การตอบโต้ของผู้แข็งแกร่ง [Strongest Counterattack] – บทที่ 21 ฉันมารอแกอยู่นานแล้ว…

อ่านนิยายจีนเรื่อง การตอบโต้ของผู้แข็งแกร่ง Strongest Counterattack ตอนที่ 21 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 21 ฉันมารอแกอยู่นานแล้ว…

 

มันเป็นเรื่องปกติที่จะบอกออกมาว่า “อุบัติเหตุหรือวันพรุ่งนี้คุณจะไม่มีทางรู้ว่าสิ่งใดจะมาถึงก่อน”

 

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ผู้คนกลัว อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือหัวใจของมนุษย์และเรื่องตลกร้ายของเขา บางทีต่อให้คุณพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องพวกเขา แต่ผลลัพธ์อาจก็อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ

 

อย่างไรก็ตามซิงเฉิงต้องการที่จะไปได้มันมาด้วยความแข็งแกร่งของเขาเอง ชายหนุ่มเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน และถึงแม้ว่าซิงเฉิงจะแพ้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ปกป้องความภาคภูมิใจของตัวเองเอาไว้

 

จ้าวฉวนได้จัดการเรื่องจำเป็นต่าง ๆ กับผู้นำของเมืองเทียนฉุยเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นทำเอากองกำลังตำรวจอยู่ในอาการตกตะลึง ได้มีการตั้งหน่วยพิเศษสำหรับการตรวจสอบขึ้นมาทันที ในไม่ช้าตำรวจบางนายก็ถูกส่งไปที่โรงแรมเพื่อบันทึกปากคำจากซิงเฉิงและหานปิง จากข้อมูลที่ได้รับ พวกเขาค่อย ๆ ขยายพื้นที่การค้นหาออกไป

 

ผู้คนในหมู่บ้านหานตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ว่าญาติสองคนของหานปิงได้หายตัวไป

 

เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาให้การเสร็จ มันก็ตีสามเข้าไปแล้ว หานปิงรู้สึกหมดแรงหลังจากที่ต้องส่งญาติบางคนกลับไป ซิงเฉิงรู้ว่าหญิงสาวรอเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดกับเธออย่างนุ่มนวล “ตอนนี้พักก่อนเถอะ ฉันอยู่ในห้องนั่งเล่นนี่แหละ อยากได้อะไรก็บอกฉันได้นะ”

 

ทันใดนั้นหานปิงก็เดินเข้ามากอดเขา ภาพตรงหน้าทำให้ซิงเฉิงทำตัวไม่ถูก ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนของหานปิงที่มาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมจากร่างกายของเธอ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“อย่าทิ้งฉันไปอีก เข้าใจนะ?” หานปิงพูดด้วยเสียงสั่น เธอเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ตื่นจากฝันร้าย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชั่วโมงที่ผ่านมามันมากเกินกว่าที่หญิงสาวจะทนรับได้ หานปิงรู้สึกราวกับว่าเธอพร้อมที่จะพังทลายลงได้ทุกช่วงเวลา

 

ซิงเฉิงยกแขนของเขาและกอดเธอไว้แน่น ชายหนุ่มพูดกับหานปิงอย่างมั่นใจ “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ไปไหนหรอก”

 

ซิงเฉิงออกจากห้องหลังจากที่หานปิงหลับไป เขานั่งในห้องนั่งเล่นและสูบบุหรี่ เฉินเป่ยหมิงและผู้เฒ่าหวู่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้หายไปไหน แม้ว่าพวกเขาจะไปเซี่ยงไฮ้แล้ว แต่มันก็ยังมีอันตรายที่ไม่อาจจะรู้ได้ ชายหนุ่มต้องการคนที่ไว้ใจได้อย่างน้อยสองคนมาช่วยเขา

 

ทันใดนั้นภาพของภูเขาซงนานก็เข้ามาในใจของซิงเฉิง

 

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังจากทำการจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับซิงเฉิงและหานปิงแล้ว จ้าวฉวนก็เดินทางกลับไปยังมณฑลหลาน เขาเป็นคนที่มีงานยุ่งและไม่สามารถอยู่ต่อได้นานเกินไป

 

ทางด้านซิงเฉิงและหานปิงเอง พวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุเมื่อคืนก่อน รถที่พวกเขาขับรถในช่วงเวลาของเหตุการณ์นั้นถูกยกออกไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีข่าวของเฉินเป่ยหมิง ผู้เฒ่าหวู่และญาติทั้งสองของพวกเขาเลย

 

เมื่อตำรวจนำพวกเขาไปยังที่เกิดการต่อสู้ สภาพแวดล้อมทุกอย่างดูเหมือนจะสอดคล้องกับคำให้การของซิงเฉิงและหานปิง เมื่อเขาและเธอเห็นคราบเลือด พวกเขาก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับข่าวร้ายที่สุดไว้แล้ว

 

คุณหานมีอำนาจมากพอสมควรในเทียนฉุย หลังจากสั่งให้พวกตำรวจคิดวิธีแก้ปัญหาบางอย่าง และบอกให้ติดต่อกับหานปิงเมื่อมีความจำเท่านั้น ซิงเฉิงและหานปิงเมื่อทั้งสองคนให้การกับตำรวจเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ในตอนบ่ายด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจี 450

 

ที่เซี่ยงไฮ้ เจิ้งปิงและจ้าวตงเฉิงเองก็ได้โทรไปหาหานปิงหลายครั้งเพื่อกระตุ้นให้เธอรีบกลับมาจัดการเรื่องสำคัญของบริษัท เมื่อธุรกิจไม่มีพ่อของเธอแล้ว มันก็ทำให้ออฟฟิศดูวุ่นวาย และดูราวกับว่าบริษัทจะล่มสลายได้ทุกเวลา

 

เมื่อเฉินเป่ยหมิงและผู้เฒ่าหวู่หายไป ซิงเฉิงก็ต้องอยู่เคียงข้างกับหานปิงตลอดเวลา ก่อนออกเดินทางไปหาเพื่อนที่ชื่อ ฮาวเหล่ย ซิงเฉิงเองก็ได้ติดต่อกับเพื่อนสนิทของเขาคนนี้ไว้ก่อนนหน้าแล้ว ฮาวเล่ยคนนี้เข้าร่วมกับกองทัพทันทีหลังจากที่เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม ก่อนจะถูกปลดประจำการในปีนี้ ซิงเฉิงได้ยินจากโอเหมิงว่าฮาวเหล่ยเป็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในกองทัพและยังเคยได้รับรางวัลสำหรับสิ่งที่เขาทำ ดังนั้นทุกคนจึงพากันประหลาดใจเมื่อเขาขอออกจากกองทัพ

 

ตอนนี้ฮาวเหล่ยอยู่ที่บ้านของตัวเองหลังจากถูกปลด เขายังคงหางานทำไม่ได้ ซิงเฉิงได้ถามอย่างไม่เป็นทางการว่าเพื่อนของเขานั้นเต็มใจที่จะมาเซี่ยงไฮ้หรือไม่ ถ้าเขาไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร

 

ชายหนุ่มแปลกใจที่ฮาวเหล่ยตกลงทันที เพื่อนของซิงเฉิงให้เหตุผลว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะไปเซี่ยงไฮ้และดูว่ามีงานทำหรือไม่ เขาสามารถกลับบ้านได้เสมอหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ความสัมพันธ์ของซิงเฉิงกับฮาวเหล่ยนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าเพื่อนของเขาจะต้องได้รับความสะดวกสบายอย่างแน่นอน สิ่งแรกที่ชายหนุ่มมอบหมายให้ฮาวเหล่ยทำคือค้นหาความช่วยเหลือจากชายชราในเทือกเขาซงนาน

 

ซิงเฉิงได้มอบข้อมูลที่จำเป็นให้กับฮาวเหล่ย ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสถานที่ที่จะพบชายชราในเทือกเขาซงนาน สิ่งเดียวที่น่ากังวลก็คือชายชราคนนั้นอาจจะออกจากภูเขาซงนานไปแล้วก็เป็นได้

 

ทันทีที่ฮาวเหล่ยวางหูโทรศัพท์ เขาก็ออกเดินทางไปยังเทือกเขาซงนานด้วยรถของเขาทันที

 

เมื่อ จี 450 ลงจอดที่เซี่ยงไฮ้ ตอนนั้นดวงอาทิตย์ได้คล้อยลงต่ำและความมืดมิดก็เริ่มเข้ามาเยือนมหานครแห่งนี้อีกครา ซิงเฉิงไม่ไว้วางใจคนของพวกหานเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงขอให้เจียเซียนเป่าช่วยหารถไปส่งพวกเขาที่เคหะฮัวหลุน 9 ไมล์หน่อย

 

ตั้งแต่ครั้งเครื่องบินลงจอดที่สนามบินผู่ตง ซิงเฉิงก็รู้ว่าเขาจะต้องระมัดระวังในทุกสิ่งที่เขาทำ ความผิดพลาดใด ๆ ที่ประมาทอาจทำให้ต้องจ่ายด้วยชีวิตของพวกเขา

 

เมื่อคิดว่าผู้เฒ่าหวู่และเฉินเป๋ยหมิงต่างก็เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องหานปิง ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาต้องทำให้หานปิงปลอดภัยโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

 

มีความแตกต่างกันอย่างมากในเซี่ยงไฮ้และหมู่บ้านหาน ดังนั้นเมื่อกลับมาที่เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ นั่นจึงทำให้ซิงเฉิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อยในเมืองใหญ่ที่วุ่นวายแห่งนี้ ในทางกลับกันหานปิงก็ผล็อยหลับไปในขณะนี้พิงไหล่ของเขา

 

ซิงเฉิงคิดว่าเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าชายชราในเทือกเขาจงหนานจะยอมช่วยเหลือเขาหรือไม่ ซิงเฉิงไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไต่อไป สิ่งที่เขาสามารถได้ตอนนี้คือค่อยเป็นค่อยไป และก้าวอย่างช้า ๆ

 

เมื่อมาถึงที่เคหะฮัวหลุน 9 ไมล์ ซิงเฉิงก็พาหานปิงเข้าไปในบ้าน และกำลังจะไปหาที่พักก่อน

 

“นายจะไปไหม?” หานปิงพูดอย่างใจจดใจจ่อ

 

ซิงเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่หรอก ต่อให้เธอไล่ฉันก็ไม่ไป ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะ”

 

“นายนี่ก็ไม่เลวร้ายเหมือนกันนะ” หานปิงว่าแล้วขยิบตา

 

ซิงเฉิงไม่มีแรงพอจะเล่นมุกกับหานปิง ยิ่งกว่านั้นพวกเขาเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น ชายหนุ่มตบหานปิงเบา ๆ บนไหล่ของหญิงสาวแล้วส่งเธอเข้านอน

 

หานปิงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วและเข้านอน เธอเหนื่อยล้าจริง ๆ และต้องการพักผ่อน

 

หลังจากที่หานปิงหลับไปแล้ว ซิงเฉิงก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อรอให้เจียเซียนเป่ามาถึง

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซิงเฉิงก็ลงบันไดไปชั้นล่างเพื่อพบกับเจียเซียนเป่า พวกเขาจุดบุหรี่กันและเริ่มพูดคุยกับที่ใต้บันได ในขณะที่บอดี้การ์ดของเจียเซียนเป่าเองก็ยืนเฝ้าอยู่ที่ประตู

 

“นี่โชคดีมากเลยนะ ที่พวกนายยังมีชีวิตรอดมาได้” เจียเซียนเป่าพูดแล้วพ่นลมหายใจออกมา

 

“อย่าพูดอะไรที่มันเป็นลางแบบนั้นสิ” ซิงเฉิงพูดด้วยท่าทางอ่อนล้า

 

ไม่เพียงแต่หาน เกาผิงเท่านั้นที่ได้พบกับความตาย เฉินเป่ยหมิงและผู้เฒ่าหวู่เอง ทั้งสองคนก็ได้เจอเข้ากับความพินาศที่เข้ามาอย่างฉับพลัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปหานปิงจะสามารถต้านทานการถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังได้อย่างไร?

 

“ฉันบอกนายแล้วว่าอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ แต่นายก็ไม่ฟัง” เจียเซียนเป่าว่า

 

ซิงเฉิงถอนหายใจแล้วว่าต่อ “ตอนนี้ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นไปตามที่คิด”

 

“งั้นตอนนี้มีแผนยังไงบ้าง?” ด้วยปัญหาทั้งภายในและภายนอก เจียเซียนเป่าเองก็รู้สึกสงสัยในสิ่งที่ซิงเฉิงกำลังจะทำ

 

“ผมมีคนรู้จักอยู่สองคนที่ซีอาน เรื่องนี้ผมคงจะต้องให้คนช่วยเหลือหน่อย ผมจะคุยกับหานปิงหลังจากที่เธอตื่น เราจะทำการตัดสินใจในตอนนั้น” ซิงเฉิงพูดสิ่งที่คิดอยู่ออกมา

 

เจียเซียนเป่าชี้ไปที่ซิงเฉิงและตำหนิเขาว่า “แล้วจะให้ฉันทำยังไงต่อ? ฉันได้ติดต่อจ้าวฉวน เพื่อจัดการทุกอย่างในเทียนฉุย ดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องกังวล หากนายต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในเซี่ยงไฮ้ก็บอกมา ด้วยอำนาจของฉันในเซี่ยงไฮ้ ฉันคิดว่าฉันยังคงสามารถปกป้องนายจากการตายบนท้องถนนได้บ้าง”

 

“ขอบคุณครับลุงเจียง ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ” ซิงเฉิงพูดอย่างไม่อาย

 

“ก็ดี งั้นขอตัวก่อนแล้วกัน” เจียเซียนเป่าลุกขึ้นแล้วจากไป

 

ซิงเฉิงกลับไปที่ห้องนั่งเล่นหลังจากเจียเซียนเป่าออกไป เขากำลังรอข่าวจากฮาวเหล่ย ไม่ว่าเพื่อนของเขาจะประสบความสำเร็จในภารกิจของเขาหรือไม่ ยังไงฮาวเหล่ยก็ต้องมาที่เซี่ยงไฮ้ก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ หากว่าช้ากว่าที่นัดไว้นั่นก็แสดงว่าพวกเขากำลังมีปัญหาเสียแล้ว

 

หลังจากฮาวเหล่ยและซิงเฉิงพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ฮาวเหล่ยก็ได้ออกเดินทางไปยังเขาซงนานทันที มันเป็นงานที่น่าเบื่อในการตามหาชายชรา สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจอดรถและเดินไปที่กระท่อมของเป้าหมาย

 

เมื่อเดินไปตามเส้นทางที่ซิงเฉิงแนะนำ ฮาวเหล่ยใช้เวลาในการค้นหานานเกือบสองชั่วโมง เท้าของเขาเกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว แต่ในที่สุดเขาก็มาถึงครึ่งทาง ถ้าจะขึ้นไปบนภูเขา มันจะมีเส้นทางหินเล็ก ๆ ที่นำไปสู่กระท่อมแบบง่าย ๆ อยู่บนทางนั้น รอบ ๆ จะมีต้นไม้ไม่กี่ต้นและมีผักขึ้นให้เห็นอยู้บ้าง

 

ฮาวเหล่ยเพิ่งได้ยินข่าวลือว่ามีผู้ฝึกตนหลายคนที่อาศัยอยู่ในเขาจงหนาน อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอสถานที่ดังกล่าว เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้เข้าสู่สังคมเกษตรกรรมในอดีต

 

“มีใครอยู่ไหมครับ?” ฮาวเหล่ยส่งเสียงออกมา เขาเห็นแสงสีเหลืองในกระท่อมผ่านหน้าต่าง ไฟไม่ได้มาจากหลอดไฟฟ้า แต่มันมาจากตะเกียงน้ำมันก๊าด

 

ผ่านไปนานแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ

 

ลึกเข้าไปในภูเขา เสียงของพวกสัตว์ป่าที่มาพร้อมกับบรรยากาศน่าขนลุกดังก้องออกมา โชคดีฮาวเหล่ยเป็นคนใจแข็ง ถ้าเป็นคนธรรมดาคนอื่นคงจะหนีไปด้วยความกลัว

 

เขาขยับเข้ามาใกล้กระท่อมมากขึ้น ฮาวเหล่ยเกร็งไปทั้งร่าง เขาอยู่ในโหมดพร้อมวิ่งในกรณีที่มีอะไรอันตรายเกิดขึ้น ในที่สุดเขาก็ผลักเปิดประตูไม้ส่งเสียงดังเอี๊ยด

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงตอบรับกลับมา “ขอต้อนรับ ผู้มาเยือนจากแดนไกล”

 

เสียงนั่นฟังดูแหบห้าวราวกับว่ามันมาจากชายชราบนเตียงที่ร่างกายใกล้โรยรา แม้แต่ฮาวเหล่ยก็ผงะและแทบจะทรุดลงตรงนั้นเลยเมื่อได้ยิน

 

อย่างระมัดระวัง เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปและมองเข้าไปใกล้ ๆ ที่มุมหนึ่งของสายตาได้มีชายชราสวมเสื้อคลุมยาวสีเทานั่งไขว่ห้างอยู่ข้างหน้ากองไฟ เหนือกองไฟนั้นมีชาหอมกรุ่นที่กำลังเดือดอยู่ วิธีการตกแต่งภายในกระท่อมถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สองสามชิ้นเท่านั้น

 

“รู้จักซิงเฉิงไหมครับ? เขาให้ผมมาพบท่าน” ฮาวเหล่ยพูดอย่างระแวดระวัง

 

ไม่มีใครรู้ว่าชายชราผู้ที่มีผมหงอกยาวและหน้าเหี่ยวย่นเป็นผู้ฝึกตนไหม แน่นอนเขาดูเหมือนผู้ฝึกตนเฒ่าที่ร้ายกาจ

 

ฮาวเหล่ยรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับชายคนนี้ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

 

“โชคชะตานำพาทุกสิ่ง ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว” ชายชราพูดออกมาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่

 

ฮาวเหล่ยสับสน เขาไม่เข้าใจว่าชะตากรรมที่ชายชราคนนี้พูดถึงอะไร

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด