก้แค้นอีกมากมาย
เซินเฟยตบไหล่สองลูกสมุนเป็นการปลอบใจ ส่งสายตาเป็นสัญญาณบอกให้พวกเขาใจเย็นลง
แต่วินาทีต่อมา กลับเป็นเซินเฟยเองที่ต้องตื่นตระหนก
ไม่ใช่แค่ตื่นตระหนกเท่านั้น เรียกว่าเกือบเสียสติเลยดีกว่า
นั่นเป็นเพราะว่าหลินเป่ยเฉินนำเข็มกลัดดาราออกมาประมูลเพิ่มอีก 10 ชิ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่รู้ร้อนรู้หนาว
บ้าไปแล้ว
เหล่าศิษย์ต่างพร้อมใจกันร้องอุทานด้วยความเหลือเชื่อ
หลินเป่ยเฉินมีเข็มกลัดดาราอยู่กับตัวถึง 40 ชิ้นได้อย่างไร?
หรือเขาแอบรู้ข้อมูลว่าเข็มกลัดดาราถูกซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง?
หลายคนเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะว่ามันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป
แต่หลินเป่ยเฉินไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาตั้งคำถาม รีบเปิดการประมูลรอบที่ 4 โดยทันที
“50 เหรียญทองคำ”
คราวนี้ เพียงคนแรกก็ให้ราคาที่มากกว่าราคาตั้งต้นถึงห้าเท่าแล้ว
ส่วนคนที่ร่วมประมูลหลังจากนั้น ก็ได้ให้ราคาที่สูงกว่าอีกหลายเท่า
“100 เหรียญทองคำ…”
“120 เหรียญ!”
“210 เหรียญ…”
ทุกคนส่งเสียงร้องตะโกนสุดปอด บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ่อนพนัน พวกเขาพากันเสนอราคาอย่างขาดสติ จนเกิดเป็นเสียงครื้นเครงไม่ต่างจากมีงานเลี้ยงกลางป่า
และแม้แต่บรรดาศิษย์ที่เคยประมูลเข็มกลัดดาราได้ไปแล้ว พวกเขาก็อยู่เฉยไม่ได้อีกแล้วเช่นกัน
คอมเม้นต์