This Star is a bit Salty – บทที่ 9 ถกเถียง
ไม่…มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนไว้
ฉันรู้จักอาจารย์และเพื่อนของหลี่หาน แต่ฉันก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเด็กอายุ 20 จะเก็บความลับได้เก่งขนาดนั้น
ถ้างั้นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด
ก็คือผู้แต่งเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” คือคนอื่น หรือไม่ก็หนึ่งในทีมงานที่สร้าง
โดยที่หลี่หานมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
แต่มีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนนั้นมันยากที่จะพูด
ส่วนเหตุผลที่หลี่หานมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นก็ไม่แน่ใจ
บางทีเขาอาจจะบังเอิญ
โดยทีมงาน “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” ตั้งใจให้หลี่หานกลายเป็นผู้สร้างเพลงเพื่อโปรโมท
นักดนตรีอัจฉริยะที่พึ่งเรียนจบมา ช่างเป็นอะไรที่น่าดึงดูดนัก!
ทั้งหมดนี่ก็เพื่อมูลค่าของตั๋วหนังแน่นอน
ซึ่งแน่นอนว่าทีมงานพวกนั้นทำสำเร็จ
แค่เพลงก็เป็นเพลงที่ดีมาก แต่การที่ได้รู้ว่าผู้สร้างเพลงนี้เป็นอัจฉริยะด้านดนตรีที่เพิ่งจบการศึกษาแล้วมันก็กลายเป็นจุดสนใจบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
ส่วนนี้ค่อนข้างเพิ่มมูลค่าตั๋วหนังให้ “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” ได้เป็นอย่างดี
และหลี่หานก็ได้รับประโยชน์อย่างมากด้วย
นั่งอย่างสบายใจอยู่ที่บ้านก็มีชื่อเสียงตกลงมาหาเขาจากท้องฟ้า
น่าอิจฉาที่ชะมัด
ครูที่รู้จักหลี่หานส่ายหัวและหัวเราะ บางครั้งการที่จะมีชื่อเสียงก็ต้องใช้โชค
ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าหลี่หานโชคดีมากในครั้งนี้
ไม่ว่าจะโด่งดังแค่ไหนโด่งดังก็คือโด่งดัง
แต่อย่างไรชื่อเสียงนี้ก็ไม่ได้อยู่นานมากนัก
เพราะว่ามันไม่ใช่ความสามารถของหลี่หานจริงๆ ถ้าเขาไม่สามารถสร้างเพลงที่ดีแบบนี้ได้ในอนาคต
ในอนาคตเขาก็จะถูกลืมไปเอง
ด้วยโชคแบบนี้ ก็เหมือนกับแสงไฟที่ปรากฏขึ้นมาเพียงแปปเดียวแล้วก็ดับไป
บรรดาอาจารย์ที่รู้จักหลี่หานมักจะคิดแบบนี้ แต่นักศึกษาคนอื่น ๆ ที่รู้จักหลี่หานกลับคิดต่างออกไป
แถมยังคิดแตกต่างกันอีกด้วย
บางคนก็แค่อิจฉา อิจฉาในโชคของหลี่หาน
นอกจากนี้ยังมีคนที่อิจฉาและอารมณ์เสียมาก ทำไมเด็กผู้ชายที่การเรียนธรรมดาถึงมีโชคและมีชื่อเสียงขนาดนี้ได้?
ถึงแม้ว่าชื่อเสียงนี่จะเกิดขึ้นกับเขาเพียงแค่ครั้งเดียวก็เถอะ
ถ้าหากหลี่หานเป็นอัจฉริยะด้านดนตรีจริง ๆ ทุกอย่างก็คงไม่เป็นไร แต่หลี่หานนั้นไม่ใช่
เพราะงั้นเลยทำให้ผู้คนอิจฉา
ในหมู่พวกเขา มีอีกคนที่อิจฉาและไม่มีความสุขมากที่สุด
เขาก็คือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง เหยียนอี้ปิน
เหยียนอี้ปินเป็นผู้ชายที่เคยเขียนเพลงและร้องมันด้วยตัวเขาเอง
แม้ว่าเพลงนั้นจะไม่ได้ดัง แต่ก็มีความนิยมในระดับหนึ่ง
สำหรับเหยียนอี้ปิน นี่เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น เหยียนอี้ปินก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงการดนตรี
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เหยียนอี้ปินไม่พอใจมาก
ทำไมการที่จะโด่งดังมันถึงยากขนาดนี้!
โชคดีที่เขานั้นเป็นคนที่มีคนชื่นชมอยู่พอสมควร
ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเย่อหยิ่งอยู่เล็กน้อย
แต่ตอนนี้นักศึกษาที่ไม่รู้ความจริงก็จะคิดว่าเขาไม่ใช่อันดับหนึ่งของมหาลัยอีกต่อไป
กระทู้พูดคุยมหาลัย
“จริงเหรอเนี่ย? โรงเรียนของเรามีอัจฉริยะซ่อนอยู่อีกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่เหยียนอี้ปินเหรอที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับหนึ่งของมหาลัย? หลี่หานนี่ใครกัน ไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย!”
“บางทีหลี่หานอาจจะเป็นคนที่เงียบ ๆ ก็ได้ อัจฉริยะที่อยู่ติดดินอะไรแบบนั้น”
“ถ้างั้นก็คงเป็นหลี่หานที่เป็นอันดับหนึ่งของมหาลัย ไม่ใช่เหยียนอี้ปิน”
“แน่นอน เหยียนอี้ปินแม้แต่เขียนเพลงยังไม่ได้เลยมั้ง”
“……”
ดูเหมือนว่าอันดับหนึ่งของมหาลัยจะกลายมาเป็นหลี่หานซะแล้ว
กลุ่มนักศึกษารุ่นน้องหลงเชื่อเรื่องพวกนี้อย่างง่ายดาย ทำเอาเหยียนอี้ปินแทบจะกลายเป็นบ้า
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
แค่โชคดีเท่านั้นแหละ หลี่หานไม่เพียงได้กลายเป็นอันดับหนึ่งของมหาลัย แต่ยังมีชื่อเสียงมากกว่าเขาอีก
ในความคิดของเหยียนอี้ปินนี่ มันเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้ที่สุด
เขาคืออัจฉริยะตัวจริงและเขาควรจะได้รับชื่อเสียงแบบนี้ ไม่ใช่หลี่หาน
เขาจะต้องหาวิธีทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าหลี่หานไม่ได้เป็นคนทำเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต”
อย่างน้อยก็ต้องทำให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยโดยให้พวกเขาสงสัยในทีมงาน “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก”
เขาติดต่อกับคนอื่น ๆ ในโมหาลัยที่มีความอิจฉาและไม่มีความสุขพอ ๆ กันและเปิดเผยความจริงทั้งหมดทางอินเทอร์เน็ต
“หลี่หานเนี่ยนะเป็นคนแต่ง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ? เป็นไปได้ด้วยเหรอ? ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลี่หาน ความสามารถของเขาไม่สามารถที่จะแต่งเพลงนี้ได้หรอก คนแบบเขาเนี่ยนะ?”
“หลี่หานอาจจะมีส่วนร่วมในการสร้าง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ก็จริง แต่คงไม่ได้ทำอะไรมากหรอก พูดมาได้ยังไงว่ามันเป็นผลงานของเขา”
“ที่หนึ่งด้านการแต่งเพลงของมหาวิทยาลัยการดนตรีหนานซีก็คือเหยียนอี้ปิน ด้วยบทเพลง “เมื่อวาน” ที่ร้องโดยนักร้องชื่อดังอย่างหยูเชียนฮวาซึ่งเป็นผลงานของเหยียนอี้ปิน”
“ฉันก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลี่หาน ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ค่อนข้างดีแต่สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือ “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” อะไรนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นผลงานของเขา อย่างน้อยก็ไม่ใช่งานที่เขาสร้างด้วยตัวคนเดียว ได้โปรดอย่าฆ่าเขาเลย…”
“”จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ควรเป็นผลงานทีมไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงใส่ชื่อของนักศึกษาจบใหม่กัน?”
“เป็นโฆษณาของพวกทีมงาน “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” ไงล่ะ”
“……”
เสียงเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก
แต่สื่อบันเทิงบางแห่งสังเกตเห็นเสียงเหล่านี้ ซึ่งทำให้พวกเขาตื่นเต้นอีกครั้ง
มีปัญหาอะไรกัน? เพื่อนร่วมชั้นของหลี่หานมีคำถามงั้นเหรอ?
เยี่ยม! โอเค! เยี่ยมไปเลย!
“จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” จะเป็นของหลี่หานหรือไม่? พวกสื่อไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
สิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือประเด็นที่ร้อนแรง
ตอนนี้เหมือนจะมีประเด็นที่ร้อนแรงอีกแล้ว
“อัจฉริยะด้านดนตรีที่เพิ่งจบการศึกษาโดนตั้งข้อสงสัย “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” นั้นหลี่หานเป็นคนแต่งจริง ๆ งั้นเหรอ?
“ ‘จิ้งจอกขาวและบัณฑิต’ เป็นผลงานทีม? หลี่หานแค่เข้าไปช่วยด้วยเฉย ๆ ?”
“นักศึกษาหลี่หาน ความสามารถของเขาอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สามารถสร้างผลงานอย่าง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต ออกมาได้!””
“อัจฉริยะจะร่วงก่อนที่จะได้เติบโตงั้นเหรอ? หลี่หานถูกตั้งคำถามว่าเขาไม่ใช่ผู้แต่ง ‘จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต’”
“……”
หลังจากการรายงานดังกล่าวของสื่อก็ทำให้ชื่อเสียงของเหยียนอี้ปินและคนอื่น ๆ ได้ถูกคนอื่น ๆ รับรู้
นักศึกษาและคนอีกหลาย ๆ คนก็ได้เห็นมัน
การประกาศเรื่องนี้ทำให้เกิดการถกเถียงมากมาย
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงภายในของมหาวิทยาลัยการดนตรีหนานซี
“พวกรุ่นพี่ต่างตั้งคำถามกันว่า”จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ไม่ได้ถูกสร้างโดยหลี่หานจริงเหรอ? ขอบอกเลยว่าคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนจะกลายเป็นอัจฉริยะทางดนตรีได้อย่างไรนี่ มันเป็นโฆษณาเกินจริงชัด ๆ !”
“ไม่รู้สิ แล้วถ้าพวกรุ่นพี่แค่อิจฉาชื่อเสียงของหลี่หานเฉย ๆ ล่ะ?”
“แต่พวกเราก็ไม่เคยได้ยินชื่อหลี่หานไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยนี่ก็คือความจริงนะ แล้วก็เป็นไปได้ที่ตอนที่เขาเรียนอยู่เขาอาจจะไม่เปิดเผยตัวก็ได้”
“ถ้างั้นเหยียนอี้ปินก็คืออันดับหนึ่งของมหาลัยใช่ไหม?”
“มันน่าจะเป็นอย่างงั้นนะ ฉันไม่รู้จะเชื่อใครดีตอนนี้?”
“นั่นสิ! เรื่องแบบนี้เชื่อใครไม่ได้เลยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือปลอม น่ารำคาญโคตร!”
“……”
……
คอมเม้นต์