การตอบโต้ของผู้แข็งแกร่ง [Strongest Counterattack] – บทที่ 31 ฉันเริ่มที่จะชอบนายแล้วล่ะ
บทที่ 31 ฉันเริ่มที่จะชอบนายแล้วล่ะ
ทั้งโจวเหวินหวู่และหาน เกาผิง ทั้งสองคนนี้ล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตในเซี่ยงไฮ้ หากชายคนนี้ไม่ได้ทำลายหาน เกาผิง ซิงเฉิงก็คงจะชื่นชอบคนคนนี้อยู่ไม่น้อย เพราะเขาเป็นคนที่ทะเยอทะยานและโหดเหี้ยม โจวเหวินหวู่จะไม่มีทางปีนขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ได้ถ้าเขาเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ ความรุ่งโรจน์ทั้งหมดที่เขาเพลิดเพลินมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการทำงานหนักบนเส้นทางที่เขาวางไว้
มันช่างน่าเสียดายที่เขาโหดเหี้ยมและน่ารังเกียจ แถมชายผู้นี้ยังมายุ่งกับซิงเฉิง สิ่งนี้นำไปสู่จุดจบของเขาในวันนี้
โจวเหวินหวู่ไม่ได้คาดหวังว่าชีวิตที่มีสีสันของเขาจะจบลงด้วยวิธีที่น่าเศร้าแบบนี้ เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงวัยชรา และสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดก็คือการที่เขาต้องมาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของใครก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครที่จะเป็นดวงดาวจรัสแสงในเซี่ยงไฮ้ได้ตลอดไป
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉางป๋าจี้ที่จะฆ่าคน แต่ก็ไม่มีทางที่นักฆ่าทุกคนจะไม่เคยได้รับความทรมานทางจิตใจจากการที่ฆ่าใครสักคน นี่น่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฆ่าคน ซิงเฉิงสามารถเห็นความเด็ดขาดในการเคลื่อนไหวของฉางป๋าจี้ได้อย่างชัดเจน มันไม่ใช่ครั้งแรกของเขามิฉะนั้นทำไมมันดูง่ายสำหรับฉางป๋าจี้แบบนี้?
ซิงเฉิงเคยฆ่าคนมาก่อนหรือไม่? เขาทำเช่นเดียวกับสิ่งที่ฉางป๋าจี้พูดคนจริงจะต้องฆ่า ผู้ชายที่น่าเกรงขามที่สุดคนใดที่ไม่ได้เหยียบย่ำคนอื่นในขณะที่ปีนเขาสูงขึ้น? นอกจากนี้การฆ่าอาจเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการแก้ปัญหา บางครั้งมันอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาวิธีเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีบางคนที่สมควรตาย หากพวกเขาถูกทิ้งให้มีชีวิตพวกเขาจะกลายเป็นหายนะต่อสังคม
ซิงเฉิงฆ่าคนครั้งแรกเมื่อไหร่กัน?
ที่ชายแดนของหยุงกุ๋ย ชายหนุ่มได้ฆ่าคนที่สมควรตาย อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้เขานอนไม่หลับหลายคืน หลังจากผ่านไปได้หนึ่งเดือนกว่าที่เขาจะหายจากอาการนี้ในที่สุด
แม้ว่าหัวใจของโจวเหวินหวู่จะถูกแทงโดยฉางป๋าจี้อยู่สองสามครั้ง แต่ฉางป๋าจี้ก็ยังไม่วางใจ เขากลัวว่าเขาอาจพลาดอะไรบางอย่างไป ดังนั้นฉางป๋าจี้จึงแทงเข้าไปที่หน้าอกอีกด้านของโจวเหวินหวู่อีกสองสามครั้ง เรื่องนี้ทำให้ซิงเฉิงได้แต่ตกใจอย่างเงียบ ๆ
ฉางป๋าจี้เงยหน้าดูซิงเฉิงหลังจากสิ่งที่เขาทำ “ทำไม? หรือว่าไม่เคยฆ่าใครมาก่อน” เขาพูดราวกับว่าเขากำลังพูดกับเด็กน้อย
“เคยสิ” ซิงเฉิงพยักหน้าแข็ง ๆ
ฉางป๋าจี้พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง “หลังจากทำไปอีกสองสามครั้ง นายจะไม่รู้สึกไม่สบายใจอีกเลย สิ่งที่นายควรจะจำไว้คือคนพวกนี้สมควรตาย”
ซิงเฉิงหยุดคุยกับฉางป๋าจี้ ตามความคิดของเขา มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนดีที่จะไปถึงนิพพาน ในขณะที่คนชั่วร้ายเพียงแค่ใช้มีดฆ่าคนเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเองเท่านั้น
ชายสองคนเติมถังน้ำมันด้วยหินและปิดผนึกด้วยซีเมนต์ ก่อนที่พวกเขาจะโยนถังลงไปในทะเล ในที่สุดทั้งคู่ก็ทำภารกิจสำเร็จแล้ว
โจวเหวินหวู่ผู้ทรงอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้จะหายไปจากพื้นพิภพนับจากนี้เป็นต้นไป
เว้นแต่ว่าซิงเฉิงและฉางป๋าจี้จะทิ้งร่องรอยบางอย่างที่คนค้นพบในเวลาต่อมา ไม่งั้นคงไม่มีทางที่ทุกคนจะรู้ว่าโจวเหวินหวู่ตายอย่างไร ทั้งหมดที่พวกเขารู้ก็คือชายผู้นี้ได้หายตัวไปอย่างสมบูรณ์จากพื้นผิวโลก
เมื่อถึงเวลาที่ซิงเฉิงและฉางป๋าจี้กลับมาสู่เมือง มันก็เกือบจะเป็นเวลาช่วงอยู่แล้ว รุ่งอรุณเข้ามาขับไล่ความมืดมิด ซิงเฉิงเลื่อนหน้าต่างแล้วสูบบุหรี่ ความคิดผ่านใจของเขา มีคนมากมายที่อาศัยอยู่ในเมืองที่สร้างขึ้นนี้ใครจะสังเกตได้ว่ามีกี่คนที่หายตัวไปจากโลก?
ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นแบบนี้นี่แหละ
แทนที่จะกลับไปที่ฮัวหลุน ซิงเฉิงและฉางป๋าจี้กลับมุ่งหน้าไปที่สวนฉือเหมาริเวอร่าเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่คือที่ ๆ ฮาวเหล่ยและฉางป๋าจี้ทิ้งข้าวของของพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ เมื่อฉางป๋าจี้อาบน้ำเสร็จ เขาก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับสนิทอย่างรวดเร็ว เขาเพียงสั่งให้ซิงเฉิงปลุกเขาเมื่อพร้อมที่จะไป
ซิงเฉิงไม่สามารถหลับได้เลย สิ่งที่ชายหนุ่มต้องการตอนนี้ก็คือการจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตระกูลหาน เขาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเองได้เสียที เขาไม่สามารถสลัดความคิดอันแสนทะเยอทะยานไปได้หากเขาไม่ได้ลงมือทำ
ข่าวการหายตัวไปของโจวเหวินหวู่ทำให้หลายคนสั่นคลอน มีหลายคนที่ตามหาเขา ท้ายที่สุดชายคนนี้ก็มีความสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย การหายตัวไปของเขามีผลกระทบอย่างมากต่อเจ้าหน้าที่หลายคน น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถค้นพบอะไรได้หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คนที่กังวลที่สุดก็คือจ้าวตงเฉิน เขาเกี่ยวข้องกับคนคนนี้โดยเริ่มจากการสนับสนุนของโจวเหวินหวู่ในการพยายามต่อสู้เพื่อความมั่งคั่งของตระกูลหาน จ้าวตงเฉินจะต้องพึ่งพาพลังและทรัพยากรของโจวเหวินหวู่ เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการหากกลุ่มธุรกิจเกาผิงประกาศล้มละลายและปรับโครงสร้างในขณะนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือโจวเหวินหวู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“พวกแกมันโง่สิ้นดี! ออกไปหาโจวเหวินหวู่มา! ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตาย อย่างน้อยฉันต้องได้เห็นศพของเขา ไม่ต้องคิดจะกลับมาถ้าหาไม่พบ ออกไปซะ!” จ้าวตงเฉินตะโกนใส่ลูกน้องของตัวเองในคลับส่วนตัวของกลุ่มธุรกิจเกาผิงซึ่งเขาเป็นผู้อุปถัมภ์
ลูกน้องของจ้าวตงเฉินเริ่มให้คำแนะนำโดยกล่าวว่า “ลูกพี่ โจวเหวินหวู่อาจจะตายไปแล้วก็ได้? เขาทำให้หลายคนเดือดร้อนและมีคนตั้งมากมายอยากจะฆ่าเขา ถ้าไม่ใช่เพราะชายคนนั้นเป็นผู้สนับสนุนของเรา เรื่องอาจจะเกิดเร็วกว่านี้อีกก็ได้”
“พูดอะไรที่เป็นมงคลมากกว่านี้ไม่เป็นรึไง?” จ้าวตงเฉินโกรธมากจนเขาโยนซิการ์ที่สูบอยู่ไปหาอีกฝ่ายที่พยายามหลบอย่างรวดเร็ว
จ้าวตงเฉินถูกต้อนเข้ามุม การเสียชีวิตของโจวเหวินหวู่ไม่เพียงมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาสามารถได้รับจากความมั่งคั่งของตระกูลหานเท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกกล่าวว่าชีวิตของเขาและครอบครัวอาจตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย หาน เกาผิงสร้างความขุ่นเคืองให้กับหลาย ๆ คนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและเขาก็เป็นคนสนิทของหาน เกาผิง ซึ่งหมายความว่าเขาเองก็ได้ทำให้คนอื่นขุ่นเคืองด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้น เขาเองก็ไม่มีทางที่จะปรามพวกผู้บริหารในบริษัทได้
หลังจากการตายของหาน เกาผิง มันเป็นเพราะโจวเหวินหวู่ปกป้องเอาไว้จึงไม่มีใครกล้าทำร้ายเขา ทั้งนี้ต้องขอบคุณโจวเหวินหวู่ที่ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ตอนนี้โจวเหวินหวู่หายตัวไป นั่นก็เท่ากับว่าจ้าวตงเฉินสูญเสียการสนับสนุนและศัตรูของเขาก็ไม่คงไม่มีทางปราณีอีกต่อไป เป็นแบบนี้แล้วเขาจะไม่กังวลได้อย่างไร?
“อย่าเพิ่งโกรธเลยลูกพี่ เจ้าเหว่ยเพียงพูดความจริงเท่านั้น เราต้องคิดถึงวิธีแก้ปัญหาในตอนนี้และเตรียมรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด” ผู้ติดตามคนอื่นของเขาแนะนำ
จ้าวตงเฉินพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “เอาล่ะ บอกฉันหน่อยว่าอะไรคือวิธีแก้ปัญหา?”
“เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนพวกนั้นได้เพราะมีคนจำนวนมากกำลังจับตามอง และเมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากลูกพี่โจวพวกเราเองก็ไม่ใช่คู่ของพวกเขา” ลูกน้องที่พูดกับที่จ้าวตงเฉิงที่ชื่อว่าจู่เหลียงน้อยพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ
จ้าวตงเฉินไม่ใช่คนธรรมดา แน่นอนเขารู้ว่าเขาไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มธุรกิจเกาผิง เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง เขาต้องเสียสละผลประโยชน์โดยปราศจากการสนับสนุนจากพันธมิตรที่ทรงพลัง
“ต่อไปเราจะต้องหาพันธมิตรใหม่ ตัวนายท่านหานเองก็ได้สร้างศัตรูไว้กับคนหลายคน ผมกลัวว่าพวกเขาอาจจะมาตามเล่นงานพวกเรา” จู่เหลียงน้อยกล่าวต่อ
จ้าวตงเฉิงที่กำลังรู้สึกเป็นทุกข์พูดว่า “เราจะหาใครได้ในเวลานี้”
“คนที่เคยสนับสนุนโจวเหวินหวู่” จู่เหลียงน้อยพูดด้วยความมั่นใจ
การแสดงออกของจ้าวตงเฉินเปลี่ยนไปเมื่อเขาเริ่มไตร่ตรอง “นั่นคงเป็นเรื่องยาก แม้ว่าโจวเหวินหวู่จะไม่ดูถูกฉัน แต่ผู้ชายคนนั้นก็คงไม่อยากจะมายุ่งกับฉันหรอก”
“ผมมีความคิดบางอย่างครับ” จู่เหลียงน้อยยิ้มและพูด
หลังจากที่เขาบอกจ้าวตงเฉินว่าเขาคิดอะไรอยู่ ใบหน้าของจ้าวตงเฉินก็ปรากฏแววตาแห่งความหวังขึ้นมา นี่อาจเป็นทางออกเดียวจากที่มีอยู่
เมื่อไม่มีโจวเหวินหวู่ ตัวจ้าวตงเฉินเองก็ไม่มีอะไรเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นอาจครั้งแรกหลังจากที่หาน เกาผิงชีวิต ที่หานปิงทำงานไปได้อย่างราบรื่น จ้าวตงเฉินไม่ได้กดดันเธออีกแล้ว และเจิ้งปิงเองก็ช่วยเหลือหญิงสาวเป็นอย่างดี การประกาศการล้มละลายและการปรับโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจเกาผิงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหา
ในที่สุดหานปิงก็สามารถหยุดพักได้เมื่อเรื่องสำคัญถูกส่งมอบให้กับเจิ้งปิง
ร้านกาแฟใกล้ ๆ อาคารซงหยิน ฉางป๋าจี้และฮาวเหล่ยกำลังรออยู่ในรถ ขณะที่ซิงเฉิงและหานปิงกำลังดื่มกาแฟอยู่ภายในร้าน ตอนนี้หานปิงตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโจวเหวินหวู่แล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซิงเฉิง ฮาวเหล่ยและฉางป๋าจี้มีข้อแก้ตัวอยู่หลายครั้ง แม้ว่าเธอจะไม่ทราบว่าพวกเขาทำอะไร แต่หญิงสาวก็พอเดาได้ไม่มากก็น้อย
“นายคงจะรู้สินะว่าเกิดอะไรขึ้นกับโจวเหวินหวู่?” หานปิงถามทันทีเมื่อเธอจ้องมองที่ซิงเฉิง
ซิงเฉิงไม่เคยเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เขาปิดบังเอาไว้ ชายหนุ่มคิดว่าชีวิตของหานปิงไม่ควรมัวหมองกับสิ่งสกปรกและความมืดมนเหล่านี้ เธอควรเป็นเหมือนสิ่งที่เธอเคยเป็น ใช้ชีวิตของเธออย่างเปิดเผยภายใต้ดวงอาทิตย์เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุข การประณามและการสมรู้ร่วมคิดเบื้องหลังพวกนี้ควรห่างไกลจากเธอมากที่สุด
ซิงเฉิงพยายามพูดเล่น ๆ ว่า “พูดเรื่องอะไรน่ะ”
“นี่จริงจังไหมเนี่ย คิดหรือว่าฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโจวเหวินหวู? ที่เขาหายตัวไป สรุปแล้วผู้ชายคนนั้นตายแล้วยัง?” หานปิงถามซักไซ้
ซิงเฉิงแสร้งทำเป็นเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “ดื่มกาแฟไปเถอะน่าสาวน้อย เธอจะถามไปทำไมล่ะ”
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ” หานปิงพูด
ซิงเฉิงไม่สามารถจะตอบเธอได้…
“ขอบคุณนะซิงเฉิง ขอบคุณที่ทำสิ่งเหล่านี้ให้ฉันทั้งหมด” จู่ ๆ หานปิงก็พูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกขอบคุณ
ซิงเฉิงถอนหายใจและพูดว่า “เธอบอกว่าไม่พอใจ และฉันเองก็บอกว่าฉันจะแก้แค้นให้เธอ ฉันไม่ได้ทำสัญญาพล่อย ๆ แต่เมื่อฉันทำ ฉันจะทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่รับปากไปต้องเกิดขึ้นตามนั้น”
ถึงแม้หานปิงไม่ใช่คนที่มีอารมณ์อ่อนไหว แต่หญิงสาวก็ยังคงรู้สึกประทับใจในทุกสิ่งที่ซิงเฉิงทำเพื่อเธอ หานปิงไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเธอเพิ่งจะขอบคุณซิงเฉิงหรือไม่ก็หัวใจของเธอเป็นคนทำ เธอโพล่งออกมาโดยไม่ลังเลเลยว่า “ซิงเฉิงฉันคิดว่าฉันเริ่มชอบคุณแล้ว”
ซิงเฉิงเพียงตอบสนองคำพูดดังกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
ในขณะที่ซิงเฉิงและหานปิงกำลังสนทนากันที่ร้าน การหายตัวไปของโจวเหวินหวู่ ในที่สุดก็ทำให้คนที่จ้าวตงเฉินพูดถึงรู้ตัว…
คอมเม้นต์