เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 145 – ตาบ้าเอ้ย!! ในที่สุดเจ้าก็มา
เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 145 – ตาบ้าเอ้ย!! ในที่สุดเจ้าก็มา
ทําไมถึงมีเสียงเตือน?
ลั่วเทียนตกตะลึงกับสิ่งนี้และจดจ่ออยู่กับเสียงเตือน
“ติ้ง!”
“ขอแสงความยินดีด้วยกับผู้เล่นลั่วเทียนสําหรับการกําจัดพิษให้กับ องค์ชายเก้าถังจิ่ว ได้คะความชื่นชม 1,000 แต้ม.”
“พุช-!”
“เวรเอ้ย ต้องการอะไรจากบิดากันแน่ ข้าไม่ได้เป็นแกย์นะ! ถึงต้องใช้ผู้ชายมาชอบพี่สาวเจ้าสิไอ้ระบบสารเลว บิดาคนนี้ไม่ต้องการผู้ชาย!”ลั่วเทียนตะโกนพลางกรอกตา จริงๆแล้วหัวใจของเขารู้สึกโล่งอก ขณะที่ถอนหายในเพราะนี่ถือว่าเป็นการประสบความสําเร็จในการกําจัดพิษนี้ถือได้ว่าลัวเทียนได้ช่วย ถึงองค์ชายเก้าออกมาจากประตูนรก.
ถังจิ่วค่อยๆลืมตาและมองไปที่ลั่วเทียน ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าและพูดอย่างขึงขัง “ขอบคุณ!”
ชื่อจริงของเขาถือถังหมิง แต่เนื่องจากเขาเป็นองค์ชายคนที่เจ้า เขาเลยได้อีกเชื่อว่าถังจิ่ว. (ถังเก้า)
เมื่อลั่วเทียนถ่ายทอดวิญญาณเข้าไปในร่างของถังจิ่ว เขาก็สามารถรับรู้ได้ แต่ไม่อาจตอบโต้เพราะแมลงภู่ควบคุมเขาอยู่ ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะตายที่นี่และอนาคตทั้งหมดของเขาจะถูกฝังในสถานที่แห่งนี้
อนาคตที่สดใสของเขา
ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงหรือสํานักทะเลเมฆ อนาคตของเขา ล้วนประสบความสําเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้น
จากเจ้าชายหลายคน ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นที่หนึ่งและเขาก็ได้รับการยกย่องอย่างมากจากอาวุโสของสํานักทะเลเมฆ เขายังอายุไม่ถึง 30 ปี แต่ก็มาอยู่ในขอบเขตปราณวิญญาณขั้น 5 แล้ว นี่เป็นระดับที่หลายๆคนไม่อาจไปถึงได้ตลอดชั่วชีวิตของพวกเขา มีอาวุโสคนหนึ่งได้ทํานายอนาคต ของเขาว่าเขาจะก้าวไปสู่ปราณราชาก่อนที่เขาจะอายุ 50 ปี
..
เขาไม่คิดเลยว่าเรือละล่องของเขาจะมาล่มจมอยู่ที่เมือง ซากศพทมิฬ
ทุกอย่างที่ถังจิ่วทํามาได้กลายเป็นขี้เถ้า เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจกับอนาคตที่สดใสของเขา แต่เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับความตายแบบนี้ ในสถานที่แบบนี้ที่ไม่มีใครสนใจ ความตายของเขาจะไม่มีค่าใดๆ.
เมื่อเขาได้ยินเสียงลั่วเทียนผ่านทางจิตวิญญาณของเขา ถังจิ่วก็ตื่นเต้น ความปรารถนาของเขาที่จะมีชีวิตอยู่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก.
มันเหมือนกับว่าเขาได้คว้าฟางช่วยชีวิตขณะที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร เขาเต็มใจให้ความร่วมมือกับถั่วเทียนอย่างสมบูรณ์
ทันทีที่เขาลืมตา เขาก็คุกเข่าโดยไม่ลังเล
ลั่วเทียนเป็นคนที่ 3 ที่ทําให้เขาคุกเข่าได้ตลอดชีวิตของเขา
คนแรกที่เขาคุกเข่าให้คือ ท่านพ่อของเขาที่อยู่บนบัลลังก์ คนที่สองที่เขาคุกเข่าให้คืออาจารย์ของเขาในนิกายทะเลเมฆ เมื่อเทียบกับสองคนก่อนหน้านี้แล้ว เขารู้สึกว่าครั้งนี้เป็นเรื่องจริงจังที่สุดในชีวิตของเขา หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณโดยไม่อาจพูดใดๆออกมาได้ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อเขา เขาไม่สามารถแสดงออกไปอย่าใดๆได้ นอกจากสองคําง่ายๆ-ขอบคุณ
แต่คําสองคํานี้เป็นครั้งแรกที่เขาเคยพูดมาตลอดชีวิตในระยะเวลา 30 ปีมานี้
ลั่วเทียนช่วยพยุงเขาอย่างรวดเร็วและพูดสบายๆ “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”
หลังจากที่ช่วยผยุงเขาขึ้นมาแล้ว ลั่วเทียนก็หลบออกไป ด้านข้างและพูดว่า “เจ้าควรจะเอาซากหนอนไปทิ้งซะหลังจากนี้ เพราะงั้นเจ้าควรออกไปได้แล้ว”
ถังจิ่วไม่ได้พูดอะไรและออกไปข้างนอกทันที
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ซีดเซียว ปากของเขาถูกเช็ดให้สะอาดโดยไม่มีอะไรเหลืออก
ลั่วเทียนยิ้ม “คนที่ช่วยเจ้าจริงๆคือเขา หากเขาไม่สอนวิธีให้ข้าช่วย ข้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้ ร่างกายของเจ้าจะรู้สึก อ่อนแอมากในตอนนี้ดังนั้นเจ้าควรจะพักผ่อนให้ดี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
ถังจิ่วมองไปที่ไปเม่ยและโค้ง 90 องศา ไปเม่ยยิ้มตอบกลับมาแทน
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ถังจิ่วและลั่วเทียนก็พูดว่า “ดี ถ้าอย่างนั้นข้าก็รับปากเจ้าได้เลยและข้าจะอยู่ที่นี่”
“ดี. ”
“ตอนนี้ไปพักผ่อนซะ”
ลั่วเทียนยิ้มบางๆยิ่งเขามองไปที่ถังจิ่วยิ่งทําให้เขารู้สึกดี จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเองว่า “มันเป็นเรื่องดีที่ข้าไม่ช่วยคนผิด”
หลังจากนั้น
ลั่วเทียนก็ไม่ได้หยุดพักและไปหาฉินหยู่เอ๋อร์ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเบาๆ
ไปเม่ยขัดจังหวะเขาและถามว่า “นี่ ไอ้หนู เจ้าใช้พลังวิญญาณมากเกินไปแล้ว เจ้าไม่พักสักหน่อยหรือ?”
ลั่วเทียนประสบความสําเร็จในเวลาสั้นๆ
เขาไม่มีเหงื่อเลยเพราะงั้นเขาเลยไม่ต้องพัก
แต่ไม่ใช่กรณีนี้
การกําจัดพิษกู่จริงๆแล้วใช้พลังงานวิญญาณมากกว่าการกลั่นพิษ แม้ว่าพลังของลั่วเทียนจะเพิ่มเป็นพันเท่า แต่วิธีการก็ยังทําให้เขาเบื่อ ลั่วเทียนไม่หยุดพัก เพราะเขาหยุดพักไม่ได้ การตายของลี่เล่ยตานทําให้เขารู้สึกว่าต้องรีบ
หยินซางมาได้ทุกวินาที
ลั่วเทียนต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่าเพื่อเลเวลอัพ.
ปราณวิญญาณ ขั้น 9 นั้นแข็งแกร่งเกินไป แข็งแกร่งจนลั่วเทียนต้องทําทุกอย่างแม้ว่าจะแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้าย
ยังมียามอมตะอยู่มากมายที่เหลืออยู่ในทะเลศพ แม้ว่าคะแนนประสบการณ์จะเริ่มได้น้อยลง แต่มันก็ยังมีจํานวนมากพร้อมให้เขา
ลั่วเทียนส่ายหัวและพูด “ไม่จําเป็น เราเหลือเวลาไม่มาก”
ทันทีหลังจากนั้น
ลั่วเทียนถ่ายพลังวิญญาณในทะเลจิต คราวนี้เขายังเพิ่มจิตสังหารไปด้วยเพราะการกําจัดพิษกู้ไม่ต่างไปจากการต่อสู้ ตั้งแต่นี้เป็นการต่อสู้ เพราะงั้นเขาจึงจําเป็นต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อที่เขาจะสามารรถรวบรวมมาได้ เขากําลังไปฆ่าด้วยพลังที่แข็งแกร่งที่สุด!
ยิ่งกว่านั้น คราวนี้เป็นฉินหยู่เอ๋อร์,
นางมีงามแทบจะเป็นหนึ่งเดียว!
แม้ว่านางอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงของเขาในอนาคต แต่ลั่วเทียนก็ไม่ต้องการให้โลกนี้ขาดสาวงามไป.
จับไปที่ข้อมือของฉินหยู่เอ๋อร์ ลั่วเทียนก็ส่งพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในร่างกายของนางและพูดในจิตใจอย่างรวดเร็วว่า “นี่พี่สาย ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว อย่าปล่อยให้จิตใจของเจ้าวอกแวก เจ้าจะเป็นอิสระหลังจากที่เราฆ่าแมลงภู่”
เมื่อลั่วเทียนเริ่มต้นกระบวนการ
เสียงของฉินหยู่เอ๋อร์ที่มีเสน่ห์และน่าลุ่มหลงก็พูดว่า “เจ้าตัวร้าย ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่ปล่อยข้าทิ้งเอาไว้”
“เอ่อ…”
“นี่พี่สาว นี่คือเสียงทางจิตของเจ้างั้นหรอ?”ลั่วเทียนรู้สึกประหลาดใจเพราะเขาไม่คิดว่าฉินหยู่เอ๋อร์จะยังเหลือเจตจํานงไว้อยู่
มีเสียงหัวเราะน้อยๆก่อนที่ฉินหยู่เอ๋อร์จะพูดว่า “เมื่อเห็น เจ้าถูกหยินซางจับตัวไป ข้าก็เห็นดวงตาของเจ้ายังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ผู้ชายที่ข้าใฝ่ฝันจะตายง่ายๆได้อย่างไร การมองการณ์ไกลของพี่สาวคนนี้เยี่ยมแค่ไหน! เมื่อข้าสงสัยว่าหยินซางกําลังปลูกฝังแมลงภู่ในสมอง ข้าก็รู้ว่ามันต้องเกี่ยวกับจิตใจ ข้าไม่ได้คิดอะไรมาก ข้ารีบผนึกส่วนนี้เข้าทันที”
เพียงแค่เห็นจากท่าทางของลั่วเทียน ฉินหยู่เอ๋อร์ก็สามารถเดาออกได้ทันที!
นางฉลาดมากพอๆกับหน้าอกของนางอย่างแน่นอน!
สมองใหญ่และอกโต และสติปัญญาณของนางที่มีมากมายจนน่ากลัว นี่คือฉินหยู่เอ๋อร์อย่างแท้จริง
ลั่วเทียนรู้สึกตกใจกับสิ่งนี้และพูดว่า “พี่สาว เจ้าควรจะให้ความร่วมมือกับข้าในตอนนี้ เราจะฆ่าแมลงภู่นั่นด้วยกัน เจ้าอาจจะเจ็บอย่างมาก แต่เจ้าต้องสะกดเอาไว้ อย่างลดการป้องกันลงไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะเสียเปล่า”
เสียงหัวเราคิกคักออกมาจากฉินหยู่เอ๋อร์ นางพูดด้วยน้ําเสียงที่ยั่วยวนและบางเบา “พี่สาวคนนี้จะร่วมมือกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าต้องการจะทําอะไร พี่สาวคนนี้จะให้ความร่วมมือกับเจ้าเป็นอย่างดี ”
“ข้า…”
เมื่อได้ยินคําพูดของนาง ปีศาจที่ชั่วร้ายในใจตั๋วเทียนก็เริ่มโหมกระหน่ำทันที
ร่างกายของเขาเริ่มร้อน ความคิดของเขาก็เริ่มกระฉับกระเฉงภายในจิตใจของฉินหยู่เอ๋อร์
ความตั้งใจใจทางที่ผิดปกตินี้ฉินหยู่เอ๋อร์ไม่มีทางรู้เนื่องจากกําลังเชื่อมต่อกันอยู่
ฉินหยู่เอ๋อร์หัวเราคิกคักและพูดว่า “เจ้าหยาบคายมาก ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กอย่างเจ้าจะหมกหมุ่น 108 ท่ากามาสูตร? ท่าหมาคืออะไร? คาวเกิร์ล? พี่สาวคนนี้คิดว่าเจ้าแตกต่าง จากพวกผู้ชายคนอื่นๆ แต่เจ้าก็เหมือนกับพวกเขา”
ความคิดของลั่วเทียนหายไป เมื่อเขาตระหนักว่าความคิดของเขาถูกเผยแล้ว จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเองกว่า “ตอนนี้ ข้าอยากจะตายจัง!”
เมื่อเขาต้องการจะอธิบาย เขาก็รู้ว่าไม่มีทางที่จะอธิบายได้
จากนั้น
ลั่วเทียนก็ถามตรงๆว่า “พี่สาว เจ้าต้องการลองไหม?”
เขาทําดีที่สุดแล้วและปล่อยทิ้งมันออกไป
พูดอย่างอื่นมันอาจจะเป็นเรื่องโกหก ตอนนี้มันจะดีกว่าที่เขาจะพูดตรงๆ
ฉินหยู่เอ๋อร์ไม่คิดว่าลั่วเทียนจะตรงไปตรงมขนาดนี้ ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่นางเอียงอายตอบออกมาว่า เชร็ดโด้!
เลือดเกือบจะไหลออกจากจมูกของลั่วเทียน เขาคิดว่าฉัน หยู่เอ๋อร์จะตะโกนใส่เขา แต่ไม่คิดว่านางจะเห็นด้วยทันที เลือดของเขากําลังเดือดและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลัง ลั่วเทียนพูดอย่างรวดเร็ว “พี่สาว ข้าจะฆ่าแมลงภู่เดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นเราสามารถ ฮึฮึ”
ลั่วเทียนไม่อาจรอได้อีกแล้ว!
คอมเม้นต์